ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games - ตอนที่ 29
ในขณะที่ผู้เล่นมีการทะเลาะกันเล็กน้อยเรื่องการแย่งลาส แต่ซีเว่ยก็รู้สึกโล่งใจที่เห็นเหล่าสาวกทั้งสองกลุ่มเข้ากันได้อย่างราบรื่น
ด้วยเหตุนี้อุปสรรคแรกจึงถูกเคลียร์ และซีเว่ยก็ไม่ต้องกังวลว่าศาสนาใหม่ของเขาจะทำลายตัวเองตั้งแต่เริ่ม
“ลีอา•ยาการัน…เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรที่ล่มสลายยังอยู่ห่างจากหมู่บ้านเริ่มต้น เธอคงต้องใช้เวลาพอสมควรก่อนจะมาถึง…หึ อันที่จริงเควสหลักที่ผู้เล่นสามารถทำได้ในตอนนี้คือแบกอิฐ สร้างบ้าน หรือสำรวจด้านนอกของหุบเขาแห่งความตาย”
ซีเว่ยยื่นหนวดออกไปเกาหัวล้านรูปทรงกลมของตัวเอง “แต่ทหารโครงกระดูกที่บุกเข้ามาในครั้งนี้ดูผิดปกติมาก เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่เห็นแน่ บางทีฉันอาจต้องออกเควสเสริมให้ผู้เล่นตรวจสอบมัน…”
เนื่องจากผู้เล่นทุกคนในโลกด้านล่างล้วนแต่เป็นหูตาของซีเว่ย หากพวกเขาพบบางสิ่งซีเว่ยก็จะรู้ได้ทันที และเขาก็จะได้ออกเควสให้ตามสถานการณ์
นอกจากนี้หลังจากที่ได้พบกับผู้เล่นคนอื่นและพูดคุยกัน แองโกร่าก็จะเข้าใจว่าระบบของเขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ และไม่ใช่ระบบเฉพาะเหมือนกับเอลีน่า
พูดง่าย ๆ ก็คือ มันก็เหมือนกับความแตกต่างระหว่างเกมสวมบทบาทกับเกมจำลองธุรกิจ…
แต่ในมุมมองของซีเว่ย แองโกร่ามีความเป็นผู้เล่นน้อยกว่า เขาเป็นเหมือน NPC เจ้าเมือง ที่จะมอบหมายเควสให้กับผู้เล่น อย่าง ออกเควสให้พวกเขาช่วยสร้างเมืองเริ่มต้น อะไรแบบนี้
และระบบนี้ก็เป็นประโยชน์ต่อตัวแองโกร่าเองเช่นกัน ท้ายที่สุดยิ่งศักดินาของเขาเจริญรุ่งเรืองมากเท่าไหร่ แองโกร่าก็จะยิ่งได้รับรางวัลมากขึ้นในฐานะลอร์ดของเมือง
สิ่งเดียวที่ต้องให้ความสนใจในตอนนี้ คือระวังอย่าให้เมืองนี้ที่เป็นฐานของผู้เล่น ถูกล่วงรู้โดยศาสนจักรอื่น ไม่งั้นมันจะนำพวกเขาไปสู่การทำลายตัวเอง…
และเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นจะไม่ได้เข้าไปในหุบเขาแห่งความตายโดยประมาท
ไม่ใช่ว่าซีเว่ยไม่อยากให้ผู้เล่นเข้าไปที่นั่น อันที่จริงเขาหวังว่าผู้เล่นจะเคลียร์หุบเขาจนสะอาดเกลี้ยงเกลา เนื่องจากที่นั่นเคยเป็นสนามรบของเทพเจ้า พวกเขาอาจสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งดี ๆ กลับมาได้ เช่นความเป็นพระเจ้าที่แตกสลาย ซีเว่ยจะได้ไม่ต้องไปเสี่ยงโจมตีเทพเจ้าอื่น ๆ เพื่อเพิ่มพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขา
