กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 840
“เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
“สัตว์จำนวนมากของพวกท่านรังแกสัตว์จำนวนน้อยของพวกเราหรือไม่?”
กู้ชูหน่วนเหลือบมองฝูงกระทิงที่จากไปและหัวเราะเบา ๆ “สัตว์จำนวนน้อยของเจ้า?”
“ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าข้าไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของท่าน ต่อให้ต้องตายก็ไม่ยอมศิโรราบ”
“เจ้าอยากเป็นสัตว์เลี้ยงของข้า เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ” กู้ชูหน่วนเหลือบมองมัน
กระทิงไฟเก้าเขาตกตะลึง “ท่านรังแกขนาดนี้ ไม่ใช่เพื่อให้ข้ายอมศิโรราบหรือ?”
“เป็นเจ้าที่ถูกรังแกหรือเป็นข้าที่ถูกรังแก?ดูเหมือนว่าจะเป็นพวกเจ้าที่หาเรื่องก่อน”
“พวกมนุษย์ที่เป็นปรมาจารย์ควบคุมสัตว์ร้ายเช่นพวกท่าน ต้องการที่จะทำให้พวกเราเชื่อง และให้พวกเราเป็นทาสสัตว์เลี้ยงของพวกท่าน เหล่าพี่น้องจำนวนไม่น้อยของข้าล้วนแต่ถูกพวกท่านทำสัญญาไปหมดแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น แม้แต่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังไม่เข้าตาข้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็เปลี่ยนไป
นานแค่ไหนแล้วที่ผู้เป็นนายไม่ได้เมินเฉยต่อมันเช่นนี้?
มันรู้ดีว่ามันไม่สามารถพรากจากผู้เป็นนายได้นานมากนัก มิเช่นนั้นความรู้สึกก็จะจางหายไป
เซี่วอวี่เซวียนติดตามกู้ชูหน่วนและเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มาโดยตลอด
เมื่อเห็นว่ากู้ชูหน่วนหยิบยาเม็ดออกมามากมาย ไม่ว่าเขาจะโง่แค่ไหนก็ย่อมรู้ว่ากู้ชูหน่วนน่าจะกลั่นยาได้ ไม่เช่นนั้นนางจะไปเอายามากมายขนาดนี้จากที่ไหน?
แม่สาวอัปลักษณ์สามารถกลั่นยาได้
นางสามารถกลั่นยาได้?
เป็นความเชี่ยวชาญของแม่สาวอัปลักษณ์ นางก็นำติดตัวมาด้วยหรือ?
หลังจากหลายปีผ่านไป เมื่อเห็นเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อีกครั้ง เซี่ยวอวี่เซวียนก็รู้สึกสนิทสนมอย่างบอกไม่ถูก
เขาตะโกนว่า “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มองเซี่ยวอวี่เซวียนด้วยความงุนงง
สีหน้าของมันเปลี่ยนไปมาก และงูที่รูปร่างอ้วนท่วมก็กำลังจะวิ่งหนีไป
เซี่ยวอวี่เซวียนรีบคว้าหางของมันไว้
“เห็นข้าแล้วเจ้าจะหนีทำไม?กลัวว่าข้าจะกินเจ้าหรืออย่างไร?”
เมื่อสามปีก่อน วิญญาณของแม่สาวอัปลักษณ์ได้ลอยหายไป
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็หายตามวิญญาณของแม่สาวอัปลักษณ์ไป
หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อีก ตอนนี้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็ปรากฏตัวอยู่ที่นี่ และดูเหมือนว่าจะรู้จักมู่หน่วนมานานแล้ว
หรือว่ามันก็ติดตามวิญญาณของแม่สาวอัปลักษณ์ที่อยู่ในร่างของมู่หน่วน ดังนั้นจึงเรียกนางว่านายท่าน?
“ฟ่อ ๆ …..”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่งเสียงออกมา ราวกับว่ามันไม่กล้าเผชิญหน้ากับเซี่ยวอวี่เซวียน
มันอยากจะวิ่งหนี แต่หางของมันถูกจับไว้แน่น
อีกทั้งยังกลัวว่าหากต่อสู้แล้วจะทำให้เซี่ยวอวี่เซวียนได้รับบาดเจ็บ จึงทำได้เพียงแสดงสีหน้าที่อ่อนน้อมถ่อมตน และกลัวว่าเซี่ยวอวี่เซวียนจะถามเกี่ยวกับวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของมู่หน่วน
แต่โชคดีที่เซี่ยวอวี่เซวียนไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ไม่ได้เจอกันมาสามปี เจ้าอ้วนขึ้นอีกแล้ว” เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าว
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว “เจ้ารู้จักเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ด้วยหรือ?”
