กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 633
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 633
นักชันสูตรชี้ไปที่ด้านหลังของแม่ทัพใหญ่เซี่ยว ตรงนั้นมีมีดบินปักอยู่
คนอื่น ๆ อาจจะดูไม่ออก แต่เซวี่ยนจำได้ว่ามันคือมีดบินของกู้ชูหน่วน ตอนที่เขากับเยี่ยเฟิงถูกไล่ฆ่า กู้ชูหน่วนใช้มีดบินเล่มนี้เพื่อช่วยพวกเขา
ไม่รู้ว่าเซี่ยวอวี่ชงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอีกแล้วหรือไม่ และเส้นเลือดบนใบหน้าของเขาปูดขึ้นมา “ข้าจำได้ว่าพระชายาหานเชี่ยวชาญด้านพิษมาก”
เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “มีดบินเพียงแค่เล่มเดียวไม่ได้พิสูจน์ว่านางคือคนร้าย แม่สาวอัปลักษณ์ไม่มีทางที่จะสังหารท่านพ่อ”
“ผัวะ…”
ในทันทีที่เซี่ยวอวี่เซวียนพูดจบ เขาก็ถูกตบหน้าอย่างแรง ตามมาด้วยคำด่าทออย่างโกรธจัด
“เจ้าออกไปเที่ยวกับเพื่อนเสเพลทั้งวัน ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว เอาแต่กิน ดื่ม และเที่ยวสนุกไปวัน ๆ พวกเราต่างลืมตาขึ้น แต่เจ้ากลับหลับตาลง เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อไม่ชอบนาง และทะเลาะกับท่านพ่อหลายครั้งหลายคราเพราะนาง อีกทั้งยังทำให้ท่านพ่อโกรธจนแทบจะกระอักเลือด และตอนนี้เจ้ายังจะออกรับแทนนางอีก”
เซี่ยวอวี่เซวียนน้ำตาซึม สีหน้าของเขาดูเจ็บปวดใจ และกล่าวอย่างดื้อรั้น “แม่สาวอัปลักษณ์ไม่มีทางที่จะฆ่าท่านพ่อ ในใต้หล้านี้ไม่ว่าใครก็สามารถฆ่าท่านพ่อได้ แต่ไม่ใช่แม่สาวอัปลักษณ์อย่างแน่นอน”
“ไอ้กากเดน พี่ชายคนโตเปรียบเสมือนบิดา วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าแทนท่านพ่อที่ตายไปแล้ว”
“พี่ใหญ่ อย่าทำอะไรพี่สามนะ พี่สามพูดถูก แม้ว่าพระชายาหานจะเชี่ยวชาญด้านพิษ ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าพระชายาหานเป็นคนวางยาพิษ”
เซี่ยวหว่านเอ๋อร์ร้องไห้ฟูมฟาย และกอดต้นขาของเซี่ยวอวี่ชงไว้แน่น
เนื่องจากนางกำลังตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว และไม่มีวรยุทธใด ๆ เซี่ยวอวี่ชงเกรงว่าจะกระทบกระเทือนนาง เขาจึงดึงนางขึ้นมาและให้นางนั่งลงบนเก้าอี้
“น้องหญิง เจ้ากำลังตั้งครรภ์ อย่ายุ่งเรื่องนี้เลย”
“พวกท่านล้วนแต่เป็นพี่ชายของข้า และผู้ที่ตายก็เป็นท่านพ่อของข้า ข้าจะไม่ยุ่งได้อย่างไร ฮื้อ ๆ ……” เซี่ยวหว่านเอ๋อร์ร้องไห้สะอึกสะอื้น และทำได้เพียงแค่ปาดน้ำตา
เซี่ยวอวี่โหลวตบไหล่ของนางเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบโยน
เขากล่าวอย่างระมัดระวัง “พี่ใหญ่ รีบหาหลักฐานกันก่อนจะดีกว่า”
“เดี๋ยวก่อน ดูเหมือนว่าจะมีอักษรอยู่บนแขนเสื้อของท่านแม่ทัพใหญ่”
ประโยคนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน และแม้แต่กู้ชูหน่วนก็อดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้า
เมื่อดึงแขนเสื้อออก ด้านในแขนเสื้อของเขาก็มีคำที่เขียนด้วยเลือดสองสามคำ
คนที่ฆ่าข้า กู้…….
กู้อะไร……?
เซี่ยวอวี่ชงชักดาบออกมาแล้วชี้ไปที่กู้ชูหน่วน “ท่านยังกล้าพูดหรือไม่ว่าท่านไม่ได้ฆ่าท่านพ่อของข้า?”
ในหัวของกู้ชูหน่วนคิดไปต่าง ๆ นานา
กู้?
กู้อะไร?
อัครเสนาบดีกู้?
กู้ชูอวิ๋น?
เป็นกู้ชูอวิ๋นงั้นหรือ?
