กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 744
ลูกน้องของรองหัวหน้าเผ่าซือคงลงมืออย่างรวดเร็ว จนเหวินเส่าอี๋หยุดไว้ไม่ทัน จึงทำได้เพียงมองดูพวกเขาถูกปาดคอต่อหน้าต่อตา
ที่เผ่าหยกเป็นเพราะต่อสู้กับศัตรู สาวกของเผ่าเพลิงฟ้าจึงถูกฆ่าตาย
แต่ที่นี่คือเผ่าเพลิงฟ้า
สาวกหลายสิบคนถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้
เหวินเส่าอี๋ไม่อาจยอมรับได้
กู้ชูหน่วนแฝงตัวอยู่ในฝูงชน ในที่ที่ผู้อื่นมองไม่เห็น และมองดูฉากที่เกิดขึ้นที่นี่อย่างเย็นชา
จนกระทั่งตอนนี้
นางรู้สึกสงสัยในใจ
ในตอนนั้นรองหัวหน้าเผ่าซือคงปล่อยข่าวว่านางมีไข่มุกมังกรเม็ดที่เจ็ดอยู่ที่ตัว จนดึงดูดให้สำนักต่าง ๆ ในใต้หล้ามาตามฆ่านาง
และเกรงว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงจะสร้างเรื่องยั่วยุอะไรบางอย่างในเผ่าเพลิงฟ้า
เพื่อทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่คนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเหวินเส่าอี๋ นำสาวกที่ยอดเยี่ยมกว่าสองพันคนไปที่เผ่าหยก
เขา……
ต้องการทำให้พวกเขาและเผ่าหยกของนางต่อสู้กันจนสูญเสียทั้งสองฝ่าย และจากนั้นเขาก็รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
ช่างเป็นแผนการที่โหดเหี้ยมยิ่งนัก
หากพวกเขาชนะ เขาก็ได้โอกาสที่จะทำลายเผ่าหยก
หากพวกเขาพ่ายแพ้ เขาก็ได้โอกาสที่จะกำจัดผู้ที่ไม่เห็นด้วย และแย่งชิงอำนาจ
เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแล้ว เขาใช้สาวกกว่าสองพันคนเป็นเครื่องมือ จิตใจของเขาช่างโหดเหี้ยมอำมหิต
กู้ชูหน่วนเดาได้ว่าคนที่ฉลาดอย่างเหวินเส่าอี๋จะเดาไม่ออกได้อย่างไร
เพียงแต่เขาไม่ยอมเชื่อ และไม่อยากจะเชื่อ
เหวินเส่าอี๋กล่าวอย่างโกรธเคือง “พวกเขาล้วนเป็นพี่น้องของเผ่าเพลิงฟ้าที่ยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย รวมแล้วกว่าสองร้อยชีวิต รองหัวหน้าเผ่าไม่รู้สึกเจ็บปวดใจบ้างเลยหรือ?”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงย่อมต้องกล่าวว่า “ข้าเพียงแค่ชำระสะสางก็เท่านั้น จัดการเรื่องของสวีชิงและคนอื่น ๆ เสร็จแล้ว ในตอนนี้ก็ถึงตานายน้อยแล้ว?นายน้อยบอกว่าผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่คนและสาวกในเผ่าที่สละชีวิตเพื่อช่วยเจ้า ผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยสันดาปดวงวิญญาณ และพาเจ้าออกมาจากเหวไร้ที่สิ้นสุด เจ้าถึงมีชีวิตรอดมาได้ เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”
“ไม่มี”
คนที่เข้าไปในเผ่าหยกล้วนตายกันหมดแล้ว
เขาจะมีหลักฐานได้อย่างไร
“ในเมื่อเจ้าไม่มีหลักฐาน แล้วพวกเราจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?”
“ข้าเป็นนายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้า ทำไมข้าถึงต้องโกหกด้วย?”
