คุณสามีพันล้าน - บทที่ 061 ภรรยาคือเครื่องดับไฟที่ดีที่สุด
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 061 ภรรยาคือเครื่องดับไฟที่ดีที่สุด
ร้านOne Day In Coffeeวันนี้ขายดีเหมือนเมื่อวาน
ทันทีที่เปิดร้าน โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย
ลูกค้าต่างก็โทรมาสั่งเดลิเวอรี่
พนักงานในร้านต่างยุ่งกันเป็นพัลวัน
ยุ่งจนกนกอรเกือบลืมบอกเพื่อนสนิทเรื่องของนฤเบศวร์
คนที่สั่งกาแฟและขนม ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นคนในบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป
งานส่งเดลิเวอรี่จึงตกมาอยู่ในมือของเจ้าของร้านอย่างเทวิกา
ช่วยไม่ได้ พวกเธอมีต้นทุนน้อย ไม่มีปัญญาจ้างคนเยอะๆหรอก
ที่จ้างอยู่ตอนนี้ก็มีแค่คนทำขนมและพนักงานร้าน เวลาจ่ายเงินเดือนทีไร เทวิกากับกนกอรต่างก็รู้สึกกดดันทุกที
โชคดี ที่หนังสือของเทวิกาได้รับค่าตอบแทนค่อนข้างเยอะ เดือนหน้ายังพอได้ถือเงินก้อนใหญ่ ซึ่งเงินก้อนนั้นก็มาจากกระเป๋าเงินของยศพัฒน์นั่นแหละ
ตอนที่ออกจากบ้าน ท้องฟ้าโปร่งใสเป็นอย่างมาก
มาถึงครึ่่งทาง ท้องฟ้ากลับเปลี่ยนสี ลมแรงเริ่มกระหน่ำ หลังจากนั้นไม่นานฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา
เทวิการีบหาที่จอดรถ แล้วหยิบเสื้อกันฝนใต้เบาะรถมาใส่ หลังจากนั้น ก็เดินทางต่อ
ส่งเดลิเวอรี่ก็อย่างนี้แหละ
ถึงจะเจอพายุฝนลมแรงแค่ไหนก็ต้องไปต่อ ไม่อย่างนั้นจะถูกลูกค้าคอมเพลนเอาได้
เทวิกาเป็นเจ้าของร้าน แน่นอนว่าการส่งกาแฟและขนมที่ห่อให้ลูกค้า อาจจะไม่รวดเร็วเหมือนพนักงานส่งของจริงๆ แต่เธอก็ไม่อยากให้ลูกค้ารอนาน
แต่ใครจะไปรู้ว่าฝนจะตกแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทุกซอกทุกมุมบนถนนเริ่มมีน้ำขัง
แม้ว่าเทวิกาจะใส่เสื้อกันฝน แต่เนื่องจากฝนตกหนัก จนถูกฝนซัดสาดจนแทบลืมตาไม่ขึ้น
ตอนที่ใกล้จะถึงบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป เธอก็ขี่ต้านลมและฝน หาที่จอดหลบฝนสักพัก
และด้วยเหตุนี้ ผมเผ้ารวมไปถึงเสื้อผ้าของเธอจึงเปียกโชกไปหมด
พระเจ้าเหมือนกำลังเล่นตลกกับเทวิกา เพราะฝนไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย มีแต่ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้เทวิกาถอยกลับก็ไม่ได้ ให้ไปต่อก็ไปไม่ถึง
เมื่อเห็นว่าเวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ เทวิกาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากโทรหาคนของเธอ
“วิกา”
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เทวิกาก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มพูดยังไงดี และก็กลัวว่าเขาจะดุเธอ
“วิกา มีอะไรหรือเปล่า?”
“พัฒน์ ตอนนี้ฉันติดฝนอยู่แถวๆบริษัทของคุณ ลมและฝนแรงมาก ฉันขี่รถต่อไม่ได้ แต่ว่ากาแฟและขนมที่ลูกค้าสั่ง แช่ค้างไว้นานแล้ว ฉัน…..”
“สภาพอากาศแบบนี้คุณยังจะออกไปข้างนอกอีกเหรอ!”
