กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 66
อี้เฉินเฟยกับซั่งกวนฉู่มองเยี่ยเฟิงอย่างละเอียดถี่ถ้วนทีละคนๆ
ชายผู้นี้นั้นเกรงว่าจะไม่ธรรมดา
“ใช้ไฟสลายผึ้ง ใช้ไฟ……” อาจารย์สวีตะโกนเสียงดังพวกองครักษ์จึงได้รีบหาคบไฟมาถึงได้ขับไล่ผึ้งทั้งหมดบนร่างกายของเจ๋ออ๋องไป
หลังจากเหตุการณ์นี้แล้วเจ๋ออ๋องก็เกือบจะเสียชีวิต
หมอหลวงแต่ละคนหิ้วหีบยามารักษาอาการให้
เซี่ยวอวี่เซวียนกลืนน้ำลาย “แม่สาวอัปลักษณ์ที่แท้เจ้าก็จงใจเทน้ำผึ้งบนตัวเขา”
“พูดจาไร้สาระ ข้านั้นหวาดกลัวจึงได้ป้องกันตนเอง”
หวาดกลัว?
นางหวาดกลัวเป็นด้วย?
แม่สุกรสามารถปีนขึ้นต้นไม้ได้แล้ว
“แม่สาวอัปลักษณ์ เหตุใดผีเสื้อถึงได้เกาะอยู่บนรูปดอกโบตั๋นของเจ้า? หรือว่าเจ้าไม่ได้ใช้น้ำผึ้งเพื่อมาโกงหรอกหรือ?
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างรื่นเริงพร้อมกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “เนื่องจากฝีมือการวาดของข้ายอดเยี่ยมไง”
“ข้าเชื่อเจ้ากับผีสิ” เซี่ยวอวี่เซวียนเลียนแบบน้ำเสียงของนางแล้วกล่าวอย่างโมโหและยังมีความสุขที่ได้เห็นเจ๋ออ๋องพ่ายแพ้
เนื่องจากหาไม่พบว่ารูปดอกโบตั๋นของกู้ชูหน่วนโกง ครั้งนี้จึงตัดสินว่ากู้ชูหน่วนกับเยี่ยเฟิงชนะด้วยกันและได้รับรางวัลที่หนึ่ง
กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นปวดใจแล้วกล่าวอย่างไม่เป็นธรรมว่า “ท่านเจ๋ออ๋องข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ได้โกงแต่ท่านก็ไม่เชื่อ ดูสิ ผึ้งมาประท้วงกันแล้ว”
“กู่ชูหน่วน ข้าจะสังหารเจ้าเสีย……”
เจ๋ออ๋องลุกขึ้นอย่างโกรธเคืองและต้องการที่จะบีบคอกู้ชูหน่วนให้ตาย แต่ว่าถูกผึ้งต่อยหนักเกินไปเขาเพิ่งลุกขึ้นมาก็นั่งตัวแข็งลงจนหงายล้มเท้าชี้ฟ้าไปเลย
กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะพร้อมถอนหายใจ “ดูสิ แม้แต่สวรรค์ก็ทนดูไม่ได้”
“กู้ชูหน่วน……โอ๊ย……”
เจ๋ออ๋องโกรธยิ่งนักไหนเลยจะยังมีภาพลักษณ์อยู่ แล้วยังจะสามารถสนใจทูตจากแคว้นต่างๆที่อยู่ฝั่งหนึ่งได้ที่ใด แววตาของเขาลุกโชนจนแทบจะพังพินาศไปพร้อมกับกู้ชูหน่วน
เขาในเวลานี้ราวกับหญิงปากร้าย หากมิใช่ว่าเขาบาดเจ็บสาหัสและคนรับใช้จับตัวเขาเอาไว้แน่นก็คงจะต่อสู้กับกู้ชูหน่วนไปนานแล้ว
