ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง - บทที่ 21 อยากเอาลูกไว้ ก็ต้องแต่งงานกับผม
ครูริฐาเขย่าแขนของเธออย่างแปลกใจ คุณครูเชอร์รีน!
เมื่อรอให้เชอร์รีนได้สติตอบกลับมา ออกัสก็มายืนอยู่ตรงด้านหน้าของเธอแล้ว และพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเลย ไปเถอะ
เขาใส่ชุดสูทที่ตัดเย็บเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ความหรูหรามีระดับจากภายในมันแผ่ออร่าออกมาภายนอก ยิ่งทำให้ไม่เป็นส่วนเดียวกับร้านกาแฟนี้เลย
ร่างกายสั่นเล็กน้อย เธอจิกเล็บเข้าเนื้อนุ่มในอุ้งมือ พร้อมทั้งพยายามรักษาสีหน้าของตนเองให้สงบลงด้วย ฉันมีธุระ
สามารถยื้อเวลาได้สักพัก ก็จะยื้อเอาไว้ ขอแค่มีโอกาสสักนิด เธอก็จะวิ่งหนีเตลิดไปเลย!
สายตาของครูริฐาประเมินผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงด้านหน้า ความเป็นแม่สื่อที่อยู่ในตัวพลันออกอาการทันที
รูปร่าง กิริยามารยาท เป็นของชั้นดีเกรดพรีเมี่ยมเลย เธอใช้ชีวิตมาค่อนชีวิต ยังไม่เคยเจอผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาเร้าใจขนาดนี้มาก่อนเลย
คุณครูเชอร์รีน คนนี้คือใครเหรอ? ครูริฐากลอกตาไปมาอย่างรวดเร็ว
ผู้ปกครองของนักเรียนค่ะ เชอร์รีนตอบเลี่ยงประเด็นให้ผ่อนหนักเป็นเบา
ออกัสย่นคิ้วหากันเล็กน้อย และเริ่มหมดความอดทน แค่ยังคอรอคอยอยู่
คุณคะ เรื่องปัญหาเกี่ยวกับการเรียนเดี๋ยวค่อยคุยกับคุณครูเชอร์รีนหลังจากนี้ได้ไหมคะ ตอนนี้เธอกำลังดูตัวอยู่ค่ะ ไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ ครูริฐาใช้น้ำเสียงอย่างระมัดระวัง ผู้ชายคนนี้เห็นก็รู้แล้วว่ามีแบล็กกราวน์ดี ยังไงก็ต้องระวังให้ดีสักหน่อย
ออกัสเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นถึงได้สนใจในตัวของผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็เป็นคนทั่วไป ไม่มีจุดเด่นตรงไหนที่ทำให้คนจดจำเลย
ชายหนุ่มวัยรุ่นลุกขึ้นยืน การถูกบรรยากาศกดดันอย่างหนัก จนเขาแสดงอาการอึดอัดออกมาเล็กน้อย สวัสดีครับ
ออกัสพยักหน้าให้อย่างเย็นชา นั่นก็หมายถึงการตอบโต้ของเขาแล้ว สายตากลับจ้องที่ตัวของเชอร์รีนอีกครั้ง ยังไม่ไปอีกเหรอ? คุณครูเชอร์รีน?
การถูกเพิกเฉยจนแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ชายหนุ่มอายุน้อยกว่าจึงเอ่ยปากพูดกับครูริฐาว่า คุณครูเชอร์รีนมีธุระเร่งด่วนต้องไปจัดการ งั้นค่อยนัดเจอกันในวันอื่น ไม่ทราบว่าเบอร์โทรศัพท์ของคุณครูเชอร์รีนคืออะไรหรือครับ?
เชอร์รีนบอกเบอร์โทรศัพท์ให้กับชายหนุ่มวัยรุ่นไป เมื่อทำการบันทึกเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มวัยรุ่นกล่าวบอกลาอย่างมีมารยาท และเดินออกไปทันที
ครูริฐาเองก็ไม่สะดวกที่จะนั่งตรงนั้นต่อ แต่ยังไม่ลืมกำชับให้เชอร์รีนกับชายหนุ่มวัยรุ่นคนนั้นติดต่อกันทางโทรศัพท์ เพื่อจะสร้างความสนิทสนมกัน
เหลือแค่คนเพียงสองคน ออกัสเริ่มขยับปากพูด แถมยังแสดงท่าทางเจ้ายศเจ้าอย่างไร้ความรู้สึก ยากเกินกว่าจะคาดเดาได้ นี่คือขั้นตอนการดูตัวงั้นเหรอเนี่ย?
เชอร์รีนไม่ได้พูดอะไร แต่เม้มริมฝีปากเอาไว้ เพื่อรอคอยจังหวะให้มาถึง
ทุกครั้งที่คุณครูเชอร์รีนมาดูตัวก็ต้องแจกเบอร์โทรศัพท์ให้กับอีกคนไปแบบนี้ตลอดเลยเหรอ? ออกัสย่นคิ้ว และทำท่าทางแปลกใจ
บรรยากาศเช่นนี้เชอร์รีนอยู่ต่อไปแบบนี้ไม่ได้แล้ว พลางสูดลมหายใจเข้า เธอเริ่มพูดออกมา ฉันขอตัวไปห้องน้ำสักครู่ค่ะ!
