คุณทนาย จดทะเบียนสมรสกัน - ตอนที่ 57 ฉันรักเธอ
นภันต์รีบวิ่งเข้าไปเขาวิ่งถึงรั้วคิดว่าจะมองเห็นสภาพที่น่ากลัวมาก ไม่น่าคิดว่าได้เห็นเป็นเบาะลมที่สีเหลืองๆ
เขาเห็นคนที่ใส่เสื้อสีส้มแดงเดินไปเดินมาอยู่ข้างล่าง เห็นแคร่หามคนเจ็บสีขาว และรถตำรวจ
ร่างกายก็ไร้แรงทันที นภันต์นั่นบนพื้น พึ่งรั้วที่สกปรกเต็มไปด้วยฝุ่น เธอไม่เป็นไร เธอไม่เป็นไร
นภันต์เงยหน้ามองเตชิต มองเห็นดวงตาแดงๆของเตชิตด้วยประหลาดใจ
ไม่เคยได้เจอท่าทางแบบนี้ของเตชิตเลย นภันต์ตะลึงมาก คุณเตชิต
ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ขยาบไปเล็กน้อย ราวกับกัดฟันพูดว่า คนร้ายละ
นภันต์หายใจลึกๆ ตำรวจกับนักดับเพลิงจับไว้แล้ว ข้างล่างมีเบาะลม นัชชาไม่เป็นไร
พูดจบผู้ชายคนนี้หายตัวไปไม่อยู่ต่อแม้แต่หนึ่งวินาที รวมถึงไม่มองลงข้างล่างเลย เหมือนกับว่ากำลังจะหนีไป ถึงแม้ว่ารู้แล้วเธอไม่เป็นไร แต่ว่าเขาก็ยังปฏิเสธเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นความจริง
…
นัชชาตกลงจากตึกสูงๆ ถึงแม้ว่ามีเบาะลง แต่แรงกระแทกและแรงโน้มถ่วงก็ใหญ่อยู่ ตอนที่ตกลงบนเบาะลม เธออาการโคม่าไป ส่งเข้าโรงพยาบาลธาริม
เตชิตมาถึงโรงพยาบาล เธอถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน
ปรัณเป็นคนเข้าไปผ่าตัดศัลยกรรมด้วยตัวเอง ยังมีแพทย์หลายคนอยู่ในห้องฉุกเฉิน
มองเห็นไฟแดงของห้องฉุกเฉินสว่างขึ้น หัวใจของเตชิตเครียดมาก ดึงบุหรี่ออกจุด ควันขาวๆลอยขึ้น ใบหน้าซีเรียสมาก เจ้าหน้าที่การแพทย์ผ่านไปผ่านมาไม่มีใครกล้าพูดอะไร
ใครก็รู้ว่า คุณเตชิตเป็นเพื่อนของคุณปรัณ ผู้หญิงที่ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินเป็นผู้หญิงที่อายุใกล้ๆกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาน่าจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ในเวลานี้ ไม่มีใครกล้าไปพูดตีปากกระบอกของปืน
แต่ผู้ชายคนนี้ดวงตาดูน่ากลัว มือที่ถือบุหรี่ไว้ก็สั่นขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับว่าอารมณ์เสียสุดๆเลย
สายตาของเขามองไปมุมผนัง จ้องมองอยู่นิ่งๆ เหมือนกับว่าสภาพที่เกิดขึ้นบนชั้นดาดฟ้าพึ่งเกิดขึ้นเมื่อกี๊นี้
มีชีวิตอยู่มานานถึงสามสิบสองปี ตั้งแต่คุณพ่อหย่ากับคุณแม่แล้ว เขาไม่เคยร้องไห้เพื่อใครเลย ไม่ว่าจะเจ็บและลำบากแค่ไหน เขาก็ผ่านมาได้โดยเลือดจะไหลก็ได้แต่น้ำตาจะไม่มีวันไหลออกมา แต่ว่าวันนี้ เขามองเห็นเธอตกลงไปในหน้าเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยหมอกควัน
ถ้าเธอเป็นอะไรไป เขาจะทำยังไงดี
