กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 705
ประตูหินเปิดออก และฉากตรงหน้าทำให้ฮวาฉี่หลัวและผู้อาวุโสหกถอนหายใจ
นั่นมันอะไรกัน
สาวกหนึ่งร้อยห้าคนของเผ่าน้ำแข็งทยอยกันกรีดข้อมือของตัวเอง และให้เลือดหยดลงบนยันต์แปดทิศข้างเตาหลอมยา
ยันต์แปดทิศเป็นเหมือนปีศาจที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลก และเปล่งแสงออกมาเจ็ดสี
เพียงแต่แสงทั้งเจ็ดสีนี้ไม่ใช่สัญญาณที่ดี แต่ดูดกลืนเลือดของพวกนางอย่างไม่จบไม่สิ้น และแทบอยากจะดูดกลืนเลือดในร่างของพวกนางทั้งหมด
ไป๋จิ่นและผู้ส่งสารศักดิ์สิทธิ์อีกสองคนของเผ่าน้ำแข็งยืนอยู่บนเตาหลอมยาด้วยรอยยิ้ม
ไฟในเตาหลอมยาลุกโชน ทำให้ใบหน้าของพวกนางแดงก่ำ ราวกับเทพธิดาในกองเพลิง
และกู้ชูหน่วนก็พยายามที่จะพุ่งเข้าไปหายันต์แปดทิศ แต่ก็ถูกแสงทั้งเจ็ดสีผลักออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า และนางก็ร้องตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง……
เหวินเส่าอี๋และจอมมารอยู่ข้าง ๆ กู้ชูหน่วน และช่วยประคองกู้ชูหน่วนไว้เป็นครั้งคราว
พวกเขาพยายามที่จะหยุดมันแล้ว แต่ผลสุดท้ายก็ถูกผลักออกมาเช่นกัน
ฮวาฉี่หลัวพยายามพุ่งไปอย่างรวดเร็ว “นี่มันยันต์แปดทิศอะไรกัน ทำไมมันถึงดูดกลืนเลือดของพี่หญิงทุกคนตลอดเวลา?ข้าจะไปช่วย”
ในขณะที่พูด นางก็รีบพุ่งเข้าไป แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้ ร่างของนางก็กระเด็นออกมาอย่างแรง และนางก็หายใจหอบด้วยความเจ็บปวด
กู้ชูหน่วนน้ำตานองหน้า นางพยายามที่จะพุ่งเข้าไปและร้องตะโกน
“ไม่……ไม่นะ……พวกเจ้ารีบออกมาเดี๋ยวนี้ อย่าสังเวยชีวิตเลย”
“พี่หญิง นี่คือค่ายกลที่แข็งแกร่งระดับเจ็ด ด้วยฝีมือของพวกเราแล้ว ไม่สามารถทำลายมันได้ หากท่านปะทะเช่นนี้ต่อไป วิญญาณของท่านก็จะสลาย”
“อ้า……ไม่นะ……พวกนางจะตายไม่ได้……”
สาวกทั้งหนึ่งร้อยห้าคนยังคงกรีดข้อมือเพื่อสังเวยเลือดอย่างต่อเนื่อง ร่างของพวกนางสั่นคลอน และพลังชีวิตกำลังจะหมดไปอย่างรวดเร็ว แต่ใบหน้าของพวกนางก็ยังมีรอยยิ้ม
พวกนางพากันยิ้มและกล่าวว่า “นายท่าน หากไม่ใช่เพราะท่านและท่านหัวหน้าเผ่าคนก่อนช่วยพวกเราไว้ พวกเราก็คงตายไปนานแล้ว พวกเราโชคดีมากที่เป็นผู้ที่มีร่างกายเป็นหยินบริสุทธิ์ และที่โชคดียิ่งกว่านั้นก็คือได้สละชีวิตของตัวเอง เพื่อช่วยให้นายท่านหลอมรวมไข่มุกมังกรได้สำเร็จ พวกเราเต็มใจ”
ฮวาฉี่หลัวหรี่ตาลง และมองไปที่ผู้อาวุโสหก
“พวกนางหมายความว่าอย่างไร?ผู้ที่มีร่างกายเป็นหยินบริสุทธิ์คืออะไร?หรือว่าพวกนางเหมือนกันกับอี้เฉินฟย ต้องกระโดดลงไปในเตาหลอมยา เพื่อช่วยท่านพี่หน่วนหลอมรวมไข่มุกมังกรได้สำเร็จงั้นหรือ?”
ผู้อาวุโสหกตัวสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เขาพึมพำกับตัวเอง
“ข้าเข้าใจ การหลอมรวมไข่มุกมังกร ไม่เพียงแต่ต้องใช้ผู้ที่มีร่างกายเป็นหยางบริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้ที่มีร่างกายเป็นหยินบริสุทธิ์ด้วย?นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว…… กว่าร้อยชีวิต เผ่าหยกจะรับได้อย่างไร?แล้วอาหน่วนจะรับได้อย่างไร?”
