กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 725
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 725
“เปรี้ยง……”
ขณะที่ดาบอ่อนชี้ไปยังท้องฟ้า ประกายไฟก็ปะทุออกมาทั่วทุกสารทิศทำให้ท้องฟ้าทั้งหมดราวกับถูกแทงจนพรุนเช่นนั้นและปรากฏประกายร้าวเป็นเส้นๆขึ้น
ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยขมวดคิ้ว
กำลังภายในอันแข็งแกร่งนัก
กลิ่นไอสังหารอันรุนแรงนัก
ความมั่นใจอันแน่วแน่นัก
นี่……นี่เป็นเพียงขั้นต้นระดับสี่จริงหรือ?
เผ่าหยกต้องคำสาปโลหิตเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี แต่ว่าไม่เคยคาดคิดเลยว่าก็ยังสามารถปลูกฝังผู้เยาว์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้
เลือกนางเป็นหัวหน้าเผ่า เผ่าหยก……มีวิสัยทัศน์ดีเยี่ยม
ไม่ว่าจะเป็นกู้ชูหน่วนหรือผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยความคิดที่จะสังหารในกายของทั้งสองคนเกิดโดยไม่ต้องสงสัยเลย
อีกฝ่ายไม่ตายภายหน้าเผ่าของพวกเขาจะต้องเกิดปัญหาอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้นเป็นแน่ และจะมีคนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องตายอย่างอนาถภายใต้น้ำมือของอีกฝ่าย
ในวันนี้แม้ว่าจะต้องทุมสุดชีวิตก็จะต้องสังหารคู่ต่อสู้ให้ตายไปเลย
“เปรี้ยง……”
กู้ชูหน่วนปลุกสายฟ้าแห่งท้องนภาและประกายไฟแห่งผืนแผ่นดิน ดูดล่ออากาศจากบนท้องฟ้า
ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยควบคุมพายุฝนอันรุนแรงโดยทำให้เกิดกระแสน้ำวนสายฝนหนักหน่วง
กระบวนท่าอันสูงปะทะกันทำให้เกิดเสียงดังสนั่น ทั่วทั้งเหวไร้สิ้นสุดสั่นสะเทือนไปทั่ว
ทั้งเผ่าหยกก็สั่นสะท้านไปด้วยเช่นกัน
การเคลื่อนไหวของพวกเขามากมายเกินไป เกรงว่าเผ่าหยกทั้งหมดจะรู้ว่าเหวไร้สิ้นสุดกำลังเกิดการต่อสู้ใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียมได้อยู่
ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยถอยหลังไปสองสามก้าว ปรากฏเลือดขึ้นอยู่ตรงมุมปากพร้อมสีหน้าอันซีดเผือดกว่าเมื่อก่อนบ้างบางส่วน
ใบหน้าชราที่มีรอยเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
และกู้ชูหน่วนก็บินกลับหัวไปเลยและร่างกายได้กระแทกเข้ากับกำแพงหินอย่างแรง เป็นเวลาเนินนานก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ อวัยวะภายในกำลังกระเพื่อมอย่างรุนแรงอยู่ทั้งสิ้น
กู้ชูหน่วนเหยียดมือออกเพื่อเช็ดเลือดจากมุมปากและได้กระอักเลือดที่อยู่ในปากออกมาดังพรวด
ยันดาบอ่อนลุกขึ้นมาอย่างอยากลำบากและประสานสายตาทั้งสี่กับผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยแล้วกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
“ขั้นสูงสุดระดับหกก็เพียงเท่านี้เอง”
พรึ่บ……
ความโกรธของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยก็ได้ลุกโชนขึ้นอย่างดุดันอีกครั้ง
เขาเป็นขั้นสูงสุดระดับหก ขาดเพียงก้าวเดียวก็จะสามารถเลื่อนขั้นเป็นระดับเจ็ด
ระดับเจ็ดแข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าแล้ว
หลายปีที่ผ่านมาผู้คนทั่วใต้หล้าเห็นเขามีผู้ใดที่ไม่เคารพเขาบูชาเขากราบไหว้เขา อยู่ต่อหน้าเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
นางเป็นสิ่งใดถึงกล้าอวดดีอยู่ต่อหน้าเช่นนี้
หากไม่ใช่เนื่องจากว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส กระบวนท่านี้นางสามารถรับได้ก็ช่างแปลกประหลาดไปแล้ว
“แม่สาวน้อย เจ้าสมควรตาย”
ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยโจมตีขึ้นอีกครั้ง สายฝนหมุนวนได้กลายเป็นใบมีดน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่กู้ชูหน่วนทั่วทุกทิศ
ใบมีดน้ำแข็งทั้งแข็งและคมนัก ความเร็วก็เทียบเท่าสายฟ้าฟาด
หลังจากถูกใบมีดน้ำแข็งปกคลุมทั่วกู้ชูหน่วนรู้สึกว่าเลือดทั้งร่างของตนแข็งตัวเลยเช่นนั้นและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
นางพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้หลุดพ้น แต่นางไม่มีเวลาต้านทานใบมีดน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามาจากทั่วทุกสารทางเสียแล้ว
ทันใดนั้นในใจนางก็รู้สึกเย็นยะเยือก
หรือว่าจะต้องตายอยู่ที่นี่หรือ?
