กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 765
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 765
กู้ชูหน่วนยังคงส่ายศีรษะดังเดิม
นางสามารถสังหารเขาได้
แต่ให้นางตัดศีรษะของเขาซึ่งนี่ก็ช่างโหดเหี้ยมเกินไป
หากว่า……หากว่าเหวินเส่าอี๋รู้เข้า……
นางไม่กล้าคิดเลยว่าเหวินเส่าอี๋จะเกลียดนางมากเช่นไร
“หรือว่าเจ้าอยากเห็นนางควบคุมศพของข้าและฆ่าคนไม่เลือกหน้าหรือ? แม้ว่า……แม้ว่าข้าจะเป็นเพียงแค่ซากศพๆหนึ่งซึ่งไม่มีกระดูกสะบัก ไม่ได้ถูกพิษก็…….ก็ไม่ได้สำคัญแล้ว สิ่งสำคัญคือ……ข้า……ข้าเป็นระดับเจ็ด……”
ประโยคหนึ่งซึ่งทำให้กู้ชูหน่วนกัดฟันสีเงินไว้แน่น
ลูกน้องของนางกล่าวด้วยความกังวลว่า “ท่านหัวหน้าเผ่าในเมื่อเขากล่าวเล่นนี้แล้วพวกเราก็ตัดศีรษะของเขาเถอะ จิตใจของฮวาอิ่งไม่ปกติ หากว่าเกิดใช้ศพของเขาจัดการกับเผ่าหยกของเรา เกรงว่า……เกรงว่า……”
“ใช่ขอรับท่านหัวหน้าเผ่า เช่นไรเขาก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ฝืนทนมีชีวิตอยู่ก็เป็นเพียงแค่การเพิ่มพูนความเจ็บปวดทรมานก็เท่านั้น พวกเราตัดศีรษะของเขาก็ถือว่าได้ช่วยเขานะขอรับ”
เผ่าเพลิงฟ้าได้สังหารผู้คนของเผ่าหยกของพวกเขาไปมากมายเช่นนั้น พวกเขาต้องเกลียดชังเข้ากระดูกอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสเผ่าเพลิงฟ้านั้นช่างน่าสลดหดหู่ใจจริงๆ
พวกเขาทนกระทำทารุณต่อเขาอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว
เป็นดีกว่าที่จะตัดศีรษะของเขาเพื่อให้เขาพ้นทุกข์เท่านั้นเอง
“หัวหน้าเผ่ากู้ เจ้า……เจ้ารีบลงมือเถอะ ข้าขอร้องเจ้าหล่ะ……”
ชั่วชีวิตนี้เหวินเฉิงเทียนไม่เคยขอร้องผู้ใดมาก่อน
คิดไม่ถึงว่าก่อนตายกลับต้องขอร้องให้ศัตรูตัวฉกาจของตนสังหารตนเองเสีย
ไม่สามารถที่จะไม่กล่าวว่าเป็นเรื่องน่าประชดประชันยิ่งนักเรื่องหนึ่ง
กู้ชูหน่วนหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด
นางไม่ต้องการตัดแต่ว่านางไม่ตัดไม่ได้
ระดับเจ็ด……
นี่คือระเบิดเวลาที่กำหนดไว้ลูกหนึ่ง
แม้ว่าฮวาอิ่งจะไม่หลอกใช้ศพของเขามาต่อกรกับเผ่าหยก หากบังเอิญว่านำไปต่อกรกับสำนักใดในใต้หล้าหรือว่าฆ่าล้างสังหารทั้งสี่ทิศ……
งั้น……
“ท่านมั่นใจนะว่าเพียงแต่ตัดศีรษะท่านก็พอแล้ว?”
“ข้ามั่นใจ มั่นใจอย่างแน่นอน นี่เป็นวิธีเดียวเท่านั้น”
ต้องการทำลายวิชาเวทมของเผ่าเพลิงฟ้าของพวกเขา นอกจากจะตัดศีรษะในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่วิชาเวทก็จะถูกทำลายไปอยู่แล้ว
“ได้ ทำผิดด้วยแล้ว……”
ในที่สุดใบหน้าอันเจ็บปวดทรมานของเหวินเฉิงเทียนก็ได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้น
สำหรับเขาแล้วในตอนนี้ความตายเป็นการหลุดพ้นอย่างหนึ่ง
เขาหลับตาลงและรอความตายที่กำลังจะมาถึง
กู้ชูหน่วนถือดาบขึันอย่างสั่นเทาราวกับว่าได้ตั้งใจแน่วแน่ไว้จึงได้ยกดาบขึ้นตัดศีรษะของเหวินเฉิงเทียนลงมาทั้งที่ยังมีชีวิต
เลือดกระเด็นทั้งสารทิศ
ศีรษะกลิ้งลงกับพื้นและกลิ้งลงไปบนพื้นหลายรอบ
ขอโทษด้วย……เหวินเส่าอี๋……
ข้าก็ไม่ต้องการสังหารท่านพ่อของท่านด้วยวิธีการอำมหิตเช่นนี้
แต่ว่าข้า……ไม่มีทางเลือก…….
