คุณสามีพันล้าน - บทที่ 060 จุดเริ่มต้นของแผนการชั่วร้าย
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 060 จุดเริ่มต้นของแผนการชั่วร้าย
ยศพัฒน์พูดกำชับขึ้นว่า “ช่วยไปตรวจสอบดี ๆ ให้ฉัน ห้ามปล่อยผ่านไปแม้แต่เศษเสี้ยวนิดเดียว ไม่ว่าใครที่อยากลงมือกับวิกาของฉัน ฉันจะไม่มีทางปล่อยพวกมันไว้แน่!”
“เรื่องที่เจ้านายสั่งมา ผมจะต้องไปทำให้ดีแน่นอน เพียงแต่ว่า เจ้านายครับ คุณพูดคำว่าวิกาของคุณไปคำแล้วคำเล่า คำพูดนี้พอหูของผมได้ยิน มันก็ทิ่มแทงโดนใจชายโสดดวงนี้ของผมมากเลยครับ”
พอเหล่ตามองอินทัชไปสองที ยศพัฒน์ก็หลุดขำแล้วพูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่ได้ไปยุ่งชีวิตส่วนตัวของนายสักหน่อย ถ้าอิจฉา นายก็ไปหาผู้หญิงดี ๆ สักคนมีความรักที่ร้อนแรงสักครั้ง ในบริษัทเราก็มีสาวสวยที่ชอบนายอยู่มากมาย จะให้ฉันช่วยเป็นพ่อสื่อให้นายไหมล่ะ?”
พอได้ยินแบบนี้ อินทัชก็รีบยกธงขาวยอมแพ้ทันที
“ช่างเถอะครับ ผมไม่อยากไปแส่หาเรื่องวุ่นวายจากผู้หญิง ผู้หญิงบางอย่างพอเข้าไปยุ่งแล้วก็สลัดไม่หลุดด้วยนะครับ”
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคำพูดนี้นายเหมือนกำลังว่าฉันอยู่เลย”
“ถ้าเจ้านายจะคิดแบบนี้ ผมจะไปทำอะไรได้ละครับ? คู่ของเจ้านาย ผมหมายถึงคุณเปรมาคนนั้นเธอกลับประเทศมาแล้วนะครับ คาดว่าคงจะกลับมาเพราะเจ้านาย เจ้านายรีบจัดการเธอไปให้เร็ว ๆ ดีกว่า จะได้ไม่ต้องเป็นผลเสียต่อคุณนาย”
ยศพัฒน์เงียบขรึมไปครู่หนึ่งแล้ว ก็พูดขึ้นมาว่า “วิกาไม่ใช่คนอ่อนแอที่จะถูกคนอื่นรังแกได้ง่าย ๆ แล้วฉันก็ไม่มีทางปกป้องเธออยู่ตลอดเวลา เธอแต่งงานกับฉันแล้ว ยังไงก็ต้องเผชิญหน้ากับคนและเรื่องราวมากมาย เรื่องบางอย่างเธอต้องพึ่งตัวเอง”
“วิกาเองก็ไม่อยากให้ฉันคอยปกป้องอยู่ทุกวินาทีหรอก เธอเป็นผู้หญิงที่มีหัวคิดคนหนึ่ง”
อินทัชนึกถึงสถานะของเจ้านายตัวเอง แล้วก็เข้าใจความหมายในคำพูดของเจ้านายแล้ว
“เจ้านายยังมีเรื่องอื่นอีกไหมครับ? ถ้าไม่มีแล้ว ผมขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะครับ”
ยศพัฒน์เทน้ำอุ่นให้ตัวเองแก้วหนึ่ง แล้วหันไปพูดกับอินทัชขึ้นว่า “กลับอะไรกลับ ไปประชุม”
อินทัช “……”
ใช่ซิ ช่วงสายวันนี้มีประชุมสำคัญอยู่สองรอบ
เขาที่เป็นหัวหน้าผู้ช่วยพิเศษคนนี้ จะขาดการประชุมได้ยังไง
……
ที่คฤหัสถ์เมเปิล
ยามคนหนึ่งถือจดหมายฉบับหนึ่งอยู่ แล้วเดินมาทางชายชราที่ยังฝึกรำไทเก๊กอยู่
ชายชราตื่นขึ้นมาทุกเช้าแล้ว จะต้องมาฝึกรำไทเก๊กอยู่ที่สวนพักหนึ่ง ทุกครั้งที่เขาฝึกรำไทเก๊กนั้น หญิงชราก็จะรดน้ำให้ดอกไม้ในสวนดอกไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ และถอนหญ้า ที่จริงก็เพื่ออยู่เป็นเพื่อนชายชรา
สองสามีภรรยาสูงอายุคู่นี้ ตั้งแต่แต่งงานกันมา ก็รักกันดีมาตลอด จนตอนนี้ผมหงอกไปทั้งหัวแล้ว ความรักก็ยังมั่งคงเหมือนเดิม
และเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสองสามีภรรยา ผู้ชายในตระกูลอริยชัยกุลล้วนชอบเอาใจภรรยาทั้งนั้น
ยามยืนมองอยู่ข้าง ๆ ไม่กล้าเข้าไปรบกวนชายชราฝึกฝน
“ทำไมเหรอ?”
