คุณสามีพันล้าน - บทที่ 027 คนที่อยู่ท่ามกลางความสุขแต่ไม่รู้จักความสุข
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 027 คนที่อยู่ท่ามกลางความสุขแต่ไม่รู้จักความสุข
“ปรี๊ดปรี๊ด……”
รถฝั่งตรงข้ามบีบแตรดังอยู่หลายครั้ง
เปรมายอมแพ้การไล่ตามยศพัฒน์และขยับรถถอยออกมา
ถอยยาวตามตรอกซอยเล็กนั้น ถึงจะมีที่ให้เธอได้กลับรถ เธอจอดรถไว้ข้างทางหยิบกระเป๋าตัวเองจากที่นั่งข้างคนขับและโทรศัพท์หานฤเบศวร์
นฤเบศวร์ไม่ใช่ยศพัฒน์เพียงไม่นานเขาก็รับโทรศัพท์ของเธอ
นั้นทำให้เปรมาเกือบสงสัยว่านฤเบศวร์รอคอยสายของเธอมาตลอดอย่างนั้นแหละ
“เปรมามีอะไรเหรอ? ให้ไปกินข้าวด้วยกันไหม? เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอ”
เห็นได้ชัดว่านฤเบศวร์พูดอย่างมีความสุข
แม้ว่าความรู้สึกของเปรมาที่มีต่อศัตรูตัวฉกาจของเขายังไม่หมดไป แต่เธอเป็นคนโทรมาหาเขาก่อน เขาดีใจอย่างมาก
เชื่อว่าต้องมีสักวัน เปรมาจะยอมแพ้เรื่องยศพัฒน์ เลือกที่จะอยู่กับเขา
เขาสิที่จะเหมาะกับเปรมาที่สุด
เขาสามารถมอบความสุขแบบที่เปรมาต้องการ
ยศพัฒน์ต้องผิดปกติ ร่างกายของเขาต้องมีปัญหา ดังนั้นอายุจะสามสิบแล้วยังไม่มีผู้หญิงที่ชอบ เปรมาอยากที่จะนอนกับเขา เขากลับไม่ตอบโต้ใดๆ แถมยังตีตัวออกห่างเปรมา
นฤเบศวร์คิด หากเปรมาอยากจะนอนกับเขา เขาไม่มีทางปฏิเสธเป็นแน่ มีเพียงแต่จะดีใจอย่างมาก
“ฉัน……”
คำพูดมีความสุขของนฤเบศวร์ ทำให้เปรมารู้สึกผิด
เธอให้นฤเบศวร์ช่วยเรื่องนี้ เธอควรรู้สึกผิดต่อนฤเบศวร์หรือไม่?
“เปรมาหรือว่าจะมีเรื่องที่ให้ฉันช่วย?”
นฤเบศวร์ไม่โง่เดาได้ว่าที่เปรมาโทรมาหาเขา ไม่ใช่ต้องการนัดเขาไปกินข้าว แต่มีเรื่องให้เขาช่วย แต่ไหนแต่ไรเปรมาก็เป็นแบบนี้ เมื่อใดที่ต้องการใช้เขาเธอถึงจะเริ่มมาหาเขาก่อน เมื่อใดที่ไม่ต้องการใช้เขาเธอก็แทบไม่สนใจเขาแล้ว
นฤเบศวร์จุกอยู่ในอก แต่ว่าเมื่อลองนึกดูดีๆแล้วเมื่อเปรมาเจอปัญหา คนแรกที่เธอคิดถึงก็คือเขา เห็นได้ชัดว่าในใจของเปรมา เขาก็ยังอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญอยู่บ้าง
“นฤเบศวร์พวกเราไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อเถอะ วันนั้นตอนที่ฉันกลับมา นายก็ชวนฉันไปกินข้าวแถมมารอต้อนรับฉัน ตอนนี้ฉันทำจัดการทุกอย่างลงตัวแล้ว ตามเหตุผลควรเชิญนายมากินข้าว”
สายตาของนฤเบศวร์เผยรอยยิ้ม “ได้ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอ”
“ไม่ต้องหรอก นายแค่รอฉันอยู่ที่ร้านอาหารของตระกูลนายก็พอ เดี๋ยวฉันขับรถออกไป ฉันจะขับรถไปหาเอง”
