ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 301
“ไม่เคยเห็นแน่นอน!” หูชีเยี่ยนพูดสีหน้าจริงจัง “ยี่สิบปีก่อนผมเคยบอกกับคุณแล้ว! ผมว่าถ้ามีของแบบนั้นอยู่จริงก็น่าจะถูกฝังลงดินไปพร้อมกับแม่แล้วล่ะ”
“เดี๋ยวค่ะ!” จู่ๆ ซีเหมินจินเหลียนก็พูดขึ้น “คุณ…ปู่หู แจกันดอกบัวสีทองที่คุณพูดมันเป็นของแบบไหนกันแน่คะ?” จะเป็นแจกันเล็กๆ ดอกบัวสีทองที่เธอห้อยไว้บนข้อมือตั้งแต่เด็กหรือเปล่านะ?
แจกันใบนั้นเธอใส่ติดข้อมือตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่ตัวซีเหมินจินเหลียนเองยังไม่แน่ใจ แต่น่าจะเด็กมากๆ แล้วใส่ไว้ตลอด เรื่องนี้อาจารย์กับหูชีเยี่ยนน่าจะรู้ดี
หูชีเยี่ยนบอกว่าตอนนั้นอาจารย์ยุยงหลอกให้คุณย่าหนีตามมา เป้าหมายก็เพื่อแจกันดอกบัวทองไม่ใช่หรือ? แต่ในเมื่อเป็นอย่างนั้นทำไมเขาถึงไม่พกแจกันดอกบัวสีทองมาล่ะ?
“ฉันก็ไม่รู้ว่าแจกันดอกบัวทองเป็นของแบบไหนกันแน่” หูหวังถอนหายใจพูดขึ้น “ฉันก็ไม่เคยเห็นมาก่อน…”
“เป็นไปได้อย่างไรกันครับ?” จ่านป๋ายพูดแทรก “ผู้อาวุโสหูบอกว่าแจกันดอกบัวทองเป็นมรดกตกทอดของตระกูลหูไม่ใช่เหรอครับ? ถ้าแม้แต่คุณยังไม่เคยพบมาก่อน ถ้าอย่างนั้น…ยังมีใครที่รู้อีก?”
“ฉันก็ไม่รู้จริงๆ” หูหวังส่ายหน้าพูด “ตอนนั้นตระกูลหูเกิดสงครามภายในบ้าน อาจารย์เป็นคนพาฉันหนีออกมา สายเลือดโดยตรงของตระกูลหูก็ตายไปในคืนนั้นกันแทบทั้งหมด ทาสในเรือนก็ลักลอบขโมยทรัพย์สินในบ้าน แตกแยกไร้ซึ่งความสามัคคี…” ในระหว่างที่พูดเขาก็มองไปทางจ่านป๋าย เพราะตระกูลจ่านก็อยู่ในนั้นเหมือนกัน…
“เพราะแบบนี้ แจกันดอกบัวทองก็หายไปตั้งแต่ตอนนั้นเหรอครับ?” จ่านป๋ายถาม
หูหวังพยักหน้า แต่ไม่ได้กล่าววาจาอะไร เพราะนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีอะไร
จ่านป๋ายมองซีเหมินจินเหลียน เห็นเธอไม่ยอมพูดยอมจาถึงถามต่อไปว่า “ตอนนั้นที่คุณไปหาตระกูลอวิ๋น ก็เพราะสงสัยอยู่แล้วว่าแจกันดอกบัวทองน่าจะอยู่กับตระกูลอวิ๋นใช่ไหมครับ?”
“ใช่” หูหวังพยักหน้าพูด “ได้ยินว่าแจกันดอกบัวทองตอนนั้นอยู่ที่ตระกูลอวิ๋นจริง ความปรารถนาของผู้นำตระกูลอวิ๋นคนก่อนก็คือ…ฉันต้องแต่งงานกับลูกสาวของเธอ ไม่อย่างนั้นถึงแม้ว่าตระกูลอวิ๋นจะ สูญเผ่าพันธุ์ ก็จะไม่ยอมให้แจกันดอกบัวทองออกมา!”
