กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 659
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 659
เขาอ่านกุญแจสำคัญในการทำลายค่ายกลออกแล้ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาจะต้องทำลายค่ายกลได้แน่
“ให้ข้าน้อยไปจับเขาเถิดนายท่าน” เสี่ยวลู่เอ่ย
“ให้ข้าน้อยไปเถิดนายท่าน ตาเฒ่าเน่าเฟะนั่นสมควรตายตั้งนานแล้ว”
“นายท่าน ข้าน้อยก็จะไปด้วย”
ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์ภักดีพากันเสนอตัว
กู้ชูหน่วนกัดฟันกรอด “ข้าจะไป”
ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องสู้กันอยู่ดี เมื่อยังอยู่ในอาณาเขตของนาง นางยังพอมีโอกาสชนะอยู่บ้าง
หากอิงตามวิทยายุทธ เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของนางยังไม่ใช่คู่มือของตาเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างรองหัวหน้าเผ่าซือคง
“ไม่ได้นะเจ้าคะนายท่าน ร่างกายของท่านยังบาดเจ็บอยู่”
“หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว”
กู้ชูหน่วนกำหมัดแน่นจนกระดูกลั่น
เมื่อคิดว่าแม่ทัพใหญ่เซี่ยวน่าจะถูกรองหัวหน้าเผ่าซือคงสังหาร นางก็นึกโกรธแค้นขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
ขณะที่นางคิดจะเข้าไปในค่ายกลเพื่อจัดการกับรองหัวหน้าเผ่าซือคง ทันใดนั้นพลานุภาพอันรุนแรงบางอย่างก็จู่โจมเข้ามา
แรงกดดันที่ท่วมท้นนี้มีพลังในการทำลายฟ้าทำลายโลก เพียงแค่พลังนั้นปรากฏขึ้น ผู้คนก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ บางคนแทบจะคลานลงไปกับพื้น
กู้ชูหน่วนเงยหน้ามองร่างของเจ้าของพลังอันแข็งแกร่งที่จู่โจมเข้าไปในแนวต่อสู้ การสะบัดมือครั้งหนึ่งก่อให้เกิดกระบวนท่าสังหารที่เหี้ยมโหด โจมตีหวังจะคร่าชีวิตรองหัวหน้าเผ่าซือคง
รูปลักษณ์และรูปร่างที่คุ้นเคย อาภรณ์สีม่วงที่คุ้นตา
กู้ชูหน่วนตกอยู่ในภวังค์
เยี่ยจิ่งหาน
เหตุใดเขาจึงมาอยู่ที่นี่
เสี่ยวลู่และคนอื่นๆ พากันดีใจ
อีกแค่นิดเดียว อีกแค่นิดเดียวรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็จะทำลายค่ายกลได้แล้ว
เมื่อจอมมารเห็นเยี่ยจิ่งหาน เขาก็โกรธขึ้นมาทันที
“เยี่ยจิ่งหาน ผู้อาวุโสซือคงเป็นของข้า เจ้าอย่ามายุ่ง”
เยี่ยจิ่งหานตอบจอมมารด้วยกระบวนท่าสังหารที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม
ดูเหมือนภายในใจของเยี่ยจิ่งหานจะเต็มไปด้วยไฟโทสะที่หาทางระบายออกมาไม่ได้ โชคดีที่เวลานี้เขาระบายอารมณ์ทั้งหมดไปที่รองหัวหน้าเผ่าซือคง
เขายกขลุ่ยสีขาวขึ้นมา ทันใดนั้นท่วงทำนองแปลกๆ ก็หลั่งไหลออกมากลายเป็นเพลงที่ฟังไพเราะรื่นหู แค่ทุกท่วงทำนองที่เปล่งออกมานั้นก็มากพอแล้วที่จะทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นความว่างเปล่า
รองหัวหน้าเผ่าซือคงต้องรับศึกหนักอย่างต่อเนื่อง คราวนี้เขาต้องเจอกับเยี่ยจิ่งหานที่กำลังโกรธจัด นอกจากนี้ยังมีค่ายกลที่ยับยั้งวิทยายุทธของเขาไว้ ทำให้รองหัวหน้าเผ่าซือคงต้องเสียเปรียบอย่างช่วยไม่ได้