ตอนที่เธอกินข้าว ค่อยพูดถึงเรื่องนี้กับนฤเบศวร์
ในใจยังคงมีความหวัง หวังว่าจะได้เจอยศพัฒน์กับผู้หญิงสวยคนนั้นในร้านอาหาร
อ๋อ เธอคิดมากไปแล้ว
ที่เธอจะไปกินข้าวกับนฤเบศวร์ เป็นร้านอาหารของตระกูลนฤเบศวร์ ยศพัฒน์จะไปเสียเงินที่โรงแรมแอคเซสซ์ได้ยังไงกัน
ในเครือบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปก็มีร้านอาหารห้าดาวอยู่หลายแห่ง
ยศพัฒน์ไม่จำเป็นต้องมาที่โรงแรมแอคเซสซ์
“ได้ เธอขับรถระวังล่ะ”
นฤเบศวร์กำชับไม่กี่ประโยค
เมื่อวางสายลงเปรมาสูดลมหายใจเข้าลึกระงับความโกรธของตัวเองเอาไว้ จากนั้นก็หยิบกระจกใบเล็กขึ้นมาเติมหน้าเพิ่ม
หลังจากเติมหน้าเสร็จ เธอหยิบกล่องสีแดงจากกระเป๋าขึ้นมากล่องหนึ่ง ในกล่องนั้นมีสร้อยอยู่เส้นหนึ่ง เป็นเส้นที่นฤเบศวร์มอบให้เธอตอนเขาไปรับเธอกลับมาจากต่างประเทศวันนั้น
ถ้าต้องไปเจอนฤเบศวร์และจะให้เขาช่วย เธอก็ต้องเอาใจในสิ่งที่เขาชอบ
เปรมาถอดสร้อยเส้นที่อยู่บนคอตัวเอง จากนั้นก็ใส่สร้อยที่นฤเบศวร์ให้แทน
นาฬิกาและเนกไทที่จะให้ยศพัฒน์ ยศพัฒน์ไม่ต้องการ พอดีเธอจะได้ให้นฤเบศวร์แทน
นฤเบศวร์ไม่ได้เย็นชาไร้ความรู้สึกเหมือนยศพัฒน์ ขอเพียงเป็นของที่เธอให้ แม้ของนั้นจะไม่มีราคา นฤเบศวร์ก็จะมองสิ่งนั้นเป็นสมบัติล้ำค่า
มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอไปเป็นแขกของบ้านนฤเบศวร์ เดินเข้าไปในห้องของนฤเบศวร์โดยไม่ตั้งใจ ในลิ้นชักบนหัวเตียงของเขามีอัลบั้มอยู่หลายเล่ม ภายในอัลบั้มไม่ได้ใส่รูปภาพไว้ แต่กลับเป็นภาพวาดที่เธอให้นฤเบศวร์มาตลอดหลายปี ต่างเป็นภาพที่ทำไม่สำเร็จ
ภาพที่เธอทำจนสำเร็จมอบให้ยศพัฒน์และคนของตระกูลอริยชัยกุล ตอนที่ยศพัฒน์ยังเด็ก ทุกคนยังเล่นกันอย่างไร้เดียงสา เขายังพอรับภาพวาดที่เธอมอบให้เขา
เมื่อโตขึ้น เริ่มรู้จักความรักหนุ่มสาว เธอมอบอะไรให้ยศพัฒน์ เขาก็ไม่เคยจะรับอีก
ไม่เพียงแค่นั้นของที่เธอเคยให้เขาเมื่อก่อน เธอถามหากับยศพัฒน์ก็หาไม่เจอแล้ว ถามเขาก็บอกว่าทิ้งไปแล้ว
ทำให้เธอโมโหอย่างมาก
ไม่เหมือนนฤเบศวร์ รากหญ้าที่เธอมอบให้ นฤเบศวร์ยังทำให้มันกลายเป็นต้นหญ้าและเก็บมันไว้
มีอยู่ชั่วพริบตาที่เธอคิดจะปล่อยยศพัฒน์และเลือกนฤเบศวร์
เมื่อคิดถึงยศพัฒน์ไม่ว่าเริ่มต้นจนจบก็ยังคงรั้งนฤเบศวร์ไว้ที่อันดับสอง ในเมืองแอคเซสซ์ฐานะของตระกูลอริยชัยกุลก็อยู่เหนือนฤเบศวร์ คนที่เธอจะแต่งงานก็ต้องเป็นคนที่ดีที่สุดคนนั้น
ตำแหน่งภรรยาของตระกูลอริยชัยกุล เป็นเธอได้เพียงคนเดียว!
