กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 757
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 757
เหวินเส่าอี๋ล้มนั่งลงบนเก้าอี้หินอย่างไร้เรี่ยวแรงโดยที่หัวใจทั้งดวงนั้นว่างเปล่า
จู่ๆเขาก็หัวเราะออกมาเสียงแผ่วเบา
เสียงหัวเราะนั้นเจ็บปวดร้าวใจจนทำให้คนทนทุกข์เอาไว้ไม่ไหว
ทุกคนมองไปยังเหวินเส่าอี๋ด้วยความกังวล
“นายน้อยเผ่า……”
ในเวลาอันสั้นเพียงสิบกว่าวันนายน้อยหัวหน้าเผ่าได้ประสบพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงทุกข์ทรมานอันน่าสลดที่ผู้อื่นไม่มีวันประสบพบทั้งชั่วชีวิต
หากว่าเป็นผู้อื่นเกรงว่าจะไม่สามารถทนได้จนฆ่าตัวตายไปตั้งนานแล้ว
แววตาของเหวินเส่าอี๋ว่างเปล่าซึ่งไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ และทุกๆคนก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดกระตุ้นเขาอีก
ความแค้นของสาวกเผ่าเพลิงฟ้าที่ได้ตายไป พวกเขาก็ได้เพิ่มความเครียดแค้นชิวชังขึ้นเป็นสองเท่าไปในตัวเผ่าหยกและหุบเขาตันหุย
เวลาผ่านพ้นไปเป็นนาทีเป็นวินาที
ประตูห้องลับอันปิดสนิทก็ได้เปิดออกในที่สุด
เหวินเส่าอี๋ยืนขึ้นเป็นอันดับแรกและมองไปยังผู้อาวุโสทั้งหลายที่ใบหน้าซีดเซียวด้วยความสับสน
“เป็นอย่างไร?”
“พวกเราใช้พละกำลังไปมากมายในที่สุดก็ช่วยท่านหัวหน้าเผ่ารักษาพลังปราณโลหิตเอาไว้ได้ชั่วคราว อาการธาตุไฟเข้าแทรกจนเข้าสู่ห้วงมารของเขาก็ได้บรรเทาลงแต่ว่าไฟน้ำแข็งมัวเมาไม่สามารถคลายได้ ทำได้เพียงบรรเทาความเจ็บปวดเท่านั้น ท่านหัวหน้าเผ่า……เวลาก็ยังเหลือไม่มากดังเดิม”
“นอกจากจะได้ยาถอนพิษไฟน้ำแข็งมัวเมามา แต่ว่าของสำคัญเช่นนี้เผ่าหยกจะมอบให้พวกเราได้อย่างไร”
หากว่าพวกเขาจิตใจดีเช่นนั้นก็คงจะไม่วางยาผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวนกับท่านหัวหน้าเผ่า
ก็ยิ่งจะไม่ฆ่าล้างสังหารผู้คนมากมายของเผ่าเพลิงฟ้าอย่างโหดเหี้ยมเช่นนั้นแล้ว
เหวินเส่าอี้ก็ไม่รู้ว่าได้ฟังคำพูดของพวกเขาหรือไม่โดยที่เขาได้ค่อยๆเดินเข้าไปในห้องหิน
ในห้องหินเหวินเฉิงเทียนนั่งขัดสมาธิอยู่พร้อมหลับตาสนิทและใบหน้าซีดเผือด ดูราวกับว่ากำลังระงับความเจ็บปวดทรมานมากมายอยู่
เหวินเส่าอี๋เข้าตรงหน้าเขาและคุกเข่าลงเสียงพรึ่บ “เส่าอี๋ไร้ความสามารถไม่เพียงแต่ไม่สามารถคุ้มครองท่านได้และยังไม่สามารถปกป้องเผ่าเพลิงฟ้าเอาไว้ได้ด้วย เส่าอี๋ผิดไปแล้ว ไม่ควรไม่เชื่อฟังคำพูดของท่านและเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายช่วยเหลือกู้ชูหน่วนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเป็นผลให้ทำร้ายผู้คนในเผ่าจนตายมากมายเช่นนั้น”
