คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย - บทที่ 225 ทารกสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
หลังทารกถูกเอ่ยชมรอบหนึ่งก็ถูกราชครูหิ้วขึ้นโยนลงลาวาด้านล่าง จินเฟยเหยาไม่ได้ขยับ นางมองเด็กทารกคนนั้นถูกโยนลงไป ดวงตามองท่านอ๋องหมาจื่อที่ยืนอยู่บนแท่นราบและทำมุทราร่ายเวททันที
บีบให้ผู้บำเพ็ญเซียนสตรีให้กำเนิดบุตรของตนเอง จากนั้นใช้ทารกที่มีสายสัมพันธ์ทางโลหิตเซ่นสังเวยหรือ? เป็นเศษสวะในกองขยะจริงๆ เจ้าก็ไปอยู่ด้วยเสียเถอะ จินเฟยเหยาขยับจิต ทงเทียนหรูอี้แหวกอากาศวูบ ชั่วพริบตาก็ปรากฏขึ้นด้านหลังราชครู
“อา!” ราชครูร้องโหยหวน ทงเทียนหรูอี้กลายเป็นกระบี่ยาวสองเล่ม เสียบทะลุร่างของราชครูแบบหนึ่งหน้าหนึ่งหลัง จินเฟยเหยาเผยร่างด้วยใบหน้าชั่วร้าย พลิกฝ่ามือเบาๆ ทงเทียนหรูอี้ที่ทะลุร่างราชครูกลายเป็นหนามแหลมและหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง
กระดิกสองนิ้ว ทงเทียนหรูอี้ก็ลอยวูบออกมาจากซากที่เหลือของราชครู และกลายเป็นเงาตกค้างพุ่งไปยังท่านอ๋องหมาจื่อซึ่งกำลังทำมุทราร่ายเวทตามที่จินเฟยเหยาชี้
จินเฟยเหยาโจมตีอย่างกะทันหันเกินไป พอราชครูร้องคำหนึ่งก็ถูกฟันเป็นสองท่อน บรรดาผู้บำเพ็ญเซียนสตรีที่ถูกขังอยู่ในถ้ำมองเห็นฉากนี้กับตา ทุกคนเงียบลง มีเพียงอวี้จูที่คว้ารั้วเหล็กตะโกนลั่นอย่างตื่นเต้น “ผู้อาวุโส ท่านมาช่วยข้าแล้ว! รีบอัดพวกเขาให้ตาย! ในถ้ำนี้มีวงเวทป้องกันพลังวิญญาณ ข้าใช้พลังวิญญาณไม่ได้เลยสักนิด! ท่านระวังด้วย!”
“ผู้อาวุโสช่วยด้วย! ข้าเป็นศิษย์วังอวิ๋นไถ”
“ข้าเป็นศิษย์สำนักไท่ฉง ผู้อาวุโสโปรดยื่นมือช่วยเหลือด้วย!
“ช่วยข้าด้วย ผู้อาวุโส! ข้าคือบุตรสาวของผู้อาวุโสสำนักชวีเอ๋อ บิดาข้าต้องตอบแทนผู้อาวุโสอย่างหนักแน่!”
