คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน - ตอนที่ 42 โดนวางยาสลบ
นัชชาชงักเท้าแล้วตอบตามความจริง ค่ะ
เขานิ่งเงียบ แล้วปล่อยมือที่ยื้อข้อมือเธอไว้ เดาอารมณ์ความรู้ไม่ออกว่า ไปเถอะ
นัชชาเร่งฝีเท้าเดิน เข้าไปในห้องน้ำเธอเปิดก๊อกน้ำแล้วยื่นผ้าเย็นเช็ดหน้าเข้าไปชุบน้ำ แล้วเอามาวางไว้ตรงหน้าผาก ในหัวมีแต่คำพูดของจรณ์
ปีนั้นพ่อของเธอโดนเบื้องบนสอบสวนเพราะเรื่องฉ้อโกงธุรกิจ เป็นธุรกิจที่ทำร่วมกับบริษัทเจมี่ เพียงแต่ตอนนั้นเจมี่ยังไม่รุ่งเรืองขนาดนี้ ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เจมี่เริ่มร่วมงานกับรัฐบาล
รายละเอียดนัชชาก็ไม่รู้แน่ชัด รู้แต่ว่าเมทนีโดนโทษจำคุก 13 ปี ตอนนั้นเสียเงินมากมายเพื่อที่จะประกันตัวเขาออกมา แต่ก็ยังมีโทษติดตัว ทำให้เขาหางานใหม่ทำยาก เพื่อนในตอนนั้นก็เลิกคบพ่อเธอไปกันหมดแล้ว เขาทำได้เพียงขายของปลีกทั่วไปในการเลี้ยงชีพ
พูดถึงโกง นัชชาไม่รู้สึกว่าที่บ้านจะรวยมหาศาลอะไร แค่พอมีใช้มากว่านิดเดียวถ้าเทียบกับคนปกติ
แต่เธอนึกไม่ถึงจรณ์ที่เป็นทนายของเมทนีในตอนนั้นจะกลายมาเป็นทนายที่ปรึกษาของบริษัทเจมี่จำกัดในตอนนี้
ถ้าพูดตามหลักความเป็นจริง เจมี่จำกัดจะใจกว้างขนาดไหนก็คงไม่เลือกคนแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ก็เป็นข่าวใหญ่มากในตอนนั้น ผู้บริหารของเจมี่ใจกว้างขนาดนั้นเลยเหรอ
นัชชารู้สึกแปลกๆ เดี๋ยวคงต้องถามพ่อให้รู้เรื่อง
นัชชากำลังคิด ในกระเป๋าก็สั่น เธอหยิบขึ้นมาดูเป็นดวิษ
เธอกดรับ ฮัลโหล
เธออยู่ไหน เขาถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเงียบ
เธอยื่นมือไปเอาผ้าเปียกออกแล้วโยนลงถังขยะ มาพบลูกค้า
เสร็จงานแล้วเรามาเจอกันหน่อย
มีอะไรก็คุยกันในโทรศัพท์นี่แหละ ไม่ต้องรอเจอกันหรอกคงไม่ทัน เพราะเธอไม่อยากเจอเขาตอนนี้
เขาเงียบไปสักพัก แล้วพูดขึ้นมา เธอไม่ได้อยากคุยเรื่องหย่าเหรอ เรามานั่งคุยกันดีๆ
นัชชาอึ้ง ที่ดวิษเปลี่ยนความคิดไปกะทันหันแบบนี้ ทำไมคุณคิดได้ขึ้นมากะทันหัน
ปณิตาท้อง
นัชชาเตรียมใจไว้แล้วแต่ก็อดตกใจไม่ได้ ปณิตาท้อง…
เธอคิดไปถึงจรรยาที่อยากอุ้มหลานมากขนาดไหน ตอนนั้นที่เธอแต่งงานกับดวิษ หลังจากนั้นก็โดนเร่งมาตลอด ตอนนี้ก็ได้อย่างที่หวัง ถึงจะไม่ได้ทำเพื่อปณิตา ก็คงจะยอมให้หย่าเพื่อหลานของตัวเอง
นัชชานึกว่าตัวเองจะเสียใจ แต่นอกจากความตกใจเมื่อครู่ เธอรู้สึกว่าตัวเองจะเฉยและนิ่งได้ขนาดนี้
อารมณ์ความรู้สึกของเธอหมดไปตั้งแต่ที่ถูกดวิษทำร้ายแล้ว
ออกมาคุยกันเถอะ ฉันจองห้องไว้แล้วที่มูตี้คลับเฮา ห้อง A301
…………..
เมื่อออกจากห้องน้ำเห็นนภันต์ยืนอยู่รอเธอหน้าประตู ชุดสูทที่ใส่ยืนอยู่ใต้ไฟ ร่างที่สูงทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมาอดไม่ได้ที่ต้องหัน มามองเห็นนัชชาเดินมา เขาเก็บโทรศัพท์ เดี๋ยวผมไปส่ง
ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะแวะไปที่อื่นด้วย
นภันต์มองหน้าเธอ ไปเดทเหรอ
เปล่าค่ะ เธอถอนหายใจ ไปคุยเรื่องหย่า
หย่าเหรอ นภันต์ตกใจอึ้งอีกครั้ง เธออายุเท่าไหร่
24 นัชชาดูออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เธอเลยพูดล้อตัวเอง ตอนฉันแต่งงานคนอื่นๆยังโสด แต่พอตอนฉันหย่าคนอื่นๆก็ยังโสดเหมือนเดิม เสียเวลาไปเปล่าๆ
นภันต์นึกว่าเธอยังมีอารมณ์มาพูดล้อเล่น รู้ว่าเธอไม่สะดวกให้ไปส่งเลยไม่ได้พูดเซ้าซี้ต่อ คุณไปเถอะ ถ้ามีปัญหาอะไร…
นัชชาไม่ค่อยได้ยิน ว่าไงนะคะ
นภันต์ยกมือถือในมือขึ้นมาให้เธอ มีปัญหาโทรหาผม
นัชชาอึ้ง รู้สึกไม่เหมือนเมื่อก่อน เห็นเขามองเธอด้วยสายตานิ่งๆ เธอก็รู้สึกว่าคงคิดมากไปเอง โอเคค่ะ
…………………………..
