กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 575
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 575
“ให้ข้าไปกับท่าน?”
“ใช่สิ ข้าเป็นพี่หญิงของเจ้า เมื่อก่อนเจ้าเคยบอกว่าเพียงแค่ข้าต้องการ เจ้าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ข้าพึงพอใจ เหตุใด นี่เพิ่งจะผ่านไปเท่าใดเองเจ้าจะกลับคำหรือ? ผู้ชายไม่มีดีจริงๆเลยสักคน”
จอมมารรู้สึกว่ามีบางอย่างถูกต้องและก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ท่านเป็นหัวหน้านิกายเทพอสูรไม่ใช่หรือ? ท่านไม่ใช่ว่ามีความสามารถสูงส่งหรอกหรือ? ท่านไม่ใช่ว่าหยิ่งทะนงนักหรอกหรือ?
“งั้นเจ้าลองดูสิว่าข้าเหมือนกับหัวหน้านิกายเทพอสูรที่เจ้าเคยรู้จักก่อนหน้าผู้นั้นหรือเปล่า?”
กู้ชูหน่วนกระพริบตาดวงโตพร้อมน้ำตาอันน่าสงสารและดูเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆผู้ออดอ้อน
“นี่……ไม่เหมือนจริงๆ”
กู้ชูหน่วนจงใจกดเสียงทุ้ม “ดังนั้นหน่ะบางทีพวกเขาอาจจำผิดก็เป็นได้ เช่นไรข้าก็ไม่มีความทรงจำเลยแม้แต่น้อย พวกเขาอยากคิดว่าข้าเป็นเช่นไรก็คิดว่าข้าเช่นนั้นเถอะ”
จอมมารรู้กระจ่างแจ้งฉับพลัน
เขาก็ว่าแล้วหากว่านางเป็นหัวหน้านิกายเทพอสูรเหตุใดแม้แต่การพูดและกริยาท่าทางถึงไม่เหมือนกัน
“ได้ ข้าจะไปกับเจ้า”
“ห้ามไป”
เยี่ยจิ่งหานโมโหจนสีหน้าเป็นดังสีตับหมู
หญิงผู้นี้อยู่ต่อหน้าเขายังทำหน้าทำตาแล้วก็ออดอ้อนซือม่อเฟยอีกด้วย
“ข้าว่าเสี่ยวหานหาน ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ก็อย่าได้ตื่นเต้นนะ หากว่าไม่สามารถควบคุมได้คอยืดขึ้นสองขาเตะออกชีวิตอันน้อยๆหมดสิ้นแล้วจะทำเช่นไร?” เด็กดี นอนหลับให้ดีๆหนึ่งตื่นเมื่อนอนตื่นขึ้นมาทุกสิ่งทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไป”
กู้ชูหน่วนยื่นมือออกส่ายไปมาตรงหน้าเขาพร้อมกับสาดผงยาออกไป
เยี่ยจิ่งหานรีบกลั้นหายใจแต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
หญิงผู้นี้ยังไม่ทันเข้าใกล้เขาก็ได้เริ่มวางยาแล้ว
ก่อนสลบเยี่ยจิ่งหานกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ผู้หญิง เจ้ากล้าเข้าไปยังเผ่าเพลิงฟ้ากับเขาอีกระวังข้าจะถลกหนังของเจ้าออกมา”
กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นกลัว ฝ่ามือสั่นเทาพร้อมกับร้องไห้แล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋องโปรดวางใจหม่อมฉันมิกล้าเป็นแน่”
โมโห……
โมโหขึ้นสมองเลย
เยี่ยจิ่งหานไม่รู้ว่าถูกวางยาจนล้มหรือว่าโมโหจนล้มคว่ำ
กู้ชูหน่วนตบๆมือพร้อมสั่งการอย่างเคร่งขรึมว่า “จำไว้ว่าส่งเขากลับไปที่จวนหานอ๋องอย่างปลอดภัย”
“ขอรับท่านผู้นำนิกาย หรือไม่ข้าน้อยอยู่ช่วยพวกท่าน ข้าน้อยอยู่ที่เผ่าเพลิงฟ้ามาสี่สิบกว่าปีแล้วกับที่นี่ก็พอรู้เรื่องอยู่บ้าง”
“ก็ได้”
“นายท่าน พวกเราก็จะอยู่ด้วย”
“พวกเจ้าพาเยี่ยจิ่งหานถอยไป เยี่ยจิ่งหานเป็นเทพแห่งสงครามของรัฐเยี่ย ไม่ว่ารัฐเยี่ยจะสงบสุขหรือไม่ก็ยังต้องพึ่งพาเขา นี่เป็นคำสั่งและห้ามฝ่าฝืน”
แม้ว่าไป๋จิ่นและสีชิ่นจะรู้สึกเป็นกังวลแต่ก็ทำได้เพียงทำตามคำสั่งเท่านั้น
“ท่านหัวหน้าเผ่าไป๋จิ่นรอท่านอยู่ที่ด้านนอก เผ่าน้ำแข็งกำลังรอการกลับไปของท่านหัวหน้าเผ่า”
“รู้แล้ว”
หลังจากจัดการเรื่องราวต่างๆแล้วสีชิ่นและคนอื่นๆก็ถอยออกไป เหลือเพียงกู้ชูหน่วน จอมมารและผู้อาวุโสสวี
ผู้อาวุโสสวีวาดแผนที่ภาพหนึ่งแล้วมอบให้กู้ชูหน่วนกับจอมมารพร้อมกล่าวว่า “รองหัวหน้าเผ่าซือคงชอบพอจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่ เรือนจิ้งอวิ๋นนี้รองหัวหน้าเผ่าซือคงมอบให้กับผู้ที่เขารักปกติไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้เข้า หากว่าข้าน้อยเดาไม่ผิดจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่น่าจะถูกเคลื่อนย้ายไปที่เรือนจิ้งอวิ๋นแล้ว”
“นายท่านเพียงแค่ไปยังเรือนจิ้งอวิ๋นตามหาจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่พบ จากนั้นกลับมาตามเส้นทางที่ข้าน้อยวาดไว้ หากว่ารวดเร็วก็น่าจะไม่มีอันตรายอันใด”
“นี่เป็นเส้นทางใด?”