นางไม่ยอม
นางยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องทำ
เมื่อนึกถึงการตายอันน่าเวทนาของอี้เฉินเฟยกับไป๋จิ่นและคนอื่นๆ
เมื่อนึกถึงผู้คนนับพันนับหมื่นของเผ่าหยกที่รอให้นางหลอมรวมไข่มุกมังกร
เมื่อนึกถึงเยี่ยจิ่งหานก็อยู่ภายใต้คำสาปโลหิต ทุกๆเดือนต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากการกำเริบของคำสาปโลหิต กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้ว่าพละกำลังมาจากที่ใดซึ่งพยายามที่จะปลดปล่อยพลังที่ผูกมัดนางเอาไว้ให้หลุด
“อ๊า……”
นางร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง พละกำลังมหาศาลก็ได้พุ่งออกมาจากร่างกายและได้บังเกิดภาพดอกบัวขาวราวกับหิมะดอกหนึ่งขึ้นบนหน้าผาก
กู้ชูหน่วนไม่ได้ถอยกลับก้าวไปด้านหน้า ใบมีดน้ำแข็งบางส่วนที่เหลืออยู่ไม่ได้เข้าไปสู่ร่างกายของนาง และส่วนหนึ่งก็ถูกนางหลีกเลี่ยงไปได้
เรี่ยวแรงมหาศาลกระเทือนให้ใบมีดน้ำแข็งบินออกไม่น้อย
แสงสีขาวสอดส่อง กู้ชูหน่วนและดาบได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกลายเป็นประกายอันน่าปละหลาดใจซึ่งพุ่งแทงเข้าไปยังผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยเลยโดยตรง
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป
แม้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยจะตกใจกับพละกำลังของกู้ชูหน่วนท้ายที่สุดก็ยังประเมินศัตรูต่ำเกินไป
ดาบเล่มนี้ทำให้เขาถูกแทงจนทะลุหน้าอก
“พรวด……
“พรวด……”
ทั้งสองคนกระอักเลือดออกมา
เสียงหยดเลือดไหลหยดลงมาจากหน้าอกของผู้อาวุโสอั้นเฮยและตกลงสู่พื้นเกิดเป็นรูปร่างสีแดงที่แปลกประหลาด
ร่างกายของกู้ชูหน่วนราวกับว่าจะถูกแทงด้วยมีดนับร้อบนับพันเล่ม หยดเลือดก็ไหลหยดลงมา เมื่อมองแว๊บแรกเสมือนมนุษย์โลหิตผู้หนึ่ง
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด
นางไม่แม้แต่จะดูบาดแผลของตนเองเพียงแค่ยกดาบอ่อนในมือจากนั้นก็กวาดเป็นแนวนอนออกไปอีกครั้ง
ครั้งนี้นางไม่ได้แข็งปะทะแข็งแต่ใช้กระบวนท่าอันซับซ้อนบังคับให้ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยกระโดดลงชั้นที่สิบแปดของเหวไร้สิ้นสุดไม่หยุด
ชั้นที่สิบเจ็ดเป็นสิ่งใดกันแน่นางไม่รู้
แต่นางรู้ว่าชั้นที่สิบแปดมีอสุรกายเก่าแก่โบราณจำนวนไม่น้อยถูกคุมขังอยู่ และอสุรกายแต่ละตัวนั้นเกินกว่าความสามารถของนางที่จะรับมือได้
มีเพียงขังเขาไว้ที่ชั้นที่สิบแปดเท่านั้นจึงจะสามารถกำจัดผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยได้อย่างแท้จริง
นางสามารถคิดถึงตรงนี้ได้แล้วผู้อาวุโสอั้นเฮยจะคิดไม่ถึงได้อย่างไร
ดังนั้นเขาจึงหลีกเลี่ยงไป
ทั้งสองคนผลัดกันไปมาโดยไม่รู้ว่ารับมือกระบวนท่ากันไปมากเพียงใด
กู้ชูหน่วนถูกกระแทกกระเด็นออกหลายครั้งและก็อีกลุกขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับผู้ที่ไร้ความรู้สึกตายไม่เป็นเช่นนั้น รู้เพียงแค่ต่อสู้เท่านั้น……
อั้นเฮยโมโหจัด
หญิงผู้นี้ราวกับขนมอันเหนียวหนึบ สลัดก็สลัดไม่ออก ต่อสู้ก็ต่อสู้ไม่ตาย
เห็นได้ชัดว่าเพียงแค่ขั้นต้นระดับสี่เท่านั้นแต่จู่ๆก็ทะยานสู่ระดับห้า
จนทำให้เขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสคิดขึ้นมาในชั่วขณะหนึ่ว่ายากเย็นนักที่จะกำจัดกู้ชูหน่วนออกไปได้
“ผู้อาวุโสไท่ซั่งของเผ่าเพลิงฟ้ามีความสามารถเพียงเท่านี้หรือ?”