หญิงชรามองเห็นในมือยามถือจดหมายไว้ฉบับหนึ่ง ก็วางบัวรดน้ำลงแล้วเดินมาหา และถามอย่างอ่อนโยนขึ้น “เป็นจดหมายของคุณท่านเหรอ?”
“ใช่ครับ”
หญิงชราหันไปมองชายชราทีหนึ่ง แล้วพูดกับยามขึ้นว่า “เอาจดหมายมาให้ฉันเถอะ นายไปทำงานต่อไป”
ยามรีบใช้สองมือประคองจดหมายยื่นไปให้
พอหญิงชรารับจดหมายไปแล้ว ยามก็ถอยหลังไปสองก้าวแล้วก็หมุนตัวเดินย้อนกลับออกไป กลับไปตรงที่ทำงานของเขาเลย
หญิงชราถือจดหมายไว้แล้วเดินไปที่ศาลาที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วไปนั่งลงที่โต๊ะหินในศาลา
ด้านหน้าของซองจดหมายมีตัวหนังสือไม่กี่ตัวที่ใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์ออกมาติดอยู่
“คุณท่านภูธิป กรุณาเก็บไว้ดูเป็นการส่วนตัว”
หญิงชราลูบซองจดหมายเล็กน้อย แล้วรู้สึกว่าในซองจดหมายคือรูปถ่าย
เธอไม่ได้เปิดออกดู นี่เป็นของชายชรา รอให้ชายชรามาเปิดดูก่อน ถ้าเขาอยากให้เธอดู เธอค่อยดู
เป็นสามีภรรยากันมาหลายสิบปี พวกเขาคอยรักษาความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายเสมอ เคารพอีกฝ่ายเสมอ และเชื่อใจอีกฝ่ายเสมอ
ไม่ถึงสองนาที คุณปู่ภูธิปก็เดินมาแล้ว
“อะไรเหรอ?”
เขามานั่งลงข้าง ๆ ภรรยา จากนั้นก็รวดถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง
“ฉันลองลูบดูแล้วน่าจะเป็นรูปถ่ายค่ะ คุณลองเปิดออกมายืนยันหน่อยว่าฉันเดาถูกหรือเปล่า”
คุณปู่ภูธิปยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ปกติคุณก็มักจะเดาถูกแปดเก้าสิบเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว”
เขาเอาซองจดหมายขึ้นมา จ้องมองตัวหนังสือแถวนั้นที่ติดอยู่บนซองจดหมาย แล้วแกะซองจดหมายไปด้วยและพูดกับภรรยาสูงอายุไปด้วย “ยัยแก่ ฉันกล้าพูดได้เลยว่านี่ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนของหลานเราแน่นอน แล้วก็มีคนส่งมาหาเราที่นี่ เพื่อต้องการให้เราช่วยออกหน้าทำอะไรบางอย่าง”
“หลานชายสิบคนของฉัน มีคนไหนบ้างที่กล้าเป็นฝ่ายไปยุ่งเรื่องผู้หญิง? ไม่พูดถึงคนเล็กที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะ คนโตสุดยศพัฒน์ แอบแต่งงานแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พาหลานสะใภ้ของฉันกลับมาพบผู้ปกครองเลย”
“ไม่ใช่ว่าพวกเราจะไม่เคยเจอมาก่อนสักหน่อย”
หญิงชราอึ้งไปเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “พวกเราแอบไปดูกับเขาพากลับมาเจอพวกเรา มันความหมายไม่เหมือนกัน แอบไปดู ก็ไม่สามารถบอกหลานสะใภ้ได้ ว่าพวกเราเป็นปู่กับย่า ”
“เขาแต่งก็แต่งไปแล้ว คุณยังกลัวว่าเขาจะไม่พาตัวกลับมาอีกเหรอ? รอไปเถอะ ยังไงก็ต้องพากลับมา รูปถ่ายนี้……เป็นของหลานสะใภ้เรานี่ ผู้ชายในรูปถ่ายเป็นใครกัน?”
ไปด้วยแล้วก็เอารูปถ่ายยื่นไปตรงหน้าหญิงชราด้วย “ยังมีกระดาษโน้ตใบเล็ก ๆ ด้วยนะ”
ตัวหนังสือบนคุณปู่ภูธิปพูดกระดาษโน้ตเป็นตัวหนังสือที่พิมพ์ออกมา คนที่ส่งจดหมายมาคงจะกลัวคนตระกูลอริยชัยกุลตามหาเขาเจอจากลายมือได้ละมั้ง?
“เทวิกาเป็นเด็กที่ถูกทิ้ง”
เป็นเนื้อหาบนกระดาษโน้ต
คุณปู่ภูธิปจ้องมองกระดาษโน้ตแล้ว ก็ขมวดคิ้วขึ้น
พวกเขารู้ว่าหลานสะใภ้ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขแท้ ๆ ของตระกูลวาชัยยุง แต่เรื่องนี้มีคนรู้เรื่องน้อยมาก ทำไมถึงได้เผยแพร่ออกไปได้ แถมยังถูกคนเอามาสร้างเรื่องอีก
“ผู้ชายในรูปถ่ายคนนี้ น่าจะเป็นรักครั้งแรกของเทวิกามั้ง คนที่ตอนหลังไปเจอคนรวยเข้า ก็เลยทอดทิ้งเทวิกาไปคนนั้นมั้ง?”
