คุณสามีพันล้าน - บทที่ 051 ฝันที่แปลกประหลาด
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 051 ฝันที่แปลกประหลาด
นฤเบศวร์สะบัดมือของเปรมาออก แล้วพูดเรียบ ๆ ขึ้นว่า “เปรมา คุณรู้ไหมว่าหัวใจคนเรานั้นเย็นลงไปได้ยังไง? มันจะค่อย ๆ เย็นไปทีละนิดจนเย็นไปทั่ว”
พูดจบ เขาก็จากไปแบบไม่หันกลับมามองอีกเลย
เปรมาตามออกมาถึงหน้าประตู ก็เห็นนฤเบศวร์ขึ้นรถไปแล้ว เธอก็เลยถอดใจไม่ไล่ตามไปแล้ว
นฤเบศวร์รักเธออย่างลึกซึ้ง ถึงจะโกรธ ก็แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่นานก็จะดีขึ้นเอง
พรุ่งนี้ เธอไปเลี้ยงข้าวเขาสักมื้อ มอบของขวัญให้เขาสักหน่อย เอาใจเขาสักนิด เขาก็จะยอมให้อภัยเธอแล้ว
นฤเบศวร์มองผ่านกระจกมองหลัง เห็นว่าเปรมาตามออกมาแค่หน้าบ้านใหญ่แล้ว ก็หยุดลงตรงหน้าประตูเลย แล้วไม่ได้ตามออกมาอีก สีหน้าของเขาก็เย็นลงไปกว่าเดิมอีก
มือที่จับพวงมาลัยอยู่กระชับแน่นขึ้น
ที่จริง ๆ ขอแค่เปรมาตามมาอีก เขาก็จะไม่ติดใจเอาความกับเธออีกแน่นอน
คนที่เธอรักคือยศพัฒน์ ทำไมเขาจะไม่รู้
แต่น่าเสียดาย เธอไม่ได้ตามมาต่อ……
นฤเบศวร์รู้สึกแต่เพียงว่าใจทั้งดวงถูกทิ่มแทงจนไปเป็นพัน ๆ รูแล้ว
แต่เขากลับเป็นคนรนหาที่เอง
คู่ปรับใหญ่เคยเตือนเขาแล้ว
นฤเบศวร์ที่ออกมาจากบ้านตระกูลไชยรัตน์ ได้ไปที่ผับแห่งหนึ่ง แล้วดื่มเหล้าเมามายอยู่ในผับ และไม่ได้บอกให้บอดี้การ์ดมารับเขา ตัวเองเดินโซซัดโซเซออกมาจากผับ แล้วเดินโซซัดโซเซไปทางรถตัวเอง
แล้วเป็นเพราะดื่มหนักมาก เขาดูอะไรก็เป็นภาพซ้อนไปหมด พอเดินไปถึงหน้ารถคันหนึ่ง เขาก็นึกว่าเป็นรถของเขา คลำอยู่นานกว่าจะคลำหากุญแจเจอ แต่ว่าเปิดประตูรถไม่ออก
“ไอ้รถเฮงซวยเอ๊ย!”