“ท่านว่าอะไรนะ?พี่หญิงของข้ากว่าร้อยชีวิตจะต้องถูกสังเวย?ไม่……เป็นไปไม่ได้……”
ใบหน้าของฮวาฉี่หลัวซีดเซียว นางร้องไห้ “พี่หญิง พวกท่านกำลังทำอะไร พวกท่านรีบออกมาเถอะ พวกท่านมีร่างกายที่เป็นหยินบริสุทธิ์ ข้าก็มีร่างกายที่เป็นหยินบริสุทธิ์เช่นกัน พวกท่านให้ข้าสละชีวิตก็ได้” ท่านพี่ไป๋ ท่านรีบบอกพวกเขาสิ ให้พวกเขาหยุด”
ไม่เพียงแต่กู้ชูหน่วนแทบจะใจสลาย ฮวาฉี่หลัวก็แทบจะใจสลายเช่นกัน
ไป๋จิ่นและผู้ส่งสารศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้าง ๆ ต่างก็ยิ้ม
“จุดประสงค์ของการดำรงอยู่ของเผ่าน้ำแข็งก็เพื่อวันนี้ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง และถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องทำภาระหน้าที่ของเผ่าน้ำแข็งให้สำเร็จ”
กู้ชูหน่วนสงบสติอารมณ์ลง และกล่าวอย่างเย็นชา “ในฐานะหัวหน้าเผ่า ข้าขอสั่งให้พวกเจ้าลงมาเดี๋ยวนี้ และหยุดทุกอย่าง จะไม่มีการหลอมรวมไข่มุกมังกรแล้ว เจ้าให้พี่น้องทั้งหมดหยุดเถอะ”
“นายท่าน ความทรงจำของท่านกลับมาแล้วใช่หรือไม่?”
“ความทรงจำของข้ากลับมาเพียงเล็กน้อย และการสังเวยของเผ่าน้ำแข็งจะต้องถูกยกเลิก”
อี้เฉินเฟยได้สละชีวิตไปแล้ว
นางไม่สามารถทนเห็นพี่น้องของเผ่าน้ำแข็งจำนวนมากตายได้อีก
“พวกเรารู้ว่าว่าในฐานะหัวหน้าเผ่า ทำให้ท่านลำบากใจ แต่ท่านไม่ต้องเสียใจ พวกเราทุกคนต่างเต็มใจ และรอวันนี้มาวันนี้มานานแล้ว”
“ไป๋จิ่นและพี่น้องทุกคนโชคดีมากที่ได้รู้จักกับนายท่าน”
“ใกล้ถึงเวลาแล้ว ได้โปรดยกโทษให้พวกเราที่ไม่สามารถปกป้องท่านได้อีก นายท่านรักษาตัวด้วย”
“ไป๋จิ่น ไป๋ซิน ไป๋หลาน……พวกเจ้าทั้งสามคนไม่เชื่อฟังคำสั่งของข้าแล้วหรือ?” กู้ชูหน่วนตะโกน
น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของไป๋จิ่นและคนอื่น ๆ
พวกนางก็อาลัยอาวรณ์ผู้เป็นนาย และอาลัยอาวรณ์พี่น้องในเผ่า
แต่พวกนางรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าภาระหน้าที่ของพวกนางคือการกระโดดลงไปในเตาหลอม เพื่อช่วยนายท่านหลอมรวมไข่มุกมังกรได้สำเร็จ
เปลวไฟในเตาหลอมลุกโชนมากยิ่งขึ้น พลังชั่วร้ายค่อย ๆ ควบแน่น และสามารถที่จะปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ
ไม่ว่าไป๋ซินและไป๋หลานจะอาลัยอาวรณ์เพียงใด พวกนางก็อดไม่ได้ที่จะหลับตาลงด้วยรอยยิ้ม “นายท่าน ชาติหน้าขอให้พวกเราได้เป็นลูกน้องของท่านอีก และหวังว่านายท่านจะไม่ลืมพวกเรา”
หลังจากที่พูดจบ ทั้งสองคนก็กระโดดลงไปในเตาหลอมที่มีไฟลุกโชน
“ไม่……”
กู้ชูหน่วนหัวใจสลาย ในขณะที่ฮวาฉี่หลัวร้องไห้นํ้าตานองหน้าและคลานไปที่เตาหลอม
ระหว่างเตาหลอมกับพวกนางมีม่านพลังกันอยู่ ทำให้นางถูกกั้นอยู่ข้างนอก
ฮวาฉี่หลัวเข้าไปไม่ได้ นางจึงทำได้เพียงร้องไห้แทบขาดใจ
“ท่านพี่ไป๋ซิน ท่านพี่ไป๋หลาน……ฮือ ๆ……ท่านพี่หน่วน พวกท่านรีบช่วยพวกนางด้วย”
