ข้าคือเทพเจ้าแห่งเกม I Am the God of Games - ตอนที่ 41
“อาจเป็นเพราะสงครามของจักรวรรดิวัลลาในรัฐโรมินอส ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องพลัดถิ่นและกลายเป็นผู้ลี้ภัย” หัวหน้าสาขาตอบอย่างหนักใจ
“เริ่มสงครามกลางฤดูหนาว? เรื่องจริงหรือ”
มาร์นี่ตะลึงทั้ง ๆ ที่เขาเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาขึ้นมาแบบสุ่ม ๆ
ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่หนาวที่สุดของปี มีทั้งหิมะและหมอก มีเดือนแห่งความมืดมิดและหิมะอันเลวร้ายที่สามารถทำลายกองทัพทั้งหมดได้ง่าย ๆ
มีเพียงอาณาจักรที่ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งไฟเท่านั้นที่จะได้รับความคุ้มครองจากเทพเจ้าเพื่อให้รอดพ้นจากความเสียหายที่เกิดจากความหนาวเหน็บ ไม่เช่นนั้นกองทัพส่วนใหญ่จะสูญเสียความสามารถในการเดินทัพ และความสามารถในการต่อสู้ก็จะลดลง แม้ว่าพวกเขาจะถูกบังคับให้ต่อสู้ แต่การที่ฝ่ายป้องกันมีกำแพงเมือง พวกเขาก็จะสามารถกำจัดกองทัพที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองเป็นสิบเท่าได้อย่างง่ายดาย!
ในความเป็นจริงมีกฎที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรในโลกนี้ที่ว่าสงครามใด ๆ ที่ขยายไปถึงฤดูหนาวจะเข้าสู่ช่วงพักรบโดยปริยาย ซึ่งนี่กลายเป็นประโยชน์ต่ออาณาจักรเล็ก ๆ จำนวนมาก
“ตามคำประกาศของพระสันตะปาปาแห่งคริสตจักรสีขาวอันสว่างไสว ‘ลินท์’ เทพเจ้าแห่งแสงสว่างหนึ่งในเทพบิดรบนสวรรค์ กับ ‘คราตอส’ เทพเจ้าแห่งสงคราม มีความขัดแย้งที่ไม่สามารถลงรอยกันได้ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ ‘ราชากันพาส’ แห่งจักรวรรดิวัลลา ซึ่งศรัทธาในเทพเจ้าลินท์ และ ‘ดยุคซิลเวอร์ฮอร์น’ ซึ่งศรัทธาในเทพเจ้าคราตอส จึงเริ่ม ‘สงครามหนึ่งปี’ ตามความประสงค์ของพระเจ้า การต่อสู้ของพวกเขาคือเกมการพนันของเทพเจ้า
“พนัน…?”
“ใช่ พวกเขามอบเกียรติในการตัดสินชัยชนะให้ราชากันพาสและดยุคซิลเวอร์ฮอร์น เพราะหากก่อสงครามระหว่างเทพเจ้าขึ้นมาจริง ๆ อาจต้องมีฝ่ายอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากมาย” หัวหน้าสาขากล่าว “พวกเขาจะรบกันที่รัฐโรมินอส หนึ่งใน 4 เมืองใหญ่ของอดีตจักรวรรดิเทียร์รา กล่าวกันว่าเมืองนี้ถูกทำลายจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง และประชาชนในเมืองก็ได้กลายเป็นผู้ลี้ภัยและกระจัดกระจายไปทั่ว”
“…”
มาร์นี่ไม่ได้พูดอะไรขณะที่เขาเฝ้าดูหัวหน้าสาขาคาดเดาผลลัพธ์ของสงครามอย่างตื่นเต้น
หากเป็นในอดีต ภายใต้อิทธิพลของสภาพแวดล้อมทั่วไปในโลกใบนี้ เขาคงจะรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ และเขาก็จะออกไปทำธุระของเขาหลังจากที่ไว้อาลัยให้กับรัฐโรมินอสสักพัก
แต่หลังจากที่เขากลายเป็นผู้เล่น เขาก็มีความคิดที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่เขาได้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกม
เทพเจ้าองค์นั้นได้มอบ ‘พร’ ที่เรียกว่า ‘ระบบ’ ให้ทุกคนที่ศรัทธาในพระองค์ และผู้ศรัทธาทุกคนก็จะกลายเป็น ‘ผู้เล่น’
เทพเจ้าแห่งเกมไม่ได้บังคับเหล่าลูกแกะของเขา พระองค์ไม่ได้เรียกร้องให้พวกเขาสวดอธิษฐานต่อพระองค์ทุกวัน หรือต้องเข้าพิธีมิสซาทุกวันอาทิตย์ และไม่ได้ต้องการให้ผู้ศรัทธาของเขาแสดงความเคารพต่อรูปสลักของพระองค์
กลับกัน ค่า EXP ที่พวกเขาต้องเก็บ มันก็เป็นเหมือนสิ่งที่คอยกระตุ้นพวกเขา มันเหมือนการให้กำลังใจจากเทพเจ้าแห่งเกม เพื่อกระตุ้นให้ผู้เล่นได้ออกไปสำรวจ เสี่ยงอันตราย และออกผจญภัยอย่างอิสระ เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ศรัทธาของเขาได้ทำตามที่หัวใจของตนต้องการ
แม้ว่าจะมีกเควสบางอย่างที่คล้ายกับคำบัญชาของเทพเจ้ามากระตุ้นเป็นครั้งคราว แต่พระองค์ก็ไม่ได้บังคับเลย ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะยกเลิกหรือไม่รับเควสได้ตามใจ แม้ว่าส่วนใหญ่พวกเขาจะไม่ทำเช่นนั้น พวกเขาชอบที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของเควสนั้น ๆ และทำมันให้สำเร็จในแบบของตัวเอง เพื่อรับรางวัลจากเทพเจ้า
หากอธิบายว่าเทพเจ้าองค์อื่น ๆ นั่งอยู่บนหัวของผู้ศรัทธาอย่างสง่าผ่าเผย ดั่งเช่นนายทาสที่คอยแกว่งแส้เพื่อกระตุ้นและกดขี่ผู้ศรัทธาของตน ให้พวกเขาอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตน เทพเจ้าแห่งเกมก็เป็นเหมือนพี่และเพื่อน พระองค์เคยเฝ้าดูเหล่าผู้ศรัทธาอย่างเงียบ ๆ เฝ้าดูการเติบโตของพวกเขา พระองค์จะค่อย ๆ ผลักดันพวกเขาจากด้านหลังเพื่อให้พวกเขาข้ามผ่านอุปสรรคที่ยากลำบากได้สำเร็จ
ยิ่งไปกว่านั้น เทพเจ้าแห่งเกมก็ไม่ได้อาศัยคำพูดของนักบวชที่พูดผ่านคำภีร์ทางศาสนาเหมือนเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ที่มักจะบอกกับผู้ศรัทธาว่าเทพเจ้าสงสารพวกเขามากแค่ไหน เพื่อรับพวกเขาเข้าศาสนา
ในความเป็นจริง มาร์นี่สามารถสัมผัสได้ว่าเทพเจ้าแห่งเกมทรงรักลูกแกะของเขาทุกคน (ซีเว่ยจามอยู่ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์)
จากการเปรียบเทียบนี้ มาร์นี่พบว่าเทพเจ้าแห่งแสงสว่างและเทพเจ้าแห่งสงครามนั้นไม่สนใจมนุษย์เลยแม้แต่น้อย พระองค์ไม่สนใจเหล่าผู้ศรัทธาของตนเลย จนถึงจุดที่พวกเขาเริ่มสงครามที่จะทำให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องตาย และทำให้ครอบครัวหลายครอบครัวถูกทำลายอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเพียงเพื่อ การพนัน…
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ราชาแห่งเทียร์ร่า ยังคงศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ไม่น่าแปลกใจที่เลยที่เทียร์ร่าจะโดนหุ่นเชิดของเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ทำลายล้างในโลกมนุษย์
มันเป็นความหดหู่ที่ไม่อาจพรรณนาได้ มาร์นี่รู้สึกอึดอัดมาก