แต่ถึงอย่างนั้นภายในหุบเขาแห่งความตายก็เต็มไปด้วยอันตราย ในอดีต จักรวรรดิวัลลาเคยส่งผู้คนนับหมื่นเข้าไปสำรวจหุบเขาที่เต็มไปด้วยไมแอชม่า เพื่อค้นหาพืชในตำนานที่ว่ากันว่าสามารถชุบชีวิตคนได้ แต่คณะสำรวจเกือบทั้งหมดถูกทำลายโดยเรเวแนนท์ที่ไม่รู้จักอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปถึงหุบเขาลึก จากเหตุการณ์นั้นมีผู้รอดชีวิตออกมาได้ไม่ถึงสิบคน
แม้ว่าตอนนี้ขวัญกำลังใจของผู้เล่นจะสูง แต่ซีเว่ยก็สามารถจินตนาการได้ว่าผู้เล่นที่ยังอยู่ในระดับเริ่มต้น จะถูกฆ่าทันทีที่เข้าสู่หุบเขาในระยะ 10 เมตร…
หากเป็นเช่นนั้น พวกเขาจะถูกปรับลดทั้ง EXP และเลเวล แม้ว่าพวกเขาจะสามารถฟื้นขึ้นมาได้ แต่หากพวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ โดยประมาท เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นก็จะหยุดนิ่ง ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อแผนการของซีเว่ยในอนาคต
ทำไมซีเว่ยถึงมั่นใจว่าหากเขาไม่หยุดผู้เล่นเอาไว้ก่อน พวกเขาจะเลือกสำรวจหุบเขาแทนที่จะทำงานสร้างเมืองงั้นเหรอ?
มันง่ายมาก ในฐานะผู้เล่น พวกเขาต้องชอบการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นมากกว่าการนั่งปลูกผัก 4-5 ชั่วโมงต่อวันอยู่แล้ว
ก็การผจญภัยตามหาไอเทมดี ๆ มันฟังดูน่าสนใจกว่ามากปลูกผัก ยิ่งไปกว่านั้น การแสวงหาความตายก็เป็นงานถนัดที่ฝังลึกลงไปใน DNA ของผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นในโลกนี้หรือโลกไหนก็ตาม
ก่อนที่พวกเขาจะได้ลิ้มรสการฟื้นคืนชีพ ปาร์ตี้ของเอลีน่าเคยระมัดระวังในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาด พวกเขาหวาดกลัวว่าตัวเองจะถูกฆ่า แต่หลังจากที่มาร์นี่เผลอตายไปครั้งหนึ่ง และพวกเขาสามารถชุบชีวิตมาร์นี่ได้สำเร็จ พวกเขาก็เริ่มประมาทอย่างที่เห็นตอนสงครามช่วยเหลือเมืองเริ่มต้น นั่นทำให้ซีเว่ยเห็นเงาเพื่อนร่วมเกมในโลกเดิมของเขาเลยทีเดียว
โชคดีที่ความคิดของผู้เล่นตอนนี้ไม่ต่างจากผู้คนในยุคสมัยก่อน ประกอบกับการที่พวกเขาเป็นผู้ศรัทธาที่เคร่งศาสนา พฤติกรรมของพวกเขาจึงถือว่าควบคุมตัวเองได้ดีอยู่ ไม่งั้นซีเว่ยคงจะกังวลมากว่านี้แน่ ถ้าพวกผู้เล่นลากเขาลงน้ำ*ไปด้วย
(ลงน้ำ ในความหมายนี้คือการโดนลากไปโดนความผิดด้วยกัน)
“อืม มาทำกันเถอะ…” ซีเว่ยส่งหนวดออกไปกดคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ที่เขาสร้างขึ้นด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว…
☆
