กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 902
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 902
ไป๋หลี่เฉิงบีบฝ่ามือใหญ่ของเขาลงไปแน่น ต้องการบีบให้กู้ชูหน่วนตายทั้งเป็น
กู้ชูหน่วนใช้ดาบรับแทน และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลุดพ้นจากพันธนาการของฝ่ามือของเขา
แต่พละกำลังของไป๋หลี่เฉิงนั้นแข็งแกร่งบ้าระห่ำ ไม่ว่านางจะพยายามอย่างไร มือของเขาก็ยังคงบีบรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ
เพียงแค่บีบรัดให้แน่นกว่านี้เล็กน้อย ร่างกายของนางจะต้องถูกเขาบีบรัดจนแตกสลายแน่ๆ
สมควรตายชะมัด นี่คือวรยุทธ์อะไรกันแน่?
เหตุใดถึงมีพละกำลังเพิ่มมากขึ้นในระยะเวลาอันสั้นนี้
ถึงแม้ว่าจะต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่กู้ชูหน่วนก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากมือของเขาได้
ไป๋หลี่เฉิงหัวเราะเยาะออกมาเล็กน้อย “ทำอะไรไม่ดูกำลังและความสามารถของตัวเอง เจ้าก็เหมือนกับพ่อของเจ้าที่คิดว่าตัวเองกระดูกแข็ง ที่จริงแล้วเป็นเพียงกระดูกอ่อนทั้งสิ้น เจ้ารู้หรือไม่ว่ากระดูกสะบ้าหัวเข่าของพ่อเจ้าหักได้อย่างไร? นั่นเป็นเพราะถูกผู้นำตระกูลของข้าทุบจนหักไป”
“พิการอยู่หลายปี แต่เมื่อขาทั้งสองข้างกลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เขาคงจะดีใจมากสินะ ยิ่งเขามีความสุขมากเพียงใด การจะสูญเสียขาทั้งสองข้างอีกทั้งก็ยิ่งเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากขึ้น ฮ่าๆๆ……”
ทุกครั้งที่เขาพูดออกมา ทำให้สีหน้าของกู้ชูหน่วนเคร่งเครียดมากขึ้น
แม้ว่ามือนั้นจะบีบคั้นนางมากเพียงใด กู้ชูหน่วนอดไม่ได้และกัดฟันถามเขาขึ้นมา “กระดูกทั้งร่างกายท่านพ่อของข้าถูกพวกเจ้าทุบตีจนหักอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนที่กระดูกของเขาถูกทุบจนแตกหักนั้นเขาเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากเพียงใด? เขาเจ็บปวดจนดิ้นทุรนทุรายบนพื้นและกัดฟันจนแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ไม่ว่าเขาจะเจ็บปวดทรมานเพียงใด เขาก็ยังคงไม่บอกถึงเบาะแสของเจ้าและไม่ยอมรับเงื่อนไขของข้าที่บอกให้เขาหลอกล่อเจ้าออกมา”
“ฉะนั้น พวกเจ้าเป็นคนฆ่าสังหารคนในตระกูลมู่ทั้งหมด?”
“เป็นเพียงแค่มด ตายไปก็ไม่น่าเสียดายอะไร”
ในอดีตนั้นมู่ซินทั้งรักทั้งเอ็นดูนาง นายท่านมู่ก็คอยปกป้องและคอยช่วยนาง รวมไปถึงเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของทุกคนในจวนมู่ยังคงวนเวียนกึกก้องอยู่ในหัวของกู้ชูหน่วน
รวมไปถึงภาพการถูกฆ่าสังหารอันน่าสลดของพวกเขา
แต่ละคนล้วนถูกฆ่าปาดคอ ท่านพ่อของนางถูกทุบตีกระดูกจนแตกละเอียดให้เจ็บปวดทรมานจนตายทั้งเป็น
ท่านปู่ของนางถูกแทงเข้าด้วยดาบ จากนั้นถูกตัดชิ้นเนื้อบนร่างกายออกไปจนหมด เหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น
คนที่ใช้ชีวิตอยู่ดีๆ เพียงชั่วค่ำคืนก็ต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถเช่นนี้
เมื่อภาพเหล่านั้นปรากฏขึ้นทุกครั้ง ความเกลียดชังในใจของกู้ชูหน่วนก็ท่วมท้นออกมา
ดวงตาคู่นั้นของนางที่แดงก่ำ กู้ชูหน่วนที่เดิมที่ต้องตายลงด้วยเงื้อมมือของไป๋หลี่เฉิง ไม่รู้ว่านางเอาพละกำลังมาจากไหนถึงได้รอดพ้นจากมือขนาดใหญ่ของไป๋หลี่เฉิงไปได้
“ฉับๆๆ……”