ในตอนแรกเขาไม่รู้จักสถานะของกู้ชูหน่วนและได้ช่วยเหลือกู้ชูหน่วนไว้ซึ่งคนในเผ่าไม่ได้กล่าวสิ่งใด
ต่อมากู้ชูหน่วนอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นปฏิปักษ์กับพวกเขา
ขณะที่อยู่ขั้วโลกเหนือเขาก็ยังเสียสละชีวิตช่วยกู้ชูหน่วนกับเยี่ยจิ่งหาน ในตอนนั้นคนในเผ่าก็ได้โมโหจัดแล้ว
ท่านหัวหน้าเผ่าและผู้อาวุโสทั้งหลายได้ลงโทษเขากันหมด
แต่เขาก็กลับยังไม่ฟังคำตักเตือน
เรื่องที่แม่ทัพใหญ่เซี่ยวถูกสังหารเขาก็ยังยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนและยอมรับแทนนาง
เขาช่างโง่เขลายิ่งนัก…….
ช่างโง่เขลาช่างโง่เขลานัก……
เหวินเฉิงเทียนค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมมองดูเหวินเส่าอี๋ด้วยแววตาอันอ่อนโยนขึ้นมา
กล่าวเสียงแผ่วเบาว่า “เรื่องที่ผ่านไปแล้วคิดมากไปก็เปล่าประโยชน์ หากว่าเจ้ารู้ว่าในภายหน้านางจะนำคนมาสังหารเผ่าเพลิงฟ้าคิดว่าเจ้าก็คงจะไม่ช่วยเหลือนางอย่างไม่ลังเลเช่นนั้น”
เหวินเส่าอี๋ก้มศีรษะลง
เขาอยากให้ท่านหัวหน้าเผ่าเป็นดังเดิมมากกว่า ไม่สนใจเขา และเข้มงวดกับเขา
“มีความเมตตาเป็นการดีไม่ว่าจะเคยประสบพบเจอสิ่งใดมาก็อย่าได้สูญเสียความไร้เดียงส่วนนั้นทิ้งไป เผ่าเพลิงฟ้าบางทีอาจสมควรเกิดหายนะ”
เหวินเฉิงเทียนถอนหายใจ
บรรพบุรุษโหดร้ายได้สาปแช่งคำสาปโลหิตในตัวของเผ่าหยก
การแก้แค้นของเผ่าหยกเป็นเรื่องช้าหรือเร็ว
ความเคียดแค้นระหว่างสองเผ่าใช่ว่าจะสามารถพูดจบได้ในช่วงเวลาขณะหนึ่ง และใช่ว่าจะสามารถแยกถูกผิดประจักษ์ชัดได้
พวกเขาเผ่าเพลิงฟ้าก็มีความไม่ใช่ของเผ่าเพลิงฟ้า เช่นไรคนของเผ่าหยกที่เสียชีวิตในมือของเผ่าเพลิงฟ้าก็มีไม่น้อย
เหวินเฉิงเทียนหยิบป้ายคำสั่งธรรมดาเก่าแก่ป้ายหนึ่งออกมาจากอก เมื่อเห็นป้ายคำสั่งผู้อาวุโสทั้งหลายที่รออยู่ด้านข้างก็คุกเข่าลงทีละคนๆ
“ป้ายคำสั่งท่านหัวหน้าเผ่าป้ายนี้นับจากวันนี้ไป จะ……จะส่งต่อให้กับเจ้าแล้ว”
ป้ายคำสั่งหัวหน้าเผ่าเป็นตัวแทนของท่านหัวหน้าเผ่า
ส่งต่อมันให้กับเหวินเส่าอี๋ก็เท่ากับส่งต่อตำแหน่งหัวหน้าเผ่าให้แก่เหวินเส่าอี๋
เหวินเส่าอี๋เงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจพร้อมคำพูดที่ชะงักลง