จอมมารเห็นดังนั้นก็รีบเข้ามาร่วมวงต่อสู้โดยไม่สนใจสิ่งปฏิกูลอะไรทั้งนั้น
เถาดอกลำโพงขยายออกเหมือนนัยน์ตาที่เรียวยาว โอบล้อมรอบรองหัวหน้าเผ่าซือคงเอาไว้ทันที
ทุกคนรู้ดีว่าดอกลำโพงมีพิษสงร้ายกาจ หากถูกรัดเอาไว้ถ้าไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส
เดิมทีรองหัวหน้าเผ่าซือคงเสียเปรียบอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสองยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุทธภพ เขาก็ยิ่งตกเป็นรองมากกว่าเดิม
จอมมารกล่าวว่า “เยี่ยจิ่งหาน ตาเฒ่านี่เป็นของข้า เจ้ามาทางไหนก็ไสหัวไปทางนั้น อย่าเข้ามายุ่มย่ามที่นี่”
เยี่ยจิ่งหานไม่ตอบจอมมาร และด้วยเสียงโวยวายนั้น ท่วงทำนองที่น่าสะพรึงกลัวจึงหันเหไปทางจอมมาร
จอมมารโกรธจัด
เจ้าหมอนี่แย่งความดีความชอบของเขาก็ว่าแย่แล้ว
คิดไม่ถึงว่ายังจะกล้าโจมตีเขาอีก
จอมมารไม่ยอมเสียเปรียบ เถาดอกลำโพงที่เดิมโจมตีไปทางรองหัวหน้าเผ่าซือคงเปลี่ยนทิศไปโจมตีเยี่ยจิ่งหานทันที
นี่เป็นการตะลุมบอน
อีกเดี๋ยวเยี่ยจิ่งหานกับจอมมารก็ร่วมมือกันจัดการกับรองหัวหน้าเผ่าซือคง
อีกเดี๋ยวเยี่ยจิ่งหานกับจอมมารก็แยกจากกันอย่างไม่อาจต่อกันติด
กู้ชูหน่วนมองดูอย่างมึนงง
เดิมทีพวกเขาจะจัดการรองหัวหน้าเผ่าซือคงได้อยู่แล้ว แต่กลับปล่อยให้ความขัดแย้งส่วนตัวมามีอิทธิพล ปล่อยให้รองหัวหน้าเผ่าซือคงหลุดมือไปได้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
กู้ชูหน่วนเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “พวกท่านมีความแค้นอะไรก็ช่วยพักเอาไว้ก่อน รอให้จัดการกับตาเฒ่าซือคงให้เรียบร้อยก่อนได้หรือไม่”
“พี่หญิง ข้าคนเดียวจัดการกับตาเฒ่าซือคงได้อยู่แล้ว ท่านบอกให้เยี่ยจิ่งหานรีบไสหัวไปเถิด”
มุมปากของกู้ชูหน่วนกระตุก
ทุกคนที่นางคบเป็นสหายแบบไหนกันแน่
ซือม่อเฟยมีวรยุทธสูงล้ำ ถ้าระดับการต่อสู้ของเขาไม่ลดลง นางเชื่อว่าซือม่อเฟยเอาชนะตาเฒ่าซือคงได้แน่
ทว่าข้อสำคัญคือเขาเสียพลังไปแล้ว และตาเฒ่าซือคงก็เป็นคนเหลี่ยมจัด ถ้าคิดจะเอาชนะเขาให้ได้จริงๆ มันจะง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ
และเพราะเรื่องที่นางกับเยี่ยจิ่งหานเป็นพี่น้องกัน ตอนนี้ภายในใจของเยี่ยจิ่งหานจึงกำลังเดือดพล่าน เขาเพิ่มเชื้อไฟเข้าไปเช่นนี้มีหรือที่เยี่ยจิ่งหานจะไม่โกรธ
นางมองเยี่ยจิ่งหานที่ลอยเด่นอยู่กลางอากาศ เขาหลุบตาลงครึ่งหนึ่งและเป่าขลุ่ยหยกขาวในมืออย่างเงียบงัน ทันใดนั้นท่วงทำนองสังหารอันทรงพลังก็หลั่งไหลออกมาจากปลายนิ้ว ดวงตาของกู้ชูหน่วนแข็งทื่อ
นางเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงที่แหบพร่า “เยี่ยจิ่งหาน อย่าไปสนใจเจ้าหมาน้อยนั่น รีบจัดการรองหัวหน้าเผ่าซือคงก่อน”
เยี่ยจิ่งหานที่เดิมทีไม่พอใจจอมมารลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ยอมผละมือจากจอมมารงี่เง่าและหันไปจัดการกับรองหัวหน้าเผ่าซือคง