“คนที่คุณชอบคือคุณย่าของจินเหลียน แต่คนที่คุณต้องแต่งงานด้วยกลับเป็นอวิ๋นอวิ้น?” จ่านป๋ายวิเคราะห์ถึงประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ ไม่น่าเหล่าหูชีเยี่ยนถึงพูดว่าหูหวังเป็นคนที่ชอบได้แล้วทิ้ง ที่แท้ก็มีสาเหตุมาจากเรื่องนี้นี่เอง
หูหวังทำได้แค่พยักหน้า ประโยคนี้เขาไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหน เมื่อรู้ว่าอวิ๋นอวิ๋นหายตัวไป เขาถึงรู้ว่าอวิ๋นอวิ๋นมีลูกกับเขา และตอนนั้นเธอยังพาลูกของตนหนีไปกับผู้ชายอีกคน…
การจากไปครั้งนี้ พวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้เจอกันตลอดชีวิต แต่เมื่อเขาได้เห็นซีเหมินจินเหลียน ได้เห็นใบหน้าที่คล้ายคลึงกับอวิ๋นอวิ๋นและอวิ๋นอวิ้น…เขาเลยตามเธอกลับไปและเห็นหลุมฝังศพทั้งสองที่อ้างว้าง
“ถ้าเป็นแบบนี้ ทำไมคุณถึงมั่นใจนักล่ะครับว่าแจกันดอกบัวทองถึงอยู่กับคุณหู แต่ไม่ใช่ตระกูลอวิ๋น?” จ่านป๋ายถาม
หูชีเยี่ยนก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ใช่สิ คุณจะมาโทษผมไม่ได้นะ ผมเป็นคนดี!”
ซีเหมินจินเหลียนมองไปที่หูชีเยี่ยนที่พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่าตนเป็นคนดี จู่ๆ ก็อยากจะหัวเราะออกมา เขาเป็นคนดีเหรอ? นี่เป็นปัญหาที่ยากแก่การแยกแยะ ในใจของเธอเขาเป็นคนดีที่สุด
หูหวังอ้าปากค้างอยากจะพูดอะไรออกมา แต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนต่อ จ่านป๋ายจึงยิ้มๆ ถามว่า “ผู้อาวุโสหูครับ คงไม่ใช่ว่าคุณมีอะไรที่ปิดบังพูดไม่ได้ใช่ไหม?”
หูหวังถอนหายใจ แต่ก็ยังคงไม่เอ่ยปากพูดต่อ หูชีเยี่ยนจึงยิ้มขึ้น “เสี่ยวป๋าย นายไม่ใช่ธรรมดานะเนี่ย! เรื่องน่าอับอายขายขี้หน้าแบบนั้น นายจะให้เขาพูดต่อหน้าหลานสาวของเขาได้ยังไง”
“ไอ้หนู นายรู้เรื่องนี้ด้วยเรอะ?” หูหวังแค่นเสียงใส่และอารมณ์เดือดดาล “แกหยุดพูดจาเหลวไหลสักทีได้ไหม?”
