ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 317-318
ตอนที่ 317 ความสนใจนั่นควรให้ฉันหรือเปล่า
ฟางจือหันยังคงเย็นชาเช่นเคย เขากำลังถือเอกสารอยู่ในมือ พอได้ยินเสียงของอวี๋กานกาน เขาก็เงยเงยหน้าขึ้น ปรายตามองเล็กน้อย แล้วก้มหน้าลง อ่านเอกสารต่อ
เมื่อลู่เสวี่ยเฉินมองเห็นหลินจยาอวี่ออกมา สายตาที่ยิ้มแย้มก็ถูกสะกดเอาไว้หลายวินาที
เมื่อเห็นอวี๋กานกานจ้องเขม็งมาที่ตัวเอง ดวงตาของเขาฉายแววไม่เป็นธรรมชาติครู่หนึ่ง ก่อนจะสงบสติอารมณ์ แล้วตอบกลับ “ก็ใช้ได้”
สีหน้าท่าทางของอวี๋กานกานดูเหลือเชื่อ
ลู่เสวี่ยเฉินรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
หืม?
หรือว่าเขาจะชอบจยาอวี่
อวี๋กานกานจุดยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี ยามที่กลอกตาอย่างเจ้าเล่ห์ และเอ่ยถามเสียงเบา “ลู่เสวี่ยเฉิน จยาอวี่เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเท่าที่นายเคยเห็นมาหรือเปล่า”
ลู่เสวี่ยเฉินตอบกลับเสียงเรียบ “ก็ใช้ได้อยู่นะ”
คำตอบนี้ราวกับต้องการปกปิดความรู้สึกของตัวเอง
หลินจยาอวี่ไม่ใส่ใจกับคำตอบของลู่เสวี่ยเฉิน เธอหันกลับไปที่ห้องลองเสื้อ เพื่อให้พนักงานช่วยเปลี่ยนชุดออก
“ดูสิ โกรธแล้ว ใครให้นายบอกว่าเธอไม่ใช่เจ้าสาวที่สวยที่สุด” อวี๋กานกานแสร้งทำเป็นโมโห ใบหน้าเธอนิ่งสงบจริงจังและถามด้วยความสงสัย “หรือนายคิดว่าเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ เลยไม่สนใจไม่ใส่ใจอะไรเลยงั้นสิ”
ลู่เสวี่ยเฉินมองอวี๋กานกานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “แน่นอนว่าไม่ใช่”
สงบนิ่งราบเรียบ ฟังแล้วไม่ได้ความอะไรเลย
ทว่าอวี๋กานกานกลับรู้สึกว่าเหมือนลู่เสวี่ยเฉินจะใส่ใจจยาอวี่อยู่มาก
หากว่าความรักจอมปลอมของลู่เสวี่ยเฉินกับจยาอวี่นานวันไปเปลี่ยนเป็นของจริงก็คงจะดี
หลังออกจากร้านชุดแต่งงาน อวี๋กานกานก็แอบถามหลินจยาอวี่ว่า “เธอว่าลู่เสวี่ยเฉินเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดี”
“ถ้าเป็นสามีล่ะเป็นยังไง”
“ต้องรอดูต่อไป”
“กลัวลู่เสวี่ยเฉินจะหลอกหรือเปล่า”
หลินจยาอวี่ถามเสียงเบา “ฉันมีอะไรให้เขาหลอก? เราเซ็นสัญญากันแล้ว ถ้าหย่ากันจริงๆ อะไรที่เป็นของเขาก็ยังเป็นของเขา อะไรที่เป็นฉันเขาก็ยังเป็นของฉัน อย่างมากเราสองคนก็เปลี่ยนจากคนที่ไม่เคยแต่งงาน มาเป็นคนที่เคยแต่งงานแล้ว”
อวี๋กานกาน “……”
การแต่งงานปลอมๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องภายนอกที่ปลอมอย่างเดียว ความรู้สึกก็อาจจะเป็นของปลอมด้วย
เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร “ฉันหมายถึงแบบ ประมาณว่า…”
หลินจยาอวี่มือของเธอ “ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันคิดว่าเราแต่งงานกันแบบนี้ก็ไม่เลว ในทุกคนก็ได้ในสิ่งที่อยากได้ เพราะงั้นทำไมถึงจะไม่แต่งล่ะ”
อวี๋กานกาน “……”
ไม่ว่าลู่เสวี่ยเฉินจะชอบจยาอวี่หรือไม่
แต่ที่เธอมั่นใจได้ก็คือ สำหรับจยาอวี่แล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไรกับลู่เสวี่ยเฉินเลยแม้แต่น้อย
เรื่องที่ว่าอยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันนั้นมันค่อนข้างจะยากอยู่สักหน่อย
ฟางจือหันกำลังถือรีโมทเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ ตอนที่อวี๋กานกานนั่งลงข้างๆ และเงยหน้าขึ้นมอง พร้อมกับเอ่ยถาม “ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“เธออยากถามอะไร?”