จอมมารเอ่ยอย่างไม่เต็มใจ “พี่หญิง เหตุใดท่านจึงลำเอียงอีกแล้ว”
“ถ้าเจ้าไม่อยากร่วมมือกับเขาจัดการกับตาเฒ่าซือคงก็หลบไปซะ ข้าจัดการเอง หยุดเอะอะโวยวายได้แล้ว”
“เอาละๆ อาม่อจะจัดการตาเฒ่าเน่าเฟะนั่นก่อน จากนั้นค่อยคิดบัญชีกับเยี่ยจิ่งหานทีหลัง”
เมื่อสองยอดฝีมือแห่งยุทธภพร่วมมือกันจัดการรองหัวหน้าเผ่าซือคง แม้ว่าระดับความสามารถของพวกเขาจะลดลง แต่รองหัวหน้าเผ่าซือคงก็ยังเสียเปรียบอยู่ดี
ภายใต้เสียงตูมตามที่ดังติดต่อกันนั้น ไม่รู้ว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงได้รับบาดเจ็บด้วยฝีมือของใคร เขากระเด็นตัวปลิวและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
เสียงสังหารยังติดตามมาไม่หยุด เสียงสังหารจากขลุ่ยหยกขาวของเยี่ยจิ่งหานมีชื่อเสียงไปทั่วหล้า หากถูกโจมตีขึ้นมามีแต่จะต้องตายคาที่ แม้ว่ายอดฝีมือระดับหกอย่างเขาจะไม่ตายทันทีทว่าก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
รองหัวหน้าเผ่าซือคงหลบหลีกซ้ายทีขวาที เขายังคงรวบรวมปราณดาบในมือเพื่อป้องกันเสียงสังหารนั้น
เนื่องจากมีค่ายกลขัดขวางเอาไว้ วิทยายุทธของรองหัวหน้าเผ่าซือคงจึงถูกยับยั้งไปถึงห้าส่วน เขาอาจต้านทานเยี่ยจิ่งหานไว้ได้ แต่ไม่อาจรับมือกับดอกลำโพงของจอมมารไปพร้อมๆ กันได้
ดอกลำโพงสีสันสดใสทยอยกลายเป็นหัวกะโหลกและกัดแทะรองหัวหน้าเผ่าซือคงอย่างแรง
แม้แต่ตอนที่ดอกลำโพงไปสัมผัสหิมะ หิมะสีขาวยังกลายเป็นเถ้าท่าน และกลิ่นของการกัดกร่อนก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งเสียงสังหารและดอกลำโพงล้วนเป็นของยากที่จะเผชิญหน้า
เมื่อเห็นเช่นนี้ จิตใจที่ตึงเครียดของกู้ชูหน่วนจึงค่อยผ่อนคลายลง
คืนนี้น่าจะจัดการรองหัวหน้าเผ่าซือคงได้แน่
คนผู้นี้ก่อกรรมทำชั่วไว้มากและควรถูกกำจัดไปตั้งนานแล้ว
วิญญาณที่ผูกอาฆาตของชาววะนับหมื่นนับพันยังคงรออยู่
พรึ่บ!
ระหว่างการสู้รบที่ดุเดือด รองหัวหน้าเผ่าซือคงถูกโจมตีด้วยเสียงสังหารของเยี่ยจิ่งหาน จากนั้นดอกลำโพงของจอมมารก็เข้าไปพันจนร่างกายระเบิดจนเลือดสาด ร่างทั้งร่างเหมือนลูกโป่งที่เหี่ยวแฟบ กึ่งล้มกึ่งยืน ลุกขึ้นมาไม่ได้อยู่เป็นนาน
ปึง!”
ขลุ่ยหยกขาวปะทะไปที่ลำคอของรองหัวหน้าเผ่าซือคง แค่เยี่ยจิ่งหานออกแรงอีกนิดเดียว คอของรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็จะถูกขลุ่ยหยกขาวเจาะทะลุทันที
ในเวลาเดียวกัน ดอกลำโพงก็พันรอบกายของรองหัวหน้าเผ่าซือคงไว้รอบแล้วรอบเล่า เพียงแค่จอมมารกระตุ้นพลังจิตเพิ่มอีกนิด รองหัวหน้าเผ่าซือคงจะถูกดอกลำโพงพันจนตายทันที
จอมมารกล่าวว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะดอกไม้ของข้าพันรอบกายของตาเฒ่าซือคงไว้ก่อน เสียงสังหารของเจ้ารึจะทำร้ายเขาได้ ไปไป๊ เอาขลุ่ยหยกขาวของเจ้าออกไป คนไม่รู้จะคิดไปว่าเจ้าเป็นคนจัดการตาเฒ่าซือคงผู้นี้”