คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 128 คนนึงถอย คนนึงเข้า
ในช่องปาก พริบตาเดียวก็มีกลิ่นคาวเลือด
ฟุ้งกระจายอยู่
เควินแค่นิ่งไปครู่นึง เหมือนคนที่ได้รับบาด เจ็บไม่ใช่ตัวเองยังไงอย่างงั้น
และพัวพันกับเธอต่อ เหมือนไม่กลัวเลยว่า พิงกี้จะทำแบบนี้กับเขาอีกครั้งเลย
แต่พิงกี้ก็ไม่ได้กัดครั้งที่สองจริงๆ ของเหลวในปากเธอถูกดูดจนหมดเกลี้ยง
รวมถึงเลือดเมื่อกี้ด้วย ตอนที่ช่องปาก กลายมาเป็นสดชื่นอีกครั้ง
มีแต่กลิ่นคาวเลือดอ่อนๆที่ยังไม่จางหายไป
ที่เยอะกว่านั้นกลับคือกลิ่นหอมสดชื่นของ มินท์ที่น่าสูดดมของผู้ชาย
พริบตาเดียวเธอกล้ำกลืนจะแย่ อารมณ์ แบบนี้มาอย่างไวมาก
ทำให้คนไม่รู้จะรับมือยังไงมาก?
ขนตาที่ดกดำยาวงอนกำลังสั่นไหวอยู่
น้ำตาเหมือนสร้อยมุกที่สายขาดไหลออก มาจากดวงตา ตอนที่รสชาติความเค็มของ น้ำตา
ปะปนเข้าไปในปาก ในนั้นมีความขมขื่น เสี้ยวนึงทำให้เควินสะดุ้งตื่นอย่างกระทันหัน
พริบตาเดียวหยุดการจูบที่แทบจะใช้คำว่า ป่าเถื่อนมาสาธยายเลย
ก้มหน้ามองพิงกี้ที่กำลังน้ำตาไหลอย่าง เงียบๆ น้ำตาไหลรินไม่หยุด
พิงกี้ก็ใช้ดวงตาที่แดงก่ำสบตากับเควิน “คุณพอใจหรือยัง? เธอถาม
เสียงยังสะอึกสะอื้นอยู่ “ถ้ายังไม่พอใจ เดี๋ยวจะลากฉันขึ้นเตียงไปเติมเต็มความ
ต้องการอันป่าเถื่อนของคุณไหม
แบบนี้ถึงจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณเป็น ผู้ชายใช่ไหม?!”
ไม่ใช่อย่างนี้อยู่แล้ว!
เควินหายใจยิ่งหนักเข้าไปอีก มองกลับไป
อย่างหนักหน่วง
นัยน์ตาลึกเหมือนมหาสมุทรที่ไม่อาจวัดได้
“สองวันนี้คุณมายืนหน้าประตูเสแสร้งทำ
เป็นจริงใจทำไม?”
“คุณแคร์ลิสา ก็ไปแคร์เธออย่างจริงๆจังๆ สิ ฉันไม่โทษคุณอะไรและไม่ไปดื้อด้าน
ขอร้องคุณ ถ้าคุณอยากอยู่กับฉัน ก็อยู่กับ ฉันอย่างเด็ดขาดชัดเจน
อย่ารอให้สุดท้ายฉันเข้าใจหัวใจตัวเองและตอบรับคุณแล้ว
คุณกลับละทิ้งฉันครั้งแล้วครั้งเล่า และ กลับไปข้างกายลิสาครั้งแล้วครั้งเล่า
กลับโจมตีฉันกลับอย่างโหดที่สุด!
ในที่สุดเขาก็เปิดปากพูด “ฉันรับปากเธอ ต่อไปจะไม่ละเลยเธออีกแน่นอน”
“ไม่มีประโยชน์แล้ว! “พิงกี้ปาดน้ำตาทิ้ง
พูดจาเสียงดังขึ้นมาก “เควิน ตอนนี้พูด อะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!”
“ขอแค่เธอยอมเชื่อฉัน ก็มีประโยชน์!”