“ลู่เสวี่ยเฉินนี่เชื่อได้หรือเปล่าคะ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อวี๋กานกานถามคำถามนี้ ครั้งนี้ฟางจือหันตอบกลับไปแบบตรงไปตรงมามากขึ้น “พวกเขาแค่ทำข้อตกลงโดยไม่มีเรื่องอารมณ์มาเกี่ยวข้อง เชื่อถือได้หรือไม่ มันสำคัญมากเหรอ”
“แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนลู่เสวี่ยเฉินจะชอบจยาอวี่ล่ะ” อวี๋กานกานยิ้ม “ช่วงบ่ายตอนที่เขาเห็นจยาอวี่ออกมาจากห้องลองชุดน่ะ คุณไม่เห็นสายตาของลู่เสวี่ยเฉินเหรอ ฉันว่าสายตาของเขาไม่ปกติ”
ฟางจือหันขยับหันข้าง โน้มตัวไปข้างหน้า เข้าใกล้เธอมากขึ้น “แล้วเธอคิดว่าสายตาที่ฉันมองเธอผิดปกติบ้างหรือเปล่า”
ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ใกล้มาก จนลมหายใจกระทบลงบนใบหน้า อวี๋กานกานรีบเอนตัวไปด้านหลัง
เมื่อเห็นท่าทางเขินอายและตื่นตระหนกของเธอ ชายหนุ่มก็ใช้นิ้วมือที่เห็นข้อกระดูกชัดเคาะลงบนหน้าผากของเธอเบาๆ ยามที่พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย “เธอนี่เอาแต่สนใจเรื่องคนอื่นทั้งวี่ทั้งวัน”
อวี๋กานกาน “……”
ตอนที่ 318 คนที่ฉันชอบคือพี่เจียง
เอาแต่สนใจเรื่องคนอื่นทั้งวันงั้นเหรอ?
ทำไมน้ำเสียงแบบนั้นถึงความรู้สึกเหมือนกำลังอิจฉา เหมือนฟางจือหันกำลังบอกว่าเธอไม่สนใจเขา แต่พวกเขาเจอหน้ากันทุกวัน กินข้าวด้วยกัน ตัวติดกันขนาดนี้ ยังจะต้องให้สนใจอะไรอีก?