เขารับจดหมายหลักฐานที่หัวหน้าสาขาส่งมาให้เขา และถอดแหวนที่พิสูจน์ว่าเขาเป็นสมาชิกของสมาคมหอการค้ากระดิ่งลมสีเงินคืนให้หัวหน้าสาขา ก่อนจะหันหลังจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เมื่อออกมาอยู่นอกอาคาร เขาก็สูดอากาศเย็น ๆ ของฤดูหนาวจนสุดปอด มาร์นี่พบว่าความอึดอัดในอกของเขาผ่อนคลายลง
“ข้าเริ่มคิดถึงพวกบ้านั้นในเมืองเริ่มต้นแล้วสิ…”
เขาไม่มีความคิดที่จะละทิ้งภารกิจในการเผยแพร่ศาสนาให้กับเหล่าผู้ลี้ภัย
แต่หลังจากที่เข้าใจว่าเทพเจ้าแห่งเกม อาจเป็นเทพเจ้าเพียงองค์เดียวที่ยืนอยู่ข้างมนุษยชาติ มาร์นี่จึงตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เขาจะพยายามรับผู้ศรัทธาเพิ่มโดยที่ไม่ดึงดูดความสนใจจากคริสตจักรอื่น ๆ ให้มากที่สุด
นอกจากนี้นี่ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่เขาซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดา สามารถช่วยเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่องค์นั้นได้
เมื่อมาร์นี่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าเตรียมที่จะมุ่งหน้าไปยังค่ายผู้ลี้ภัยนอกเมือง เพื่อมองหาคนที่ควรค่าแก่การเผยแพร่ศาสนา ทันใดนั้น เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่รีบร้อนวิ่งออกมาจากตรอกก็ได้ดึงดูดความสนใจของเขา
เธอดูอายุ 16 หรือ 17 ปี และดูเหมือนว่ากำลังหลบหนีอะไรบางอย่างอยู่ ถึงกระนั้นรูปลักษณ์ที่มอมแมมของเธอก็ไม่อาจปิดบังใบหน้าที่สง่างามของเธอได้ ผมหางม้าสีบลอนด์ทองของเธอขยับไหว ในขณะที่เธอวิ่งผ่าน มันเหมือนว่าเธอได้นำความอบอุ่นมาสู่ฤดูหนาวอย่างลึกลับ
ในฐานะพ่อค้าที่มีประสบการณ์ที่เดินทางมาแล้วทุกสารทิศ เขามีภูมิต้านทานกับดักสาวงามสูงมาก มาร์นี่ไม่ใช่คนประเภทที่จะตกบ่วงเสน่ห์ของสาวงามได้ง่าย ๆ สิ่งที่ดึงดูดให้เขาสนใจในตัวเด็กสาวคือชื่อสีขาวที่ลอยอยู่เหนือหัวเธอ
<ลีอา ยาการัน>
ในขณะนั้นเด็กสาวก็ได้สังเกตุเห็นมาร์นี่ที่นั่งอยู่บนรถม้าของเขา เช่นเดียวกับที่เธอเห็นชื่อผู้เล่นที่มีลักษณะเดียวกับเธอลอยอยู่บนหัวของเขา
ในตอนแรกเธอรู้สึกกระวนกระวาย เธอหยุด และลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาอย่างลังเลว่า “โอ้ เทพเจ้าแห่งเกม เราจะมีชีวิตใหม่ได้อย่างไร”
มาร์นี่รีบพยักหน้าเข้าใจ เขาตระหนักว่าเธอเป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมเหมือนกับตัวเขา เขาจึงตอบกลับไปว่า “โอ้ เทพเจ้าแห่งเกม ทรงมอบชีวิตใหม่ให้กับเรา!”
มันเป็นรหัสผ่านแบบเปิดที่ระบบมอบให้โดยเทพเจ้าแห่งเกม มันก็คล้ายกับ ‘นะโม อมิตาพุทธ’ ในศาสนาพุทธ หรือ “ฟ้าดินไม่มีที่สิ้นสุด” ในลัทธิเต๋า หรือ “เส้นขนานและน้ำตาของคู่รัก” สำหรับแฟน ๆ ภาพยนตร์จีนเรื่อง ‘ปฏิบัติการฝ่าสุริยะ(Wandering Earth)’
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด มันเป็นรหัสลับที่มีเพียงผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมเท่านั้นที่จะรู้
มาร์นี่เปิดประตูรถม้าของเขาและทำท่าทางสื่อให้ลีอารีบเข้ามาซ่อนในรถ