“อืม รู้จัก นี่คืองูตะกละที่ชอบกินหมูย่าง” เซี่ยวอวี่เซวียนวางมันลง
ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนจับหางของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ขึ้นมาอีกครั้ง “เส้นสายของเจ้าช่างกว้างขวาง และรู้จักผู้คนไม่น้อยเลย”
แม้ว่าจะพูดคุยกันเรื่องธรรมดา แต่สายตาที่กู้ชูหน่วนจ้องมองไปที่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์นั้น หมายความว่าต้องการให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เล่าถึงภูมิหลังของเซี่ยวอวี่เซวียนออกมาให้หมด
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์พยักหน้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อครู่มันเพิ่งจะแสดงพลังต่อหน้ากระทิงไฟเก้าเขาไป และตอนนี้มันก็ถูกคนยกขึ้น จะทำอะไรได้?
ช่างน่าอับอายยิ่งนัก
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ต่อต้าน และตามมาด้วยเสียงท้องร้อง จากนั้นก็มองไปที่กู้ชูหน่วนอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม
กู้ชูหน่วนโยนมันทิ้งไปด้วยความขยะแขยง และหยิบขวดยาสองสามขวดออกมาจากวงแหวนอวกาศ นางกล่าวอย่างไม่อดทนว่า “ข้าไม่มีเวลาจะทำหมูย่างให้เจ้า ดังนั้นเจ้ากินยาอายุวัฒนะนี่รองท้องไปก่อนเถอะ”
บรรดากระทิงไฟพากันเบิกตากว้าง
ใช้……ใช้ยาอายุวัฒนะระดับสองเพื่อรองท้องไหม?
นี่……ใจกว้างเกินไปหรือไม่?
กระทิงไฟเก้าเขาเปลี่ยนทิศทางในทันที “ท่านรับเลี้ยงข้าเถอะ ข้าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของท่าน ขอเพียงท่านให้ยาอายุวัฒนะระดับสองเป็นรางวัลแก่ข้า”
กู้ชูหน่วนเกือบจะสะดุด
เจ้ากระทิงโง่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
“ข้าไม่รับสัตว์เลี้ยง ดังนั้นเก็บน้ำลายของเจ้าไว้เถอะ”
“เช่นนั้นข้าจะเป็นลูกสมุนของท่าน”
“ต้องขออภัยด้วย เจ้าตัวใหญ่เกินไปที่จะมีคุณสมบัติเช่นนั้น”
กระทิงไฟเก้าเขากลัดกลุ้มใจ
พวกมันทั้งหมดกลายร่าง
แต่มัน……มันกลับไม่เปลี่ยน ร่างกายของมันใหญ่โตมาก
“เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นที่นี่?พวกเจ้ามีเรื่องกับคนของสำนักศึกษาอี้เหอหรือ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ กระทิงไฟเก้าเขาก็โกรธ
“หลังจากที่มนุษย์พวกนี้เข้าในหุบเขาสัตว์เทพ พวกเขาฆ่าอสุรกายจำนวนมาก และพวกเขาใช้วิธีการที่บีบบังคับให้เหล่าอสุรกายยอมศิโรราบ อีกทั้งยังกล้าคิดที่จะเอาของล้ำค่าของข้า แน่นอนว่าข้าต้องให้บทเรียนแก่พวกเขา”
“ของล้ำค่า?ของล้ำค่าอะไร?”
กระทิงไฟเก้าเขากะพริบตา “อันที่จริง……อันที่จริงก็ไม่ใช่ของล้ำค่าอะไร มนุษย์อย่างพวกเจ้ากินไปก็ไม่มีผลอะไร แต่ได้ผลกับกระทิงอย่างพวกเรามากกว่า”
งั้นหรือ?
หากมนุษย์กินเข้าไปแล้วไม่ได้ผลจริง ๆ บัณฑิตของสำนักศึกษาอี้เหอจะเสี่ยงชีวิตเพื่อบุกเข้ามาในอาณาเขตของมันทำไม?
กระทิงไฟเก้าเขามีพลังระดับสี่
ส่วนคนของสำนักศึกษาอี้เหอ ผู้ที่มีพลังสูงสุดก็แค่ระดับสามเท่านั้น
กู้ชูหน่วนส่งสายตาด้วยความน่าสงสัยและเตือน
กระทิงไฟเก้าเขากัดฟัน เมื่อคิดว่ากู้ชูหน่วนเป็นนักกลั่นยาที่ฝีมือดี และมีสัตว์เทพโบราณสองตัวเป็นสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าอย่างไรการได้ติดตามนางก็คุ้มค่า
มันพูดว่า “นี่คือผลหนิวโหยว ต้องใช้เวลาสามร้อยปีในการออกผลหนึ่งครั้ง และจะสุกภายในวันสองวัน”
“ผลหนิวโหยว?” นั่นไม่ใช่ผลไม้ชนิดหนึ่งหรือ?