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา กู้ชูอวิ๋นพยายามหาทางใกล้ชิดกับแม่ทัพใหญ่เซี่ยว นางไม่เชื่อ
ว่ากู้ชูอวิ๋นจะไม่มีแผนการอะไร
“สวรรค์ย่อมมีตา ก่อนที่ท่านพ่อของข้าจะเสียชีวิต เขาคงใช้กำลังที่มีทั้งหมดเขียนคำเหล่านี้ กู้ชูหน่วน เอาชีวิตของเจ้ามา”
“ปัง……”
เซี่ยวอวี่เซวียนขว้างพัดไปที่ดาบยาวของเซี่ยวอวี่ชง และไปขวางไว้ข้างหน้ากู้ชูหน่วน
“หากจะฆ่านาง ก็ข้ามศพของข้าไปก่อน” เซี่ยวอวี่เซวียนจ้องมองไปที่พี่ชายแท้ ๆ อย่างเยือกเย็น แม้ว่านัยน์ตาของเขาจะมีน้ำตา แต่ท่าทางของเขาแน่วแน่ และสาบานว่าจะปกป้องกู้ชูหน่วนด้วยชีวิต
หัวใจของกู้ชูหน่วนสั่นระรัว
หลักฐานทั้งหมดล้วนแต่ชี้ไปที่นาง แต่เซี่ยวอวี่เซวียนก็ยังคงเชื่อนาง
นางกังวลมาโดยตลอดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทะเลโลหิตจะเปลี่ยนไป
แต่เหตุการณ์ในตอนนี้กับเหตุการณ์ที่ทะเลโลหิตแตกต่างจากกันอย่างสิ้นเชิง
“หากวันนี้เจ้ากล้าที่จะปกป้องนาง เจ้าก็จะไม่ใช่คนในตระกูลเซี่ยวอีกต่อไป และตระกูลเซี่ยวกับเจ้าก็ขาดกัน”
“พี่ใหญ่……”
“พี่ใหญ่……”
เซี่ยวอวี่โหลวและเซี่ยวหว่านเอ๋อร์ร้อนใจ ท่านพ่อตายอย่างน่าอนาถ พวกเขาต่างก็โศกเศร้าเสียใจอย่างมาก หากพี่น้องยังแตกหักกันอีก แล้วท่านพ่อจะตายตาหลับได้อย่างไร?
กู้ชูหน่วนตบไหล่ของเซี่ยอวี่เซวียนและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าถอยไปก่อนเถอะ อย่าทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของพวกเจ้ เพราะข้าเลย”
“แม่สาวอัปลักษณ์ ข้าขอถามท่านหน่อย ท่านฆ่าท่านพ่อข้าหรือไม่?”
เซี่ยวอวี่เซวียนไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตอนที่เขากำลังถามประโยคนี้ ในใจของข้ารู้สึกกลัวมากแค่ไหน
เขากลัวกู้ชูหน่วนจะตอบกลับมาว่าใช่
หากกู้ชูหน่วนฆ่าท่านพ่อของเขาจริง ๆ เขาไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับนางอย่างไร
กู้ชูหน่วนรู้สึกเจ็บปวดในใจ นางรู้จักเซี่ยวอวี่เซวียนมานานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นว่าแววตาของเซี่ยวอวี่เซวียนดูไร้หนทาง สับสน และหวาดกลัว
เขาคงจะประหม่าและอึดอัดใจมาก
แม้ว่าภายนอกเขาจะดูเหมือนคุณชายที่เสเพลไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว กระด้างกระเดื่องกับแม่ทัพใหญ่เซี่ยว และมักจะทำให้แม่ทัพใหญ่เซี่ยวโกรธเคือง แต่นางรู้ดีว่าเซี่ยวอวี่เซวียนเป็นคนกตัญญูมาก การที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อที่จะให้แม่ทัพใหญ่เซี่ยวอยู่เป็นเพื่อนเขา และสนใจเขามากขึ้น
กู้ชูหน่วนส่ายหัวและพูดอย่างแน่วแน่ “ข้าไม่ได้ฆ่าแม่ทัพใหญ่เซี่ยว หากเจ้าเชื่อข้า ให้เวลาข้าหน่อย ข้าจะหาตัวคนร้ายให้ได้ และจะพามาตรงหน้าเจ้าด้วยตัวเอง”
เซี่ยวอวี่เซวียนยิ่มในทันที ความอึดอัดใจของเขาผ่อนคลายลง
“เพียงแค่ท่านไม่ได้ฆ่าก็พอแล้ว”
หลังจากพูดจบ เขาก็ยืนอยู่ข้างหน้ากู้ชูหน่วนอีกครั้ง และใช้การกระทำของตนเองบอกเซี่ยวอวี่ชงถึงการตัดสินใจของเขา
“อัก……”
เซี่ยวอวี่ชงโกรธเซี่ยวอวี่เซวียนมากจนกระอักเลือดและตะโกนว่า “ไอ้กากเดน ข้าเซี่ยวอวี่ชงไม่มีน้องชายเช่นเจ้า เจ้าไสหัวออกไปจากที่นี่ ไปซะ … ”
“ไป”
เซี่ยวอวี่เซวียนจับมือกู้ชูหน่วน และจูงมือนางออกไป
เสียงพูดด้วยความโกรธของเซี่ยวอวี่ชงดังขึ้น “ทหาร จับตัวพระชายาหานไว้”
“ใครกล้าแตะต้องผู้หญิงของข้า”
เสียงที่น่าเกรงขามดังอยู่ไม่ไกล และผู้คนก็ได้ยินอย่างชัดเจน
ผู้คนต่างมองไปตามเสียง
และเห็นชายชุดสีม่วงกระโดดลงมาข้างหน้า ตามมาด้วยทหารองครักษ์ที่แข็งแกร่ง
ใบหน้าของชายผู้นั้นได้รูป และความงดงามของเขาก็เหนือคำบรรยาย ท่าทางสง่าผ่าเผยและน่าเกรงขาม และผู้คนก็อดไม่ได้ที่จะคลานออกไป
ช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก……
นี่คือ…… ท่านอ๋องเยี่ยจิ่งหาน เทพแห่งสงครามลอร์ด?
