ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ - ตอนที่ 91
ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 91 แพงเกินไปแล้ว เขากลัวว่าจะจ่ายไม่ไหว
ลุงใหญ่มองฟังจือหันอย่างพินิจพิจารณา มักพูดกันว่าคนไอคิวต่ำจะค่อนข้างหน้าตาดี และคนหน้าตาดียากที่จะมีไอคิวสูง ดูท่าแล้วคำพูดนี้ไม่ได้หลอกลวง
ลุงใหญ่ยิ้มให้ฟังจือหันอย่างสนิทสนมเป็นกันเองยิ่งกว่าเดิม “มาๆ อย่ามัวแต่เขิน กินอาหาร ดื่มเหล้า” เขารินเหล้าสองแก้ว แก้วหนึ่งวางไว้หน้าฟังจือหัน
ฟังจือหันยกแก้วเหล้าขึ้น มองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ จากนั้นวางกลับไปบนจานหมุนดังเดิม
เขายื่นแขนข้างหนึ่งไปพาดบนพนักเก้าอี้ของอวี๋กานกาน ปล่อยออร่าอันโออ่าสง่างาม “กินอาหารทะเล ผมดื่มแค่ไวน์แดงเท่านั้น”
ป้าสะใภ้ใหญ่และเหอหว่านซินหันมาสบตากัน กลอกตาแล้วแสยะยิ้มอย่างเหยียดยาม
ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้าลุงใหญ่เตือนเอาไว้ พวกเธอต้องหัวเราะก๊ากออกมาแน่ อวดเบ่งดื่มไวน์แดงอะไรกัน
อวี๋กานกานยกมือขึ้นกุมขมับ ฟังจือหันน่าจะมองออกว่าอาหารบนโต๊ะนี้คือกับระเบิด เขาจงใจให้เป็นแบบนี้ แต่อวี๋กานกานไม่เข้าใจสักนิดว่าเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่ รับมือกับเขา เหมือนว่าไอคิวของเธอจะไม่ค่อยพอใช้สักเท่าไร ค่อยๆ ดูไปก็แล้วกัน
พนักงานบริการเดินเข้ามายื่นเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ฟังจือหัน
อวี๋กานกานเบือนหน้าไปมองฟังจือหัน นัยน์ทั้งเตือน ทั้งไม่เข้าใจ ทั้งมีคำถาม
ฟังจือหันไม่ได้สังเกตเห็นแม้แต่น้อย ทำเพียงแค่ถามเธอ “อยากกินอะไร ภัตตาคารนี้มีเห็ดทรัฟเฟิลสดใหม่ที่ขนส่งมาทางอากาศจากประเทศฝรั่งเศสด้วย สักจานไหม?”
น้ำเสียงทุ้มต่ำนุ่มละมุมทั้งยังมีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล
ดวงตาทั้งสองข้างของอวี๋กานกานเบิกโต ยังคงไม่พูดอะไร
เธอไม่รู้จริงๆ ว่าจะพูดอะไรดี อย่างไรเสียลุงใหญ่ก็เป็นจิ้งจอกเฒ่ามากประสบการณ์ เธอกลัวว่าฟังจือหันจะไม่ระวังจนตกหลุมพรางทำให้เธอจำเป็นต้องจ่ายอาหารทั้งโต๊ะนี้
แค่คิดเธอก็ปวดตับแล้ว
ฟังจือหันยังคงไม่สังเกตเห็นถึงความกังวลและความลุกลี้ลุกลนของเธอ สั่งพนักงานบริการเอาเห็ดทรัฟเฟิลมาจานหนึ่ง