“เป็นเส้นทางเล็กๆที่ห่างไกล ปกติจะไม่ค่อยมีคนการรักษาการณ์ก็ค่อนข้างหละหลวม”
“ดี เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เจ้าจำแผนที่ได้ชัดเจนหรือยัง?”
กู้ชูหน่วนรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง
เจ้านี่ตั้งแต่ต้นจนจบไม่กล่าวสิ่งใดเลยสักคำ เขาฟังเข้าใจหรือไม่นะ?
จอมมารก้มหน้าก้มตาหน้าตา
เขาโง่เขลาต่อการจำเส้นทางตั้งแต่เด็ก
นี่เต็มไปด้วยเส้นอันระโยงระยางผู้ใดจะไปรู้ว่าวาดสิ่งใดบ้าง?
“พอรู้แล้ว”
“อะไรที่เรียกว่าพอรู้ เรื่องสำคัญยิ่งนักหากว่าล้มเหลวพวกเราทั้งคู่อาจจะต้องถูกทิ้งเอาไว้ที่เผ่าเพลิงฟ้านะ”
“ช่างน่าขัน ข้าเป็นหัวหน้าเผ่าปีศาจ เพียงแค่แผนที่อันเล็กๆอันหนึ่งข้าจะจำไม่ได้หรือ? ก็แค่ไปทางลัดข้ารู้อยู่แล้ว”
คำพูดนี้เหตุใดนางถึงได้เป็นกังวลเช่นนี้นะ?
นางหาคนผิดหรือเปล่านะ?
กู้ชูหน่วนพาจอมมารคลำเดินหน้าไปตลอดทาง หลังจากออกจากเส้นทางลับแล้วก็ทุบลูกศิษย์สองคนของเผ่าเพลิงฟ้าสลบไปและเปลี่ยนเสื้อผ้าของพวกเขาแล้วเดินไปทางด้านเรือนจิ้งอวิ๋น
เผ่าเพลิงฟ้าจุดไฟสว่างไสวพร้อมกับผู้คนมากมาย ดูออกว่าพวกเขากำลังตามหาสิ่งใดกันอยู่
ตอนนี้เผ่าเพลิงฟ้านั้นห้าก้าวก็มีคนอยู่สิบก้าวก็มีเสียงอยู่ซึ่งกลไกการคุ้มกันแน่นหนา จากเส้นทางลับที่มีการป้องกันหนาแน่นมาถึงยังเรือนจิ้งอวิ๋นยากลำบากกว่าที่นางได้คาดคิดไว้
“ในระยะหนึ่งร้อยเมตรเบื้องหน้าอย่างน้อยก็มีสามค่ายกล เสียงลับเป็นสิบแห่ง ผู้อาวุโสแปดคนพร้อมกับลูกศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วนของเผ่าเพลิงฟ้า ยังมีกับดักสามแห่งและนักธนูด้วย” จอมมารค่อยๆกล่าว
กู้ชูหน่วนสูดลมหายใจเย็นเข้า “ระยะหนึ่งร้อยเมตรก็มีกับดักมากมายเช่นนี้?”
ดูจากแผนที่ไปถึงเรือนจิ้งอวิ๋นอย่างน้อยก็ยังมีระยะทางหลายพันเมตรแล้วนี่จะทำเช่นไร?
“เจ้ามีวิธีใดที่จะแฝงเข้าไปในเรือนจิ้งอวิ๋นหรือเปล่า?”