ท่านโกรธแค้น……ก็สมควรแล้ว
ใจของกู้ชูหน่วนเต้นเร็วขึ้นและดวงตาก็ได้แดงขึ้นมา
เกือบจะในเวลาที่นางฟันศีรษะของเหวินเฉิงเทียนลงมา เหวินเส่าอี๋และกลุ่มผู้อาวุโสก็ได้วิ่งมาที่นี่จึงเห็นภาพดาบของกู้ชูหน่วนฟันลงบนเหวินเฉิงเทียนพอดี
“ท่านพ่อ……”
เหวินเส่าอี้ตะโกนร้องพร้อมมือทั้งคู่ปิดผนึกไว้ อากาศก็แข็งตัวขึ้นมาในทันใด
เกล็ดหิมะหลายพันเม็ดร่วงลงมาทีละเม็ดๆกลายเป็นบัวหิมะอันแหลมคมพุ่งชู่ว์ๆๆๆเข้าไปยังกู้ชูหน่วน
เขาโกรธแค้นพร้อมกับความเกลียดชังฉายขึ้นในดวงตา ความอบอุ่นในอดีตได้มลายหายไปราวกับเป็นเทพสังหารองค์หนึ่ง
เทพสังหารองค์หนึ่งจากขุมนรกที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้
เย็นยะเยือก
โหดเหี้ยม
หมองหม่น
ทั้งร่างปรากฏเจตนาแห่งการสังหารไม่มีที่สิ้นสุด
กู้ชูหน่วนเจ้าสังหารท่านพ่อของข้า ฆ่าล้างผู้คนในเผ่าของข้า ความแค้นนี้ไม่อาจอยู่รวมโลกได้ข้่เหวินเส่าอี๋สาบานว่าเพียงแค่ข้ายังมีชีวิตอยู่หนึีงวันข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป ช้าเร็วสักวันหนึ่งข้าก็จะฆ่าล้างสังหารทำลายผู้คนของเผ่าหยกให้สิ้นซาก ไม่ให้หลงเหลืออยู่เลย”
หิมะระเบิดเป็นพักๆ
แม้แต่อากาศก็ยังเป็นกลิ่นไอแห่งการสังหาร
มีพละกำลังการทำลายล้างรวมทั้งหกกำลังแปดพลังกวาดเป็นแนวนอนไป
เมื่อกู้ชูหน่วนได้ยินคำพูดของเขา ในใจไม่สามารถหยุดยั้งความเจ็บปวดได้
แต่นางไม่มีเวลามากเพียงพอที่จะโศกเศร้าเสียใจ
กระบวนท่าอันร้ายกาจซึ่งไม่สามารถขวางกั้นได้ของเหวินเส่าอี๋ ทุกๆคนที่นี่จะต้องตายให้หมด
ขณะที่กู้ชูหน่วนต้องการขัดขวาง ประกายเส้นกำลังอันน่าสะพรึงกลัวอันใดไม่รู้ก็ได้มาจากระยะไกล
ประกายเส้นพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ไม่ได้น้อยไปกว่าของเหวินเส่าอี๋ พละกำลังทั้งสองปะทะกัน ทั้วทั้งท้องฟ้าก็ได้สั่นสะเทือนขึ้น
กู้ชูหน่วนยืนไม่มั่นจนเกือบจะสะเทือนจนล้มลง
ลูกน้องของนางล้มลงทีละคนๆ บางคนได้รับบาดเจ็บจากคลื่นรุนแรงจนเสียชีวิตในที่นั้นเลย
“ตูม……”
“ตึงๆๆๆ……”
กระบวนท่าจากนิ้วทั้งสิบชนปะทะกันอย่างต่อเนื่อง บนภูเขาปลิวว่อนไปด้วยทรายและหินที่ถูกพัดและก้อนหินขนาดใหญ่ก็ถูกทำลายกระจุย
ประกายแสงจากการต่อสู้นั้นรุนแรงนักจนผู้คนไม่สามารถลืมตาได้ ผู้ที่ฝืนบังคับดูการต่อสู้บางคนถึงกับตาบอด
กู้ชูหน่วนเอามือปิดตาไว้พยายามหลีกเลี่ยงจากแสงเหล่านั้น
ท่ามกลางความสลัวๆนางเห็นผู้ที่ยับยั้งกระบวนท่าแห่งการสังหารอันโกรธเคืองของเหวินเส่าอี๋นั้นก็คือเยี่ยจิ่งหาน
“วรยุทธ์ของเขาได้ฟื้นฟูขึ้นแล้วและก็ทะลุระดับหกได้ทุกเมื่อท่านต้องระวังตัวให้ดี”
เมื่อคำพูดของกู้ชูหน่วนจบลงเหวินเส่าอี๋ท่ามกลางการต่อสู่ก็ได้ทะลุผ่านระดับหก โดยที่ได้ทะลุผ่านสองระดับติดต่อกันจนไปถึงขั้นกลางระดับหก
นี่คือช่วงเวลาแห่งพลังรุ่งโรจน์สูงสุดของเขาแล้ว
ส่วนเยี่ยจิ่งหาน บาดแผลเก่าของเขาไม่หายอยู่ตลอดเช่นนั้นแล้วยังได้บาดแผลใหม่เพิ่ม ตอนนี้วรยุทธ์ก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวถึงช่วงเวลารุ่งโรจน์รวมถึงรัศมีอาฆาตแค้นของเหวินเส่าอี๋ก็ช่างแข็งแกร่งนัก ทุกๆกระบวนท่าลงมือต้องการหมายเอาให้ตาย แต่ละกระบวนท่าไม่ต้องการให้พวกเขามีชีวิตรอด