พอเปิดประตูรถไม่ออก เขาก็โกรธขึ้นมา แล้วเตะรถไปหลายที
แล้วก็ถอดใจที่จะขับรถกลับไป แล้วก็พึ่งพิงเงาจันทร์ เดินโซซัดโซเซไปข้างหน้า
ดึกดื่นค่ำคืนมาผู้คนก็น้อยลง บนท้องถนนมีคนเดินอยู่น้อยมากแล้ว
แม้แต่จำนวนรถที่วิ่งอยู่ก็น้อยลงไปเยอะ
เขาเดินไปช้า ๆ อย่างไม่มีจุดหมาย เดินโซเซไปเรื่อย ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองเดินไปถึงทางไหนแล้วด้วย พอเดินเหนื่อยแล้ว เขาก็ล้มตัวลงไปในตรอกแห่งหนึ่ง แล้วก็นอนลงบนตรอกแห่งนั้นเข้าสู่ความฝันไปเลย
……
รุ่งเช้า ฝนห่าใหญ่ได้ชำระล้างพื้นดินบนโลกมนุษย์ไป แล้วก็ทำให้อุณหภูมิที่สูงลิ่วลดลงมา ในที่สุดก็ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความเย็นสบายแล้ว
นาฬิกาชีวิตของยศพัฒน์แม่นยำมาก ตอนเช้าหกโมงครึ่งทุกวัน ก็จะตื่นขึ้นมาเองตามธรรมชาติ
พอลืมตาตื่นขึ้นมา ก็ก้มหน้ามองเด็กสาวน่ารักที่อยู่ในอก
อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศในห้องต่ำเกินไป เทวิกาที่เตะผ้าห่มทิ้งไปตั้งแต่เมื่อคืน ก็ค้นหาความอบอุ่นตามสัญชาตญาณ แล้วก็ซุกเข้าไปอยู่ในอกยศพัฒน์
เด็กสาวน่ารักเข้ามาให้กอดถึงที่ แน่นอนว่ายศพัฒน์ไม่มีทางผลักเด็กสาวออกอยู่แล้ว จึงกอดตัวเธอไว้
พอกอดทีหนึ่ง ก็กอดไปถึงเช้าเลย
ประทับจูบลงบนหน้าผากเทวิกาทีหนึ่ง
เขาประคองตัวเทวิกาออกจากอกไปอย่างระมัดระวัง แล้วเขาถึงลุกขึ้นมา
“คุณเป็นใครคะ?”
อยู่ ๆ เทวิกาก็ร้องเรียกออกมาคำหนึ่ง
ยศพัฒน์หันหน้ามองไปทันที นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีคนอื่นแล้วนี่
เทวิกายังคงหลับตาอยู่
ยศพัฒน์หลุดหัวเราะออกมา ที่แท้เธอกำลังถามคนอื่นในฝัน
“คุณอย่าไปซิคะ คุณเป็นใครคะ?”
เทวิการ้องเรียกเสียงดังออกมาคำหนึ่ง ท่าทางเหมือนว่าร้อนรนมาก สองมือคว้าไปเรื่อย อย่างกับว่าจะคว้าอะไรบางอย่างไว้
ต่อจากนั้น อยู่ ๆ เธอก็ลืมตาขึ้นมา ทั้งตัวลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง ดูมึน ๆ งง ๆ
“วิกา เป็นอะไรไป? ฝันร้ายเหรอ?”
ยศพัฒน์นั่งอยู่ข้างเตียง แล้วถามเธอขึ้นมาอย่างห่วงใย
พอเห็นว่าบนหน้าผากเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ ก็รีบเอากระดาษทิชชูมา แล้วก็ช่วยเช็ดเหงื่อเย็น ๆ ที่ซึมออกมาของเธออย่างใส่ใจ
นี่ตกลงเธอฝันร้ายอะไรที่กะทันหันขนาดนั้น ถึงได้ตกใจมากขนาดนี้
“วิกา?”
“พี่พัฒน์”
พอเทวิกาตั้งสติกลับมาได้ ก็เห็นใบหน้าคมที่อยู่ใกล้แค่คืบ แล้วก็ถอนหายใจออกไปคำหนึ่ง “ที่แท้คือฝันนี่เอง ทำฉันตกใจหมดเลย”
“นี่คุณฝันเห็นอะไรกันแน่?”
“พูดถึงแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นฝันร้ายหรอกค่ะ แต่เป็นฝันที่แปลกประหลาดมาก ฉันฝันเห็นผู้หญิงที่ผมยาวสยายคนหนึ่ง เธอเอาแต่วิ่งไล่ตามฉัน ปากก็เรียกว่าลูกไป และบอกว่าฉันเป็นลูกของเธอ พอฉันถามว่าเธอเป็นใคร เธอก็ไม่ตอบ”
“นี่ฉันอายุยี่สิบสี่ปีแล้ว กลับยังถูกเธอปฏิบัติอย่างกับเป็นเด็กทารกคนหนึ่ง อยากจะอุ้มฉัน ในฝัน ตอนที่ฉันเห็นเธอ ก็รู้สึกปวดใจจนร้อนรนไปหมด น่าแปลกมากเลยค่ะ ฉันกล้าพูดได้เลย อยู่ในชีวิตจริง ฉันไม่เคยพบเธอมาก่อนเลยค่ะ”
ยศพัฒน์ฟังเธอพูดอธิบายไป แล้วก็พูดปลอบโยนเธอว่า “เป็นแค่ความฝันเท่านั้น ไม่ต้องไปคิดถึงมันหรอก”
“พี่พัฒน์ ภาพในความฝันชัดเจนมาก เหมือนกับเป็นชีวิตจริงเลยค่ะ หน้าตาของเธอเป็นยังไง ฉันก็เห็นได้ชัดเจนเลย เธอดูเหมือนเป็นคนบ้า แต่ก็ใส่เสื้อผ้าได้สวยงามมาก ไม่ว่ายังไง ก็ดูแปลกมากเลยค่ะ”
ยศพัฒน์รวบตัวเธอมากอดไว้ในอก ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “หรือว่าอดีตชาติของคุณ?”
เทวิกา “…….ถึงฉันจะแต่งนิยายย้อนอดีต แต่คุณคิดว่ามีการย้อนอดีตจริง ๆ เหรอคะ ถ้าเป็นการย้อนอดีตจริง ๆ งั้นผู้คนก็จะรู้ว่าตายแล้วจะได้เริ่มใหม่อีกครั้ง งั้นโลกมนุษย์ก็คงจะวุ่นวายกันไปหมดแล้วซิคะ?”
เป็นแค่เรื่องสมมุติขึ้นมาทั้งนั้น จะไปคิดเป็นเรื่องจริงได้ยังไง
อยู่ในนั้น เธอเขียนบทบาทพระเอกเป็นคนดีมาก เป็นคนที่มีความรักลึกซึ้งมาก รักแต่นางเอกเพียงคนเดียว พวกผู้อ่านต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้ชายที่ดีมีอยู่แต่ในนี้เท่านั้น
ในใจเธอเองก็เข้าใจได้ ว่าไม่อาจจะคิดเป็นเรื่องจริงได้
เพราะฉะนั้น เธอไม่เคยนึกภาพว่าตัวเองเป็นซินเดอเรลล่า ที่จะได้แต่งงานกับเจ้าชาย
“งั้นก็ไม่ต้องสนใจมัน ใคร ๆ ก็ฝันได้ ไม่เอาฝันมาใส่ใจ ก็จะไม่มีผลกระทบอะไรกับตัวเองเลย”
“ยศพัฒน์ คุณว่า จะเป็นลางบอกเหตุอะไรหรือเปล่าคะ?”
ยศพัฒน์ถามเธอกลับไป “ลางบอกเหตุอะไรล่ะ? ผู้หญิงคนนั้นคิดว่าคุณเป็นลูกของเธอ ถ้าจะบอกว่าเป็นลางบอกเหตุ งั้นก็บอกว่าคุณไม่ใช่ลูกสาวของบ้านตระกูลวาชัยยุง คุณจะเชื่อหรือเปล่าล่ะ?”
เทวิกาอึ้งไปเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “ฉันเป็นลูกแท้ ๆ ที่แม่ฉันคลอดมาเอง หมอตำแยที่ช่วยทำคลอดให้แม่ฉันตอนคลอดก็ยังจำฉันได้ และบอกว่าตอนที่ฉันคลอด เท้าออกมาก่อน ทำให้แม่จนต้องทนทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากเลย”
“งั้นคุณจะไม่สนใจความฝันนั้นอยู่อีกทำไม?”