ผู้อาวุโสฝั่งหนึ่งเห็นตามนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามถึงความสงสัยในใจแทนเหวินเส่าอี๋
“ท่านหัวหน้าเผ่า เจ้าซือคงศิษย์ทรยศกล่าวว่านายน้อยเผ่าไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของท่านเหตุผลที่ท่านธาตุไฟเข้าแทรกจนเข้าสู่ห้วงมารก็เป็นการวางยาอย่างลับๆของผู้อาวุโสสูงสุดซ่งหยวน……”
“ไร้สาระ ซ่งหยวนเป็นผู้ใดกันเหตุใดเขาถึงวางยาพิษข้าได้?” เหวินเฉิงเทียนไอรุนแรงต่อเนื่องไม่หยุดขึ้นมาเนื่องด้วยความตื่นเต้น
“ท่านพ่อ……”
“ท่านหัวหน้าเผ่า……”
“นอกจากนี้เหวินเส่าอี๋เป็นลูกชายของข้า ลูกชายคนเดียวที่ข้าเหวินเฉิงเทียนยอมรับ เลือดที่ไหลบนร่างกายของเขาเฉกเช่นเดียวกับของข้า ต่อไปห้ามผู้ใดสงสัยในฐานะของเขาอีก”
“ขอรับ……”
ผู้อาวุโสสูงทั้งหลายต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก
พวกเขารู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่นายน้อยเผ่าจะไม่ใช่บุตรชายโดยสายเลือดของท่านหัวหน้าเผ่า และเป็นไปไม่ได้ที่จะทำในสิ่งที่ไม่เป็นการดีต่อท่านหัวหน้าเผ่า
ซือคงเจ้าศิษย์ทรยศผู้นั้นช่างสามารถกล่าวคำโกหกออกมาได้ทั้งนั้นจริงๆ
เหวินเส่าอี๋ทั้งยินดีและเป็นกังวลผสมปนเปกัน
เขาไม่รู้ว่าคำพูดนี้ของหัวหน้าเผ่าเพื่อปลอบเขา
หรือว่า…… เขาเป็นลูกชายแท้ๆของหัวหน้าเผ่าจริงๆ
หากว่าเป็นสายเลือดเหตุใดท่านพ่อถึงไม่เคยมองเขาตรงๆเลยแต่กลับเกลียดชังเขานักหนา
เหวินเฉิงเทียนกล่าวว่า “พวกเจ้าถอยออกไปให้หมด ข้ามีเรื่องที่ต้องการพูดกับเส่าอี๋ตามลำพัง”
“ขอรับ”
“ปึง……”
ประตูห้องลับถูกปิดลงอีกครั้ง
ในห้องลับเหลือเพียงเหวินเส่าอี๋กับเหวินเฉิงเทียนเท่านั้น
เหวินเฉิงเทียนยื่นมือออกและลูบผมดำสนิทอันราบเรียบของเหวินเส่าอี๋ด้วยความรักซึ่งในแววตานั้นเป็นความอ่อนโยนที่เขาไม่เคยได้ปรากฏมาก่อน
“ในขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดสองสามคนรักษาอาการบาดเจ็บให้กับข้าก็ได้บอกเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างในเผ่าให้แก่ข้าแล้ว”
“เจ้าเด็กโง่แน่นอนว่าเจ้าเป็นเลือดเนื้อของข้า จุดนี้เจ้าไม่ต้องสงสัยและข้าก็ไม่ได้ปลอบโยนเจ้า”
เหวินเส่าอี๋หัวเราะ เขาต้องการอยู่ในอ้อมแขนของเหวินเฉิงเทียนเช่นดังเดิม แต่เนื่องจากตั้งแต่เล็กจนโตเขาห่างเหินกับเขาเหวินเส่าอี๋จึงไม่กล้า
กลัวว่าแววตาอันอ่อนโยนที่หายากนี้จะมลายหายไป
“เจ็บมั้ย?”