เยี่ยจิ่งหาน……อยู่ในอันตราย
กู้ชูหน่วนรู้ดีอยู่แล้วนางจึงกำลังพยายามช่วย แต่เยี่ยจิ่งหานได้ล่อเหวินเส่าอี๋ออกไปแล้ว
คิดว่าคงเกรงว่ากู้ชูหน่วนจะได้รับบาดเจ็บจึงได้ล่อเหวินเส่าอี๋ออกไปล่วงหน้า
“ฆ่า……”
ลูกน้องทั้งหลายของเหวินเส่าอี๋โกรธจัดและง้างอาวุธฆ่าล้างเข้าไป
หัวหน้าเผ่าของพวกเขาถูกทรมานจนตายอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะทุ่มสุดชีวิตก็พร้อมที่จะตายไปด้วยกัน
“ฆ่า……”
ลูกน้องของกู้ชูหน่วนก็พุ่งทะยานเข้ามาสังหารเช่นเดียวกัน
กำลังทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันขึ้น
กู้ชูหน่วนก็ถูกขวางไว้เช่นกัน
ไม่ง่ายเลยที่นางรอการสังหารพุ่งออกไป ในขณะที่เตรียมพร้อมไปหาเหวินเส่าอี๋กับเยี่ยจิ่งหานคนรับใช้ของหุบเขาตันหุยก็แบกน่าหลานหลิงลั่ววิ่งมาด้วยความเร่งรีบ
“แม่นางกู้รีบช่วยคุณชายของพวกเราด้วย เร็วเข้า……”
น่าหลานหลิงลั่ว ไม่……ควรเรียกว่าเซี่ยวอวี่เซวียน
ร่างกายของเซี่ยวอวี่เซวียนเต็มไปด้วยเลือด ได้รับบาดเจ็บภายในและบาดแผลภายนอก อาการบาดเจ็บภายในนั้นรุนแรงที่สุด ลมหายใจอ่อนแรง ไม่รู้ว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากผู้ใด
“รีบวางเขาลง”
กู้ชูหน่วนมองไประยะไกลจากนั้นก็มองไปยังเซี่ยวอวี่เซวียน ไม่รักษาเซี่ยวอวี่เซวียนก่อนก็ไม่ได้
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสยิ่งนัก หากว่าไม่ได้รับการรักษาได้ทันเวลาเกรงว่าชีวิตนี้คงจะไม่สามารถรอดได้
“ใครทำร้ายเขาจนเป็นเช่นนี้”
กู้ชูหน่วนด้านหนึ่งห้ามเลือดให้เขาด้านหนึ่งพยุงตัวเขาให้ตรงและใช้พลังภายในเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
“เป็นเจ้าโจรเฒ่าซือคงแล้วก็เหวินเส่าอี๋ รวมทั้งหญิงแต่งกายชุดดำผู้หนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
“หญิงชุดดำ? ฮวาอิ่ง?”
“นายท่านของข้าตามเหวินเส่าอี๋จึงถูกหญิงผู้หนึ่งลอบทำร้าย นายท่านของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหวินเส่าอี๋ผู้โกรธแค้น ต่อมาก็ได้พบเข้ากับเจ้าโจรเฒ่าซือคง”
“เมื่อเห็นเจ้าโจรเฒ่าซือคง นายท่านของข้าไม่ฟังคำเตือนยืนกรานที่จะต่อสู้กับเขาจนตายกันไปข้างหนึ่ง โชคดีที่คนของเรามาถึงได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นนายท่านของข้าเกรงว่าจะไม่สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้”
พวกเขากำลังกล่าวดังเป็นเรื่องทั่วไปแต่กู้ชูหน่วนได้ยินไม่ชัดเจน แต่ว่าก็พอรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น
“เจ้าโจรเฒ่าซือคงหล่ะ ตายแล้วหรือ?”
“ไม่รู้ แต่ว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งไม่น่าจะมีชีวิตอยู่ได้แล้ว ผู้อาวุโสหลายท่านของเผ่าหยกกำลังไล่ล่าเขาอยู่”
“พรวด……”
เซี่ยวอวี่เซวียนอาเจียนเป็นเลือดออกมาจากนั้นคนก็ได้ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ
เท่าที่มองเห็นได้คือกู้ชูหน่วนผู้คุ้นเคยและแปลกหน้า