คุณสามีพันล้าน - บทที่ 005 เทพบุตรสูงเกินเอื้อม
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 005 เทพบุตรสูงเกินเอื้อม
เทวิกาสูดหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องช่วยเขาจ่ายค่าเช่าห้องเดือนละห้าหมื่น
“กริ๊งงงง…” ทันใดนั้นโทรศัพท์ของยศพัฒน์ก็ดังขึ้น
เขาขับรถจึงไม่ได้กดรับสาย แต่เห็นได้ชัดเองอีกฝ่ายก็ไม่ยอมลดละ กระหน่ำโทรหาไม่หยุดหย่อน
เขาแค่ใช้มือข้างหนึ่งคลำหาโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง ถัดจากนั้นก็ยื่นให้เทวิกา เทวิการับโทรศัพท์ของเขาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ผมขับรถอยู่ไม่สะดวกรับสาย คุณช่วยดูหน่อยว่าใครโทรมา”
เทวิการู้สึกไม่เหมาะ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ตอนที่เธอเห็นบันทึกชื่อ “ชเนนทร์” หน้าจอโทรศัพท์ในเวลานั้น เธอรู้สึกโทรศัพท์มันร้อนจนลวกมือเธอรุนแรงมากขึ้น
“กริ๊งงงงง…”
ชเนนทร์ไม่รู้ว่าน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองกำลังถือโทรศัพท์ของยศพัฒน์อยู่ และก็ไม่รู้ว่ายศพัฒน์กำลังขับรถ จึงโทรศัพท์มาหาอีกครั้ง
ยศพัฒน์เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “เทวิกา ใครโทรมา ทำไมถึงไม่ช่วยผมรับโทรศัพท์ล่ะ?”
“พี่พัฒน์ ฉัน ไม่สะดวกที่จะช่วยรับโทรศัพท์ให้พี่นะสิ”
ถึงแม้ช่วงวินาทีที่เทวิกาตัดสินใจจะว่าจ้างยศพัฒน์ในเวลานั้น ก็คิดดีแล้วว่าจะเผชิญหน้ากับครอบครัวตนเองว่าอย่างไรดี แต่ตอนที่พี่ชายโทรศัพท์มานั้น เธอยังมีอาการตื่นตระหนกเล็กน้อย
อืม ต้องให้เวลาเธอได้ปรับอารมณ์บ้างนะ
“พี่ชายฉันโทรมาค่ะ” เทวิกาพูดเพิ่มเติม
ยศพัฒน์แปลกใจเล็กน้อย เขากับชเนนทร์เป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย แต่ไม่ว่าจะเป็นในรั้วมหาวิทยาลัยหรือนอกรั้วมหาวิทยาลัยก็ตาม เขากับชเนนทร์ก็ไม่ได้สนิทสนมกัน แต่ก็คงติดต่อกันในฐานะเพื่อนอยู่เสมอ
เรียนจบมาหลายปี ใช่ว่าทั้งสองคนไม่ได้ติดต่อกัน บ้างก็ดื่มเหล้าด้วยกันเป็นครั้งคราว ก็แค่เท่านั้นเอง
“ผมรับเอง” ยศพัฒน์ลดความเร็วของรถยนต์ พร้อมทั้งค่อยๆ เบี่ยงลดให้ชิดข้างทาง ยังดี ว่าถนนเส้นนี้สามารถจอดรถได้
เขาดึงโทรศัพท์มาจากมือของเทวิกา และกดรับสายชเนนทร์
“ชเนนทร์ นายมีธุระอะไร?” เสียงของยศพัฒน์ช่างสุขุมนุ่มลึก เทวิกาชอบฟังเขาพูดมากๆ
ตัดรูปลักษณ์ของเขาไว้ก่อนไม่ต้องไปเอ่ยถึง แค่ฟังจากคำพูดของเขา เทวิกาก็รู้สึกว่าตนเองไม่ขาดทุนด้วยซ้ำที่ไปว่าจ้างเขามาเป็นสามี
“ไม่มีอะไรหรอก เมื่อกี้เดชวิทย์ที่เป็นรุ่นน้องมันโทรมาหาฉัน บอกว่าแกแต่งงานแล้ว นี่มันเรื่องใหญ่ที่น่ายินดีมาก ฉันในฐานะเพื่อนเรียนร่วมรุ่นที่ดีของแก ถึงยังไงก็ต้องโทรศัพท์มายินดีกับแกทันทีสิ”