“ไม่ เจ้าไม่ใช่นายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้า และเจ้าก็ไม่ใช่บุตรชายแท้ ๆ ของหัวหน้าเผ่าด้วย”
ฮ้า…..
คำพูดของรองหัวหน้าเผ่าซือคงทำให้ทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
เขาไม่ใช่บุตรชายของหัวหน้าเผ่างั้นหรือ?
เป็นไปได้อย่างไร……?
เขาเป็นนายน้อยของเผ่ามาตั้งแต่เด็กไม่ใช่หรือ?
สายเลือดของเผ่าเพลิงฟ้าจะผสมปนเปได้อย่างไร?
เหวินเส่าอี่โกรธจัดแต่กลับยิ้ม
รองหัวหน้าเผ่าซือคงทำทุกอย่าง เพื่อที่จะดึงเขาลงมา
รองหัวหน้าเผ่าซือคงกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ตรงนั้น และค่อย ๆ พูดทีละคำ
“ในตอนที่ฮูหยินชิวแต่งงานกับหัวหน้าเผ่า นางก็ตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนแล้ว และหัวหน้าเผ่าก็รู้เรื่องนี้ เขาต้องการจะเลิกรากับฮูหยินชิว แต่ครอบครัวของฮูหยินชิวมีอำนาจมากเกินไป เมื่อหัวหน้าเผ่าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าเผ่า เพื่อความมั่นคงของเผ่าเพลิงฟ้า จึงจำต้องให้ฮูหยินชิวอยู่ต่อไป”
“ผู้ที่อยู่มนเหตุการณ์ต่างรู้กันดีว่าก่อนที่ฮูหยินชิวจะแต่งานกับหัวหน้าเผ่า นางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้อาวุโสซ่ง หลังจากแต่งงานกับหัวหน้าเผ่าได้เพียงไม่กี่วัน ฮูหยินชิวก็ทะเลาะกับหัวหย้าเผ่า เหตุการณ์นี้ทำให้เผ่าเพลิงฟ้าโกลาหลมาก”
ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์
ในตอนนั้นมีเรื่องเช่นนี้จริง ๆ
ในเผ่ามีข่าวลือว่าฮูหยินชิวมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับผู้อาวุโสซ่ง และหัวหน้าเผ่าก็ออกมากดดันจนเรื่องนี้ถูกเปิดเผย
ในตอนนั้นเรื่องที่ฮูหยินชิวกับหัวหน้าเผ่าทะเลาะกันจึงไม่ใช่ความลับ
เพียงแค่ไม่มีใครรู้ว่าทำไมพวกเขาถึงทะเลาะกัน รู้เพียงว่าทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง
ผู้คนรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่รู้ว่าเป็นรองหัวหน้าเผ่าซือคงที่จัดเตรียมไว้หรือไม่
คนเหล่านี้มีทั้งสาวกและคนทั่วไปในเผ่า ซึ่งมีสถานะสูงส่งเช่นเดียวกับเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย
บางคนยืนอยู่ข้างรองหัวหน้าเผ่าซือคง และบางคนยืนอยู่ข้างเหวินเส่าอี๋ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ยืนอยู่ข้างใคร
ผู้อาวุโสบางคนกำลังพูดถึงเรื่องนี้
“เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ข้าก็จำได้ว่าตอนที่ฮูหยินชิวกำลังโต้เถียงกับหัวหน้าเผ่า มีข่าวลือว่าเขาไม่ใช่บุตรชายแท้ ๆ และถูกสวมเขา”
“ใช่ ข้าก็ได้ยินมาเช่นกัน ในตอนนั้นข้าก็สงสัยว่านายน้อยอาจจะไม่ใช่บุตรชายของหัวหน้าเผ่า แต่สุดท้ายหัวหน้าเผ่าก็ยืนอยู่ข้างนายน้อย และยับยั้งความวุ่นวายทั้งหมด เมื่อเรื่องนี้จบลงแล้ว ทุกคนต่างก็คิดว่าหากนายน้อยไม่ใช่บุตรชายแท้ ๆ ของหน้าเผ่า ทำไมหัวหน้าเผ่าถึงต้องปกป้องนายน้อยด้วย”