จู่ๆ อวี๋กานกานก็รู้สึกอยากถามขึ้นมาว่าคุณชอบฉันเหรอ แต่ก็ไม่กล้าถาม เผื่อว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด
เธอรู้สึกหัวร้อนชั่วขณะ จากนั้นจู่ๆ ก็โพล่งออกไปว่า “ฟางจือหัน จริงๆ แล้วอย่างฉันนี่นับว่ามีแฟนอยู่หรือเปล่านะ”
ฟางจือหันหรี่ตาลง แววตาของเขาคมกริบขึ้นทันที “เธอมีแฟนแล้วเหรอ”
อวี๋กานกานรู้สึกประหม่ามาก ขนตาของเธอสั่นเล็กน้อย คล้ายกับปีกของเสื้อที่กำลังกระพือ ยามที่กลืนน้ำลายและพยักหน้าอย่างกล้าหาญ “ใช่”
พอเห็นเจียงฉี่กับเหอซูหลิง เธอก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
เป็นเพราะชอบก็เลยหึงหวง
ถ้าเธอบอกว่าเธอมีแฟนแล้ว ถ้าเขาไม่พอใจ ถ้าเขาหึงเขา ก็แสดงว่าเขาเหมือนกับเธอ
ฟางจือหันถามอย่างเย็นชา “ใคร”
อวี๋กานกานจงใจยิ้ม “พี่เจียง”
ฟางจือหันชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็มองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้งและร้อนแรงราวกับมีน้ำวนที่รุนแรงมากพอที่จะดูดคนทั้งคนเข้าไปได้
อวี๋กานกานมองสบตาของเขา และเกิดความรู้สึกร้อนตัวขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
แน่นอนว่าพี่เจียงในความฝันไม่ใช่เรื่องโกหก เธอดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาและเชื่อว่าเขาจะไม่ว่าอะไรถ้าเธอยืมมันมาใช้
เธอกระแอมเบาๆ แล้วพูดต่อ “ตอนเด็กๆ เราสนิทกันมาก แม้ว่าเมื่อก่อนฉันจะยังเด็ก แต่เหมือนฉันจะเคยพูดว่าถ้าโตขึ้นแล้วฉันจะแต่งงานกับเขา”
เธอจงใจเน้นเสียงที่ท้ายประโยค
ถ้าหากฟางจือหันชอบเธอล่ะก็ ในเวลานี้เขาก็น่าจะแสดงอะไรออกมาบ้าง
เขาถามเสียงเบา “เธอยังจำเรื่องตอนเด็กๆ ได้อีกเหรอ”
อวี๋กานกานพยักหน้า “แน่นอนสิคะ เขาดีกับฉันมาก…”
เธอพูดเสริมไปอีกประโยคเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ “อย่าคิดว่าฉันโกหกคุณล่ะ สิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง เพียงแค่ตอนนี้เขาอยู่ต่างประเทศ แต่ยังไงเขาก็จะกลับมา ยังไงซะเราก็ตกลงที่จะอยู่ด้วยกันไปชั่วชีวิตแล้ว”
ฟางจือหันเม้มปากตามความเคยชิน นิ่งมองเธอ ราวกับจะมองให้ทะลุผ่านไปยังก้นบึ้งของหัวใจเธอ
อวี๋กานกานใจเต้นรัว
เธอมีพี่เจียงจริงๆ แต่มันเหมือนจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอพูด
เธอร้อนตัวมากที่พูดโกหกออกไป
อวี๋กานกานขยับริมฝีปากราวกับยังอยากจะพูดอะไรต่ออีก ทว่าจู่ๆ ฟางจือหันก็โน้มตัวลงมา เมื่อเห็นริมฝีปากของเขากำลังใกล้เข้ามา อวี๋กานกานก็ยื่นมือออกไปผลักฟางจือหันตามสัญชาตญาณด้วยความตกใจ
เธอรีบกระโดดถอยหลังให้ห่างจากฟางจือหันไปสองสามก้าว และมองเขาด้วยความระแวดระวัง
ฟางจือหันนึกขำ ยามที่ขยับเข้าใกล้เธอ “ชอบพี่เจียงของเธอมากใช่ไหม”
น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำช่างเซ็กซี่ชวนหลงใหล
อวี๋กานกานไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ไปชั่วขณะ
มารยาไม่ใช่สิ่งที่มีเพียงผู้หญิงที่ใช้ได้เท่านั้น บางครั้งผู้ชายก็ใช้มันได้ดีกว่าผู้หญิงเสียอีก อวี๋กานกานรู้สึกเหมือนตัวเองเมาเหล้าและไม่สามารถควบคุมได้ ตอนที่หนูอยากจะพูดอะไรออกไป กลับกลายเป็นพบว่าตัวเองหายใจถี่กระชั้นมากขึ้น
อวี๋กานกานหัวใจเต้นรัว สมองชาหนึบ “ทะ ที่จริง…ก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้น”
เธอพูดความจริงออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอรู้จักพี่เจียงน้อยเกินไป มีหลายครั้งที่เธอรู้สึกว่าเขาเป็นเพียงแค่คนในความฝันเท่านั้น