CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ - เล่มที่ 5 บทที่ 144 เปลวเพลิงหลังบ้าน

  1. Home
  2. ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ
  3. เล่มที่ 5 บทที่ 144 เปลวเพลิงหลังบ้าน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

“หากพระชายามีอาการอันใดให้รีบแจ้งข้าทันที”

หลงเทียนอวี้ยืนอยู่ข้างเตียงของหลินเมิ้งหยา ออกคำสั่งกับป๋ายจี

“เจ้าค่ะ”

หลังจากถวายคำนับ ป๋ายจีกลับมาสุขุมดังเดิม

เขาจ้องมองร่างบางบนเตียง หลงเทียนอวี้รู้สึกไม่อยากออกห่างจากห้องนี้เลยแม้แต่น้อย

แม้ห้องของหลินเมิ้งหยาจะตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นของยา ทว่าหลงเทียนอวี้กลับรู้สึกอบอุ่น

ด้านนอกห้อง พระอาทิตย์คล้อยไปทางทิศตะวันตกแล้ว สายลมยามค่ำคืนพัดกระทบร่าง

“หลินขุ๋ย ตรวจสอบได้ความว่าอย่างไร? ”

หลังจากที่หมิงเยว่มาถึงจวน นางถูกส่งไปยังเรือนเล็กเงียบสงบทันที

หลงเทียนอวี้รู้ดีว่าพระสนมเต๋อเฟยพยายามมากขนาดไหน แต่หมิงเยว่หาใช่ผู้หญิงที่เขาจะจริงใจด้วยไม่

เขายอมรับ หมิงเยว่มีหน้าตาที่งดงาม

แม้ลักษณะภายนอกจะดูเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากกว่าหลินเมิ้งหยา

ทว่า นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอนาง ความรังเกียจพลันผุดขึ้นในใจของเขาทันที

หมิงเยว่มีบางอย่างคล้ายคลึงกับพระสนมของเสด็จพ่อ

เขาเกิดในตระกูลของฮ่องเต้ ได้เห็นเลือดและหอกดาบจนชิน เคยเห็นกลอุบายอันแสนสกปรก เคยเห็นคนที่ยืมมือผู้อื่นฆ่าคน

ทว่า หลินเมิ้งหยากลับมีความจริงใจที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน

การได้นางมาอยู่ข้างกาย เสมือนหัวใจถูกเติมเต็ม

นางมิใช่คนประจบประแจง อีกทั้งยังเจ้าเล่ห์เพทุบาย ทว่า ทุกการกระทำกลับแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา

นางโหดเหี้ยมเฉพาะกับคนที่เข้ามายุ่มย่ามกับนางก่อน

นางปฏิบัติกับทุกคนด้วยความเที่ยงธรรม รอยยิ้มอบอุ่นอ่อนหวาน

หากไม่มีนาง เกรงว่าจวนแห่งนี้คงมีแต่เพียงความเหงา

“ตรวจสอบแล้วพ่ะย่ะค่ะ พระสนมเต๋อเฟยเป็นผู้ที่ส่งคนไปคุยกับฮ่องเต้หมิง แต่เรื่องนี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับป๋ายหลี่อู๋เฉินด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

หลินขุ๋ยกับป๋ายหลี่อู๋เฉินเป็นเพื่อนสนิทกัน

ทว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านอ๋อง เขาไม่อาจปกปิดสิ่งใดได้

“เกี่ยวข้องกับป๋ายหลี่อู๋เฉิน? เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”

กลับไปยังห้องของตนเองก่อนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า คิ้วของหลงเทียนอวี้ขมวดแน่น

“ท่านน้าจิ่นเยว่เอ่ยว่าป๋ายหลี่อู๋เฉินเป็นผู้เข้าไปพูดโน้มน้าวพระสนมเต๋อเฟยก่อน ฉะนั้นพระสนมเต๋อเฟยจึงส่งคนไปหาฮ่องเต้หมิงพ่ะย่ะค่ะ”

จิ่นเยว่มองคนออก แต่มิรู้ว่าเพราะเหตุใด นางไม่ค่อยรับฟังความเห็นของน้าจิ่นเยว่

จิ่นเยว่ไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองแม่ลูกต้องหมางเมิน ดังนั้นจึงมักจะพยายามเป็นกระบอกเสียงให้ทั้งคู่อยู่เสมอ

“ป๋ายหลี่อู๋เฉินตัวดี ข้าคิดว่าเขาคงจะลืมหน้าที่ของตนเองไปแล้ว”

ป๋ายหลี่อู๋เฉินเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่ถึงกระนั้นความภักดีของเขาก็ไร้ซึ่งข้อกังขา

