คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 181 ในใจเขายิ่งรู้สึกทรมานเข้าไปอีก
..” ถามติดต่อกันสามคำ เควินหัวเราะ เหอะ….. เสียงต่ำทีนึง “ฉันไม่เป็นไร”
เขาไม่เป็นไรจริงๆ
ไม่ใช่ตัดสินใจจะไม่รักผู้หญิงใจร้ายคนนั้น ตั้งนานแล้วหรือ? เขาไม่เป็นไรจริงๆ!
ลุกขึ้นอย่างโซเซเล็กน้อย เขาเดินออกไปที่
ประตู
“นายจะไปไหน?” เจษฎาถาม
“กลับไป”
“กลับไปไหน?”
.กลับบ้าน”
กลับมาถึง L.K.crystal วิลล่า เควินก็ตรงดิ่งไปที่ชั้นสอง
นั่งตากลมเย็นมาตลอดทาง สมองของเขา ก็ตื่นตัวขึ้นเยอะ แต่ในใจกลับยิ่งอยู่ยิ่งอ้างว้าง และเปล่าเปลี่ยว
ผลักประตูห้องออก สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือ พิงกี้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้นอกระเบียง
ไม่เจอกันครึ่งเดือน เธอซูบผอมไปตั้งเยอะ ลมในยามค่ำคืนหนาวเย็นมาก แต่เธอกลับใส่ แค่ชุดบางๆ เหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลย
ไม่รู้กำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ คางของเธอวาง อยู่บนหัวเข่าและนั่งเหม่อลอย สายลมพัดเสื้อ ของเธอเคลื่อนไหวอยู่เบาๆ ผมยาวดกดำของ เธอหลอมรวมอยู่ในความมืดมน เหมือนวินาที ต่อไปคนที่จะหายสาบสูญก็คือเธอคนนี้
รู้สึกกลัวและกระวนกระวายอยู่ในใจอย่าง แปลกประหลาด
เดินก้าวเท้าใหญ่ไปที่ระเบียง เควินแกล้ง เดินเสียงดัง หลังจากได้ยินเสียง ผู้หญิงที่นั่ง เหม่อลอยหันมามอง ในที่สุดท่าทีนี้ก็ทําให้บน ตัวเธอดูมีชีวิตชีวาขึ้น
ตอนที่เธอเห็นเขา ดูออกอย่างชัดเจนว่า เธออึ้งจนตัวแข็งทื่อ
“เรื่องนั้น เธอรู้แล้ว?” ไม่พูดเรื่องไร้สาระ เควินถามด้วยเสียงหนักหน่วง
เขาไม่มีคำอธิบายใดๆทั้งสิ้น แต่เขารู้ว่าเธอ ต้องฟังเข้าใจแน่นอน
และแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ……….
ลังเลไปครู่นึง พิงกี้จึงพยักหน้า
“ฉันกับเจษฎาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก”
.อืม” พิงกี้พยักหน้าอีก
“ฉันเคยบอกกับเธอว่าคนที่ช่วยชีวิตเธอ ไม่ใช่ฉัน แต่เธอไม่เชื่อเอง!
“ฉันจำได้”
“เธอราวีฉันมาแปดปี ในแปดปีนี้ ฉันเคย ปฎิเสธเธอจนนับครั้งไม่ถ้วน พวกนี้เธอน่าจะจำ ได้หมดใช่ไหม?” เขาไม่ได้ผิดต่อเธอ แต่เธอ
เป็นคนยั่วยุเขาก่อนเอง!
พิงกี้พยักหน้าเบาๆ เธอก็ไม่ได้หลบหนี ความจริง “ฉันจำได้หมด”
“งั้นเธอไม่มีอะไรจะพูดกับฉันหรอ?” ผู้ หญิงที่อยู่ตรงหน้าสีหน้าเฉยชา เหมือนกับ ว่าโลกทั้งใบมีแต่เขาคนเดียวที่หัวใจทรมาน เหมือนถูกไฟเผา ทันใดนั้นในใจของเควินมี ความโกรธขึ้นมา เขาถามซ้ำด้วยเสียงสูง “พิง กี้ ในเมื่อเธอก็รู้แล้วว่าคนที่ช่วยชีวิตเธอตอนนั้น ไม่ใช่ฉัน เธอไม่มีอะไรจะพูดหรอ?!
