กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 576
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 576
กู้ชูหน่วนรอเป็นเวลานานอยู่ในมุมที่หลบซ่อนตัวแต่ก็ไม่ได้รับข่าวใดๆเลย
ในขณะที่นางรอแทบไม่ไหวและต้องการจะลองค้นหา จู่ๆก็มีแสงสีทองจางๆส่องมาจากด้านหน้าทางซ้าย
แสงกะพริบสว่างตามขึ้นมา กุญแจรูปดาวและเข็มทิศบนตัวของนางก็ได้รู้สึกไป
กู้ชูหน่วนสัมผัสวงแหวนอวกาศในมือและมองไปยังทิศทางที่จอมมารจากไปอย่างกังวล
เป็นเวลานานนางจึงได้กัดฟันและตามประกายแสงนั้นไป
ช่างเถอะ เช่นไรซือม่อเฟยก็เป็นจอมมารเผ่าปีศาจ ถึงแม้ว่าจะถูกสังเกตเห็นก็ไม่น่าจะมีอันตรายถึงชีวิต
ผู้อาวุโสสวีกล่าวว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงชอบจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่ เช่นนั้นจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่จะไม่ตกอยู่ในอันตรายใดในช่วงระยะเวลาอันสั้นนี้
ไข่มุกมังกรเป็นสิ่งสำคัญ ผู้คนเผ่าหยกจำนวนนับพันนับหมื่นยังรอนางอยู่
ท่านพี่เฉินเฟยก็ยังรอให้นางไปช่วยชีวิตอยู่ด้วย
กู้ชูหน่วนวนไปทางซ้ายและวนไปอีก จากนั้นก็วนกลับมายังทางเข้าเส้นทางลับ
นางรู้สึกประหลาดใจ
แสงสว่างมาจากเส้นทางลับ เป็นไปได้หรือว่ามีความลับเกี่ยวกับไข่มุกมังกรอยู่ในเส้นทางลับ?
กู้ชูหน่วนเปิดประตูเส้นทางลับและกระโดดลงไป
ที่นี่มืดสนิทไม่ต่างจากขณะที่นางเข้าในตอนแรกเลยสักนิด
หลังจากเข้าไปในเส้นทางลับแล้วประกายแสงก็หายไป เข็มทิศและกุญแจรูปดาวก็ไม่ได้รู้สึกไปด้วยแล้ว
หากไม่ใช่เพราะเข็มทิศยังมีอุณหภูมิอยู่ นางเกือบคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
“ผู้นำนิกาย ท่านกลับมาแล้ว จอมมารกับพระมเหสีฉู่หล่ะ?”
“อาม่อไปหาพระมเหสีฉู่แล้วสักครู่ก็คงรจะกลับมา ผู้อาวุโสสวีเมื่อครู่มีผู้ใดเข้ามาหรือไม่?”
ผู้อาวุโสสวีตกตะลึง “นอกจากผู้นำนิกายก็ไม่มีผู้ใดเข้ามา หรือว่าเส้นทางลับรั่วไหลหรือ?”
“เปล่า ข้าก็แค่ลองถามดู เส้นทางลับนั้นเมื่อครู่มีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ หรือว่าเกิดประกายแสงออกมาหรือเปล่า?”
“ไม่มี ที่นี่ทุกอย่างเป็นปกติ”
ทุกอย่างเป็นปกติ?
ช่างน่าแปลก งั้นเข็มทิศจะสัมผัสถึงร่องรอยของไข่มุกมังกรได้อย่างไร?
“ผู้นำนิกาย จอมมารก็ไปตั้งนานแล้ว หรือไม่ข้าน้อยออกไปดูสักหน่อย”
“เจ้ารออยู่ที่นี่ก็พอ ด้านนอกเฝ้ายามเข้มงวดเกินไปเจ้าออกไปเป็นอันตรายไม่มีผลดี”
กู้ชูหน่วนไม่ยอมตายใจและสั่งให้ผู้อาวุโสสวีรออยู่ที่นี่ห้ามไปที่ใดทั้งนั้น
หากมีข่าวใดให้รีบรายงานนางรวมถึงสถานการณ์ผิดปกติในเส้นทางลับ ส่วนตนเองเดินรอบเส้นทางลับรอบหนึ่งโดยหวังว่าเข็มทิศจะสัมผัสอะไรบางอย่างได้อีกครั้ง
ที่น่าเสียดายคือนางเดินกลับไปกลับมาสองสามรอบเข็มทิศก็ไม่ได้เกิดการู้สึกใดๆขึ้นอีก
“ดูเหมือนว่าข้าต้องการไข่มุกมังกรจนคิดมากเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างประชดประชันและเตรียมจะเก็บเข็มทิศแต่ว่าเข็มทิศก็สว่างขึ้นอีกพอดี กู้ชูหน่วนเกิดประกายแสงขึ้นมาในใจและรีบวิ่งไปยังทิศทางที่เข็มทิศรู้สึก