แต่ไม่รู้ช่วงนี้เขาถูกสิ่งใดกระตุ้น ดังนั้นจึงมักตัดสินใจแทนเข้าเสมอ

มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวที่เขาจะไม่ยอมทนเฉย

การกระทำของเขาในครั้งนี้กระตุ้นต่อมโกรธของหลงเทียนอวี้

ภายในตำหนักหยาเสวียน นานมากแล้วที่ไม่มีเสียงหัวเราะ

หมิงเยว่มาที่นี่เพื่อทำให้พระสนมเต๋อเฟยคลายเหงา ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทียบกับคนตรงไปตรงมาอย่างหลินเมิ้งหยา นางมักจะใช้วาจาอ่อนหวานเย้าแหย่พระสนมเต๋อเฟย

ปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตนเองเอาไว้จนมิด ผันตัวเป็นกุลสตรีผู้สง่างาม ดังนั้นพระสนมเต๋อเฟยจึงใจอ่อนเมื่อเห็นนาง

แต่ว่า…มีได้ก็ย่อมมีเสีย

ท่าทางอ่อนโยนอ่อนหวานเช่นนี้ มิใช่คนที่พระสนมเต๋อเฟยจะเลือกมาเป็นพระชายาเอกอย่างแน่นอน

ไม่ว่าที่ซีฟานหรือต้าจิ้น ผู้ที่ช่วยค้ำจุนฟู่จวินได้ต่างหาก จึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งชายาเอก

ยกเว้นว่าหลินเมิ้งหยาจะเจ็บไข้ได้ป่วยจนไม่อาจลุกขึ้นยืนได้หรือตายไป

เช่นนั้นตำแหน่งชายาเอกก็จะตกอยู่ในกำมือของหญิงสาวตรงหน้า

“องค์หญิงทั้งงดงามและอารมณ์ดี พระสนมเต๋อเฟยมิได้อารมณ์ดีเช่นนี้มานานแล้วเพคะ”

จิ่นเยว่ยกขนมมาด้วยตนเอง ทว่าดวงตาเผยให้เห็นร่องรอยของความผิดหวัง

“นับเป็นเกียรติของเยว่เอ๋อร์ยิ่งนัก ตอนที่ยังอยู่บ้าน เสด็จแม่มักจะรับสั่งเสมอว่าสุภาพสตรีอันดับหนึ่งแห่งต้าจิ้นมิใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพระสนมเต๋อเฟย วันนี้หม่อมฉันได้มาเห็นกับตาตัวเองแล้ว รู้สึกว่าพระองค์งดงามสมคำร่ำลือยิ่งนัก หากเยว่เอ๋อร์สามารถเรียนรู้งานได้สักครึ่งหนึ่งของพระองค์ เช่นนั้นหม่อมฉันจะต้องเก่งขึ้นอย่างแน่นอน”

น้ำเสียงอ่อนหวานละมุนละไม ทุกคำพูดที่เอื้อนเอ่ยล้วนแสดงให้เห็นถึงความเคารพนับถือ

พระสนมเต๋อเฟยหยักยิ้มอ่อนโยน เห็นได้ชัดว่าพระองค์ชอบคำชมเช่นนี้มาก

“ปากหวานเสียนี่กระไร เหมือนกับหย๋าเอ๋อร์ไม่มีผิด จิ่นเยว่ หย๋าเอ๋อร์อาการเป็นอย่างไรบ้าง?”

หลินเมิ้งหยาเจ็บไข้ได้ป่วยจนนอนซม พระสนมเต๋อเฟยรู้ต้นสายปลายเหตุดีว่าเพราะอะไร

เหตเพราะร่างกายเปียกฝนจึงทำให้เจ็บป่วย

ร่างกายของเด็กคนนี้แท้จริงอ่อนแอ เพียงเพราะลมหนาวก็สามารถทำให้นางเจ็บป่วยเกือบตายได้ หากภายภาคหน้ามีหลานให้กับนาง หลานของนางจะมิอ่อนแอตามกระนั้นหรือ?

เมื่อเทียบกับหมิงเยว่ ร่างกายของนางเหมาะสมยิ่งกว่า

บางที นางอาจเลือกชายารองได้ถูกคนแล้ว

“หย๋าเอ๋อร์อาการดีขึ้นมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอบพระทัยหมู่เฟยที่เป็นห่วง”

ขณะที่จิ่นเยว่ไม่รู้ว่าจะกราบทูลพระสนมเต๋อเฟยเช่นไร เสียงของหลงเทียนอวี้พลันดังขึ้นจากทางด้านหลัง

พวกนางหันหน้าไปมอง ก่อนจะได้เห็นหลงเทียนหยู๋ในชุดสีทองเข้มเดินสาวเท้ายาว ๆ เข้ามา

“เอ๋อร์จื่อถวายคำนับหมู่เฟย”