“ฉันรู้สึกไม่มีอะไรจะพูด” พิงกี้ลุกขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน และพูดตามความจริง “ฉันเข้าใจคุณผิดเอง…..คุณเองก็เคยบอกกับ ฉันว่าคนที่ช่วยชีวิตฉันไม่ใช่คุณ แต่ฉันไม่เชื่อ เอง…….”
“ฉันแยกแยะได้ค่ะ” ถอนหายใจเบาๆ นึง ใบหน้าที่สวยใสของเธอมีรอยยิ้มอ่อนๆ “ถึง ฉันไม่รู้ว่าในนี้มันมีความคลาดเคลื่อนอะไร ถึง ได้กลายมาเป็นสถานการณ์แบบนี้ แต่ทั้งหมดนี้ เป็นปัญหาของฉันเอง ไม่เกี่ยวกับคุณ
“เธอไม่โทษฉัน?” เควินสายตาลุ่มลึก
เธอไม่โทษเขา เธอสงบนิ่งขนาดนี้และ เฉยชาขนาดนี้ เหนือความคาดหมายของเขา มาก แต่ก็ยิ่งทำให้เขาทรมานหัวใจ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เขาอยากทำลาย ความสงบนิ่งบนใบหน้าเธอมาก!
เขาอยากทําลายความเฉยชาบนตัวเธอ อยากให้เธอกลับมาเร่าร้อนเหมือนไฟอยู่ในอ้อมอกเขาอีกครั้ง………..เธอใส่อารมณ์กับ เขา ก็ยังดีกว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถปลงได้ ปล่อยวางได้แบบนี้!
“ฉันไม่โทษคุณค่ะ” พิงกี้ส่ายหัว
ยากที่ทั้งสองจะคุยกันอย่างสงบจิตสงบใจ เธออยากอาศัยโอกาศนี้คุยเรื่องเตชิตกับเขา เธอไม่รู้เรื่องที่ตระกูลมหาเจริญศิลป์ไปสู่ขอที่ ตระกูลดำรงกูลเลย เธอได้รู้จากปากเขาเป็น ครั้งแรก วันนี้ก็ติดต่อเตชิตไม่ได้ซะด้วย เธอ อยากถามเขาดูว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่?
เธอกับเตชิตไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว เธอไม่สามารถปล่อยให้เรื่องมันพัฒนาไปใน ทางแบบนี้ และไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้
ยังมีเรื่องของลิสาด้วย………..
ในเมื่อเขาได้หมั้นกับลิสาอย่างเป็นทางการ แล้ว เขากับเธอก็ไม่สมควรพัวพันกันอีกต่อไป
พูดคุยกันดีๆสักครั้ง จากนั้นก็จากกันด้วยดี
เถอะ!
“เรานั่งลงคุยกันอย่างสงบจิตสงบใจหน่อย เถอะ”พิงกี้เปิดปากพูด
ยังสงบจิตสงบใจ?
เหอะ!
พิงกี้พูดคำนี้ออกมาปุ๊บ สีหน้าของเควินยิ่ง ดูแย่เข้าไปใหญ่ “ไม่คุย! ระหว่างเราไม่มีอะไร ต้องคุยกัน!”
“ทำไมไม่คุย?” พิงกี้ไม่เข้าใจกิริยาท่าทาง
นี้ของเขา
“เธอบอกว่าคุยก็คุย ไม่คุยก็ไม่คุยงั้นหรอ ทำไมฉันต้องฟังคำพูดเธอด้วย? เธอเป็นผู้หญิง ฉันเป็นผู้ชายของเธอ เธอสิที่ต้องฟังฉัน ไม่ใช่ ฉันที่จะต้องทําตามคำพูดของเธอ!
“รีบแก้ไขปัญหาเร็วๆ ต่างก็ดีกับเราทั้งสอง ฝ่ายไม่ใช่หรอ?”
“ไม่ใช่”
“คุณไม่รู้สึกลำบากใจหรอ? หรือว่าคุณ ชอบปัญหา? คุณกักขังฉันไว้แบบนี้ไม่กลัวลิสา หาเรื่องคุณ ไม่กลัวตระกูลดำรงกูลแตกคอกับ คุณหรือ?”