“งั้นก็ได้ คุณพูด ผมไม่พูด!” หูชีเยี่ยนยิ้มเบาๆ “คุณยังมีหน้าพูดก็พูดต่อไปเถอะ”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่คะ” ซีเหมินจินเหลียนข้องใจ
หูชีเยี่ยนเหล่มองไปทางหูหวัง เนิ่นนานถึงพูดว่า “พ่อลองถามอวิ๋นอวิ้นยัยปีศาจแก่นั่นถึงรู้ว่าหูหวังกับตระกูลพวกเขามีข้อตกลงกันบางอย่างถึงได้แต่งงานกับเธอ แต่ผลสุดท้ายในงานหมั้นคืนนั้นเขากลับเบี้ยวนัดอวิ๋นอวิ้น…จากนั้นเป็นต้นมาอวิ๋นอวิ้นจึงเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ! และในคืนวันนั้นปู่ของอวิ๋นอวิ้นก็โกรธจัดจนสิ้นลมจากไป! ตอนนั้นคนอื่นจึงคิดว่าเพราะว่าเขาเบี้ยวนัดอวิ๋นอวิ้น เลยทำให้ตระกูลอวิ๋นอับอายขายขี้หน้าต่อแขกในงาน ท่านเลยรับแรงกดดันนี้ไม่ไหว โรคหัวใจกำเริบเลยเสียชีวิตน่ะ”
ซีเหมินจินเหลียนกับจ่านป๋ายได้ยินแล้วสับสน แม้รู้ตั้งแต่แรกว่าความสัมพันธ์ของหูหวังกับอวิ๋นอวิ้นจะมีความคลุมเครืออยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าจะมาถึงขั้นนี้
ซีเหมินจินเหลียนคิดๆ ดูอย่างละเอียดแล้ว ถ้าใครถูกเบี้ยวนัดในงานหมั้นของตัวเอง เป็นตนก็คงเกลียดเขาไปชั่วชีวิต เรื่องนี้เธอเองก็พอจะเข้าใจอวิ๋นอวิ้นได้
หูชีเยี่ยนมองหูหวัง “ท่านผู้อาวุโสหูครับ ผมไม่ได้พูดผิดใช่ไหม?”
“ใช่!” หูหวังพยักหน้าพูด “แกไม่ได้พูดผิด”
“เพราะในคืนนั้นคุณหาแม่ผมไม่เจอ เพื่อนรักของคุณอย่างซีเหมินเหล่าเอ๋อร์ก็หายไป พวกเขาปิดบังคุณและแอบหนีตามกันไป!” หูชีเยี่ยนแสยะยิ้มเย็น “ดังนั้นคุณเลยไม่อยากหมั้นกับอวิ๋นอวิ้น แถมซีเหมินเหล่าเอ๋อร์ก็มาโจมตีคุณโดยเขียนจดหมายมาบอกคุณวันนั้นว่าแม่ของผมตั้งท้อง ใช่ไหมล่ะ?”
หูหวังยังคงพยักหน้าต่อเนื่อง เรื่องก็ผ่านไปตั้งหลายปี เรื่องบางอย่างเขาก็ลืมมันไปได้แล้ว ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้ออกมาจากปากหูชีเยี่ยนเขายังพอคิดว่าเป็นคนแปลกหน้าได้บ้าง ฟังแล้วก็ยิ้มจบๆ ไป แต่น่าเสียดาย…เหตุการณ์แต่ละอย่างที่คนคนนี้เปล่งออกมา กลับเป็นไอ้ลูกเวรของเขานี่เอง
“ข้อแลกเปลี่ยนของคุณกับชายชราตระกูลอวิ๋น อวิ๋นอวิ้นไม่รู้ และไม่ใช่แค่เธอ ตระกูลอวิ๋นคนอื่นๆ ก็ไม่มีใครรู้สักคนใช่ไหม?” หูชีเยี่ยนถามต่อ
หูหวังถอนหายใจพูด “เวรกรรม! ตอนนั้นอวิ๋นจงหวาแย่งแจกันดอกบัวทองไป ไม่กังวลว่าฉันจะมาหาเขาถึงหน้าบ้านเลย แต่กลัวว่าตระกูลที่เหลือจะรวมกลุ่มโจมตีมากกว่า ดังนั้นจึงรูดซิปปากสนิท อย่าว่าแต่คนนอกเลย แม้แต่ลูกชายแท้ๆ ของเขาก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้ ส่วนเรื่องข้อตกลงของฉันกับเขา ให้ฉันแต่งงานกับหลานสาวเขา เขาก็จะนำแจกันดอกบัวทองคืนให้ฉัน! ผลสุดท้ายฉันไม่รู้ว่าเรื่องนี้แม่แกรู้ได้ยังไงจึงแอบขโมยแจกันดอกบัวทองมา…อวิ๋นจงหวารับไม่ได้กับการโจมตีครั้งนี้ คืนนั้นโรคหัวใจเขาถึงได้กำเริบหนักและขาดใจตายไปในที่สุด แม้แต่คำสั่งเสียก็ยังไม่ทันได้ถ่ายทอด”
“เพราะอย่างนั้นคุณเลยคิดมาตลอดว่าแจกันดอกบัวทองอยู่ที่ผม?” หูชีเยี่ยนยิ้มเย็น
“ฉันเคยพูดเรื่องนี้กับแม่แก กฎบ้านของตระกูลหูแต่เดิมมีแต่ถ่ายทอดวิชาให้ลูกชายไม่ถ่ายทอดให้ลูกสาว แถมลูกของแกมีแค่คนเดียว ถ้าเธอมีแจกันดอกบัวทองก็ไม่มีทางที่จะไม่ส่งต่อให้แก!” หูหวังพูด
“แต่ปัญหาก็คือผมไม่เคยเห็นแจกันดอกบัวทองมาก่อน!” หูชีเยี่ยนโคลงศีรษะพูด “คุณให้ผมเอามาให้คุณ? แล้วผมจะเอามันออกมาจากที่ไหน?”