“ผู้อาวุโส! ผู้อาวุโส…”
บรรดาผู้บำเพ็ญเซียนสตรีที่ได้สติขึ้นมา รีบเขย่าประตูเหล็กราวกับใช้กระทะทอดพลางร้องตะโกนไม่หยุด ทำให้พวกผู้บำเพ็ญเซียนสตรีในถ้ำอันมืดมิดซึ่งไม่มีความหวังใดๆ ในชีวิตแล้วปั่นป่วนขึ้นมา
พวกนางส่วนน้อยถูกขังมาสิบกว่าปีแล้ว ส่วนมากถูกขังมาร้อยปีแล้ว หากมิใช่ผู้บำเพ็ญเซียนสตรีต่างชอบคงรูปโฉมไว้เกรงว่าคงกลายเป็นหญิงชราผมขาวหมดแล้ว
มีสตรีปรากฏตัวขึ้นหลังประตูเหล็กมากขึ้นทุกที มองเห็นจินเฟยเหยาผ่านรั้ว นี่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนขั้นหลอมรวม คนที่ขาดเป็นสองท่อนบนแท่นราบคือราชครูที่น่าชัง ร้อยปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ไฟแห่งความหวังที่ดับมอดไปนานแล้วของบรรดาผู้บำเพ็ญเซียนสตรีถูกจุดขึ้นมาใหม่ บางคนถึงกับเริ่มมีน้ำตาอุ่นร้อนไหลลงอาบหน้า
ทงเทียนหรูอี้ที่โจมตีไปทางท่านอ๋องหมาจื่อถูกแสงรูปมังกรที่เสื้อคลุมมังกรบนร่างของเขาพ่นออกมาดีดสะท้อนกลับมา จึงพบว่าเจ้าหมอนี่ไม่ได้ยากจนมากนักยังมีสิ่งของมีค่าหลายชิ้น
เมื่อครู่สายตาของนางถูกความอัปลักษณ์ของท่านอ๋องหมาจื่อดึงดูดไว้ ไม่ได้สังเกตเห็นเสื้อคลุมมังกรซึ่งเป็นของวิเศษชั้นยอดบนร่างของเขา ตอนนี้มังกรทองตัวหนึ่งออกมาจากเสื้อคลุมมังกร และหมุนวนป้องกันรอบท่านอ๋องหมาจื่ออย่างแน่นหนา
คงไม่ใช่ทายาทต้งหวงจริงๆ จินเฟยเหยาขมวดคิ้วนิดๆ ถ้าเป็นทายาทราชวงศ์จริง ในมือต้องมีสมบัติของเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน มังกรทองในชุดอาคมชิ้นนี้ให้ความรู้สึกมีอานุภาพยิ่ง น่าเสียดายพอเห็นใบหน้าของเขา อานุภาพก็กลายเป็นความว่างเปล่าในพริบตา
“สังเวย!” มุทราร่ายเวทของท่านอ๋องหมาจื่อนับว่าท่องเสร็จสิ้นแล้ว
ที่จริงตั้งแต่เขาท่องอาคม จนราชครูโยนเด็กน้อยแล้ว มาจนถึงจินเฟยเหยาลงมือ เพียงผ่านไปไม่กี่อึดใจเท่านั้น ทว่าทารกร่วงถึงตำแหน่งเหนือลาวาสามจั้งก็หยุดลง หลังจากท่านอ๋องหมาจื่อท่องคาถาเสร็จสิ้น ในลาวาพลันมีคลื่นความร้อนขุมหนึ่งทะยานขึ้นในพริบตา
“ระวัง!” ผู้บำเพ็ญเซียนสตรีจำนวนมากในถ้ำรอบด้านตะโกนขึ้น จินเฟยเหยาไถลตัวออกไปด้านหลังอย่างระแวดระวังเพื่อหลบหลีกคลื่นความร้อนเหล่านั้น
มือกระดูกสูงเท่าคนสองคนท่อนหนึ่งที่มีลาวาติดอยู่เกาะพยุงด้านข้างหลุม ต่อมาหัวกะโหลกขนาดยักษ์โผล่ออกมาจากหลุม จากนั้นทารกคนนั้นก็ลอยเข้าไปในปากของหัวกะโหลก ทารกเพิ่งเข้าปากในดวงตาอันว่างเปล่าของหัวกะโหลกก็มีเปลวเพลิงสีแดงสองดวงปรากฏขึ้น