เยี่ยจิ่งหานมองไปรอบ ๆ อย่างเยือกเย็น เขามองไปที่มือของกู้ชูหน่วนที่ถูกเซี่ยวอวี่เซวียนจับไว้แน่น ราวกับว่าเขาอยากจะหักมือของเซี่ยวอวี่เซวียน
เขาโอบเอวของกู้ชูหน่วน และกันไว้ไม่ให้นางใกล้ชิดกับเซี่ยวอวี่เซวียน เมื่อเห็นแม่ทัพใหญ่เซี่ยวตายอย่างน่าอนาถ นัยน์ตาของเขาก็ดูเจ็บปวดใจ
“เมื่อครู่……ใครจะแตะต้องพระชายาของข้า?”
เสียงของเยี่ยจิ่งหานไม่ดัง แต่กลับทำให้ผู้คนสะพรึงกลัวอย่างบอกไม่ถูก
เซี่ยวอวี่ชงไม่กลัว และเหล่าทหารของตระกูลเซี่ยวก็ไม่กลัวเช่นกัน และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเยี่ยจิ่งหาน
“กู้ชูหน่วนฆ่าท่านพ่อของฆ่า อีกทั้งยังควักหัวใจของท่านพ่อข้าออกมาด้วย ความแค้นนี้ไม่อาจอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน ต่อให้นางจะเป็นพระชายาหาน ต่อให้ท่านจะเป็นเยี่ยจิ่งหาน เทพแห่งสงคราม วันนี้ก็อย่าคิดที่จะพานางออกไปจากจวนแม่ทัพได้”
เยี่ยจิ่งหานหัวเราะเยาะ นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม “เจ้าเป็นคนแรกที่กล้าหยิ่งผยองต่อหน้าข้า ข้าก็อยากจะดูว่าวันนี้เจ้าจะขวางข้าได้อย่างไร”
“ชิ้ง ๆ ๆ ๆ ……”
คนของเยี่ยจิ่งหานชักดาบพากันชักดาบออกมาและพร้อมที่จะต่อสู้ทุกเมื่อ
ในแง่ของความแข็งแกร่งทางการทหาร เยี่ยจิ่งหานและตระกูลเซี่ยวต่างก็มีทหารหลายแสนนาย
อย่างไรก็ตาม ผู้คนต่างก็รู้ว่าจักรพรรดิองค์ก่อนได้ทิ้งกองทัพไว้ให้เยี่ยจิ่งหานอีกหนึ่งกองทัพ
กองทัพนี้แข็งแกร่ง รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง เป็นไพ่ใบใหญ่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของรัฐเยี่ย
อีกทั้ง……
เยี่ยจิ่งหานยังมีกำลังทหารที่มากกว่า และเป็นสองเท่าของตระกูลเซี่ยว
หากต้องต่อสู้กันจริง ๆ อาจไม่เป็นผลดีต่อตระกูลเซี่ยว
แม่ทัพใหญ่เซี่ยวรักทหารเสมือนบุตรชายของตนเอง แน่นอนว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจะไม่ยอมให้เยี่ยจิ่งหานหยิ่งผยองเช่นนี้
ผู้คนพากันตะโกนอย่างโกรธเคือง “แม้ว่าจะต้องตายไปกับพวกท่าน วันนี้พวกเราจะต้องล้างแค้นให้ท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยวให้จงได้”
“ล้างแค้นให้ท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยว ล้างแค้นให้ท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยว……”