กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ - บทที่ 954
กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 954
ผู้หญิงคนนั้นปริริมฝีปากที่แห้งผากเหมือนต้องการพูดอะไร ทว่ากลับมีเสียงไอกระแอมที่ดังออกมาอย่างทุกข์ทรมาน
กู้ชูหน่วนหยิบน้ำออกมาจากวงแหวนอวกาศให้นางดื่มเพื่อบรรเทาอาการกระหายน้ำ
ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ดื่มน้ำมานานเท่าไรแล้ว นางจับกระบอกน้ำเอาไว้แน่นและแทบอยากดื่มให้หมดทั้งกระบอก
“ช้าๆ เจ้าขาดน้ำมาเป็นเวลานานเช่นนี้ ไม่สามารถดื่มเยอะเกินไป”
กู้ชูหน่วนก้มศีรษะลงและมองไปยังมือของนางที่ถือกระบอกน้ำเอาไว้
ข้อมือทั้งสองข้างของนางได้ถูกตัดขาด และตอนนี้ก็เหลือเพียงแขนทั้งสองที่ไร้มือ
แม้แต่ขาของนางก็ถูกตัดขาด
ไม่รู้ว่าใครกันที่มีจิตใจโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแค่ตัดแขนตัดขาของนางไปจนหมด แต่ยังเจาะร่างกายของนางให้เต็มไปด้วยรูและปล่อยให้มีเลือดไหลออกมา
“ขอบ……ขอบคุณ……อะแอ่ม…….”
“ที่นี่นอกจากเจ้าแล้ว ยังมีคนอื่นอีกหรือไม่? เช่นชายหนุ่มที่มีหน้าตาหล่อเหลา อายุประมาณยี่สิบต้นๆ ที่สวมชุดผ้าไหมสีฟ้า”
“ข้าไม่รู้ ที่นี่มีห้องลับเป็นจำนวนมาก และแต่ละห้องก็ไม่สามารถไปมาหากันได้ อีกทั้งยังห่างออกไปไกล แอ่มๆ……”
“เช่นนั้นข้าจะลองไปค้นหาดู”
“อย่า อย่าไป ไม่เช่นนั้นนางจะหาเจ้าเจอ นางไม่มีทางปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน……แอ่มๆ……”
แต่ละคำที่หญิงคนนั้นกล่าวออกมา ราวกับนางได้ใช้เรี่ยวแรงและพลังทั้งหมดที่มียังไงยังงั้น
แม้ว่าไม่มีมือ ทว่านางก็จับกู้ชูหน่วนเอาไว้แน่น เพราะกลัวว่ากู้ชูหน่วนจะถูกผู้หญิงชั่วร้ายคนนั้นจับได้
“ผู้หญิงคนนั้นที่เจ้าพูดถึงคือใครอย่างนั้นหรือ? จักรพรรดินี?”
“เจ้าบอกข้ามาก่อนว่าเจ้าเป็นใคร และเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
“ข้าเป็นเพียงหมอหญิงคนหนึ่ง และเข้ามาที่นี่โดยบังเอิญเท่านั้น”
“เข้ามาโดยบังเอิญ? เส้นทางลับนี้เป็นเส้นทางลับที่ลึกลับซับซ้อนมากที่สุดในอาณาจักรรัฐปิง ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ในอดีต และหากคิดจะเข้ามาที่นี่ได้ นอกจากเข้ามาทางห้องตำราหลวงที่มีองครักษ์คุ้มกันอย่างหนาแน่น แม้ว่าเจ้าจะมีความเก่งกาจมากเพียงใดก็ไม่สามารถเข้าไปยังห้องตำราหลวงได้ นอกเสียจาก…..นอกเสียจากว่าเจ้าจะเข้ามาจากเรือนด้านข้างที่อยู่ไม่ไกลออกมาจากห้องตำราหลวง”
ดวงตาที่ดูสิ้นหวังของหญิงวัยกลางคนผู้นี้ดูเปล่งประกายแวววาวขึ้นอีกครั้ง และมองไปยังกู้ชูหน่วนอย่างจริงจังราวกับจะพุ่งไปยังกู้ชูหน่วน
“เจ้า…..เจ้าเข้ามาจากเรือนด้านข้างใช่หรือไม่?” นางดูตื่นตระหนกอย่างมาก ตื่นตระหนกจนหัวใจเต้นแรง
กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางถึงรู้สึกตื่นตระหนกอะไร
และทำได้เพียงพยักหน้ายอมรับ “ใช่ ข้าเข้ามาโดยบังเอิญจากเรือนด้านข้าง”
“จากเรือนด้านข้างมาถึงตรงนี้ จำเป็นต้องผ่านกำแพงผนังหินที่ปิดกั้นมาให้ได้ กำแพงหินนั้นมีน้ำหนักกว่าห้าพันกิโล ซึ่งไม่สามารถเปิดออกได้ด้วยกำลังของมนุษย์ เจ้าเปิดออกมาได้อย่างไรกัน”
กู้ชูหน่วนมองดูเลือดที่กำปั้นของตัวเอง
หญิงวัยกลางคนสังเกตเห็นท่าทางของนาง และหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง ความอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงก่อนหน้านี้ก็หายไปโดยสิ้นเชิง ทว่ากลับพูดขึ้นมาด้วยความตื่นตะลึง “คือเจ้า เจ้าใช้เลือดของตัวเองในการเปิดผนังกำแพงหินนั่นใช่หรือไม่”
“มีอะไรหรือ?”