“เจ้าสังหารสนมรักของข้าก็อย่าหมายจะหนีรอดออกจากวังต้งหวงเลย เจ้าวางใจได้ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าแต่จะใช้ร่างขั้นหลอมรวมของเจ้าให้กำเนิดเด็กที่มีคุณสมบัติสูงจำนวนมาก เพื่อใช้หลอมสร้างทารกสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของข้า!” มังกรทองที่วนรอบกายท่านอ๋องหมาจื่อเหินร่อนลงบนหัวกะโหลก มือขวาของเขากุมกระบี่ที่พันด้วยมังกรทองเล่มหนึ่ง ยืนอยู่ด้านบนราวกับตุ่มเนื้อพลางตะโกนอย่างเดือดดาล
พวกเจ้าอีหวังอู่ที่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนสวมชุดข้ารับใช้ขุนนาง ได้ยินความเคลื่อนไหวประหลาด จึงวิ่งออกมาจากในอุโมงค์แต่ละมุม มีถึงสี่สิบห้าสิบคนเต็มๆ ล้อมกรอบจินเฟยเหยาไว้
จินเฟยเหยาไม่เหลือบแลพวกสมุนรับใช้ตัวเล็กๆ สักนิด โยนพั่งจื่อและต้านิวออกมาให้พวกมันสองตัวจัดการผู้บำเพ็ญเซียนขั้นฝึกปราณและขั้นสร้างฐานเหล่านี้
ส่วนนางกลับมองพินิจซ้ายขวา เอ่ยด้วยสีหน้าดูแคลน “หลุมดินผุพังแห่งนี้คือวังต้งหวงที่เจ้าบอก? โกโรโกโสเกินไปหน่อยกระมัง เจ้าเป็นฮ่องเต้หรือท่านอ๋องกันแน่ ฐานะแปลกประหลาดจริงๆ”
วังหลวงที่ตนเองภาคภูมิใจ คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนบอกว่าเป็นหลุมดินผุพังทำให้ท่านอ๋องหมาจื่อเดือดดาล กระบี่ในมือของเขาชี้จินเฟยเหยาพลางเอ่ยอย่างแค้นเคือง “หยุดพูดจาเหลวไหล ราชวงศ์ต้งหวงของข้าเป็นราชวงศ์หมื่นปี นี่เป็นเพียงวังแห่งหนึ่งของข้า รอจนข้าหลอมสร้างทารกสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ออกมา โลกวิญญาณเป่ยเฉินจะเป็นของข้าทั้งหมด ถึงตอนนั้นข้าจะสร้างวังหลวงที่คู่ควรกับข้า!”
“เช่นนั้นหรือ? ถึงตอนนั้นเจ้าจะเป็นท่านอ๋องหรือฮ่องเต้?” ราวกับจินเฟยเหยาคิดจะทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้กระจ่างจึงเอียงศีรษะเอ่ยถามอีก
ท่านอ๋องหมาจื่อตะลึงงันไปนิด จึงเอ่ยเสียงดัง “จะสนใจทำไมว่าข้าจะเป็นอะไร ข้าอยากเป็นท่านอ๋องก็เป็นท่านอ๋อง อยากเป็นฮ่องเต้ก็เป็นฮ่องเต้!”
ท่าทางเจ้าหมอนี่จะอาศัยอยู่ใต้ดินมานานเกินไปจึงวิปลาสนิดหน่อย จินเฟยเหยาถอนหายใจ เหตุใดผู้ฝึกบำเพ็ญที่ฝึกเคล็ดวิชาชั่วร้ายล้วนดูแล้วบ้าๆ บอๆ ทว่าผู้บำเพ็ญเซียนขั้นสร้างฐานลงไปสี่สิบห้าสิบคนนั้นดูแล้วไม่ได้บ้าขนาดนี้ เพราะเหตุใดจึงเชื่อฟังคำพูดของคนผู้นี้หรือว่าถูกบังคับ?
นางเพิ่งคิดเช่นนี้ ท่านอ๋องหมาจื่อฝั่งตรงข้ามก็เอ่ยอย่างกระหยิ่ม “ต่อให้เจ้าเป็นผู้บำเพ็ญเซียนขั้นหลอมรวมแล้วอย่างไร ขอเพียงมีกลุ่มบุตรชายที่เป็นองครักษ์ของข้าอยู่ ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นหลอมรวมช่วงต้นอย่างเจ้าก็ได้แต่เป็นอนุภรรยาของข้า”
“บุตรชายที่เป็นองครักษ์? พวกนี้เป็นบุตรของเจ้าทั้งหมด!” จินเฟยเหยามองดูอีกครั้งอย่างตกตะลึง คนเหล่านี้หน้าตาคล้ายท่านอ๋องหมาจื่ออยู่บ้างจริงๆ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่หน้าตาดีกว่าเขามากนัก น่าจะได้แม่มา