“บางทีอาจเป็นเพราะหัวหน้าเผ่ารักฮูหยินชิวมากเกินไป ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่ารักนางแล้ว รักลูกของนางด้วย”
“หัวหน้าเผ่ารักฮูหยินชิว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้รักนายน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการตายของฮูหยินชิวหัวหน้าเผ่าก็เพิกเฉยต่อนายน้อยมากยิ่งขึ้น”
“ดังนั้น เจ้าหมายความว่านายน้อยอาจจะไม่ใช่บุตรชายของหัวหน้าเผ่าจริง ๆ ”
“ไม่มีลมไหนเลยจะมีคลื่น ข้าว่าเรื่องนี้……”
หากเพียงแค่รองหัวหน้าเผ่าซือคงและคนอื่น ๆ พูดคุยกันก็ดี แต่นี่เป็นการพูดคุยกันของเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย และพวกเขาก็ไม่ยืนหยัดเพื่ออำนาจใด ๆ
เหวินเส่าอี๋ไม่ค่อยรู้เรื่องภูมิหลังของตัวเองมากนัก และเขาคิดมาโดยตลอดว่าตัวเองเป็นนายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้าจริง ๆ
เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกัน เขาก็เกิดความสงสัยเช่นกัน
ตั้งแต่เด็กจนโต ท่านพ่อของเขาไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลย
และยิ่งไม่ต้องพูดถึงการดูแลเอาใจใส่เลย
เขาเย็นชากับเหวินเส่าอี้มาโดยตลอด
ตอนเด็ก ๆ เขาเองก็เคยสงสัยว่าเขาเป็นบุตรชายแท้ ๆ ของหัวหน้าเผ่าหรือไม่
หากเป็นบุตรชายแท้ ๆ ทำไมตอนที่เขาบาดเจ็บสาหัส ป่วยหนัก หรือแม้แต่ใกล้ตาย ท่านพ่อของเขาถึงไม่เคยสนใจเขาเลย
เขาพยายามฝึกฝนวรยุทธอย่างหนัก จนสามารถบรรลุถึงขั้นสูงสุดระดับหกได้ตั้งแต่อายุยังน้อย มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใดในช่วงเวลานั้น
ทั้งหมดที่เขาทำก็เพื่อต้องการให้ท่านพ่อของเขาชื่นชมเขาบ้าง
แต่ก็ไม่มีเลย ไม่ว่าเขาจะฝีมือสูงส่งแค่ไหน ท่านพ่อของเขาก็ยังเย็นชาเหมือนเดิม
ในเวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดใจ
รองหัวหน้าเผ่าซือคงพอใจมากที่ได้เห็นเช่นนี้
เขากล่าวต่อว่า “เป็นเพราะเจ้าไม่ใช่นายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้า ดังนั้นเจ้าจึงสมรู้ร่วมคิดกับหัวหน้าเผ่าหยก กำจัดผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่คนและสาวกที่ยอดเยี่ยมกว่าสองพันคนให้ตายอยู่ที่เผ่าหยก”
ผู้คนตกตะลึงอีกครั้ง
มีบางคนไม่อยากจะเชื่อ
มีบางคนด่าทอด้วยความโกรธเคือง
“รองหัวหน้าเผ่าซือคง ในเมื่อสถานะของนายน้อยไม่ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยของเผ่าเพลิงฟ้า ข้าน้อยคิดว่าจะต้องจับตัวนายน้อยไว้ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาทำเรื่องที่ไม่ดีต่อเผ่าเพลิงฟ้า”
เสียงดังเอะอะอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ก้องกังวานดังขึ้น
“ใครบอกว่าเขาไม่ใช่บุตรแท้ ๆ ของหัวหน้าเผ่า?”