วิ่งไปถึงทางแยกทิศทางของเข็มทิศอยู่ทางด้านขวา แต่นอกจากกำแพงหินที่ขวางกั้นแล้วก็ไม่มีสิ่งใดอื่นอีก
กู้ชูหน่วนเคาะๆและปราปฏรอยยิ้มอันสดใสขึ้นที่มุมปาก
นางใช้แรงผลักกำแพงหิน กำแพงหินที่เดิมทีน่าจะแน่นิ่งเมื่อถูกนางผลักเข้าก็พังทลายลงมาเผยให้เห็นถึงห้องลับขนาดใหญ่ห้องหนึ่ง
ความหนาของกำแพงหินที่อุดไว้นี้ก็เพียงไม่กี่ เซนติเมตรเท่านั้น แม้แต่เด็กเพียงแค่ใช้แรงผลักก็สามารถผลักออกได้
ห้องลับกว้างขวางและมีเตียงน้ำแข็งหนึ่งเตียง บนเตียงน้ำแข็งมีชายผู้หนึ่งนอนอยู่
ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่สวมเสื้อผ้าบางๆ
ชายนั้นสวมหน้ากากรูปผีเสื้ออยู่จึงมองหน้าตาไม่เห็น เห็นเพียงแค่ผิวอันเรียบเนียนของเขาซึ่งเรียบเนียนยิ่งกว่าผิวของหญิงสาวเสียอีก
กู้ชูหน่วนเดินเข้าไปดูใกล้ๆและเลือดกำเดาก็เกือบจะไหลออกมา
ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าเขาไม่ใช่ใครอื่นเป็นเหวินเส่าอี๋
ยิ่งกว่านั้นเหวินเส่าอี๋สวมเพียงเสื้อผ้าบางๆซึ่งทั้งปิดบังทั้งเปิดเผย ตำแหน่งที่ควรปิดบังเอาไว้ก็ไม่สามารถบังได้เลย
ใบหน้าของเขาซีดเซียวและร่างทั้งร่างก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ทว่าดวงตาคู่นั้นจ้องมองไปยังเขาอย่างร้อนรนจนทั้งคอและใบหูก็ได้แดงไปหมดแล้ว
ดูออกว่าเขาก็เขินอายเช่นกัน
……
ทนไม่ไหวแล้ววันนี้จะแก้บทที่หกก่อน
ข้าดีขึ้นเล็กน้อยก็จะแก้ให้มากขึ้น ขอบใจพวกเจ้าที่ไม่เร่งแก้และยังเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอ
“โลกกลมจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอท่านที่นี่อีก”
กู้ชูหน่วนสัมผัสคางแล้วมองไปยังเหวินเส่าอี๋อย่างมีเล่ห์เหลี่ยม จ้องมองอย่างละเอียดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า โดยเฉพาะจ้องมองช่วงล่างใต้เอวอย่างละเอียดเป็นเวลานานพร้อมเสียงจุ๊ๆๆในปาก
“เสียงแตะลิ้นจุ๊ๆๆๆ ดูไม่ออกว่ารูปร่างของท่านจะดีเช่นนี้โดยเฉพาะตรงนั้น”
ราวกับว่าเกรงว่าเหวินเส่าอี๋จะไม่รู้ว่านางหมายถึงที่ใด กู้ชูหน่วนยังจงใจทำปากเหลือเพียงแค่ไม่ได้เข้าใกล้ดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนเท่านั้น
ใบหน้าของเหวินเส่าอี๋ร้อนขึ้นในทันทีและทนไม่ได้ที่จะปิดตนเองเอาไว้ให้แน่น แต่ทั้งร่างกลับไม่สามารถขยับเขยื้อนได้จึงทำได้เพียงเป็นกังวลใจอยู่เช่นนั้น
เขาด่าทออย่างอ่อนแรง “เจ้ายังเป็นสตรีอยู่หรือไม่?”
หากไม่ใช่เพราะนางเขาก็คงจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากกิเลนแห่งความเวิ้งว้างและเกือบตายเช่นนี้
หากไม่ใช่นางส่งคนมาโจมตีและเขาก็อยู่ในช่วงเวลารักษาอาการบาดเจ็บ หัวหน้าเผ่าและผู้อาวุโสสูงหลายท่านก็คงไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการลอบโจมตี
เขาก็คงจะไม่ถูกเปลื้องผ้าทั้งร่างและนอนรักษาบาดแผลบนเตียงน้ำแข็ง
“อย่างไรก็ตามมีอกเอวมีรูปร่างเหตุใดข้าถึงจะไม่ใช่สตรีหล่ะ? กลับเป็นท่าน ท่านว่าหากข้าตัดตรงนี้ของท่านท่านยังจะเป็นบุรุษอยู่หรือเปล่านะ?”