ความรู้สึกผิดที่มีต่อนฤเบศวร์ในตอนนั้น ก็ถูกนฤเบศวร์กดไว้อีกครั้ง
…………
ยศพัฒน์และเทวิกามายังร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง สองสามีภรรยาจอดรถจักรยานไฟฟ้าไว้หน้าประตู เทวิกาพูดไปพลางพาเขาเข้าไปในร้าน : “พี่พัฒน์ อาหารในร้านนี่ค่อนข้างอร่อย ปกติฉันจะมากินข้าวที่ร้านนี้เป็นประจำ”
เธอพูดหยอกล้อยศพัฒน์: “พี่พัฒน์ พี่ดูสูงส่งแบบนี้มากินในสถานที่เล็กเช่นนี้ น่าขายหน้ากับฐานะของพี่จริงๆ”
ยศพัฒน์ดีดไปที่หน้าผากของเธอและพูด “อย่าพูดถึงพี่พัฒน์ของเธอให้ดูสูงส่งขนาดนั้น ที่จริงฉันก็เป็นพนักงานคนหนึ่ง ทำงานอย่างบริสุทธิ์ใจ”
ไม่ผิดเขาเป็นผู้จัดการของบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปและยังเป็นประธานของบริษัทอีกหลายบริษัท บริษัทพวกนั้นเป็นบริษัทที่เขาสร้างขึ้นเองไม่เกี่ยวข้องกับบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปเป็นกิจการของเขาแต่เพียงผู้เดียว
มันเป็นตอนที่เขาอยากพิสูจน์ตัวเองจึงออกจากบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ป ดูว่าสามารถจะพึ่งตัวเองไปเผชิญท้องฟ้ากว้างขวางได้
และเขาก็พิสูจน์ได้ ท้องฟ้าบนหัวเขาถูกเขาครอบครอง มันทั้งสีฟ้าสูงและกว้าง
“พี่พัฒน์ พี่ทำงานที่บี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปในตำแหน่งอะไร? พวกเขาต่างเรียกพี่ว่าคุณพัฒน์”
เทวิกาถามไปเรื่อยเปื่อย
เพราะมากินอาหารที่นี่บ่อย ทำให้เทวิกาสนิทกับสองสามีภรรยาเจ้าของร้าน เข้ามาเห็นภรรยาเจ้าของร้าน เธอก็ยิ้มให้และทักทายพูดกับภรรยาเจ้าของ “ขอเหมือนเดิมแต่ว่าขอเยอะขึ้น วันนี้ฉันเชิญแขกมากินข้าว”
“ได้ รับประกันเยอะพอกิน!”
ภรรยาเจ้าของร้านมองยศพัฒน์พริบตาหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มวัยกลางคน เธอเป็นแม่เด็กสองคนแล้ว เธอยังตกตะลึงในหน้าตาของยศพัฒน์
พูดเล่นกับเทวิกา “เทวิกาแฟนของเธอหรอ? เป็นเด็กที่หล่อพอตัว”
สวมชุดสูทมองดูแล้วน่าจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
การจับคู่ของเทวิกาสำเร็จแล้วแน่?
หรือว่าตอนนี้กำลังดูตัวอยู่?
เทวิกาบอกพาแขกมากินข้าว……
“แฟนฉันเอง”
คิดไม่ถึงว่าเทวิกาจะยอมรับอย่างเปิดเผย
ภรรยาเจ้าของร้านยิ้ม : “สายตาไม่เลว”
เธอขยับเข้ามาใกล้หูของเทวิกาและพูดเสียงเบา “เทวิกา ผู้ชายคนนี้ดูดีมาก เธอต้องทะนุถนอม อย่าปล่อยให้หลุดมือล่ะ อีกเรื่องเธอต้องดูให้ดีล่ะ เขาหล่อมากเลย”
ผู้หญิงสวยไปก็เป็นภัยร้าย ผู้ชายหล่อเกินก็เป็นภัยร้ายได้เช่นกัน