เตชิตถามตัวเอง แต่ว่าไม่มีคำตอบ เขารู้ว่าเขาจะไม่ปล่อยผู้ชายคนนั้นแน่ เขาจะทำให้ผู้ชายคนนั้นรู้สึกว่าผิดที่มาถึงโลกนี้
ความกระวนกระวายแบบนี้มาจากความรักเกี่ยวกับผู้หญิงที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน
รุนแรง เชี่ยว ควบคุมไม่ได้
ก็เพื่อร่างกายที่เขาน่าสนใจ แต่ว่าตอนนี้เขาเริ่มสนใจคนนี้ด้วย
เวลานี้ เตชิตพบเจอว่า เขามีความรู้สึกเริ่มรักเธอนอกจากชอบร่างกายตัวนี้
อ้าปากเล็กน้อย สูบบุหรี่อย่างหนักๆ กลิ่นบุหรี่ฉุนมากกระจายภายในจมูก แต่สามารถทำให้คนมีสติอยู่
หลังจากหนึ่งชั่วโมง ประตูของห้องฉุกเฉินถูกเปิดมาอีกครั้ง ปรัณแก่หน้ากากเดินมาและพูดด้วยว่า เธอปลอดภัยแล้วแค่ถูกกระทบกระแทกเล็กน้อยและมีอาการตกใจมาก เราจัดให้มีการรักษาในโรงพยาบาล แม้ว่าอาการไม่หนักมาก ถ้าพักอยู่ที่บ้านก็ไม่สะดวกในการรักษา
ผู้ชายคนนี้พยักหน้า ดับบุหรี่บนฝาถังขยะที่อยู่ข้างๆ แล้วทิ้งเข้าถังขยะ
ปรัณมองเห็นหมอกควันของบุหรี่แล้ว ถอนหายใจพูดว่า ยังไงที่นี่ก็เป็นโรงพยาบาล คุณจะสูบบุหรี่คุณควรจะไปมุมที่ข้างๆนะครับ
ผู้ชายคนนี้ไม่ตอบ แค่ถามว่า เธอฟื้นยัง
ยังเลย แต่ว่าแกสามารถเข้าไปเยี่ยมได้นะ ปรัณหันกลับตัวหลีกทางให้เขา
เตชิตยืนนิ่งไม่ขยับตัว เขามองเข้าไปรวมกับว่าข้ามประตูจะได้เห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงข้างภายในห้องฉุกเฉิน
ปรัณเขย่าแขนให้พยาบาลออกไปจากห้องฉุกเฉิน ตบไหล่เขาอย่างเบาๆ เดินเข้าใกล้ๆเขา นี่แกสองคนยังทะเลาะกันอยู่เหรอ
ไม่ใช่
ปรัณรู้ว่าเขาปากแข็งใจอ่อน แกอย่ามาทำตัวหยุมหยิมนะ เธอเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แกควรจะใจกว้างหน่อย…
ฉันรักเธอแล้ว
ปรัณเลิกพูดทุกอย่าง ใบหน้าตะลึง คำพูดที่เหลือยังไม่ทันพูดออกจากปาก เขาหันหน้ามองไปทางห้องฉุกเฉิน พูดอะไรวะ
เตชิตจ้องมองเขา ฉัน… คงจะรักเธอแล้ว
ได้ยินว่าเขายอมรับ ปรัณก็ยังรู้สึกตกใจมากขึ้นถึงแม้จะรู้อยู่แล้วเต็มอก อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้เตชิตรับรู้ความรักของเขา ก็เห็นว่ายังมีผลดีอยู่ แต่ว่า…
ชอบเธอจริงๆเหรอ
ไม่รู้เหมือนกัน แค่มองเห็นเธอตกลงมาก็รู้สึกว่าควบคุมตัวไม่ได้
เหนือการควบคุม
ปรัณกลืนน้ำลาย ครั้งที่แล้วเขาเหนือการควบคุม… โทษที ไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลย
แล้วตอนนี้มีคนทำให้เตชิตคนที่เยือกเย็นเหมือนภูเขาที่คลุมหิมะอยู่ เริ่มเปิดใจรัก
หรือว่ารอเธอฟื้นมาค่อยคุยกันดีๆ
ไม่ต้อง อย่าบอกเธอว่าฉันเคยมาที่นี่ ขอฉันคิดดีๆแล้วค่อยว่ากัน