กู้ชูหน่วนยกฝ่ามือขึ้นและมีดสั้นก็ปรากฏขึ้นในมือของนาง
มีดสั้นเรืองแสงพร้อมกับสะท้อนรอยยิ้มอันดุร้ายของกู้ชูหน่วน
“เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?” เหวินเส่าอี๋ตระหนกตกใจอย่างไร้เหตุผล
“ทำสิ่งใด? พวกท่านสงสัยในความสัมพันธ์ของข้ากับเผ่าหยกตลอดไม่ใช่หรือ? พวกท่านทำร้ายเผ่าหยกสาหัสเช่นนั้น งั้นข้าช่วยเผ่าหยกเก็บดอกเบี้ยสักหน่อยก็คงจะไม่เกินไปหรอกนะ?”
“เจ้าเป็นคนของเผ่าหยก? เป็นไปไม่ได้ เจ้าไม่ได้กำเริบในวันที่สิบห้าคืนพระจันทร์เต็มดวง?”
“นี่คือสิ่งที่ท่านควรกังวลหรือ?” กู้ชูหน่วนขยับเข้าไปทางเขาอีก ขยับตัวเป็นการเตือนเขาว่าควรจดจ่อไว้ที่ร่างตนเอง
เหวินเส่าอี๋ทั้งโกรธและโมโห
นี่เป็นผู้หญิงอันใดกัน?
มองดูชายผู้หนึ่งอย่างเปิดเผยเช่นนี้ นางไม่เขินอายเลยหรือ? ?
ที่น่าโมโหที่สุดคือนางจ้องมองที่ใดไม่ได้กลับต้องมองที่นั่นอยู่ตลอด?
นางไม่เคยเห็นผู้ชายมาแปดชาติภพหรือ?
แม้ว่าเหวินเส่าอี๋จะเป็นนายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้าแต่เขาก็รักษาตัวอย่างบริสุทธิ์มาทั้งชีวิต ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับสตรีผู้ใดเลยและยิ่งไม่เคยให้ผู้ใดเห็นร่างของเขา ในตอนนี้บังเกิดฉากนี้ขึ้นจึงทำให้เขาหลีกเลี่ยงความโกรธไม่ได้
“ข้าสั่งให้เจ้าหันหน้าออกไปอย่าได้มองดูอีก”
“หึ……ข่างน่าขัน ข้าไม่ใช่คนรับใช้ของท่าน ท่านจะสั่งข้าในฐานะอะไร? เหวินเส่าอี๋ข้าว่าจนถึงตอนนี้แล้วท่านก็ยังแยกแยะความแตกต่างระหว่างลำดับกับความเป็นจริงไม่ได้สินะ ไม่งั้นข้ามาสั่งสอนท่านเสียหน่อย”
กู้ชูหน่วนกล่าวพร้อมกับยกมีดขึ้นโดยหันหน้าไปทางท่อนล่างของเขา รอยยิ้มอันโหดเหี้ยมปรากฏขึ้นที่มุมปากโดยที่ต้องการตัดลงไปอย่างโหดร้าย
อาจเป็นเพราะลมหายใจในร่างกายของนางช่างเย็นนัก เหวินเส่าอี๋ตกใจเสียจนเหงื่อแตก “หยุดนะ กู้ชูหน่วนเจ้ารู้หรือไม่ว่ามีดนี้ลงไปหมายความถึงสิ่งใด?”
“รู้สิ ก็ไม่ใช่แค่เป็นขันทีไปตลอดชีวิต วางใจเถอะเป็นเพียงแค่ขันทีเท่านั้นยังไม่สามารถเอาชีวิตน้อยๆของท่านไปได้ชั่วคราว ท่านว่าท่านเป็นผู้ชายมานานเช่นนั้นแล้วและก็น่าจะเป็นเพียงพอแล้วควรจะลิ้มลองความสนุกของการเป็นขันทีได้แล้ว”
“เจ้าต้องการสิ่งใดก็ว่ามาเถอะ” ฝ่ามือของเหวินเส่าอี๋เหงื่อออก
หญิงผู้นี้กระทำการอันดื้อรั้นและไม่เคยเผยไพ่ตามระเบียบ เขาเกรงว่าหากเส้นสมองเส้นใดขาดหายไปแล้วจะตัดตอนเขาจริงๆ
กู้ชูหน่วนค่อยๆดึงมีดกลับ “กล่าวเร็วหน่อยพวกเราก็ไม่ต้องเสียเวลามากมายเช่นนี้และท่านก็ไม่จำเป็นต้องตกใจจนฉี่แตกด้วย”
เหวินเส่าอี๋โกรธจัด
เขาตกใจจนฉี่แตกเมื่อใดกัน?
นางยังไร้ยางอายได้มากกว่านี้อีกไหม?
“ท่านได้ข่าวของไข่มุกมังกรลูกที่เจ็ดหรือไม่”
“ไม่มี” เหวินเส่าอี๋คิดก็ไม่คิดก็ปฏิเสธเลยโดยตรง
กู้ชูหน่วนก็เกียจคร้านที่จะพูดจาไร้สาระจึงยกมีดสั้นขึ้นอีกครั้งและหันไปทางร่างกายเขา พร้อมกับลงมือกรีดลงไปที่จุดสำคัญอย่างโหดเหี้ยม