“มีสิ แต่พาท่านมาด้วยคาดว่าคงจะไม่สามารถผ่านไปได้”
“วิชาตัวเบาของข้าไม่ได้แย่นัก” กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างชอบธรรม
“ข้ารู้ว่าวิชาตัวเบาของท่านไม่ได้แย่แต่วิชาตัวเบาของท่านอยู่ต่อหน้าผู้เฒ่าอมตะนั้นของเผ่าเพลิงฟ้านับอะไรไม่ได้เลย นอกจากผู้อาวุโสมากมายของเผ่าเพลิงฟ้าแล้วยังมีผู้อาวุโสไท่ซั่งมากมายที่เป็นอมตะ แต่ละคนสลัดออกยากเย็นกว่าแต่ละคน ข้า……ข้าถูกพวกเขาตามติดทั้งตัวตั้งหลายครั้งหลายคราช่างน่ารำคาญยิ่งนัก”
“ดังนั้นวิธีของเจ้าคืออะไร?”
“ท่านรอข้าอย่างเชื่อฟังอยู่ที่นี่ ข้าสามารถแฝงตัวเข้าลานจิ้งอวิ๋นเองได้”
“ก็ได้ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่ เจ้าเป็นจอมมารเผ่าปีศาจ นำพระมเหสีฉู่มาน่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอันใดใช่ไหม?”
ฝ่ามือของจอมมารสั่นพร้อมกับสีหน้าซึ่งดูไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย
เพียงแค่เขาต้องการไปเรือนจิ้งอวิ๋นผู้อาวุโสผู้เป็นอมตะเหล่านั้นของเผ่าเพลิงฟ้าก็ไม่สามารถขวางเขาได้อยู่แล้ว
แต่ว่า……
เขาไม่รู้ทางหน่ะสิ?
เขาบอกเพียงว่าเขาสามารถแฝงเข้าไปในเรือนจิ้งอวิ๋นได้แต่ไม่ได้บอกว่าเขารู้ทาง และไม่ได้บอกว่าสามารถนำพระมเหสีฉู่ออกมาได้
“ทำไม? หรือว่าเจ้าหวาดกลัวหรือ?” กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความสงสัย
“น่าขัน ข้าเป็นจอมมารของเผ่าปีศาจ เผ่าเพฃิงฟ้าอันน้อยมีสิ่งใดให้ข้าหวาดกลัวได้”
“งั้นเจ้ายังไม่รีบไปอีก ฟ้าใกล้จะสางแล้ว”
“ท่านพี่หญิง แผนที่นั้นท่านสามารถบอกอีกรอบได้ไหม”
กู้ชูหน่วนตระหนักในทันที
นางรู้อยู่แล้วว่าเจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี้เกรงจะไม่เข้าใจแผนที่
กู้ชูหน่วนเปิดแผนที่ออก กล่าวด้วยความอดทนอีกรอบหนึ่งแล้วยังบอกถึงอันตรายทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทางกับเขาเป็นอย่างๆด้วย
“ก็ประมาณนี้ สามารถฟังเข้าใจไหม?”
จอมมารยิ่งฟังหัวก็ยิ่งโตงุนงงมากขึ้น
เดิมทีเขาก็สับสนอยู่แล้ว เมื่อกู้ชูหน่วนกล่าวเช่นนี้เขาก็ยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก
เส้นทางระโยงระยางเหล่านั้นเขาก็ยังไม่เข้าใจ
กู้ชูหน่วนกัดฟันและอดทนกล่าวอีกรอบ “ฟังให้ละเอียดนะ หากว่าฟังไม่เข้าใจอีกต่อไปพวกเราก็ตัดขาดมิตรภาพกันเถอะ”
ประโยคนี้กำลังการสังหารรุนแรงนัก แม้ว่าจอมมารจะฟังไม่เข้าใจก็กล่าวอย่างอดทนว่า “เข้าใจแล้วเข้าใจแล้ว ท่านพี่หญิงบอกได้ดีกว่าตาเฒ่าผู้นั้นมากนัก”
ไม่สนแล้ว ถึงเวลานั้นหาทางไม่เจอก็จับลูกศิษย์ของเผ่าเพลิงฟ้าอีกสองสามคนมาถาม
เขาเดินไปจนสุดทางและจ้องมองทางอีกครั้ง น่าจะสามารถหาทางกลับมาได้
“ท่านพี่หญิงท่านรอข้าอยู่ที่นี่ อย่าได้จากไปนะ?”
“วางใจเถอะ หากว่าข้าไม่อยู่ที่นี่ก็รอเจ้าอยู่ที่ทางเข้าเส้นทางลับ เจ้าระวังตัวด้วย”
“ดี ข้าจะไปนำตัวพระเหสีมาในตอนนี้”
กล่าวจบตรงหน้าไหนเลยจะยังมีร่างของจอมมารอยู่
กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ระดับหกก็คือระดับหก
วิชาตัวเบานี้เบาเทียบกับนางแล้วดีกว่านางนัก
ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมดูถูกวิชาตัวเบาของนาง
เมื่อมองไปยังจอมมารที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยกู้ชูหน่วนก็รู้สึกเป็นกังวลมากขึ้นอยู่บ้าง
เหตุใดนางถึงได้รู้สึกกระสับกระส่ายเช่นนั้นนะ