กู้ชูหน่วนหลับตาลงและน้ำตานองหน้า มือของนางร้อนจี๋และเจ็บปวดใจ
หากเมื่อครู่นางเกลี้ยกล่อม นางขอร้อง นางพยายามที่จะหยุดอย่างสุดความสามารถ ก็คงไม่เกิดเรื่องที่น่าเศร้าเช่นนี้
แต่ตอนนี้……
สายเกินไป……
สายเกินไปแล้วจริง ๆ……
พี่น้องหนึ่งร้อยห้าคนของเผ่าน้ำแข็ง ถูกดูดเลือดเกือบหมดตัว และถูกพลังชั่วร้ายกัดเซาะ
พวกนาง……ไม่สามารถช่วยได้แล้ว
แม้จะไม่มีการสังเวยชีวิต พวกนางก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้
เมื่อเห็นว่ากู้ชูหน่วนหมดหนทาง ฮวาฉี่หลัวก็ทำได้เพียงฝากความหวังสุดท้ายไว้ที่ไป๋จิ่น
“ท่านพี่ไป๋จิ่น ท่านบอกว่าจะปกป้องข้าไปตลอดชีวิต ท่านจะไม่ผิดสัญญาใช่หรือไม่?พวกเราจะไม่มาที่เผ่าหยกอีก พวกเรากลับไปที่เผ่าน้ำแข็งกันเถอะ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน”
“เสี่ยวฉี่หลัว เกรงว่าพี่หญิงไป๋จิ่นจะไม่สามารถปกป้องเจ้าได้อีก เจ้าก็ควรจะโตได้แล้ว หลังจากที่พวกเราตายไป เผ่าน้ำแข็งก็คงจะขาดผู้นำ และนายท่านก็คงจะยุ่ง เจ้าต้องช่วยประคับประคองเผ่าน้ำแข็ง”
“ข้้ายังอายุน้อย หากไม่มีพวกท่าน ข้าจะประคับประคองเผ่าน้ำแข็งทั้งหมดได้อย่างไร ท่านหยุดล้อเล่นได้แล้ว”
“พี่หญิงไป๋จิ่นไม่ได้ล้อเล่น ไม่เพียงแต่เจ้าต้องประคับประคองเผ่าน้ำแข็ง เจ้ายังต้องประคับประคองใต้หล้าและปกป้องนายท่านด้วย…..เจ้าต้องปกป้องนายท่านแทนพวกเราให้ดี ๆ ”
“ท่านพี่ไป๋จิ่น…..
“ปัง……”
แสงทั้งเจ็ดสีไม่ดูดกลืนเลือดของสาวกหนึ่งร้อยห้าคนอีกต่อไป
ในที่สุดพวกนางก็ถูกปลดจากพันธนาการ
หลังจากถูกปลดปล่อยแล้ว พวกนางก็พากันปีนขึ้นไปบนเตาหลอมและกระโดดลงไป และหายไปต่อหน้าต่อหน้ากู้ชูหน่วนและคนอื่น ๆ
“นายท่าน ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการสังเวยชีวิต หากพลาดไป เกรงว่ายากที่จะยับยั้งพลังชั่วร้าย โปรดอภัยที่พวกเราไม่อาจกล่าวลาท่านได้ ท่านรักษาตัวด้วย”
“ขอให้ชาติหน้าเราได้เป็นเจ้านายลูกน้องกันอีก”
“ตุบ ๆ……”
“ปัง ๆ ๆ……”
สาวกของเผ่าน้ำแข็งกระโดดลงไปทีละคนอย่างไม่ลังเล และแต่ละคนก็กระโดดลงไปพร้อมกับเปลวไฟ
กู้ชูหน่วนคุกเข่าลง
นางกัดฟันไว้แน่นและบังคับไม่ให้ตัวเองส่งเสียง ภาพที่สาวกของเผ่าน้ำแข็งแต่ละคนยอมสังเวยชีวิตยังคงติดตา
เล็บของนางจิกลึกลงไปในพื้นดินอย่างแรง จนนางเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเล็บมีเลือดออก
นี่เป็นภาพที่โหดร้ายมาก
โหดร้ายมากสำหรับเผ่าน้ำแข็ง
และยิ่งโหดร้ายมากสำหรับกู้ชูหน่วน
สาวกหนึ่งร้อยห้าคนของเผ่าน้ำแข็ง และผู้ส่งสารศักดิ์สิทธิ์อีกสามคน รวมเป็นหนึ่งร้อยแปดคน ล้วนแต่ได้รับการช่วยเหลือจากนางและหัวหน้าเผ่าคนก่อน
พวกนางมีความรักใคร่กันอย่างลึกซึ้ง เป็นเหมือนพี่สาวน้องสาว
ประการแรกที่ช่วยพวกนาง เพราะความเห็นอกเห็นใจ
และประการที่สองก็เป็นเพราะพวกนางเป็นผู้ที่มีร่างกายเป็นหยินบริสุทธิ์