“ถ้าเธอคือปัญหา งั้นฉันก็ชอบปัญหา ฉัน ไม่มีทางปล่อยเธอไป ชั่วนิรันดร์ และพูดอย่างมั่นใจ !” ผู้ชายหน้าบึ้ง
” พิงกี้ตะลึง
ครั้งที่แล้วเธอตวาดประณามเขาด้วยความ โกรธแค้น ว่าเขาไร้ยางอาย ว่าเขากักขังเธอก็ เพียงเพื่ออยากได้ร่างกายเธอ อยากให้เธอเป็น ชิ้นเนื้อที่ให้เขากินได้คนเดียว เขาอยู่ข้างนอก ภาพพลักษณ์ไม่มีเสื่อมเสีย กลับมายังสามารถ มาเสพสุขเรื่องอย่างว่าอีก
แต่ว่าที่จริงในใจเธอไม่ได้คิดเช่นนั้น
เธอเข้าใจเขาดีพอ รู้ว่าเขาเป็นคนผู้ชาย จิตใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ รู้ว่าเขาเป็นคนที่การกระ ท่าชื่อตรงมาก ถึงจะรับมือกับคนก็ชินที่จะใช้ ความแข็งกร้าวปราบปราม ถ้าสามารถใช้แรง ทำได้ก็จะไม่ใช้วิธีเจ้าเล่ห์แบบนั้น และเขาก็ไม่มี ความคิดที่เสื่อมเสียแบบนั้นด้วย
สงบลงมา เธอรู้สึกว่าไม่ช้าก็เร็วเขาต้อง ปล่อยเธอเป็นอิสระ แต่ตอนนี้สิ่งที่เธอจะทําคือ ให้เวลานั้นมาเร็วขึ้น แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะ ตอบสนองแบบนี้
เธอไม่เคยเห็นเควินที่เป็นแบบนี้มาก่อน สูญเสีย……ความสงบแบบนี้ กลายเป็นคน อารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาแบบนี้ แม้กระทั่งยังกลาย เป็นคนอ่อนต่อโลกแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกเหมือน เป็นคนแปลกหน้าเลย
พิงกี้ยังตกตะลึงอยู่ ผู้ชายกลับหงุดหงิดขึ้น มาดึงข้อมือเธอไว้ และอุ้มเธอขึ้นมาในอ้อมอก
“เควิน นี่คุณทําอะไร ปล่อยฉันลงมาเดี่ยว นี้!” ถูกสถานการณ์ที่มาแบบฉับพลันทำจน
ตกใจ จู่ๆพิงกี้ที่ถูกอุ้มขึ้นจนอยู่ในสภาวะที่สูญ เสียน้ำหนักหน้าซีดขึ้นมา หมัดของเธอทุบตีอยู่ บนร่างกายของเควิน “พูดก็พูดดีๆสิ แต่คุณอย่า มาลงไม้ลงมือ!”
“ที่เธอพูดฉันไม่ชอบฟัง เธอไม่เชื่อฟัง ฉัน ก็จะทําจนเธอเชื่อฟังถึงจะหยุด!”
“อะไรนะ?” พิงกี้อึ้งจนตาค้าง
ทำไมเธอรู้สึกว่าชักจะตามความคิดของ ผู้ชายคนนี้ไม่ทันซะแล้ว?
“ฉันจะทํากับเธอ ทําจนเธอเชื่อฟังฉัน เธอ จะได้ไม่ทําให้ฉันทรมานใจอีก”เดินมาถึงข้าง เตียง เควินโยนพิงกี้ลงที่เตียงอย่างหนัก เขา จู่โจมเข้ามาไวเหมือนเสือชีตาห์ บุกเข้ามาทับ ร่างกายเธอไว้จนเธอไม่สามารถวิ่งหนีไปไหน
ได้
ถูกโยนจนวิงเวียนเล็กน้อย ไฟในใจของ พิงกี้ลุกท่วมขึ้นมา ตวาดใส่เขาด้วยความโกรธ “เควินไอ้ผีบ้า ถึงคุณทํากับฉัน ฉันก็ไม่เชื่อฟัง คุณหรอก!”