ซีเหมินจินเหลียนมีสีหน้าแปลกประหลาด แม้แต่พวกเขายังไม่รู้เลยว่าแจกันดอกบัวทองเป็นอะไร? ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน? นี่เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเลยนะ?
“คุณปู่หูคะ…” ซีเหมินจินเหลียนหันหน้าไปถามหูหวัง “หรือว่าคุณปู่ก็ไม่เคยเห็นแจกันดอกบัวทองคะ?”
“ไม่เคย!” หูหวังส่ายหน้าพูด “แจกันดอกบัวทองเป็นการดำรงอยู่ที่ลึกลับของตระกูลหูมากที่สุด ผู้นำตระกูลของแต่ละรุ่นมีหน้าที่ในการปกป้องรักษา แต่ปู่ไม่เคยเห็นมันมาก่อน! เพราะว่ามีประโยคถ่ายทอดกันว่ายามเมื่อดอกบัวสีทองเบ่งบาน หินปิดฟ้าจะปรากฏตัวขึ้น ดังนั้นผู้นำตระกูลแต่ละรุ่นจึงระมัดระวังอย่างมาก…”
“แจกันดอกบัวทองนี่มีสืบทอดมาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ” จ่านป๋ายสูดลมหายใจลึก ตระกูลนี้ช่างลึกลับเสียจริง!
“ไม่รู้เหมือนกัน” หูหวังกับหูชีเยี่ยนส่ายศีรษะพร้อมกัน
“ตระกูลหูประสบพบเจอกับหายนะ แม้แต่แผนผังวงศ์ตระกูลทั้งหมดก็ถูกเผาไหม้ในเพลิงไฟ เดิมทีตระกูลพวกเราก็ใหญ่โต แต่พอเจอศึกครั้งนี้ก็เหลือแค่ฉันคนเดียว…” หูหวังส่ายศีรษะพูด
“ที่แท้แม้แต่แผนผังวงศ์ตระกูลก็ถูกเผาไปหมด?” หูชีเยี่ยนพูด “พูดอย่างนี้ถ้าผมปลอมตัวก็คงไม่มีใครรู้น่ะสิ?”
“แก…ไอ้สารเลว!” หูหวังโกรธ
“พ่อคะ!” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว เธอรู้ว่าหูชีเยี่ยนมีความสามารถยั่วอารมณ์หูหวังได้ดี
“คุณปู่หูคะ หนูว่าคุณปู่อย่าได้กลัดกลุ้มใจเลยค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “ในเมื่อไม่รู้ว่าแจกันดอกบัวทองมันเป็นของแบบไหน ถ้าอย่างนั้นแม้ว่าชายชราตระกูลอวิ๋นจะใช้ของปลอมมาหลอกคุณ คุณก็ไม่มีทางรู้เหมือนกันใช่ไหมคะ? แล้วคุณจะตรวจสอบได้ยังไงล่ะคะ”
หูหวังไม่ได้พูดจา แต่หูชีเยี่ยนพูดต่อว่า “มีวิธีตรวจสอบ ไม่อย่างนั้นชายชราตระกูลอวิ๋นคงไม่หลอกเขาด้วยเหตุผลงี่เง่าหรอก?”