ได้แม่มา…
จินเฟยเหยาอดเงยหน้าขึ้นมองถ้ำด้านบนไม่ได้ เห็นผู้บำเพ็ญเซียนสตรีจำนวนมากกุมศีรษะกรีดร้องขึ้นมาอย่างตกใจ ความหมายในนั้นไม่ต้องบ่งบอกด้วยคำพูด
“สังหารพวกเขา! สังหารพวกเขาให้หมด!” ผู้บำเพ็ญเซียนสตรีขั้นสร้างฐานคนหนึ่งในถ้ำแห่งหนึ่งจับรั้วเหล็กแน่น ร้องตะโกนขึ้นมาราวกับผีร้าย
ราวกับท่านอ๋องหมาจื่อสำราญกับเสียงร้องเช่นนี้อย่างยิ่ง เขาดูแคลนจินเฟยเหยาอย่างกระหยิ่มใจ ถ้าจับตัวผู้บำเพ็ญเซียนขั้นหลอมรวมคนนี้มาให้กำเนิดบุตรได้ นี่เป็นโอกาสดีที่จะแสดงอานุภาพของข้าให้ประจักษ์
พลังการบำเพ็ญเพียรของสตรีเหล่านี้ต่ำเกินไป โดยเฉพาะสตรีขั้นฝึกปราณอยู่ไม่ถึงร้อยปีก็ตายแล้ว อย่างมากที่สุดให้กำเนิดบุตรได้เพียงสามสี่สิบคน ขั้นหลอมรวมมีชีวิตได้ยาวนานน่าจะให้กำเนิดได้หลายร้อยคน
“เจ้ามาเป็นฮองเฮาของข้าเถอะ ให้กำเนิดองค์ชายให้ข้าเยอะๆ ทารกสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ยังขาดทารกอีกหนึ่งพันสองร้อยสิบสามคนจึงหลอมสร้างออกมาได้ ถึงตอนนั้นพวกเราสองคนจะเป็นใหญ่ในโลกเป่ยเฉินด้วยกัน ข้าเป็นท่านอ๋อง เจ้าเป็นฮองเฮา!” ท่านอ๋องหมาจื่อพลันเกิดความคิดขึ้น ลืมราชครูที่ตายไป เสนอเงื่อนไขดีๆ ออกมา
จินเฟยเหยามุมปากกระตุก “เจ้าบ้าหรือเปล่า! ให้กำเนิดท่านปู่เจ้าสิ แม้แต่ความสัมพันธ์ของท่านอ๋องกับฮองเฮายังไม่เข้าใจกระจ่าง เจ้ายังคิดจะเป็นใหญ่ในโลกเป่ยเฉินอีก! อาศัยรูปโฉมราวกับมูลสุกรของเจ้า พลังการบำเพ็ญเพียรขั้นหลอมรวมช่วงปลาย และกระดูกห่วยๆ ของเจ้ากองนั้นหรือ?”
ท่านอ๋องหมาจื่อไม่ชอบให้คนเอ่ยถึงรูปโฉมของตนเองมาตลอด ได้ยินจินเฟยเหยาด่าเขาว่าหน้าตาเหมือนมูลสุกร ก็หมดอารมณ์อยากให้นางให้กำเนิดทารกในพริบตา มีเพียงเพลิงโทสะเรืองโรจน์เต็มท้อง แม้แต่กระต่ายยังมีโทสะอยู่สามส่วน ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงมูลสุกรกองนี้
“สังหารนางเสีย!” ท่านอ๋องหมาจื่อโยนแสงสีเขียวสายหนึ่งออกไปอย่างเดือดดาล ในเวลาเดียวกันก็ร่ายรำกระบี่มังกรและคำรามขึ้น
แสงสีเขียวพุ่งตรงใส่จินเฟยเหยา เห็นได้ชัดว่าเป็นน้ำเต้าเล็กๆ ก่อนหน้านี้ ของสิ่งนี้สามารถตรึงร่างได้ นางรีบกระโดดเหินร่างขึ้น แสงสีเขียวเฉียดข้างกายนางไปสาดส่องลงบนพื้น อันตราย
สิ่งของแบบนี้ได้แต่ใช้โจมตีกะทันหัน ถ้าใช้ตอนที่ผู้อื่นมีการระวังป้องกัน โดยพื้นฐานแล้วจะถูกคนหลบหลีกได้
“ไป!” จินเฟยเหยาเหาะขึ้นกลางอากาศ ทงเทียนหรูอี้กลายเป็นสายยาวอันอ่อนนุ่มสองเส้น บิดตัวราวกับมังกรและงู เส้นหนึ่งในนั้นพุ่งเข้าใส่ท่านอ๋องหมาจื่อ อีกเส้นหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่น้ำเต้าเล็กๆ สีเขียว