“ไม่ใช่ว่าใครๆก็มีโอกาศแก้ไขความเสียใจ ของตัวเองที่ผ่านมาได้
ไม่ใช่ใครๆก็มีโอกาศแกะหายซ่อมรั้วได้! ฉันเสียใจที่ใจอ่อนกับคุณครั้งแล้วครั้งเล่า
ให้โอกาศคุณทําร้ายฉันครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ฉัน ก็ได้แต่ทนรับกับความเจ็บปวดของตอนนี้ !
ตอนแล้วคุณก็เหมือนกัน คุณเอาโอกาศที่ เคยไขว่คว้าได้อยู่ในมือทิ้งมันไป
คุณฆ่าพิงกี้ที่เชื่อใจคุณอย่างอกสั่นขวัญ แขวนตายไปแล้ว ตอนนี้คุณอยากไปต่อ
ขอโทษด้วย ฉันไม่ยินยอมที่จะไปต่อ
แล้ว!”
“พิงกี้……
“ถึงเราสองคนไม่เคยอยู่ด้วยกันอย่างดี แต่ก็ขอให้จากกันด้วยดีเถอะ
ได้ไหม?” พิงกี้ถามด้วยเสียงแหบ
เควิน ” … ”
“ฉันไม่สบาย อยากกลับไปพักผ่อนแล้ว”
สงบอยู่ตั้งนาน เควินคลายมือที่คุมตัวเธอ ไว้ เขาสหน้าตึงเครียดจ้องมองเธอไว้
เดินเข้าไปในห้องทีละก้าว จนกว่าร่างที่ ผอมบางของเธอจางหายไปที่หลังประตู
จากนั้น เขาก็เริ่มเฝ้ารอเหมือนก่อนหน้านั้น อีกต่อไป
เขายืนอยู่นอกห้องอย่างเคร่งขรึมและสงบ อยู่ตำแหน่งเดียวกัน ใช้มุมเดิมมองไปในห้องผู้ ป่วย ราวกับว่าสามารถมองเห็นสถานการณ์ข้าง ใน
ผ่านกระจกทรายเล็กๆบานนั้น ราวกับว่าจะ เฝ้ารอแบบนี้จนชั่วฟ้าดินสลาย—
นั่งอยู่บนเตียง พิงกี้แกล้งนั่งใกล้กับหัวเตียง เพราะว่าตรงนี้มองไม่เห็นรูปร่างสูงใหญ่
ที่อยู่ข้างนอก เขาไม่สามารถก่อกวน อารมณ์เธออีกต่อไป ปาดน้ำตาตรงหางตาทิ้ง
เธอหยิบกระจกส่องดูตัวเอง สังเกตุเห็น ดวงตาแดงก่ำของตัวเองเหมือนกระต่ายตัวเอง
เธอยกมุมปากฝืนยิ้มอย่างจนปัญญา
แค่ดูหน้าแบบนี้ ถ้าเธอบอกว่าตัวเองไม่แคร์ เควิน ใครจะเชื่อ?
เธอเองยังไม่เชื่อเลย………..
แต่ว่า เธอต้องทำให้ได้
นั่งเงียบๆไปสักพัก พิงกี้หยิบโทรศัพท์มา โทรหาเตชิต
“คุณเตชิต ฉันมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณ
หน่อย
ไม่รู้ว่าคุณจะช่วยได้ไหม…….