“ผนังกำแพงหินนั้นจดจำเจ้าของได้ นอกเสียจากคนในราชวงศ์แล้ว คนอื่นไม่สามารถเปิดออกได้ เลือดของเจ้าสามารถเปิดผนังกำแพงหินนั้นได้ เช่นนั้นก็หมายความว่าเจ้าเป็นคนหนึ่งในราชวงศ์ และเป็น……เป็นลูกสาวของข้า……”
กู้ชูหน่วนพูดไม่ออก
“ลูกสาวของท่าน?”
“ใช่ ลูกสาวของข้า ลูกสาวของข้าที่หายตัวไปตั้งแต่ยังเล็ก ลูก……ลูก……แม่……”
“เดี๋ยวก่อน ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อยด่วนสรุป หากข้าคาดเดาไม่ผิดละก็ ท่านก็คือจักรพรรดินีแห่งอาณาจักรรัฐปิงตัวจริงใช่หรือไม่”
“ใช่ ผู้หญิงคนนั้นปลอมตัวเป็นข้าเพื่อเข้ามายึดครองบัลลังก์และนำข้ามากักขังไว้ที่นี่ และยังตัดแขนตัดขาของข้า นางไม่ใช่จักรพรรดินีตัวจริง ข้าต่างหากที่ใช่……”
กู้ชูหน่วนกวาดสายตามองจักรพรรดินีตัวจริงที่ดูน่าสงสารและยิ้มออกมา “ที่แท้ข้าก็เดาไม่ผิดว่านางไม่ใช่จักรพรรดินีตัวจริง ฉะนั้นอารมณ์และนิสัยของนางจึงเปลี่ยนไปอย่างมาก”
“ลูก เจ้าบอกแม่ได้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง? ผู้หญิงชั่วร้ายคนนั้นได้ทำเรื่องชั่วร้ายอะไรไว้บ้าง?”
“ทำไปบ้าง แต่ยังดีที่อาณาจักรของท่านยังไม่ล่มสลาย”
“ตอนนี้ข้าขอมอบตำแหน่งจักรพรรดินีให้กับเจ้า เจ้าอย่าได้ปล่อยให้อาณาจักรรัฐปิงต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้หญิงชั่วร้ายคนนั้นโดยเด็ดขาด”
กู้ชูหน่วนนั่งลงและมองไปยังผู้หญิงคนนั้นอย่างขบขัน
“ข้าคิดว่าท่านคงถูกกักขังนานเกินไปจนสมองกระทบกระเทือน เมื่อเห็นคนอื่นก็คิดว่าเป็นญาติของตัวเองไปหมดอย่างนั้นหรือ?”
“เจ้าคือลูกของข้า ลูกสาวของข้าที่อยู่นอกวังหลวงมายี่สิบกว่าปี”
“พอได้แล้ว ข้าไม่อยากฟังเรื่องไร้สาระของท่านแล้ว ข้าเห็นอกเห็นใจกับสถานการณ์ความลำบากของท่าน และข้ายังสามารถช่วยท่านกำจัดจักรพรรดินีตัวปลอม แต่ตอนนี้ข้าจำเป็นต้องตามหาคนที่สำคัญกับข้าอย่างมากคนหนึ่งให้ได้ก่อน”
เดิมทีกู้ชูหน่วนต้องการหยิบกระดาษและพู่กันออกมาเพื่อให้นางได้เขียนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น และเปิดโปงจักรพรรดินีตัวปลอม
ทว่านางไม่มีมือไม่มีเท้า เช่นนั้นแล้วจะเขียนขึ้นมาได้อย่างไร?
เช่นนั้นพานางออกไปจากห้องลับนี้ก่อน ตามร่างกายของนางก็ถูกโซ่เหล็กตรวนพันปีคล้องไว้ และหากไม่มีกุญแจก็ไม่สามารถปลดออกได้
ใช้โอกาสที่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เพื่อตามหาเสี่ยวเซวียนเซวียนเป็นเรื่องสำคัญ นางไม่มีเวลามากพอที่จะเสียเวลาอยู่ตรงนี้
“เจ้าเชื่อข้า เจ้าคือลูกสาวของข้า มีเพียงแค่ลูกสาวของข้าเท่านั้นที่สามารถเปิดผนังกำแพงหินนั้นได้ เพื่อเข้ามายังเส้นทางลับของราชวงศ์ได้”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้”
“เจ้าอาศัยอยู่กับตระกูลมู่มาตั้งแต่เล็กใช่หรือไม่ เจ้าคิดว่ามู่ซินคือท่านพ่อของเจ้าใช่หรือไม่? เจ้ามีไฝหนึ่งเม็ดที่กลางฝ่าเท้าด้านขวาใช่หรือไม่?”