แม้จะเปลี่ยนชุดแล้ว แต่กลิ่นยายังคงติดตัวมา ดังนั้นภายในห้องโถงจึงเต็มไปด้วยกลิ่นยาจากตัวของเขา

พระสนมเต๋อเฟยขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความกังวล

“หมู่เฟยรู้ว่าเจ้าเอ็นดูพระชายามาก แต่เมื่อเจ้านายป่วย คนที่ต้องคอยปรนนิบัติรับใช้คือสาวใช้ เหตุใดเจ้าต้องไปขลุกอยู่ที่นั่นให้เสียเรื่อง หากเกิดเจ็บป่วยตามมา คนทั้งจวนคงลำบากไปหมด”

ใช่ว่าพระสนมเต๋อเฟยจะไม่เอ็นดูหลินเมิ้งหยา แต่นางเอ็นดูลูกชายของตนเองมากกว่า

โดยเฉพาะ หลังจากที่ได้เห็นหลงเทียนอวี้เอาใจใส่หลินเมิ้งหยาเป็นอย่างมาก หัวใจของนางทั้งรู้สึกยินดีและกังวล

ลูกชายของนางต้องทำการใหญ่ให้สำเร็จ

การรักและเอ็นดูผู้หญิงคนเดียวมิใช่เรื่องดี

หากมิใช่เพราะฮ่องเต้รักและเอ็นดูพวกนางสองแม่ลูก เกรงว่าฮองเฮาก็คงไม่เคียดแค้นพวกนางถึงเพียงนี้

“เอ๋อร์จื่อรู้ดีพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้หย๋าเอ๋อร์ไม่เป็นอะไรแล้ว หมู่เฟยได้โปรดวางพระทัย”

หลงเทียนหยู๋หลุบตาต่ำ สายตามิเลื่อนไปมองหมิงเยว่เลยแม้แต่น้อย

แม้นางจะสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์สวยงามหลากสีสัน เกล้าผมสูงดูสง่างามดึงดูดสายตา

แต่นางกลับเทียบไม่ได้กับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าขาวซีดอย่างหลินเมิ้งหยา

หลินเมิ้งหยาคือคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา

“ท่านอ๋อง นี่เป็นยาบำรุงร่างกายที่เสด็จพ่อนำมาให้เพคะ ยาชนิดนี้เป็นสูตรลับของราชวงศ์แห่งซีฟาน แก้อาการหนาวสั่นได้เป็นอย่างดี พระองค์ลองเอาไปให้พระชายากินดูเถิดเพคะ”

นางรับกล่องไม้ขนาดเล็กมาจากสาวใช้ที่อยู่ทางด้านหลัง

กล่องไม้รูปร่างหน้าตาธรรมดา ทว่ากลับบ่งบอกถึงความเป็นซีฟานได้อย่างชัดเจน

“ไม่จำเป็น หมอหลวงมีความรู้ความสามารถ ตอนนี้หย๋าเอ๋อร์อาการดีขึ้นแล้ว”

ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย หลงเทียนอวี้รู้สึกได้ว่าคนของฮ่องเต้หมิงมิได้ประสงค์ดีกับหลินเมิ้งหยา

“อวี้เอ๋อร์ องค์หญิงมีน้ำพระทัย เหตุใดจึงปฏิเสธเยี่ยงนี้”

พระสนมเต๋อเฟยเอ่ยด้วยความไม่พึงพอใจ แต่นางรู้ดีว่าอวี้เอ๋อร์มีอุปนิสัยดื้อรั้น

เกรงว่าบ้านเล็กที่นางเป็นผู้เลือกให้เขาในครานี้ จะทำให้เขาตั้งแง่กับองค์หญิงหมิงเยว่เสียแล้ว

ดังนั้นในเมื่อไม่มีทางเลือก แต่ถ้าหากทั้งสองคนมีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง อวี้เอ๋อร์อาจจะมองเห็นความดีของหมิงเยว่ก็ได้

ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ไม่สำคัญ ขอเพียงได้ผลลัพธ์ออกมาก็เพียงพอ

“ไม่เป็นไรเพคะ พี่รองเคยปฏิบัติกับพระชายาไม่ดี สมควรแล้วที่ท่านอ๋องจะไม่ไว้พระทัย”

มิได้แสดงสีหน้าอึดอัดออกมา แต่กลับเผยให้เห็นถึงความเข้าอกเข้าใจ

พระสนมเต๋อเฟยพึงพอใจเป็นอย่างมาก แต่อุปนิสัยใจคอของลูกชายตนเองดื้อรั้นจนเกินไป

“แม้จะเคยเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น แต่ถึงอย่างไรองค์หญิงหมิงเยว่กับพวกเราก็มิใช่คนอื่นคนไกลกันแล้ว อวี้เอ๋อร์ รีบรับของเถิด”