เทวิกา “……”
เป็นฝันที่แปลกมากจริง ๆ!
“เวลายังเช้าอยู่ นอนต่ออีกหน่อยเถอะนะ”
“ตื่นขึ้นมาแล้ว ก็นอนไม่หลับแล้วค่ะ”
ได้ซุกอยู่ในอ้อมกอดเขา เทวิการู้สึกว่าสบายมาก และรู้สึกปลอดภัยมาก จึงทำให้เธอเกิดความโลภและหลงใหลขึ้นมา
เอ๊ะ?
นี่เพิ่งจะแค่กี่วันเอง
เธอก็เกิดความโลภและหลงใหลต่อเขาแล้วเหรอ
พอนึกถึงอัลบั้มรูปที่เห็นก่อนนอนเมื่อคืน เทวิกาก็เงยหน้าขึ้นมาบอกเขา แล้วเขาก็ก้มหน้าลงมาพอดี สองสามีภรรยาสบตากันพอดี
“วิกา คุณจ้องมองผมอยู่แบบนี้ ผมอาจจะต้องทำอะไรสักหน่อยแล้วนะ”
น้ำเสียงของยศพัฒน์แหบแห้งไป จากนั้นเขาก็ประกบจูบเรียวปากแดงของเธอ
เทวิกาลองผลักตัวเขาออก แต่พอผลักไม่ออกแล้ว ก็เลยยอมแพ้ไป
เขาจูบอย่างอ่อนโยนมาก แฝงไว้ด้วยความเสน่หา
เทวิกาต้านทานเสน่ห์ของเขาไม่อยู่ จึงกอดคอเขาไว้ตามสัญชาตญาณ แล้วลองตอบสนองกลับไป
จากนั้น เขาก็กดตัวเธอกลับลงไปบนเตียงอย่างบ้าคลั่ง
พอลมฝนกระหน่ำผ่านไป เทวิกาก็เขินอายจนใบหน้าแดงระเรื่อ แล้วอยากเตะผู้ชายที่อยู่ข้างกายลงจากเตียงไป
ไม่ต้องให้เธอเตะ ยศพัฒน์ก็ลุกขึ้นไปก่อนแล้ว
เขาเข้าไปในห้องน้ำ เปิดน้ำไว้เต็มอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็ออกมาอุ้มตัวเธอเข้าไป
สิบนาทีต่อมา เทวิกาก็มานอนอยู่บนเตียงอย่างเกียจคร้าน ยศพัฒน์ก็ได้เปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายแล้ว
“วิกา จะไม่ออกไปวิ่งตอนเช้ากับผมจริง ๆ เหรอ?”
“ขาฉันอ่อนไปหมดแล้ว วิ่งไม่ไหวแล้วค่ะ”
ยศพัฒน์หัวเราะขึ้นมา แล้วจ้องมองไปที่เธออย่างลึกซึ้งชั่วครู่ แล้วพูดเสียงอ่อนโยนขึ้นว่า “งั้นคุณก็นอนพักไปดี ๆ เดี๋ยวผมวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าเสร็จแล้วจะกลับมากินข้าวเช้ากับคุณนะ”
เทวิกาอืมไปคำหนึ่ง แล้วจ้องมองเขาออกไป
ช่างไม่ยุติธรรมจริง ๆ
ทั้ง ๆ ที่คนออกแรงคือเขา
แต่คนที่เหนื่อยกลับเป็นเธอ
เขายังสามารถออกไปวิ่งได้อย่างกระฉับกระเฉง แต่เธอกลับอยากเอาแต่นอน
เทวิกานอนสะลึมสะลือไป แล้วก็คิดถึงความฝันที่แปลกประหลาดนั้นขึ้นมาอีก