ดวงตาของเหวินเฉิงเทียนจับจ้องอยู่ตรงด้านหลังของเขา
เสื้อผ้าบนหลังของเขาถูกลวกจนเสียหายแล้วและเผยให้เห็นผิวหนังขนาดใหญ่ที่ถูกลวก
ผิวหนังเหล่านั้นแดงก่ำและยังพุพองจนน่าตกใจ แทบจะไม่มีชิ้นใดที่ดูดีเลย
เหวินเส่าอี๋ส่ายศีรษะ “ไม่เจ็บ ไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย”
เพียงแค่เขาอยู่สบายดี เขาบาดเจ็บมากเพียงใดก็ไม่ปวด
ยิ่งกว่านั้นสิ่งที่กู้ชูหน่วนกระทำนั้นทำให้เขาราวกับมีดแทงลงในหัวใจ อาการบาดเจ็บแค่นี้จะนับอะไรได้
“เจ้าเด็กโง่ เจ้ามีสิ่งใดที่อยากจะถามข้าใช่หรือไม่?”
“เพียงแค่รู้ว่าเป็นลูกชายของท่านก็เพียงพอแล้ว เส่าอี๋ตั้งแต่เล็กจนโตก็ทำสิ่งใดได้ไม่ดีเลย ท่านพ่อไม่ชอบก็สมควรแล้ว”
“เปล่า……ไม่ใช่ว่าเจ้าได้ไม่ดีแต่เป็นสาเหตุของพ่อเอง เจ้าเป็นเด็กดีและเป็นความภาคภูมิใจของพ่อเสมอมา”
ดวงตาของเหวินเฉิงเทียนกะพริบราวกับคิดถึงอดีตที่ผ่านพ้นไป
เขาถอนหายใจยาว
“ก่อนที่ข้าจะแต่งงานกับท่านแม่ของเจ้าก็ได้เกิดความสัมพันธ์กัน ดังนั้นขณะที่เราแต่งงานกันนางถึงได้อุ้มท้องหนึ่งเดือนอยู่ ครั้งนั้นเป็นอุบัติเหตุแต่ว่าข้ากลับรู้สึกขอบคุณอุบัติเหตุในครั้งนั้น หากไม่ใช่อุบัติเหตุในครั้งนั้นเกรงว่าข้าจะคิดอยู่ตลอดว่าแม่ของเจ้าชอบพอผู้อาวุโสซ่ง”
เหวินเส่าอี๋ถามด้วยความสับสน “เช่นนั้นเหตุใดพวกเขาถึงบอกว่าท่านทะเลาะกับท่านแม่อย่างหนัก และยังบอกว่าข้าไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของท่าน”
“ข้าเคยทะเลาะกับแม่ของเจ้าแต่ไม่ใช่เพราะเจ้า มีคนวางอุบายพ่อของเจ้า พ่อของเจ้า……ผิดต่อแม่ของเจ้า”
เหวินเส่าอี๋ขมวดคิ้ว
เหวินเฉิงเทียนปรากฏร่องรอยความเจ็บปวดแว๊บผ่านและลังเลอยู่เป็นเวลานานก่อนจะกล่าวว่า “นี่เป็นมลทินอันร้ายแรงที่สุดในชีวิตของพ่อ เดิมทีข้าอยากจะนำติดไปในโลงศพ แต่ตอนนี้……หากว่าข้าไม่พูดเกรงว่าเจ้าจะคิดเรื่องนี้เรื่อยเปื่อยไปชั่วชีวิต”
“ข้าถูกคนวางอุบายไว้และได้เกิดความสัมพันธ์กับผู้อื่น และหญิงผู้นั้นยังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอีกด้วย……”
เหวินเส่าอี๋มือไม้สั่นเทา
บทที่ 756
บทที่ 758