กู้ชูหน่วนมองไปที่เซี่ยวอวี่เซวียน
เซี่ยวอวี่เซวียนอธิบายว่า “ผลหนิวโหยวที่มันพูดนั้นแตกต่างจากผลหนิวโหยวที่เรากิน ได้ยินมาในฝูงกระทิงมีผลหนิวโหยว สามร้อยปีออกผลหนึ่งครั้ง หากมนุษย์กินเข้าไปแล้วพลังจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังสามารถป้องกันได้สารพัดพิษ เป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่สัตว์และมนุษย์ใฝ่ฝัน”
“สามารถเพิ่มพลังได้?เช่นนั้นหากข้ากินก็จะสามารถเพิ่มพลังได้?” นัยน์ตาของกู้ชูหน่วนเป็นประกาย
ระยะนี้นางกินยาอายุวัฒนะจำนวนมาก แต่ก็ไม่สามารถเลื่อนขั้นได้ หากสามารถทำได้……แหะ ๆ……
กระทิงไฟเก้าเขาโต้แย้งว่า “ผลหนิวโหยวมีประโยชน์ต่อกระทิงอย่างพวกเรา ท่านกินไปก็ไร้ประโยชน์”
“เช่นนั้นเราก็มาแลกเปลี่ยนกัน เจ้าเอาผลหนิวโหยวมาให้ข้า แล้วข้าจะให้ยาอายุวัฒนะแก่เจ้า”
“ไม่ได้หรอก ผลหนิวโหยวสามร้อยปีถึงจะออกผลหนึ่งครั้ง ข้าต้องรออย่างน่าสังเวชมานานหลายสิบปี”
“ยาอายุวัฒนะระดับสองห้าสิบขวด ยาอายุวัฒนะระดับสามสิบขวด และข้าจะให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์และเจ้าเสือน้อยรับเจ้าเป็นศิษย์น้อง และต่อไปมันก็จะคุ้มครองเจ้า”
สิ่งนี้ช่างดึงดูดใจยิ่งนัก
ไม่ว่าผลหนิวโหยวจะทรงพลังแค่ไหน ก็มีเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น และมันทำได้เพียงทำให้ตัวเองมีพลังเพิ่มขึ้น
แต่ยาอายุวัฒนะนั้นต่างกัน ลูกหลานของมันสามารถมีพลังที่เพิ่มขึ้นไปด้วยกันได้
อีกทั้ง……
หากสามารถเป็นศิษย์น้องของราชางูเหลือมและพญาเสือได้ ต่อไปก็จะไม่มีอะไรมาขวางอาณาจักรสัตว์
มันหวั่นไหว
แต่……
“แต่ผลนิวโหยวสามารถป้องกันได้สารพัดพิษ”
“ข้าจะให้ยาถอนพิษเพิ่มอีกยี่สิบขวด”
“แต่……”
“คุณมีเวลาคิดเพียงหนึ่งนาที หากหมดเวลาข้อตกลงจะถูกยกเลิก”
“หนึ่งนาทีนานแค่ไหน?”
“นับหนึ่งถึงหกสิบ”
“ตกลงตามนั้น ท่านเอาของมาให้ข้าก่อน”
“อย่างอื่นข้าสามารถเอามาให้ก่อนได้ และอีกสักพักข้าจะนำยาอายุวัฒนะระดับสามมาให้เจ้า”
“ทำไมต้องอีกสักพัก?”
“แค่ก ๆ …… ข้ายังไม่ได้กลั่นออกมา เมื่อข้ากลั่นออกมาแล้วจะเอาไปให้เจ้าโดยเร็วที่สุด”
“ท่าน……ท่านคงไม่ได้จะจับเสือมือเปล่าใช่หรือไม่?หากท่านกลั่นออกมาไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร?” มันรู้ดีว่าในโลกนี้จะเรื่องดี ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร?
นั่นเป็นยาอายุวัฒนะระดับสาม จะยอมให้ง่าย ๆ ตั้งสิบขวดได้อย่างไร
“เจ้าไม่เชื่อในความสามารถของข้า?”
“ข้า……”
“เช่นนั้นข้าก็จะไม่ฝืนใจ เจ้าลองคิดดูอีกที”
“ตกลง แต่ท่านจำไว้ว่าต้องส่งยาอายุวัฒนะระดับสามมาให้ข้าโดยเร็วที่สุด”
“รู้แล้ว”
เซี่ยวอวี่เซวียนยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มของเขาเปื้อนความผันผวน
เจ้ากระทิงโง่ตัวนี้
หากนางกลั่นออกมาไม่ได้ ชีวิตนี้ของมันก็อย่าคิดว่าจะได้ยาอายุวัฒนะระดับสามทั้งสิบขวดนั้นไป