มูตี้คลับเฮาเป็นคลับที่มีชื่อเสียงของที่นี่และราคาแพง แค่คืนเดียวก็ราคาหมื่นขึ้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงห้องวีไอพี แอลกอฮอล์ธรรมดาขวดหนึ่งก็หลักหมื่นแล้ว
ถ้าเกิดอยากเข้ามาในนี้ต้องเป็นสมาชิกของที่นี่ จะเป็นสมาชิกของที่นี่ได้ต้องมีหน้ามีงานที่ดี
นัชชาเดินเข้ามาที่ประตูแล้วบอกชื่อแต่ไม่โดนดัก อาจเป็นเพราะดวิษบอกพนักงานไว้แล้ว
นัชชาเดินมาที่ห้องตามที่ดวิษบอก เปิดประตูเข้าไปแต่ก็ไม่เห็นเขา เป็นห้องที่เก็บเสียงได้ดีไม่ได้ยินเสียงของข้างนอก
นัชชากดเบอร์โทรหาดวิษแต่สายไม่ว่าง เธอเดินไปนั่งที่โซฟาเห็นมีขวดเหล้าและแก้วน้ำวางอยู่บนโต๊ะ หรือจะไปห้องน้ำ
ในห้องมีกลิ่นแปลกๆ แต่นัชชาก็ไม่ได้ใส่ใจ เธอนึกว่าเป็นแค่กลิ่นบุหรี่ผสมกับเหล้า
เธอรอประมาณสิบนาทีแต่ก็ไม่เห็นดวิษ นัชชามองไปรอบๆห้องเธอรู้สึกแปลกๆ เธอกำลังจะลุกแล้วเดินออกจากห้องแต่เธอก็ต้องล้มลงด้วยอาการมึนหัว
เรี่ยวแรงก็เหมือนจะไม่ค่อยมี เธอยืนได้ไม่ถึงสองนาทีก็ต้องล้มลงไปนั่งที่โซฟา
นัชชาพยายามยึดโซฟาพยุงตัวเองขึ้นแต่ก็ไม่มีแรง ในหัวเหมือนโดนทับด้วยของหนักทำให้เธอหาสมดุลในร่างกายไม่ได้
รู้สึกได้ว่ามันจะเป็นอันตราย เธอเลยยื่นมือไปหยิบผ้าเปียกในกระเป๋ามาปิดจมูกไว้
เธอยังไม่ทันได้ดึงสติหรือเตรียมตัวใดๆ ก็มีเสียงคนเปิดประตูจากข้างนอก มีผู้ชายสองคนใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีดำกับกางเกงสีดำ เธอมึนมองไม่เห็นใบหน้าของเขาไม่ชัด แต่เธอก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่ดวิษ
โชคไม่ดีแล้ว
โดนหลอกงั้นเหรอ
สองคนนั้นเดินเข้ามาโดยไม่พูดอะไรก็อุ้มเธอเดินออกจากห้องไป นัชชาดิ้นสุดแรงแต่แรงที่เธอมีก็ไม่สามารถสู้หรือทำอะไรสองคนนั้นได้
นัชชาถูกพามาที่ชั้นสาม ชั้นนี้เป็นชั้นที่เอาไว้ให้บริการ มีไว้ใช้ทำอะไรก็คงไม่ต้องอธิบาย
เสียงประตูถูกเปิดออก
เห็นตัวเองกำลังจะถูกลากเข้าไปด้วยความหมดหวัง ระหว่างนั้นเรี่ยวแรงไม่รู้มาจากไหนเธออ้าปากกัดไปที่แขนของผู้ชายแล้วก็ยกขาเตะที่เป้าผู้ชายอีกคน
ทั้งสองคนไม่ทันได้ตั้งตัว นัชชาดันประตูออกแล้ววิ่งหนีออกมา แต่ขาไม่มีเรี่ยวแรงจึงจับผนังค่อยๆพยุงตัวเองวิ่งไปทีละก้าว
ผู้ชายสองคนนั้นวิ่งไล่เธอหลังได้สติ ถึงเธอไม่หันหลังมองก็รู้สึกได้ว่าพวกเขาวิ่งเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ
ลิฟต์อยู่หน้านี้แล้ว…
อาจเป็นเพราะสวรรค์เห็นใจ ทันทีที่เธอวิ่งถึงหน้าลิฟต์ ประตูลิฟต์ก็ถูกเปิดออก
เธอไม่ทันเงยหน้ามองก็วิ่งเข้าห้องลิฟต์ไป ชนโดนแผ่นอกของคนที่อยู่ไหนลิฟต์
เธอไม่ได้พูดขอโทษ หลบหน่อย หลบหน่อย
เธอกำลังจะยื่นมือไปกดปุ่มปิดประตู มือก็ถูกคนจับเอาไว้ เสียงต่ำและเยือกเย็นของผู้ชาย นัชชาเหรอ