สำหรับภรรยาที่หลานชายคนโตแอบซ่อนไว้ หญิงชราได้ให้คนไปตรวจสอบมาชัดเจนหมดแล้ว
เส้นสายของทางอินทัชก็ยังสู้ของหญิงชราไม่ได้เลย
ขิงยังไงก็ขิงแก่แรงกว่า
“ส่งของพวกนี้มาให้คุณ เป้าหมายเพื่ออะไร ใช้นิ้วหัวแม่ตีนคิดก็ยังรู้เลย ไม่มีอะไรอื่นนอกจากอยากยืมมือคุณมาใช้แยกเทวิกากับยศพัฒน์ออกจากกันไง”
หญิงชราพูดจบก็โยนรูปถ่ายพวกนี้ลงบนโต๊ะหิน สายตาที่มองไปที่คู่ชีวิตก็แฝงไปด้วยรอยยิ้ม
คุณปู่ภูธิปกลับรู้สึกโกรธแทบตาย
“ไอ้ชั่วช้าคนไหน กล้ามาหลอกใช้ฉัน ฉันดูเหมือนคนชั่วใช่ไหม ดูเหมือนเป็นคนชั่วที่จะทำลายชีวิตแต่งงานของหลานชายโดยเฉพาะเลยใช่ไหม?”
“ถ้าบ้านเราใครให้ความสำคัญเรื่องชาติตระกูลที่สุด ถ้าคุณเป็นที่สองก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว”
หญิงชราขัดคอคู่ชีวิตขึ้นอย่างไม่เกรงใจ
คุณปู่ภูธิปโกรธจนเบิกตากว้าง แล้วใบหน้าเหี่ยวย่นก็บึ้งตึงจนแดงก่ำ
“นี่ยัยแก่ ฉันยังไปเจอหลานสะใภ้เป็นเพื่อนเธอเลยนะ! เธอเห็นฉันรังเกียจหล่อนไหมล่ะ?”
หญิงชราหัวเราะขึ้นมา “นั่นเป็นเพราะว่าคุณไปสืบมาแล้วพบว่า เทวิกาเป็นคนที่หลานชายคุณเฝ้ามองมาเป็นสิบปี ใคร ๆ ก็รู้หลานชายคนโตของคุณมีนิสัยคล้ายคุณ คุณกลัวว่าถ้าตัวเองพูดว่าไม่ออกไปคำเดียว หลานชายสุดที่รักของคุณก็จะทะเลาะกับคุณ”
คุณปู่ภูธิป “……พูดอย่างกับว่ายศพัฒน์ไม่ใช่หลานชายคนโตของคุณยังไงอย่างงั้นแหละ”
“ฉันรักใคร่ยศพัฒน์มาตลอด ไม่มีทางทำเรื่องที่จะแยกเขากับเทวิกาออกหรอก”
คุณปู่ภูธิปพูดอะไรไม่ออกเลย
อืม ก็ได้ ในใจเขานั้นรู้สึกไม่ค่อยพอใจในตัวเทวิกา
ฐานะของตระกูลวาชัยยุงสู้ตระกูลอริยชัยกุลไม่ได้
ยังดีที่ ตระกูลวาชัยยุงเป็นตระกูลที่ขาวสะอาด ประวัติของตระกูลก็ดี คนในครอบครัวก็รักใคร่กลมเกลียวกัน
ลูกสาวที่ตระกูลแบบนี้เลี้ยงโตมา จะต้องเป็นผู้หญิงที่ดีแน่นอน
ปัดเรื่องชาติตระกูลภายนอกออกแล้ว การแต่งงานก็ต้องเลือกแต่งกับผู้หญิงที่ดี
นี่เป็นเรื่องที่คุณปู่ภูธิปสอนหลาน ๆ มา
“คุณว่า ไอ้คนชั่วช้าคนไหนที่มาหลอกใช้ผม?”
คุณปู่ภูธิปเปลี่ยนหัวข้อเรื่องไป ไม่อยากถูกภรรยาเหน็บแนมอีก
“คุณไม่ได้โง่สักหน่อย เดาไม่ออกเลยเหรอ? พูดแล้ว คุณจะลองเป็นคนชั่วดูสักครั้งไหมล่ะ?”
ในดวงตาของหญิงชรามีแววเหน็บแนม แล้วก็มีความตื่นเต้นอยู่ด้วย
คุณปู่ภูธิปรู้สึกหนังศีรษะชาไปเลย
นี่ภรรยาอยากแกล้งเขาอีกแล้วเหรอ
ทำไมเขาถึงได้แต่งคนฉลาดแบบนี้เข้าบ้านแล้วเอามารักใคร่ทะนุถนอมอยู่สิบกว่าปีนะ และยังมีลูกหลานเต็มบ้านกับเธออีก!