ถูกสมาชิกของหน่วยสืบลับ คุมตัว”ถึงใต้
ตึก
เตชิตได้แค่ใช้คำว่าโมโหสุดขีดมาสาธยาย แต่ว่า ในใจเขามีแต่เควินที่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้เขา
เขายังทิ้งหน้าไม่ลงมาตีกับสมาชิกธรรมดา พวกนี้ เลยทนไว้ตลอด แต่คิดไม่ถึง
ตอนที่เขาที่เพิ่งเดินมาถึงลานจอดเตรียม ตัวขึ้นรถ ทันใดนั้นกลับได้รับสายจากพิงกี้
เขาอึ้งและแปลกประหลาด ต้องรู้ไว้ว่าใน การคบกันของหลายวันนี้
ระยะทางของเขากับพิงกี้ใกล้ชิดขึ้นเยอะ มาก ถึงแม้ไม่ถึงพูดพูดคุยได้ทุกอย่าง
แต่ก็เป็นเพื่อนที่สามารถพูดจาเสียๆหายๆ ต่อกันได้ทั้งสองแทบจะเรียกชื่อของแต่ละฝ่าย
โดยตรงเลย
นาทีนี้ เรียก“คุณเตชิต “ซะเป็นทางการ อย่างนี้ เขารู้สึกอาจจะเกิดเรื่องใหญ่
“เรื่องอะไร?” เขาเปิดปากพูด “ขอแค่ฉันมี ปัญญา ก็วางใจให้ฉันจัดการเถอะ”
“ฉันอยากย้ายโรงพยาบาล” พิงกี้แค่พูด เบาๆคำเดียว
——–เก็บข้าวของเสร็จ พิงกี้เดิน ออกจากห้องผู้ป่วย เพิ่งเปิดประตู
เธอก็สบตากับนัยน์ตาที่ดำเข้มเข้า แต่เธอ หลุบตาอย่างไว
ดวงตาคู่นั้นยังจ้องเธอไม่คลาดสายตา หรือว่า….สัมภาระในมือเธอ
“เธอจะไป?” เควินเดินมาข้างหน้า ยื่นมือจับข้อมือของพิงกี้ไว้
“เพราะว่าฉันซื้อโรงพยาบาลนี้แล้ว เธอ อยากหลบหน้าฉันเลยเตรียมตัวจากไป?”
“ใช่”พิงกี้ฉีกรอยยิ้มที่ร่าเริงออกมา ดวงตาที่ยังแดงมองเขาไว้ ยิ้มแย้มแจ่มใส
“ท่านประธานคะ ถ้าท่านอยากโชว์ว่ามี จํานาจเงินทองมหาศาลต่อหน้าฉัน
เอางี้ก็แล้วกัน ฉันไปโรงพยาบาลนึง ท่านก็ ซื้อโรงพยาบาลนึงเป็นไงคะ?
“พิงกี้ เธออย่าแกล้งเป็นต่อต้านกับฉันได้ ไหม?”
มองดูผู้หญิงตัวเล็กที่ดื้อรั้นตรงหน้าอย่าง งใจและจริงจัง
ในใจเควินมีอารมณ์ที่ลนลานปะทุขึ้น “อยู่ ที่นี่เธอสามารถได้รับการรักษาที่ดีที่สุด
ถ้าเธอหาหัวใจที่เข้ากับเธอไม่ได้ล่ะก็ แต่
ว่า
นึกถึงลิสาร้อไห้ขอร้องว่าอย่าหลุดปาก บอกอาการของเธอออกไป
เขาก็เม้มริมฝีปากไว้แน่น อาการเงียบสงบ ที่มาแบบกระทันหันของเขา
ในสายตาของพิงกี้ก็คือจนปัญญาชนิดหนึ่ง การเยาะเย้ยตัวเองอยู่ในใจยิ่งหนักขึ้น
ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอดึงมือตัวเองออก
อย่างเด็ดขาด
เดินจากไปอย่างไม่หันหลัง
มอง——-ในคืนนั้น พิงกี้ได้ย้ายไปโรง
พยาบาลเอกชนอีกแห่งหนึ่ง
โรงพยาบาลนี้ถึงแม้ไม่ใช่ธุรกิจของตระกูล มหาเจริญศิลป์(ตระกูลของเตชิต)
หุ้นส่วนกลับเป็นเพื่อนซี้ของเตชิต อาศัย ความสัมพันธ์ครั้งนี้
พิงกี้ได้พักห้องvipชั้นบนสุดอีกเช่นเคย ความสบายไม่ได้ลดคะแนนน้อยลงไปเลยสัก
นิด
พิงกี้นึกว่าครั้งนี้จะสามารถหนีพ้นเควินได้
แล้ว
แต่ว่า……ชัดเจนมากเธอยังไร้เดียงสาเกิน ไป วันที่สอง เธอได้ยินข่าวที่ทำให้เธออึ้งสุดขีด