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ขายาวๆ ของออกัสก็ยื่นไปทางขวา เพื่อเป็นการดักทางของเธอเอาไว้ พลันใช้สายตากวาดมองยังกระเป๋าเดินทาง และพูดเสียดแทงอย่างผิดปกติ ไปห้องน้ำยังต้องเอากระเป๋าเดินทางไปอีกเหรอ?
เชอร์รีนตัวแข็งทื่อ หน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลย ฉันไม่มีวันเอาเด็กคนนี้ออก! ไม่มีทางเอาออกแน่!
คุณรู้สึกว่าคุณสามารถต่อกรรับมือกับผมได้ใช่ไหม? เขาเลิกคิ้วขึ้น
คำพูดประโยคนี้มันจี้จุดแทงใจดำของเชอร์รีน เธอหลุบตาต่ำ จากนั้นก็กัดฟันพูด คุณใช้อำนาจบาตรใหญ่มารังแกคนอื่น!
อื้อ ผมก็ใช้อำนาจมารังแกคนจริงๆ … ออกัสไม่รู้สึกว่าไม่ถูกตรงไหนนี่ พลางใช้สายตาโกรธเคืองจ้องมองเธอ และยื่นข้อเสนอให้ คุณก็สามารถเอาอำนาจมารังแกผมได้นี่…
นี่คุณจงใจพูดยอกย้อนกับฉันอยู่ใช่ไหม? เชอร์รีนจ้องมองเขาอย่างกินเลือดกินเนื้อ คำพูดเช่นนี้เอาไว้พูดกับคนที่มีคุณสมบัติพอ แต่ไม่ใช่ใครหน้าไหนจะทำได้!
เธอก็เหมือนเจ้าเม่นแคระ ที่หนามตั้งชันทั่วตัว จนแก้มแดงขึ้นมาราวกับลูกแอปเปิล
ออกัสเหลือบมองเธอ และหยิบบุหรี่ออกมาจากซองบุหรี่ และจุดขึ้น พลันมีแสงแดดกะพริบตรงหัวบุหรี่ จากนั้นก็อ้าปากพูด อยากเอาเด็กคนนี้ไว้จริงๆ เหรอ?
เธอถึงกลับตกตะลึง เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ เขาถึงเปลี่ยนเรื่องเร็วขนาดนี้ เธอไม่ได้พูดว่าอะไร พลางใช้มือทั้งสองข้างกุมหน้าท้องเอาไว้แน่น และถอยร่นอย่างระมัดระวังอยู่หลายก้าว
เห็นได้ชัดว่านี่คือคำตอบ ออกัสพลันจัดการบี้บุหรี่ที่เหลืออยู่ นัยน์ตากลับมีความดำมืดแสดงออกมาจนทำให้คนตกใจ
ถ้ายังอยากจะเอาเด็กคนนี้ไว้จริงๆ งั้นก็แต่งงานกับผม…
เขาพูดออกมา
เหมือนทิ้งระเบิดลูกย่อมๆ ลงมา เชอร์รีนถูกระเบิดจนไม่เหลือเศษซาก พร้อมทั้งสงสัยว่าตนเองมีอาการหูฝาดขั้นรุนแรง
คุณ…พูดว่าอะไรนะ?
ตาข้างซ้ายของออกัสหรี่ลงเนื่องจากควันบุหรี่จนทำให้เซ็กซี่เหลือเกิน พร้อมทั้งพูดซ้ำอีกครั้ง อยากจะเอาเด็กคนนี้ไว้ ก็ต้องแต่งงานกับผม
เล็บที่จิกบนเนื้อนุ่มในฝ่ามือจนมันเจ็บแสบจนเห็นได้ชัดมาก เธออุทานออกมาอย่างตกใจ นี่คุณกำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหม?
ผมมีประชุมตอนบ่ายโมง บ่ายสองต้องไปงานเลี้ยงทางธุรกิจ บ่ายสามมีนัดเซ็นสัญญากับบริษัทข้ามชาติของอเมริกา คุณคิดว่าผมคงว่างมากที่จะมายืนพูดล้อเล่นกับคุณอยู่ที่นี่มั้ง?
เขาขยับปากพูด พร้อมทั้งย่นคิ้วหากัน ดวงตายังคงเหลือบมองเธออยู่
ในความจริงแล้ว เขาเป็นคนที่ยุ่งมากคนหนึ่ง ไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมาพูดล้อเล่นอยู่กับเธอที่นี่?
เชอร์รีนสูดหายใจเข้า ประธานออกัส คุณมั่นใจนะว่ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนดีพอแล้ว?
คุณว่าไงล่ะ? ออกัสย้อนถามกลับ ตรงไหนเหรอที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาเสียสติไปแล้ว?
ใบหน้าของเขาก็ยังแสดงสีหน้าปกติตามเดิม ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้เธอรู้สึกสับสน จนไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่
เธอรู้สึกว่าตนเองต้องการสงบสติอารมณ์สักหน่อย คือเขาเป็นบ้าไปแล้ว หรือว่าเธอบ้าไปแล้วกันแน่!
ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำหน่อย อยากสงบสติอารมณ์
เธอเพิ่งจะก้าวเท้าขยับไปทางด้านหน้า ออกัสก็ยื่นมือมาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งใช้แรง ดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ชิดกับตนเองเล็กน้อย พร้อมทั้งใช้สายตาบีบบังคับเธอ ผมมีสติมากพอ คุณก็เองมีสติมากพอเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องไปห้องน้ำเลย แค่คุณตอบมาว่าจะตกลงหรือไม่ตกลง