กู้ชูหน่วนยกดาบอ่อนขึ้นมาแกว่งไปมา ทำให้เกิดดอกดาบขึ้นมา จากนั้นฝนดาบที่เต็มท้องฟ้าก็พุ่งไปที่ไป๋หลี่เฉิงอย่างดุเดือด ราวกับเป็นอาวุธลับที่ซ่อนอยู่
ไป๋หลี่เฉิงตอบโต้ด้วยหมัดเหล็ก
“ปัง……”
พลังทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน
หมัดเหล็กถูกทำลาย
กำปั้นถูกฝนดาบทำลายล้างเป็นชั้นๆ แม้แต่กระดูกก็ถูกทำลายล้างเป็นวงกว้าง
“อ่า……”
ไป๋หลี่เฉิงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หมัดเหล็กอีกข้างเกิดเป็นเสียงดังและผนึกเข้าไปที่หน้าอกของกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนไม่หลบเลยสักนิด จากนั้นใช้ดาบตัดเส้นเอ็นร้อยหวายของเขา
แท้จริงแล้ว ไม่ใช่ว่านางไม่หลบ แต่ถ้าหลบก็จะไม่มีโอกาสดีๆ เช่นนี้ที่สามารถจัดการกับไป๋หลี่เฉิงได้
นางจึงเดิมพันด้วยการบาดเจ็บสาหัสเพื่อจัดการเขา
ไป๋หลี่เฉิงร้องออกมาอย่างโอดครวญอีกครั้ง
ขาทั้งสองข้างของเขาไม่สามารถออกแรงได้เลยสักนิดและคุกเข่าลงทันที
เมื่อเส้นเอ็นร้อยหวายถูกตัด นั่นก็หมายความว่าเขาจะพิการไปตลอด
และสิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ ฝ่ามือของเขาที่ผนึกไปบนหน้าอกของนาง……ไม่สามารถดึงกลับออกมาได้
และพละกำลังของเขาเหมือนกับน้ำในเขื่อนที่แตก ไหลพุ่งเข้าหาพละกำลังภายในของกู้ชูหน่วนอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนหนักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้
“พลังปีศาจ……”
ไป๋หลี่เฉิงตื่นตระหนกมาก
“เร็วเข้า……เอามือออกเร็วเข้า”
วรยุทธ์ที่เขาตรากตรำฝึกฝนมาไม่รู้กี่สิบปีออกไปอยู่ในร่างกายของนางแล้ว นั่นไม่ถือเป็นการช่วยนางหรอกหรือ?
กู้ชูหน่วนตาแดงก่ำและพลังสังหารพลุ่งพล่าน
“ผู้ที่ฆ่าสังหารคนในตระกูลมู่ไปหมดคือตระกูลไป๋หลี่ใช่หรือไม่?
“ข้าบอกให้เจ้าหยุด เจ้าไม่ได้ยินหรือ?”
“ฉึก……”
“อ่า……”
กู้ชูหน่วนยกดาบขึ้นและแทงลงไปที่ต้นขาของเขาอย่างโหดเหี้ยม
และกล่าวเยือกเย็นอีกครั้ง “ทำลายกระดูกทั้งตัวของท่านพ่อข้า ฆ่าสังหารคนในตระกูลมู่ของข้าไปหมด เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปอย่างนั้นหรือ?”
ไป๋หลี่เฉิงเจ็บปวดทรมาน
เขาเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย โดยเฉพาะมือและเท้า เจ็บปวดจนเขาแทบอยากเป็นลมและตายไป
และสิ่งที่ทำให้เขารับไม่ได้ก็คือกำลังภายในของเขาแทบจะถูกนางดูดไปทั้งหมดแล้ว
เขาสามารถรับรู้ได้ว่าพลังชีวิตของเขากำลังหมดลงอย่างต่อเนื่อง
เส้นผมบนศีรษะของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีขาวอย่างรวดเร็ว
เมื่อนึกถึงภาพการตายอันน่าสลดของไป๋หลี่เฉิง ทำให้ไป๋หลี่เจิ้นอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก
เพื่อรักษาชีวิตรอด เขารีบอธิบาย “ผู้ที่ฆ่าสังหารตระกูลมู่ไม่ใช่พวกข้า หากเจ้าต้องการล้างแค้นเจ้าก็ไปล้างแค้นที่ผู้บงการ”
“เมื่อสักครู่เจ้าเป็นคพูดเองไม่ใช่หรือว่าคนที่ทุบตีกระดูกของท่านพ่อข้าจนแตกละเอียดคือพวกเจ้า?”
“ผู้นำตระกูลของข้าเป็นคนทุบตีกระดูกหัวเข่าพ่อของเจ้า แต่พวกข้าไม่ได้ทำลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นของเขา และพวกข้าไม่ได้ฆ่าสังหารคนในตระกูลมู่ของเจ้าด้วย มู่หน่วน ข้าเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว เจ้า……เจ้ารีบ……รีบหยุดเดี๋ยวนี้……”
“ใครเป็นคนฆ่าสังหารคนในตระกูลมู่?”
“ไม่รู้ อาจจะเป็นตระกูลซั่งกวน”
“ตระกูลซั่งกวน?