พระสนมเต๋อเฟยบีบบังคับ หลงเทียนอวี้รู้สึกไม่พึงพอใจ

แม้แต่ก่อนจะถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับหลินเมิ้งหยา แต่เขายังไม่เคยโกรธมากขนาดนี้

หมู่เฟยเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

“หมู่เฟย เอ๋อร์จื่อยังมีเรื่องให้ต้องทำ กระหม่อมขอทูลลา”

ยิ่งพูดยิ่งยุ่งยาก หลงเทียนอวี้ลุกขึ้นแล้วจากไป

ทิ้งพระสนมเต๋อเฟยและหมิงเยว่ไว้ทางด้านหลัง หลงเทียนอวี้กลับไปพร้อมความโกรธ

ดวงตาคู่สวยเจือไว้ซึ่งความโศกเศร้า พระสนมเต๋อเฟยไม่รู้ว่าควรเอ่ยรั้งลูกชายตนเองอย่างไร

หลังจากเด็กคนนี้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ พวกนางก็ยิ่งรู้สึกเหินห่างกันมากขึ้นทุกที

เพราะเหตุใดอวี้เอ๋อร์จึงโกรธเกรี้ยวมากถึงเพียงนี้?

ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อเขามิใช่หรือ?

“เหนียงเหนียง ในฐานะที่เป็นผู้หญิง หม่อมฉันอดนึกอิจฉาพระชายาไม่ได้เลยเพคะ ท่านอ๋องให้ความสำคัญพระชายามากเหลือเกิน แม้แต่ที่ซีฟานก็หาคนอย่างท่านอ๋องได้ยากยิ่ง”

ดวงตาของหมิงเยว่เผยให้เห็นความอิจฉา

พระสนมเต๋อเฟยยิ่งคิดยิ่งรู้สึกดีใจไม่ออก

คิดไม่ถึงเลยว่าลูกของนางกับหลินเมิ้งหยาจะรักกันหวานซึ้งถึงเพียงนี้

บางทีอาจเป็นไปตามที่ป๋ายหลี่อู๋เฉินพูดเอาไว้ไม่ผิด หลินเมิ้งหยาจะกลายเป็นอุปสรรคในความสำเร็จของหลงเทียนอวี้

ทว่า เมื่อหวนคิดดูอีกครั้ง หลินเมิ้งหยาเป็นคนฉลาด บางทีอาจเพราะอาการเจ็บป่วย ดังนั้นอวี้เอ๋อร์จึงรู้สึกกังวล

“ใช่แล้ว แต่การได้รับองค์หญิงเข้ามาก็ถือว่าชีวิตนี้ไม่เสียเปล่า”

หมิงเยว่พยักหน้าเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจนัก ตอนแรกนางคิดจะมาที่นี่เพื่อสร้างความร้าวฉานระหว่างพระสนมเต๋อเฟยและหลินเมิ้งหยา

แต่ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าพระสนมเต๋อเฟยพึงพอใจในตัวลูกสะใภ้คนนั้นเหลือเกิน

นางหยักยิ้ม ทว่าในใจคิดหาวิธีอื่น

ภายในตำหนักหลิวซิน สาวใช้ทั้งสี่ รวมถึงหลินจงอวี้และชิงหูไม่ได้นอนหลับสนิทกันมาหลายวันแล้ว

ง่วง…แต่ก็ทำเพียงฟุบหลับข้างเตียงหลินเมิ้งหยาประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น

หิว…วิ่งออกไปกินข้าวเพียงไม่กี่คำแล้วก็รีบวิ่งกลับเข้ามา

ฉะนั้น ทุกคนจึงซูบผอมลง

โดยเฉพาะเยว่ฉีและป๋ายจื่อที่อายุยังน้อย ดวงตาของพวกนางแดงก่ำ ปูดบวมเหมือนลูกท้อ

“ยาก็กินแล้ว โจ๊กก็กินแล้ว พวกเจ้าหมั่นเช็ดตัวให้พระชายา หากที่นอนเปียก จงรีบเปลี่ยนทันที ช่วงบ่ายสามารถโดนลมได้สักครึ่งชั่วโมง ส่วนเวลาอื่นให้ปิดประตูหน้าต่างจนสนิท อีกทั้งยาที่หมอหลวงจ่ายให้ จะต้องทำให้อุ่นอยู่เสมอ ยาจึงจะออกฤทธิ์ดี”

หมอหลวงอายุมากแล้ว เขามิอาจนั่งเฝ้าได้อย่างพวกเด็กอายุยังน้อยเหล่านั้น

กำชับเรียบร้อย ก่อนจะกลับไปยังห้องพักที่พ่อบ้านเติ้งจัดเตรียมไว้ให้

Related

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "เล่มที่ 5 บทที่ 144 เปลวเพลิงหลังบ้าน"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์