ชเนนทร์หัวเราะร่วนอยู่ปลายสายโทรศัพท์ “พัฒน์ เด็กผู้หญิงคนนั้นใครอะ? เก่งจริงๆ ขนาดยังเอาแกอยู่หมัด เมื่อไหร่พามาให้พวกเราเห็นหน้าคร่าตาล่ะ? เมื่อไหร่จะจัดงานแต่งงาน เหลือตำแหน่งเพื่อนเจ้าบ่าวให้ฉันด้วยนะ”
ยศัฒน์เป็นเทพบุตรสูงเกินไขว่คว้า เขาดูอ่อนโยนต่อคนอื่นและเย็นชาทำตัวเหินห่าง คนที่แอบรักเขา เด็กสาวที่ไล่ตามจีบเขาจะนับก็นับไม่หมด แต่เขาก็ไม่เคยสนใจพวกเธอเลย ขนาดข่าวลือก็ไม่มี
ชเนนทร์ได้ยินเดชวิทย์ที่เป็นรุ่นน้องได้นินทาข่าวนี้ให้เขาฟัง เขาจึงเก็บอาการที่ต้องการพูดแซวที่อยู่ในใจไว้ไม่อยู่ จึงรีบโทรศัพท์หายศพัฒน์ทันควัน
เขาประหลาดใจมากว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นที่สามารถรั้งยศพัฒน์ลงได้หน้าตาเป็นยังไง มีความสามารถเก่งจริงๆ ที่สามารถเด็ดเทพบุตรสูงเกินไขว่คว้าลงได้
ยศพัฒน์: …
เขาละเลยไปเสียสนิทว่าไอ้ผู้ชายปากมากอย่างเดชวิทย์นั่นไม่ได้มีเพียงเพื่อนเขาหรือรุ่นน้องของเขา
“พัฒน์ จดทะเบียนแล้ว ไยต้องปิดบังอีกวะ ช่วยรีบทำให้คนที่มีจิตใจชอบรู้เรื่องชาวบ้านสมปรารถนาทีเถอะ รีบพูดมาเร็ว”
ยศพัฒน์ชำเลืองมองภรรยาที่เพิ่งใหม่แกะกล่องอยู่ทางข้างกายอย่างเงียบเชียบ
แวบเดียวเทวิกาก็เข้าใจความหมายของเขาทันที
เทวิกาสูดลมหายใจเข้าปอดหลายเฮือก จากนั้นก็รับโทรศัพท์ยศพัฒน์มาจากมือของเขาอีกครั้ง
“พี่ ฉันเอง”
ทันใดนั้นชเนนทร์ที่อยู่ปลายสายก็ได้ยินเสียงน้องสาวตัวเองดังขึ้น เขาตะลึงทันที พลางเอี้ยวใบหูออกจากโทรศัพท์ทันที เพื่อมองหน้าจอโทรศัพท์ และมั่นใจมากว่าตนเองโทรศัพท์หายศพัฒน์ แถมยังพูดคุยกันอยู่เนี่ย ทำไมถึงได้เปลี่ยนเป็นเสียงน้องสาวของตัวเองล่ะ?
“เทวิกา เป็นแกไปได้ไง? นี่มันเบอร์โทรศัพท์ของยศพัฒน์นี่”
เทวิกาปรับอารมณ์ได้เรียบร้อยแล้ว เธอตอบคำถามพี่ชายอย่างจริงจังมาก “พี่ ฉันนี่แหละคือคนที่จดทะเบียนกับพี่พัฒน์”
พี่ชายพูดเสียงดังมาก คำพูดเมื่อครู่นี้ เธอได้ยินเข้าสองหูตั้งแต่แรกแล้ว
ชเนนทร์ที่อยู่ปลายสายพอได้ยินประโยคนี้เท่านั้นแหละ ตกใจจนโทรศัพท์ลื่น กระทั่งล่วงหล่นลงพื้นทันที
เขาต้องฟังอะไรผิด หูฝาดไปแน่ ผู้หญิงที่เป็นคนเด็ดเทพบุตรสูงเกินไขว่คว้าอย่างยศพัฒน์เป็นน้องสาวของเขาไปยังไงกัน!
วินาทีถัดมา ชเนนทร์ก้มตัวเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรีบร้อน พร้อมทั้งตะคอกใส่โทรศัพท์ทันที “เทวิกา แกพูดอีกรอบสิ? แกจดทะเบียนสมรสกับใครนะ? ยศพัฒน์เหรอ? แกเข้าใจในตัวเขาแล้วเหรอ? แกรู้มั้ยว่าเขาเป็นคนประเภทไหนกัน? ปรากฏว่าแกกล้าจดทะเบียนกับเขา นี่แกไปเอาความกล้าบ้าบิ่นมาจากสวรรค์เหรอ!”