“หูชีเยี่ยน!” หูหวังโกรธ “แกลองพูดอีกครั้งสิ?”
“คุณซื่อบื้อตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!” หูชีเยี่ยนแสยะยิ้มเย็น “ชายชราอวิ๋นจะยอมยินดีเอาของที่อยู่ในมือออกมาเหรอ? คุณไปเจรจาก็เท่ากับว่าเจรจาขอถลกหนังเสือ? เขาก็แค่อยากใช้คุณให้เป็นหมากบังคับคอยกลืนกินตระกูลอื่นๆ ก็เท่านั้น ก็เหมือนกับตระกูลจ่านในตอนนี้ อยากจะใช้จินเหลียนมารวบรวมทรัพย์สินของตระกูลหูรวมถึงข่มขู่ตระกูลอื่นๆ ให้ฟังเขา…ฝันกลางวันหรืออย่างไร” ในระหว่างที่พูดเขาก็เหลือบไปมองจ่านป๋าย
จ่านป๋ายสับสน ถ้าเป็นตอนแรกเขาก็มีความเห็นแก่ตัวคิดที่จะเกาะซีเหมินจินเหลียนเหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาล้มเลิกไปทั้งหมดแล้ว
“คุณหูครับ ผมไม่ใช่แน่นอนครับ!” จ่านป๋ายรีบร้อนตัว พูดไปเขาก็หันมองซีเหมินจินเหลียน หูชีเยี่ยนเข้าใจผิดไม่เป็นไร ขอแค่ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้เข้าใจผิดก็ได้แล้ว
“ถึงนายจะไม่มีความคิดนั้น แต่รับรองกับฉันได้ไหมล่ะว่าพี่ชายนายไม่ใช่?” หูชีเยี่ยนยิ้มเย็น “ตระกูลหูของพวกเราแม้จะล่มสลาย แต่ไม่มีทางให้ผู้หญิงคนหนึ่งถูกหลอกรังแก”
ซีเหมินจินเหลียนแนบอิงไปที่ลำตัวของหูชีเยี่ยนอย่างหน้าชื่น เด็กที่มีพ่อแม่อยู่ ไม่ถูกใครรังแกอย่างนี้นี่เอง! แม้เธอจะเชื่อใจจ่านป๋าย แต่ก็เหมือนกับที่หูชีเยี่ยนว่า คนอื่นๆ ในตระกูลจ่านก็พูดยากเหมือนกัน
“คุณปู่หู จะตรวจสอบแจกันดอกบัวทองยังไงเหรอคะ” ซีเหมินจินเหลียนถาม ตอนนี้สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือต้องทำให้กระจ่างว่าขวดใบเล็กที่เธอใส่ไว้ในข้อมือตั้งแต่เด็กเป็นแจกันดอกบัวทองหรือเปล่า?
“เอ่อ?” หูหวังลังเลใจอยู่นานถึงปริปากพูด “จินเหลียน บ้านที่เซี่ยงไฮ้ของปู่เสร็จเรียบร้อยดีแล้ว เมื่อไหร่ที่หนูว่างพอจะมาหาปู่บ้าง?”
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “พรุ่งนี้เป็นยังไงคะ?”
“ดี คืนพรุ่งนี้มากินข้าวที่บ้านปู่ก็แล้วกัน!” หูหวังยิ้มเยือกเย็นมองหูชีเยี่ยนแวบหนึ่ง “สำหรับแก ฉันว่าแกก็คงไม่อยากเห็นหน้าฉัน ฉันก็ไม่อยากเห็นหน้าแกเหมือนกัน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความลำบากใจก็ไม่ต้องมา!”
“วางใจได้ ถึงคุณจะเชิญผม ผมก็ไม่ไปหรอก!” หูชีเยี่ยนพูด
หูหวังลุกขึ้น ซีเหมินจินเหลียนจึงเด้งตัวตามไปส่งข้างนอก เมื่ออยู่ด้านนอกหูหวังจึงอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอยู่คว้ามือเธอพร้อมพูด “จินเหลียน พ่อของหนู…หนูระวังเขาไว้ด้วยก็ดี!”