ร่างกายของกู้ชูหน่วนแทบจะชินชาจากความทรมานไปหมดแล้ว
นางไม่กล้าหยุด
เกรงว่าเมื่อหยุดแล้วก็จะไม่มีความกล้าต่อสู้อีก
ถึงตอนนั้นนางก็จะพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์
“หากว่าเจ้าไม่ได้วาวแผนไว้ให้ข้าบุกเหวไร้สิ้นสุดทั้งสิบหกชั้นจนทำให้ข้าสูญเสียพละกำลังไปหมด ข้าสังหารเจ้าก็ง่ายดายเสมือนขยี้มดตัวหนึ่ง
“ท่านผู้เฒ่า พูดจาโอ้อวดผู้ใดก็ทำได้”
ความหมายของนางคือผู้ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยทำได้เพียงแค่กล่าวเท่านั้นแต่ไม่ได้พึ่งความสามารถอันแท้จริง
ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยด้านหนึ่งควบคุมสายฝนและใช้ม่านสายฝนเพื่อสังหาร ด้านหนึ่งใช้พละกำลังที่เหลืออยู่กดกู้ชูหน่วนเอาไว้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อนึกถึงความเร็วอันเติบใหญ่ขึ้นของนาง ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยรู้สึกว่าไม่เพียงพอและไม่ลังเลที่จะใช้วิชาต้องห้ามของเผ่าเพลิงฟ้า
ก่อนที่ผู้อาวุโสสูงสุดจะใช้วิชาต้องห้ามกู้ชูหน่วนก็รู้สึกทนไม่ไหวเสียแล้ว
ม่านฝนบางส่วนทะลุเข้ามาทางช่องประกายแสงที่นางกั้นไว้เจ้ามาและหยดลงบนเลือดเนื้อของนาง ทำให้ร่างกายของนางเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นในทันที
กู้ชูหน่วนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปนางต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
ต้องคิดหาหนทางให้เขาลงไปให้เร็วที่สุด
เพื่อที่จะให้เขาลงไปชั้นที่สิบแปดของเหวไร้สิ้นสุดกู้ชูหน่วนถึงกับใช้วิธีพังพินาศไปด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่ใช้ไม่สำเร็จ
ขณะที่นางเป็นกังวล เลือดของทั้งสองคนบนพื้นจู่ๆก็ควบแน่นและก่อตัวเป็นแม่น้ำโลหิตเส้นหนึ่งขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
แม่น้ำโลหิตเดือดพล่านอย่างต่อเนื่องทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นก็ถูกเถาวัลย์แห้งบนกำแพงหินกลืนกินเข้าไป
หลังจากดูดเลือดสดๆแล้วเถาววัลย์ที่เดิมทีเหี่ยวเฉาและไม่น่าสนใจได้กลายเป็นสีโลหิต ชู่ว์ๆๆ……เถาวัลน์นับร้อยเส้นได้จู่โจมไปทางผู้อาวุโสอั้นเฮย
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา
กู้ชูหน่วนถูกจับโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
อั้นเฮยก็ไม่ทันได้คาดคิดเช่นเดียวกัน
เถาวัลย์รุกหนักหน่วงพร้อมด้วยกลิ่นไอการสังหารอันน่าสะพรึงกลัว และสถานที่ที่เถาวัลย์โลหิตคืบคลานไปไม่มีที่ใดที่จะไม่ถูกกัดกร่อน
สีหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยเปลี่ยนไปเล็กน้อยโดยที่ในใจทั้งโกรธทั้งแค้น
เหลือแค่กระบวนท่าเดียว
เพียงแค่เขาออกกระบวนท่าอีกท่าหนึ่งก็สามารถสังหารกู้ชูหน่วนได้แล้ว
จู่ๆเถาวัลย์โลหิตจำนวนมากมายก็ปรากฏขึ้น
หากว่าเขาไม่คลายมือและยังคงสังหารกู้ชูหน่วนต่อไปเช่นนั้นเขาก็จะถูกเถาวัลย์โลหิตสังหารจนตายไปด้วย
ทางเลือกสุดท้ายผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยได้ละทิ้งกู้ชูหน่วนและหันไปจัดการกับเถาวัลย์โลหิต
บทที่ 724
บทที่ 726