คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ - 3, ตายก็ไม่ขอโทษ
บทที่ 3, ตายก็ไม่ขอโทษ
ชาตรีใช้เท้าถีบ พิงกี้ที่เจ็บไปทั้งเนื้อทั้งตัวและหมดเรี่ยวแรงลง
บนพื้น
มือที่กว้างใหญ่เหมือนใบพัดตบที่ใบหน้าและร่างกายเธอครั้ง
แล้วครั้งเล่า
แรงจนไม่เหมือนกำลังสั่งสอนลูก แต่เหมือนกำลังทำกับคนที่
โกรธแค้น
นางลูกทรพี เพราะแกคนเดียว ทำให้ตระกูลเรากลายเป็นตัว ตลกไปทั่วทั้งเมือง! ”
ใบหน้าที่ขาวเนียนของพิงกี้บวมแดงขึ้นมา เธอกัดริมฝีปากไว้
ไม่พูดสักคำ มาลาตีที่สวยสง่าจ้องดูด้วยความเย็นชา พร้องน้ำเสียงเยือก
เย็น
« ชาตรี เดี๋ยวออกสื่อแถลงข่าวเลยว่าตัดขาดความสัมพันธ์ ฉานพ่อลูกกัน!
คนที่เกิดมาในถิ่นทุรกันดาร ยังไงก็แก้นิสัยเสียๆอย่างคนชั้น
ต่ำไม่ได้หรอก
ตอนหล่อนอายุสิบห้าปี เราก็ไม่ควรเอาหล่อนกลับมาแล้ว!”
ไม่ได้! ” แววตาของชาตรีสับสน
( พามารพจญนี้ไปขอโทษที่บ้านภิรมย์ภักดีก่อน จากนั้นก็ไป บทที่ 3 ตายก็ไม่ขอโทษ
เฝ้าลิสา
และจัดการเรื่องนี้ให้จบๆไป! บ้านเราจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา
ไม่ได้อีก
เรื่องที่ว่าพี่น้องแย่งผู้ชายคนเดียวกัน” ขอโทษ?
ถ้าขอโทษก็เท่ากับว่าฝ่ายถูกกระทำอย่างเธอ ยอมรับว่าตัวเอง
เป็นคนผิดหน่ะสิ?
พิงกี้รู้สึกอ้างว้างในใจ เมื่อก่อนเธอทำอะไรผิด?
ลิสาก็จะแสดงเป็นพี่สาวที่อ่อนโยนและแสนดี หว่านล้อมให้
เธอขอโทษ
บอกว่าถ้าเธอขอโทษและยอมรับผิด ชาตรีกับมาลาตีก็จะไม่
คนอื่นก็จะไม่เอาเรื่อง.
ตอนนั้นเธอไม่รู้เรื่อง ก็ได้แต่ทำตามที่ลิสาพูดอย่างโง่ๆ
ขอโทษกับเงินที่ตัวเองไม่ได้ขโมย ขอโทษกับคนที่ตัวเองไม่ได้
โกรธ
ตี
..และขอโทษกับหลายๆสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ..เธอนึกว่า เธออดทนกับความทุกข์ใจ
ก็สามารถเห็นท้องฟ้าที่กว้างไกล แต่ว่า เธอได้อะไรกลับคืน? สิ่งที่เธอได้รับกลับคืนมา มีแต่ความเกลียดชังของชาตรีกับ
มาลาติ
และชื่อเสียงที่เหม็นเน่าของเธอ ครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมโง่อีกต่อ
และก็ไม่อยากโง่อีกต่อไปด้วย!
* หนูไม่อยากไปบ้านของตระกูล ภิรมย์ภักดี และยิ่งไม่มีทาง ไปขอโทษลิสา
นอกจากหนูตาย! !
* งั้นแกก็ไปตายซะ !ตระกูลภิรมย์ภักดีจะได้หายโกรธ! ” ชาตรีโมโหและตะคอกเสียงดัง
“เพราะยังไงตระกูลเราก็ถูกแกขายขี้หน้าไปหมดแล้ว แกไม่
ฉันก็จะทำให้แกตายเอง!”
บ้านภิรมย์ภักดี เป็นตระกูลที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะขัดใจจริงๆ!
ถ้าการตายของพิงกี้สามารถทำให้บ้านภิรมย์ภักดีหายโกรธ เขาก็ยินดีอย่างยิ่ง!
พิงกี้ถูกชาตรีคุมตัวไปขอโทษที่บ้านภิรมย์ภักดี
แม้แต่เสื้อผ้ายังไม่ให้เธอเปลี่ยนเลย นั่งอยู่บนรถ
ตาย
ไป! ร่างกายที่เมื่อยล้าทำให้คิดถึงผู้ชายที่บ้าคลั่งเมื่อคืน และแวว ตาที่เยือกเย็นเหมือนยมบาล
มือที่แรงใหญ่บีบที่คอเธอ เธอไม่สงสัยเลยว่าเขาจะฆ่าเธอให้
ตาย..
ถ้าไม่ใช่ลิสาโรคหัวใจกำเริบ ตอนนี้เธอคงจะกลายเป็นศพไป
แล้วมั้ง?
การตาย…ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างที่คนคิดไว้
ถึงหน้าบ้านภิรมย์ภักดี คนเฝ้าประตูไม่ได้ให้รถของพวกเขา
เข้าไป
บอกแค่ว่าวันนี้คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายไม่อยู่บ้าน ไม่ว่าชาตรี
จะพูดยังไง
สุดท้ายก็ได้แต่กลับรถมุ่งไปที่โรงพยาบาล
อารมณ์โกรธแค้นในใจสุดท้ายก็เอามาลงที่พิงกี้ พอถึงโรง
พยาบาล
พิงกี้ถูกชาตรีลากจนเดินเซไปมา เธอเหมือนตุ๊กตาไม้ที่ถูกเขา บังคับและเดินตามหลังเขา
แม้แต่แรงจะขัดขืนก็ยังไม่มี ระหว่างเดินอยู่ เธอเห็นเงาของ ผู้ชายที่สูงโปร่ง คือเขา!
จู่ๆหัวใจรู้สึกปวดแน่น พิงกี้ก้มหน้าลง * คุณเควิน คุณมาเยี่ยมลิสาหรือครับ? “ซาตรีรู้สึกเซอร์ไพรส์ และเดินไปข้างเควิน
และพูดอย่างระวังปาก
เรื่องเมื่อคืนต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมจะให้มารผจญนี้ ขอโทษคุณเดี๋ยวนี้เลยครับ!”
พอพูดจบก็ดึงพิงกี้ ยังไม่รีบขอโทษคุณเควินอีก?”
พิงกี้ถูกดึงและล้มลงไปที่พื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอเงยหน้าขึ้น มาอย่างทรุดโทรม
สบตากับดวงตาคู่ที่คมลึก