หลังจากกู้ชูหน่วนตบหน้าอกเล็กๆของตนเองด้วยความหวาดผวาแล้วกล่าวอย่างหวาดกลัวว่า “หม่อมฉันไม่รู้ว่าเจ๋ออ๋องเป็นผู้ที่ไม่สามารถพ่ายแพ้ได้ เพื่อเงินสองล้านตำลึงเล็กน้อยนั้นแล้วช่างไร้ยางอายเช่นนี้ได้”
แม้จะเป็นปรมาจารย์หมากรุกก็เกือบจะล้มลงไปแล้ว
เจ้าเด็กน้อยคนนี้ทำให้คนโกรธโดยไม่กล่าวเหตุผลเลย
เจ๋ออ๋องนั้นเพื่อเงินสองล้านตำลึงนั้นที่ใดกัน เห็นชัดว่านางแกล้งอ่อนแอหลอกให้ตายใจโดยจงใจเทน้ำผึ้งใส่ร่างของเขา
เมื่อเห็นว่าเจ๋ออ๋องถูกต่อยบาดเจ็บไปทั่วร่างแม้แต่ใบหน้าอันหล่อเหลาก็บวมขึ้นมา ปรมาจารย์หมากรุกเห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด
“กู้ชูหน่วนหากข้าไม่ล้างแค้นข้าก็ไม่ใช่บุรุษแล้ว”
“เจ้าดูเจ้าสิอายุก็ปูนนี้แล้วในจวนไม่มีนางสนมเลยแม้แต่คนเดียวผู้ใดจะรู้ว่าเจ้าเป็นบุรุษ? แต่หากว่าเจ้าต้องการพิสูจน์จริงๆก็ถอดกางเกงออกเลยโดยตรงให้ทุกคนเห็นก็จะได้รู้”
เจ๋ออ๋องโมโหจัดจนแทบจะเป็นลมไป หมอหลวงรีบเร่งกันจับตัวเขาเอาไว้โดยเกรงว่าจะเกิดสิ่งไม่คาดคิดกับเจ๋ออ๋องขึ้น
คนในที่นั้นแต่ละคนลิ้นจุกปากพูดไม่ออก
หญิงผู้นี้ก็ช่างโหดร้ายยิ่งนัก นางไม่ทำให้เจ๋ออ๋องถึงตายก็ไม่รู้สึกพอใจหรือ?
จักรพรรดิเยี่ยทรงไม่พอพระทัยแล้วตรัสอย่างเย็นชาว่า “เจ๋ออ๋องได้รับบาดเจ็บสาหัส นำตัวเขาออกไปรักษาก่อนเถอะ”
“ข้าไม่ไป หากว่าวันนี้ไม่ชนะแม่สาวอัปลักษณ์ผู้นั้นข้าจะไม่ยอมแพ้” เจ๋ออ๋องจ้องไปยังกู้ชูหน่วนอย่างดุเดือดโดยอยากจะถลกหนังเลาะกระดูกของนางแล้วฉีกออกเป็นชิ้นๆ
หมอหลวงเกลี้ยกล่อมว่า “ท่านอ๋อง ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องรีบรักษาเป็นการด่วน ไม่สามารถล่าช้าได้พ่ะย่ะค่ะ”
“ไปให้พ้น บาดแผลของข้าข้ารู้ดี” วันนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องให้กู้ชูหน่วนสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียงลงให้ได้
“เอ่อ……แล้วสองล้านตำลึงของหม่อมฉันหล่ะ?”
“พวกเจ้า ไปในจวนของข้านำเงินสองล้านตำลึงมาให้นาง”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างอารมณ์ดี “ในเมื่อท่านอ๋องต้องการที่จะประลองต่อเช่นนั้นก็ประลองต่อเถอะ ต่อไปประลองสิ่งใดหล่ะ?”
#สวัสดีผู้อ่านทุกท่านขอบคุณที่ติดตามนิยายของผู้เขียนนะคะ