ยศพัฒน์พูดตัดบทเทวิกา ด้วยเสียงตะคอก จนเทวิกาสะดุ้ง
แม้ว่าจะเตรียมใจมาแล้วว่ายังไงก็คงถูกเขาดุ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะโมโหขนาดนี้
“ตอนฉันออกมา ฟ้ายังโปร่งใสอยู่นี่นา สภาพอากาศในหน้าร้อนแปรปรวนแบบนี้แหละ จากโปร่งใสก็กลายเป็นฝนตกหนักในชั่วพริบตา ตกทีหนึ่งก็ตกนานด้วย ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย”
ถ้ายังไม่ออกมา แล้วเห็นว่าฝนตกหนักขนาดนี้ เธอก็คงไม่ออกมาหรอก
กาแฟแก้วเดียวกับขนมหนึ่งกล่อง ได้เงินมาแค่ไม่เท่าไหร่เอง
อากาศครึ้มๆแบบนี้ นั่งขายอยู่ในร้านปลอดภัยกว่ากันเยอะ
“คุณรออยู่นั่นแหละ ผมจะไปรับ!”
ยศพัฒน์พูดออกมา จากนั้นก็วางสายทิ้ง ลุกพรวดออกจากเก้าอี้ กำลังจะเอี้ยวตัวเดินออกไป ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงเอ่ยกำชับเลขาว่า “ไรยา ฝากแจ้งในกลุ่มที ว่าหลังจากนี้ใครจะสั่งกาแฟจากร้านOne Day In Coffeeมากิน ก็ไปกินที่ร้านเอง อย่าให้วิกามาส่งถึงที่”
ไรยารีบตอบรรับอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็กล่าวว่า “คุณพัฒน์ คุณประชุมต่อเถอค่ะ เดี๋ยวฉันไปรับให้”
ยศพัฒน์ตะคอกเมื่อสักครู่ ทุกคนในห้องประชุมต่างก็ได้ยินกันหมด
หลายคนไม่รู้ว่าวิกาคือใคร แต่ในตอนที่ท่นประธานเปิดประชุม คนที่ชื่อวิกาโทรมาอยู่หลายครั้ง ซึ่งปฏิกิริยาของท่านประธาน ก็บอกทุกคนให้ทราบโดยทั่วกันว่า คนที่ชื่อวิกาต้องเป็นผู้หญิงที่ท่านประธานชอบแน่ๆ
ยศพัฒน์เดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา
ผู้หญิงของเขา เขาก็ต้องไปรับเอง!
ไม่นานยศพัฒน์ก็มาถึงจุดที่เทวิกาหลบฝน
เมื่อเขาเห็นเทวิกาเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า สีหน้าก็มืดครึ้มราวกับถ่าน
จนเทวิการู้สึกกลัว
ทั้งๆที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
ยี่สิบนาทีต่อมา
ภายในห้องพักท่านประธาน เทวิกาใส่เสื้อผ้าของยศพัฒน์เดินออกมาจากห้องน้ำ
ยศพัฒน์ยืนถือไดร์เป่าผมอยู่ไม่ไกล เมื่อเห็นเธอเดินออกมา ก็ออกคำสั่งว่า “มาเป่าผม”
เทวิกาทำตามเหมือนกระต่ายเชื่องๆตัวหนึ่ง
เขาบอกให้ทำอะไรเธอก็ทำอย่างนั้น
เธอรีบเดินเข้าไปหา กำลังจะคว้าไดร์เป่าผมมาจากมือของเขา แต่เขากลับกดเธอให้นั่งลง แล้วเป่าผมให้เธอเอง
“พี่พัฒน์ เดี๋ยวฉันทำเอง”
“เงียบ!”
เทวิกาหุบปากฉับในทันที ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก และไม่กล้าแย่งไดร์เป่าผมจากมือเขา ปล่อยให้เขาเป่าผมให้เธอ ด้วยใบหน้าเครียดตรึง
“ฮัดชิ้ว!”
เทวิกาจามออกมา จากนั้นก็รีบใช้มือปิดปากปิดจมูก พูดเสียงอู้อี้ว่า “พี่พัฒน์ ฉันไม่ได้เป็นหวัดนะ”
ยศพัฒน์ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากเป่าผมให้เธอเสร็จ ก็วางไดร์เป่าผมลง
เทวิกาอาศัยจังหวะที่เขาหันหลังเดินออกไปทางอื่น แอบสำรวจห้องพักของเขา
ห้องนี้เทียบเคียงกับห้องนอนของเขาได้เลย ถึงจะขาดอะไรไปนิดๆหน่อยๆ แต่สิ่งที่พึงมีในห้องนอนก็ยังมีอยู่
หลังจากที่ยกศพัฒน์เอาไดร์เป่าผมไปเก็บ เขาก็หันมามองเธอ
เทวิการู้ว่าเขาโกรธ
แต่เธอก็ไม่ผิดนะ
ใครจะไปคิดว่าจู่ๆฝนจะตกลงมากลางทางล่ะ
จนถึงตอนนี้ ฝนก็ยังไม่หยุดตกเลย
ท้องฟ้าด้านนอก มืดครึ่มเป็นอย่างมาก เหมือนจะพังลงมาให้ได้
“กริ๊งๆๆ…..”