ปรัณยังไม่ทันจะถามเขาว่าอยากได้อะไร เขาก็หันตัวเดินจากไป มองตัวสูงๆนั้นหายไปในปลายทางของระเบียง เขาส่ายหัวเล็กน้อย นึกขึ้นภาพที่เตชิตเร่งวิ่งมาโรงพยาบาล
ท่าทางดูรีบเร่งมาก ใบหน้าซีดสุดๆ ถึงแม้ว่าเขาอยากจะทำให้คนอื่นเห็นเขาใจเย็นอยู่ หลอกใครก็ได้ แต่ก็ไม่สามารถหลอกปรัณไม่ได้ทั้งๆที่พวกเขาเป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว
ผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างใน เขาใส่ใจมากเกินไป แต่ว่าคนที่อยู่ในสถานการณ์เขามองไม่ชัดความจริง
………
เวลาที่นัชชาฝืนขึ้นมาลืมตาเจอใบหน้าของณัชชนม์กับเมทนี เธอพยายามเคลื่อนไหวตัว แต่ยังไม่ได้เคลื่อนไปนิดเดียวก็รู้สึกเวียนหัวมากภายในสมองของเธอ
ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากห้องข้างใน ณัชชนม์รีบเดินมาข้างๆเตียง นัชชา เธอตื่นแล้ว
นัชชาอยากอ้วกมากเพราะเวียนหัว แต่เธออดทนไว้ ถามด้วยเสียงเบาๆ แม่คะ ที่นี่ที่ไหนคะ
โรงพยาบาลจ้า ลูก เมทนีเดินเข้ามา มองเห็นใบหน้าซีดของเธอ รู้สึกหัวใจเจ็บมาก พ่อเคยบอกเธอหลายครั้งแล้ว คนเราทำงานอยู่ข้างนอกก็อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น ทำไมเธอไม่ฟังเลย สถานการณ์อันตรายขนาดนี้ เธอไปยุ่งทำไม ถ้าเธอเป็นอะไรไป พ่อกับแม่จะอยู่ต่อยังไง
ได้รู้ว่านัชชาตกลงจากตึกสูง เมทนีกับณัชชนม์ประตกใจมาก โชคดีที่สุดที่นัชชาไม่เป็นไร แต่ก็ทำให้พวกสองคนนี้ตกตะลึงในใจ
พ่อคะ แม่คะ หนูไม่เป็นไร
ยังพูดว่าไม่เป็นไร การถูกกระทบกระแทกเล็กน้อย ถ้าหนักกว่านี้ เธอจะกลายเป็นเด็กบ้าแล้ว ด่าแต่ก็ยังรักเธอมาก คิดแล้วก็ยังรู้สึกว่าน่ากลัว
นัชชารู้ว่าพ่อกับแม่เป็นห่วง เลยพูดเอาใจเบา ๆ ไม่ต้องห่วงนะคะ คราวหน้าเจอเรื่องแบบนี้อีก หนูจะวิ่งหนีไปไกลๆ
ได้คำสัญญา สองคนนี้จึงไว้ใจบ้าง
นัชชามองไปทั่วห้อง ที่เธอนอนอยู่เป็นห้องเดี่ยวตกแต่งอย่างหรูหรา นอกจากห้องน้ำยังมีห้องล๊อบบี้ใหญ่ภายในห้องอีก
เธอหลับตาลง ถามว่า แม่คะ เพื่อนหนูตามมาหรือเปล่าคะ
เขากลับไปแล้ว เขาจัดการเรื่องห้องแล้วบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องค่าห้องบริษัทจะจ่ายให้ แม่เห็นชายคนนั้นใจดีหน้าตาก็ดี
นัชชาคิดอยู่ในใจ เขาละ
หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้วเขาก็กลับไปแล้ว บอกว่ามีธุระอยู่ที่บริษัท เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายดูแลความปลอดภัย ตำรวจก็จะมาสอบถามเรื่องนี้
ผู้จัดการฝ่ายดูแลความปลอดภัย?
ความหวังเกิดขึ้นภายในหัวใจของนัชชาถูกเย็นชามากโดยประโยคนี้ เธอหัวเราะตัวเอง ไม่ใช่เขา