พอชเนนทร์ได้ยินว่าน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองแต่งงานกับยศพัฒน์ ก็เริ่มสับสนจนไร้วิธีจัดการ
ขนาดเขาคนที่เป็นคนเป็นเพื่อนร่วมห้องกับยศพัฒน์มาสี่ปียังไม่สามารถคาดเดาความคิดความอ่านของยศพัฒน์ได้เลย กระทั่งยศพัฒน์พักอาศัยอยู่ที่ไหน ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
ชเนนทร์รู้แค่ว่ายศพัฒน์ไม่ใช่คนอ่อนโยนและพูดง่ายตามเปลือกนอกที่แสดงออกมาอย่างแน่นอน นั่นเป็นเจ้าพ่อร้ายลึกเลยนะนั่น ตอนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสสามารถจัดการคิดบัญชีขนาดไม่เหลือกระดูกเอาไว้สักชิ้น
แล้วน้องสาวของเขาเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่มีจิตใจที่มีแผนการมากมาย แล้วจะไปสนุกกับยศพัฒน์ได้ยังไง
“พี่ เรื่องนี้ พรุ่งนี้ว่างๆ ฉันจะค่อยๆ บอกพี่นะ แม่ให้ฉันกลับบ้านพรุ่งนี้ พอดีเลย ฉันจะพาพี่พัฒน์กลับบ้านไปเจอพวกผู้ใหญ่ด้วย”
ตราบใดที่ได้เจอกับยศพัฒน์ แม่ของเธอต้องไม่จัดการเรื่องนัดบอดให้เธออีกแน่นอน ไม่งั้นเธอบอกกับแม่ว่าเธอมีแฟนแล้วในโทรศัพท์ แม่เธอต้องไม่เชื่อแน่
เป้าหมายในการว่าจ้างยศพัฒน์ก็เพื่ออุดปากมารดา เพื่อชีวิตอันสุขสงบของตนเองไม่ใช่เหรอ?
เทวิกาพูดจบก็ตัดสายทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการหลอกถามทางจิตวิทยาเป็นชุดของพี่ชาย
ถึงแม้เธอไม่เข้าใจยศพัฒน์มากนัก แต่ทั้งสองคนรู้จักกันมาสิบเอ็ดปี เธอเชื่อว่าพี่พัฒน์ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
ชเนนทร์ที่โดนน้องสาวตัวดีตัดสายทิ้ง จึงเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องทำงานเล็กๆ ของตนเอง ปากก็พึมพำไม่หยุด “ยศพัฒน์แกมันจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ กล้ากลืนกินน้องสาวของฉัน”
“เทวิกา แกมันกล้าบ้าบิ่นจริงๆ ถึงขั้นไปแต่งงานกับยศพัฒน์ แกเคยอยู่กับเขาหรือไง?”
“พวกเขาสองคนคบหากันตอนไหน? ปิดได้มิดชิดจริงๆ”
อย่างไรก็ตาม สภาพจิตใจของชเนนทร์ตอนนี้อีนุงตุงนังยุ่งเหยิง ทนรอไม่ไหวจนอยากจะบินไปอยู่ข้างกายน้องสาวตัวดีเพื่อดูว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นทันควัน
การที่ชเนนทร์โทรศัพท์มาหา เทวิกากับยศพัฒน์ต่างสงบนิ่งทันที และไม่มีใครเอ่ยพูดว่าอะไร
ตอนที่กลับมายังถึงร้าน One Day In Coffee ยศพัฒน์เอ่ยถามระหว่างที่เทวิกากำลังดันประตูรถเพื่อลงจากรถยนต์ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เทวิกา คุณเสียใจหรือเปล่าครับ?”
เทวิกาหันหน้าไปหาเขา เขาสุภาพและสง่างาม ถึงแม้จะเป็นชุดลำลองสบายๆ ก็ยากจะปิดบังกลิ่นอายความสง่างามของเขาไว้ได้ คำพูดคำจาก็ช่างอ่อนโยนมาก ซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นสุภาพบุรุษอันอ่อนโยนเรียบร้อยสง่างาม
ทำไมคำพูดที่หลุดจากปากพี่ชาย ยศพัฒน์จึงกลายเป็นคนโหดเหี้ยมทารุณล่ะ? ทำเหมือนว่าเธออยู่กับเขาแล้วจะถูกเขากัดกินจนหมดเช่นนั้นเลย
เทวิการู้สึกว่าอากัปกิริยาตอบสนองของพี่ชายเกินเหตุมาก
“พี่พัฒน์คะ เราเป็นสามีภรรยาแค่ในสัญญานะคะ ทำตามเงื่อนไขในข้อตกลง แล้วทำไมฉันต้องเสียใจด้วยล่ะคะ?”
เทวิกาตอบรับ พลันครุ่นคิดทันที เธอรีบพูดเพิ่มเติม “ฉันเทวิกาไม่เคยทำเรื่องอะไรที่ทำให้ตัวเองมานั่งเสียใจทีหลังค่ะ”
เธอเองก็คำนึงอย่างชัดเจนแล้วจึงได้เสนอยศพัฒน์เรื่องว่าจ้างเขามาเป็นแฟน
ยศพัฒน์ยิ้มให้ “ตกลงครับ ผมรู้เรื่องแล้ว”
เทวิกากระพริบตา มักรู้สึกว่าในคำพูดนี้ของเขามันมีความหมายแอบซ่อน แต่พอกลั่นกรองแล้ว ก็กลั่นกรองไม่เห็นมูลเหตุของที่มาที่ไป