ส่วนพั่งจื่อและต้านิวก็สูดลมหายใจลึกๆ เปลี่ยนร่างเป็นสูงห้าหกจั้ง เหยียบลงไปดังตึงและใช้ฝ่ามือตบ ตีจนเศษหินปลิวว่อน ฟาดคนออกไปราวกับใบไม้แห้ง จากนั้นก็ใช้ลิ้นโจมตีราวกับพายุฝน
ทงเทียนหรูอี้ใช้มุมหนึ่งพุ่งเข้าใส่ท่านอ๋องหมาจื่ออย่างเจ้าเล่ห์ มังกรทองบนเสื้อคลุมของเขากลับเป็นฝ่ายทะยานขึ้น ทงเทียนหรูอี้ค้นหาช่องว่างในการป้องกันไม่หยุด คิดจะข้ามมังกรทองไปโจมตีท่านอ๋องหมาจื่อโดยตรง แต่ความเร็วในการหมุนวนของมังกรทองน่าทึ่งอย่างยิ่ง การโจมตีของทงเทียนหรูอี้ถูกมันสกัดไว้ได้หมด
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! การป้องกันของเสื้อคลุมมังกรทองทำลายไม่ได้ง่ายๆ ทารกสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ให้นางลิ้มลองความร้ายกาจของเจ้าหน่อย!” ท่านอ๋องหมาจื่อยื่นมือออกมาชี้จินเฟยเหยา ทารกสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ก็ขยับตัว
ส่วนทางด้านจินเฟยเหยา น้ำเต้าเล็กๆ สีเขียวยังไล่ตามนางอยู่ แสงสีเขียวที่พุ่งออกมากจากปากน้ำเต้ากดดันเข้ามาใกล้ ส่วนทงเทียนหรูอี้ขอเพียงเข้าใกล้น้ำเต้าเมามายจิตก็จะผนึกตัว รอจนเข้าใกล้ได้น้ำเต้าเมามายจิตก็ไปจากที่เดิมแล้ว เนิ่นนานก็ยังตีไม่โดน
“เก็บ!” จินเฟยเหยามีโทสะแล้ว ถ้าไม่เกรงว่าคนหลายร้อยคนนี้จะเห็นว่าปราณวิญญาณของตนเองเป็นสีดำ นางคงใช้ไฟนรกเผาน้ำเต้าใบนี้ไปนานแล้ว
ตามเสียงตะโกนของนาง ทงเทียนหรูอี้ไม่เป็นเส้นยาวๆ อีกต่อไป ทว่ากลายเป็นผืนผ้าอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าใส่น้ำเต้ามอมเมาจิตอีกครั้งอย่างมืดฟ้ามัวดิน
จินเฟยเหยามองด้วยหางตา พบว่าทารกสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้ตลอดร่างมีดวงแสงสีดำลอยขึ้น ไอหยินแผ่กระจายออกมา วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนพ่นออกมาจากแสงสีดำเหล่านั้น ทั้งหมดเป็นวิญญาณทารก พวกเขาทะยานขึ้นกลางอากาศและส่งเสียงร่ำไห้ จากนั้นรวมเข้าด้วยกันพุ่งกลับไปยังร่างทารกสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
วิญญาณแค้นรวมตัวเป็นเนื้อหนัง ทารกสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ปีนออกจากหลุมลาวา ใบหน้าวิญญาณทารกเหล่านั้นบัดเดี๋ยวขึ้นมาบัดเดี๋ยวลงไปอยู่บนร่างของมัน ดูแล้วทำให้คนรู้สึกขยะแขยง
ในเวลานี้ ผ้าทงเทียนหรูอี้รวบเข้าหากันในขณะที่น้ำเต้ามอมเมาจิตคิดจะหนีออกจากวงล้อมแล้วห่อมันไว้
ทงเทียนหรูอี้ที่ห่อน้ำเต้ามอมเมาจิตบินมาอย่างรวดเร็ว จินเฟยเหยาใช้ฝ่ามือกดด้านบนทงเทียนหรูอี้ การรับรู้ทะลักเข้าไปในน้ำเต้ามอมเมาจิตอย่างบ้าคลั่ง ใช้กำลังสะบั้นการรับรู้ของท่านอ๋องหมาจื่อทิ้ง จากนั้นนางใช้มือกระตุก น้ำเต้ามอมเมาจิตก็ถูกนางเก็บลงในถุงเฉียนคุน
……………………………….