เดิมทีกู้ชูหน่วนไม่ต้องการสนใจนาง ทว่าเมื่อได้ยินที่นางพูดออกมาเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไป
“ท่านเล่ามาให้ละเอียดทั้งหมด ไม่เช่นนั้นหากจักรพรรดินีตัวปลอมไม่ฆ่าท่าน ข้านี่แหล่ะที่จะเป็นคนฆ่าท่านเอง”
“ข้ารู้ว่าข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่มากแล้ว หากก่อนตายสามารถทำให้เจ้าเชื่อใจข้าได้ เช่นนั้นข้าก็นอนตายตาหลับแล้ว”
“พูดมาเดี๋ยวนี้ ข้ามีเวลาไม่มากนัก”
“ก็ได้ เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ข้าขึ้นครองราชบัลลังก์ ข้าได้ให้กำเนิดองค์หญิงสามคน แต่ทั้งสามคนกลับเสียชีวิตลงอย่างปริศนา ข้ารู้ว่ามีคนจงใจลอบทำร้าย แต่ไม่ว่าจะตรวจสอบอย่างไรก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ ข้ากลัวว่าเจ้าจะโชคร้ายและถูกฆ่าตายอีกคน ฉะนั้นตอนที่เจ้าเกิดออกมาข้าก็ได้ส่งเจ้าไปที่ตระกูลมู่ และให้เลี้ยงดูเจ้าจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จากนั้นค่อยส่งเจ้ากลับมา แต่คาดไม่ถึงว่าข้ายังไม่ทันจะรับเจ้ากลับมา ข้าก็ถูกผู้หญิงชั่วร้ายคนนั้นทำร้ายเสียก่อน”
“เหตุผลของท่านฟังไม่ขึ้นเลย หากข้าเป็นคนที่ท่านนำตัวไปยัตระกูลมู่จริง เช่นนั้นตระกูลมู่ก็ควรปฏิบัติต่อข้าอย่างเคารพนอบน้อม เช่นนั้นแล้วข้าก็คงไม่ถูกรังแกมากมายเช่นนี้ตั้งแต่ยังเล็ก”
“ข้าได้ยกเจ้าให้กับซั่งกวนหมิงหล่างไปแล้ว”
“นั่นเป็นเพราะว่าท่านแม่ของข้าทำไปเพื่อช่วยชีวิตของพวกเขาจนต้องตายอย่างน่าอนาถ ทำให้พวกเขาคิดเรื่องแต่งงานนี้ขึ้นมา จะว่าไปแล้ว หากเป็นเพราะแผนการของท่าน เช่นนั้นแล้วเหตุใดตระกูลซั่งกวนจึงต้องยกเลิกการแต่งงานกับข้า อีกทั้งยังทำให้ชื่อเสียงของข้าพังยับเยิน”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ ตระกูลซั่งกวนยกเลิกการแต่งงานกับเจ้า? พวกเขากล้า……อะแอ่ม……”
เพราะความตกใจ ทำให้จักรพรรดินีตัวจริงกระอักเลือดออกมา และร่างกายสั่นคลอน แม้แต่การพิงกำแพงก็เป็นเรื่องยากมาก
อาการตกใจของนาง และท่าทีสีหน้าของนางไม่ได้ดูปลอมหรือเสแสร้งเลยสักนิด
กู้ชูหน่วนก็เข้าใจอะไรขึ้นมาได้ทันที
จักรพรรดินีตัวจริงกล่าวออกมาอย่างเจ็บปวด “ข้าจะอธิบายอย่างไรเจ้าถึงจะเชื่อข้า”
นางอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “ไม่ต้องแล้ว ข้าเชื่อว่าสิ่งที่ท่านพูดมาเป็นเรื่องจริง”
“ลูก……”
“แต่ข้าไม่อาจยอมรับท่านได้ ข้าเป็นคนของตระกูลมู่ ท่านแม่ของข้าก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้น และนางก็ตายไปตั้งนานแล้วเมื่อหลายปีก่อน”
“ข้า……ข้าต่างหากที่เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดเจ้า…….”
“แม่ที่ให้กำเนิด? เอ่อ……หากข้าเดาไม่ผิดละก็ ท่านเป็นคนที่ฆ่าลูกสาวแท้ๆ ของท่านพ่อของข้า จากนั้นสับเปลี่ยนตัวพวกข้า ท่านพ่อของข้าคิดมาตลอดว่าข้าคือลูกแท้ๆ ของเขา ทุกคนในตระกูลมู่ รวมไปถึงตระกูลซั่งกวนก็ไม่มีใครรู้ว่าข้าคือองค์หญิง ฉะนั้นพวกเขาทุกคนจึงกล้ารังแกข้า ใช่หรือไม่?”
จักรพรรดินีตัวจริงไม่พูดอะไร ทว่าหัวใจกลับเต้นเร็วและแรงขึ้น