เหอหว่านซินที่อยู่ข้างๆ พลันพูดออกมาหนึ่งประโยค “ฉันก็เอาด้วยจานหนึ่ง”
นั้นเป็นถึงเห็ดทรัฟเฟิลฝรั่งเศสเลยนะ แพงบรรลัย ถึงอย่างไรอวี๋กานกานก็เป็นคนจ่ายเงิน ไม่กินก็เสียดายแย่
พนักงานบริการอมยิ้ม จดออเดอร์ทันที จากนั้นถามฟังจือหันต้องการไวน์แดงชนิดไหน
ฟังจือหันเหลือบมองเพียงปาดเดียวจากนั้นปิดเมนูแล้วบอกกับพนักงานบริการ “อู่ตังหวาง[1]”
พนักงานบริการตะลึงงัน ค่อนข้างประหลาดใจ เดิมทีอยากจะพูดอะไร แต่เห็นฟังจือหันหรี่ตา ออร่าเกรงขามน่ากลัว ทั้งเย็นเยียบและแข็งกร้าว เธอรีบพยักหน้าทันที จากนั้นหมุนตัวเดินออกไป
หลังจากพนักงานบริการออกมาจากห้องวีไอพีแล้ว เธอใช้ความเร็วสูงสุดตามหาผู้จัดการ หน้าแดงเปล่งปลั่ง พูดอย่างตื่นเต้น “ผู้จัดการคะ ผู้จัดการ…มีแขกคนหนึ่งสั่งอู่ตังหวาง พวกเราจะเปิดไหม”
นัยน์ตาของผู้จัดการสว่างวาบ ประหนึ่งเก็บของล้ำค่าได้ “เปิดสิ ต้องเปิดแน่นอนอยู่แล้ว เร็วเข้า ต้องดูแลแขกวีไอพีห้องนั้นเป็นอย่างดี ต้องบริการให้ดีเหมือนว่าเขาอยู่ในบ้านของตัวเอง นี่เป็นถึงแขกซูเปอร์วีไอพีของพวกเราเชียวนะ”
“ได้ค่ะๆ” พนักงานบริการรับปากอย่างมีความสุข ยิ้มแก้มปริจนแทบจะฉีกไปถึงหู
เธอใช้ความเร็วสูงสุดนำไวน์ไปยังห้องวีไอพี ก่อนเปิดยังถามฟังจือหัน “สวัสดีค่ะคุณลูกค้า นี้คืออู่ตังหวางที่คุณสั่ง ให้ดิฉันเปิดตอนนี้เลยไหมคะ”
ฟังจือหันผงกศีรษะ
สายตาของลุงใหญ่ก็จดจ้องไปที่ขวดไวน์ เขานึกย้อนกลับไปตอนที่ดูเมนูแอลกอฮอล์เมื่อครู่ ชนิดของไวน์แดงมีครบครัน อย่างไรเสียนี่ก็เป็นถึงภัตตาคารอาหารทะเลที่หรูหราโออ่าที่สุดในเมืองนี้ มีราคาตั้งแต่ไม่กี่ร้อยหยวนจนไปถึงหลายหมื่นหยวน
ไวน์ราคาแพงล้วนนำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งสิ้น แต่ไม่เห็นจะมีอู่ตังหวางอะไรนั้น ฉลากไวน์อู่ตังหวังนั้นมีสีสันฉูดฉาดไร้ซึ่งความหรูหรา ชื่อเชยเฉิ่มอย่างอู่ตังหวางนี่อีก คาดว่าน่าจะเป็นไวน์ไม่มียี่ห้อในประเทศ ราคาอย่างมากน่าจะไม่กี่ร้อยหยวน
ฟังจือหันไม่ดื่มเหล้าต่ง เกรงว่าไม่ใช่ไม่ดื่ม แต่เป็นเพราะเหล้าต่งแพงเกินไป เขากลัวว่าหากดื่มไปเยอะจะจ่ายไม่ไหว
——
[1] อู่ตังหวาง มีชื่อว่า ชาโตร์ มูตอง-รอธส์ชิลด์ เป็นหนึ่งในห้าสุดยอดไวน์ของประเทศฝรั่งเศส