เกือบจะทันทีหลังจากที่พวกเขาเคลียร์กองทัพโครงกระดูกเสร็จ จู่ ๆ ผู้เล่นก็ได้รับข้อความจากระบบ พวกเขาทั้งหมดสามารถมองเห็นมันได้ทันที บางคนที่กำลังดื่มเบียร์อยู่ถึงกับสะดุ้งเผลอรินเบียร์เข้าทางจมูกเลยทีเดียว
ตรงกันข้ามกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่ต่างพากันสับสน เพราะพึ่งได้สัมผัสกับการแจ้งเตือนของระบบเป็นครั้งแรก เอลีน่าผู้มีประสบการณ์มาก่อนแล้ว เริ่มอ่านข้อความจากเทพเจ้าของเธออย่างจริงจัง
<ติ้ง!>
<อัปเดตเวอร์ชันเกม V0.02>
<ปลดล็อคระบบสกุลเงินเกม: ผู้เล่นทุกคนสามารถรับเหรียญเกมได้จากการทำเควสและฆ่าสัตว์ประหลาด ท่านสามารถใช้เหรียญเกมเพื่อซื้อไอเทมและอุปกรณ์จากร้านค้าระบบได้>
<ระบบชื่อเสียงถูกปลดล็อค: ปัจจุบันมีเพียง ‘เมืองไร้ชื่อ‘ เท่านั้นที่เปิดใช้งานระบบชื่อเสียง คะแนนชื่อเสียงจะได้รับผ่านการทำเควสที่ได้รับออกโดยเมือง ท่านสามารถรับเควสประจำเมืองได้จากป้ายประกาศ (อยู่ระหว่างดำเนินการ) และแองโกร่า•เฟาสต์>
<‘อีพิคเควส: สำรวจหุบเขาแห่งความตาย‘ ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในหน้าเควสของท่านแล้ว การสำรวจแต่ละครั้งในดันเจี้ยนหุบเขาแห่งความตาย จะเพิ่มอัตราการสำรวจแบบเปอร์เซ็นต์ เมื่อทำการสำรวจครบอัตราที่กำหนด ท่านจะได้รับรางวัลตอบแทนตามระดับการสำรวจ>
<ขอให้เล่นเกมอย่างสนุก!: เทพเจ้าแห่งเกม>
ข้อความไม่ยาว และเอลีน่าก็อ่านมันจบได้อย่างรวดเร็ว
ผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็อ่านจบแล้วเช่นกัน และตอนนี้คนทั้งเมืองก็กำลังพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา
“นี่ต้องเป็นวิวรณ์ในตำนานแน่!”
“แต่วิวรณ์ที่ข้าเคยได้ยินจากเรื่องเล่ามันไม่ใช่แบบนี้นี่…”
“ไม่ต้องสงสัยเลย เทพเจ้าแห่งเกมนั้นยอดเยี่ยมมาก!”
“ใครคือแองโกร่าเฟาสต์? นามสกุลแปลกจริง”
“นี่คือเมืองไร้ชื่อเหรอ? ทำไมมันดูเหมือนหมู่บ้าน…”
“ใช่ แม้แต่บ้านเกิดข้าก็ไม่ได้แย่ขนาดนี้!”
ชาวเมืองในเมืองไร้ชื่อล้วนแต่จ้องมองพฤติกรรมแปลก ๆ ของผู้เล่นอย่างว่างเปล่า พวกเขาทั้งหมดมองไปที่ผู้นำของพวกเขาอย่างพร้อมเพรียงกันซึ่งนั่นก็คือแองโกร่า
ท้ายที่สุดเมื่อกองทัพโครงกระดูกบุกเข้ามาก่อนหน้านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งของแองโกร่า พวกชาวบ้านอาจไม่มีใครรอดมาได้จนถึงวันนี้ ในตอนนี้ชาวเมืองเกือบทั้งหมดได้ยอมรับแล้วว่าเขาเป็นลอร์ดที่แท้จริงของเมือง
ที่สำคัญไปกว่านั้น กำลังเสริมเหล่านี้ที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้สูงมาก แต่มีพฤติกรรมพิลึก ก็มาตามคำเรียกของเขาด้วย…
—————————————————