เสียงโทรศัพท์ของเทวิกาดังขึ้น
เป็นกนกอรนั่นเองที่โทรมา
“วิกา แกอยู่ไหน? ฝนตกลมแรงขนาดนี้ แกอย่าฝืนเลย หาที่หลบฝนก่อนเถอะ รอให้ฝนหยุด แกค่อยกลับมา แล้วก็ขี่รถระวังๆด้วยล่ะ”
“รู้แล้ว ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้อยู่กับพี่พัฒน์”
เมื่อรู้ว่าเทวิกาปลอดภัยดี และยังอยู่กับยศพัฒน์ กนกอรก็หายห่วง จากนั้นก็รีบวางสายอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากเป็นก้างขวางคอทั้งสองคน
“มานี่”
ยศพัฒน์เอ่ยพูดเสียงทุ้มต่ำ
แววตาที่ใช้มองเธอก็ลุ่มลึกดั่งหลุมดำ
เทวิกาที่มีลางสังหรณ์แม่น เมื่อถูกเขามองมาอย่างนี้ หัวใจก็แทบหลุดไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ดูเหมือนว่า เขาจะโกรธไม่เบาเลย
โอ๊ย
สามีโกรธแล้ว ควรง้อยังไงดีนะ?
โถมตัวใส่เขา กระชากเสื้อผ้าออกแล้วปล้ำ จนผนหยุดตกเลยดีไหม!
“พี่พัฒน์”
เทวิกาตัดสินใจใช้ไม้ตาย นั่นก็คือลูกอ้อน!
เธอไม่ได้เดินเข้าไป แต่โถมตัวเข้าใส่เลยต่างหาก
จนตอนนี้เธอตกอยู่ในอ้อมกอดของยศพัฒน์
เนื่องจากแรงโถม ทำให้ยศพัฒน์ทรงตัวไม่อยู่ เซถอยหลังไปสองสามก้าว แต่กระนั้นเขาก็ยังโอบกอดเธอไว้อย่างมั่นคง
“ที่รัก——”
เทวิกาออดอ้อนในอ้อมกอดของสามี “ที่รัก หายโกรธเถอะนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณเป็นห่วงเสียหน่อย ฝนต่างหากที่ตกไม่รู้จักเวล่ำเวลา แถมยังไม่มีบอกกล่าวล่วงหน้าด้วย”
ยศพัฒน์กำลังจะยิ้มขำ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองโกรธอยู่ จึงตีหน้าเรียบตึง ไม่ยิ้มไม่หัวเราะ
“ที่รัก”
คนในอ้อมกอดเอ่ยเรียกเขาที่รักเสียงอ่อนเสียงหวาน
เสียงหวานๆ ทำเอาหัวใจเขาอ่อนยวบ
เขาแทบอยากจับเธอกดลงบนเตียงและฟัดให้หนำใจ
คิดได้อย่างนั้นเขาก็ลงมือทำ ก้มลงไปอุ้มคนขี้อ้อนในอ้อมกอดขึ้นมา ก้าวเดินพรวดพราดไปยังเตียง จากนั้นก็วางเธอลงบนนั้น
เทวิกามึนงงนิดหน่อย จนกระทั่งแผ่นหลังสัมผัสเตียง เธอถึงได้รู้ตัว เตรียมจะลุกึ้นนั่ง แต่ก็ถูกชายหนุ่มกดเขาเอาไว้
“พัฒน์ นี่มันห้องทำงานคุณนะ ลูกน้องคุณอาจจะเข้ามาติดต่อเรื่องงานเมื่อไหร่ก็ได้”
“ผมกำลังโกรธอยู่นะ แล้วก็โกรธมากด้วย”
เมื่อเขาพูดมาอย่างนี้ เทวิกาก็จำใจพูดขึ้นมาว่า “…..งั้นก็ให้ฉันเป็นเครื่องดับร้อนให้คุณสิ”