“ผู้ที่เข้าไปยังตระกูลมู่คนแรกคือตระกูลไป๋หลี่ก็จริง แต่ที่พวกข้าเข้าไปก็เป็นเพราะคนของตระกูลซั่งกวนบอกว่าเจ้ากลับไปยังจวนมู่แล้ว และ……ข้ายังเห็นกับตาตัวเองว่าผู้นำตระกูลซั่งกวนได้เดินออกมาจากห้องลับของตระกูลมู่ หลังจากนั้น……หลังจากนั้นจึงได้รู้ว่าท่านผู้เฒ่ามู่และมู่ซิน รวมไปถึงคนอื่นๆได้ตายลงอย่างน่าสลดภายในห้องลับ”
กู้ชูหน่วนจ้องเขาโดยไม่ละสายตา
ราวกับกำลังมองดูว่าเขาพูดโกหกหรือไม่
กู้ชูหน่วนไม่รีบร้อน
ไป๋หลี่เฉิงร้อนรนกระวนกระวายอย่างมาก
“ข้าขอร้องล่ะ เจ้ารีบหยุดเถอะนะ กำลังภายในของข้า……ได้ถูกเจ้าดูดออกไปหมดแล้ว หากยังดูดต่อไปเช่นนี้ ชีวิตของข้า……คงไม่เหลือแน่ๆ……”
“ไม่ว่าตระกูลไป๋หลี่ของพวกเจ้าเป็นผู้บงการหรือไม่ พวกเจ้าก็ได้ทำลายกระดูกของท่านพ่อข้าจนตายทั้งเป็น หากไม่เป็นเพราะพวกเจ้าบีบบังคับ คนในตระกูลมู่ของข้าก็ไม่ต้องถูกบังคับให้ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ตระกูลไป๋หลี่ไม่มีใครดีสักคน ้ขาไม่เพียงจะฆ่าเจ้าเท่านั้น ข้ายังจะทำลายตระกูลไป๋หลี่ของพวกเจ้าให้พังยับไม่เป็นชิ้นดีเลย”
เมื่อพูดจบ ไป๋หลี่เฉิงก็ล้มลง
ร่างกายของเขาเหี่ยวเฉาและซูบลงทีละน้อย สุดท้ายก็เหลือเพียงกระดูก
มีลมพัดไหวนำพามาซึ่งกลิ่นคาวเลือดอันคละคลุ้ง
กู้ชูหน่วนมองไปยังไป๋หลี่เฉิงอยู่นานโดยไม่พูดอะไร
นางได้ดูดเอากำลังภายในของเขาจนหมด
วิธีการดูดพลังนี้ โหดร้ายกว่าวิธีการดูดเลือดจนหมดตัวของจักรพรรดินีเป็นเท่าตัว
มหาเวทดูดพลัง?
ร่างกายของนางมีความสามารถเช่นนี้ แต่กลับไม่สามารถนำออกมาใช้ได้
ไม่ว่าจะริเริ่มดูดกำลังภายในของคนอื่น
หรือปล่อยกำลังภายในออกมา
นางไม่สามารถทำได้เลย
ที่จักรพรรดินีฝึกฝนนั้น หรือจะเป็นมหาเวทดูดพลัง?
ไป๋หลี่เฉิงตายไปแล้ว
นางควรจะดีใจ
แต่นางไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด
ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ตระกูล นอกจากตระกูลหนิงแล้ว
นางจะทำลายล้างให้สิ้นซาก
โดยเฉพาะตระกูลไป๋หลี่และตระกูลซั่งกวน
บนฟ้า
อารั่วมองด้วยความขนหัวลุก คนคนหนึ่งจู่ๆ ก็ถูกดูดกำลังภายในไปจนหมดและเหลือเพียงกระดูก
ผู้หญิงคนนี้ ช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน
เหวินเส่าอี๋จ้องมองกู้ชูหน่วนโดยไม่ละสายตา
ความทรงจำที่ลึกในหัวปรากฏภาพขึ้นมา
อยู่ที่กลางหน้าผาแห่งหนึ่ง
เขาช่วยรักษาบาดแผลให้กับกู้ชูหน่วน แต่กลับถูกนางดูดกำลังภายในไปไม่น้อย
จากยอดฝีมือสูงสุดระดับหก ถูกนางดูดไปจนลดระดับมาถึงระดับสี่
การฝึกฝนอย่างหนักมากว่าหลายสิบปี แทบจะหมดสิ้นไปเกือบหมด
ตอนนั้น นางก็ใช้มหาเวทดูดพลัง
เขาไม่เพียงสงสัยว่านางคือกู้ชูหน่วนแค่เพียงครั้งเดียว
แต่เรื่องที่ตระกูลมู่ถูกฆ่าสังหารทั้งตระกูลเกิดขึ้นได้อย่างไร?
เมื่อมองดูท่าทางโศกเศร้าเสียใจปนไปด้วยความโกรธแค้นของมู่หน่วน อย่างไรก็ดูไม่ออกว่านางเป็นคนลงมือฆ่าสังหารคนในตระกูลมู่ของตัวเองไปจนหมด
เมื่อนึกถึงสภาพการเสียชีวิตของคนตระกูลมู่ เหวินเส่าอี๋กำมือแน่นด้านหลังของเขาราวกับว่าเขากำลังระงับความเศร้าโศกของเขาเอง