คุณสามีพันล้าน - บทที่ 107 ถ้าคุณเหนื่อย ฉันจะปวดใจ
ประยสย์ขมวดคิ้ว “หลังจากที่แม่ฉันสติไม่ดี พอเห็นพ่อฉันก็จะกลัวตลอด อยู่ ๆพ่อฉันจะไปดูแม่ฉันทำไม?”
บอดี้การ์ดเงียบไม่ตอบ เขาไม่รู้ว่าควรตอบอะไร
คุณหญิงธิษณาเป็นบ้ามายี่สิบกว่าปีแล้ว คุณท่านเองก็คบกับเฮยหยู่เยว่ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่หย่ากับคุณหญิงสักที ยังคงเก็บคุณหญิงไว้ข้างกาย ทำให้คุณพลอยอิจฉาริษยามาก
เห็นคุณหญิงราวกับเป็นตะปูที่ตำตา
และทุกครั้งที่คุณท่านไปพบคุณหญิง คุณหญิงก็จะคลุ้มคลั่งเสมอ
คุณท่านเป็นหัวหน้าตระกูลสาระทา คุณหญิงก็เป็นภรรยาหลวงของคุณท่าน สองสามีภรรยายังไม่หย่าร้างกัน หากจะพบหน้ากัน ใครจะสามารถห้ามได้?
แม้นายน้อยจะอยู่ในบ้าน ก็ไม่อาจห้ามคุณท่านไปพบคุณหญิงได้
ประยสย์เองก็รู้ว่าจะไม่ได้คำตอบจากบอดี้การ์ด เขาก็แค่ถามตามสัญชาตญาณ
แม่คลุ้มคลั่งอีกแล้ว ประยสย์เร่งฝีเท้าเดินไปยังคฤหาสต์หลังนั้น
บอดี้การ์ด์เดินตามเขา
เพิ่งถึงหน้าคฤหาสต์ ประยสย์ก็ได้ยินเสียงของแตกและเสียงกรีดร้องมาจากในบ้าน
เขาวิ่งเหยาะๆเข้าบ้าน
ภาพตรงหน้าเป็นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา มีคนใช้มากมายล้อมรอบไล่ตามจับตัวคุณหญิงธิษณา คุณหญิงธิษณากอดตุ๊กตาไว้แน่นด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็จับโดนอะไรโยนอันนั้น
เหล่าคนใช้เคยถูกนายน้อยตักเตือนครั้งหนึ่ง ไม่กล้าเข้าไปใกล้เหมือนครั้งก่อนอีก
“คุณหญิง คุณหญิง”
ป้าอ้อยทั้งร้อนรนและปวดใจ เธอค่อยๆก้าวไปข้างหน้า ปากก็พลางพูดเกลี้ยกล่อมว่า “คุณหญิง ฉันเอง ป้าอ้อยไง”
“อย่าเข้ามา อย่าเข้ามาแย่งลูกฉัน!”
คุณหญิงธิษณายกแจกันใบหนึ่งขึ้นสูง พลางจ้องป้าอ้อยเขม็งอย่างดุร้าย หากป้าอ้อยเข้าไปใกล้ เธอก็จะทุบแจกันใส่ทันที
“อย่าเข้าไป แจกันนั่นเป็นของโบราณที่ฉันทะนุถนอมเชียวนะ”
คุณหญิงใหญ่ตะโกนเอ่ย ไม่ให้ใครเข้าไปใกล้
กลัวว่าพวกเขาจะยิ่งไปกระตุ้นสะใภ้บ้า แล้วทุบแจกันโบราณที่เธอรักแตกจริงๆ
คนที่พยุงคุณหญิงใหญ่เอาไว้คือคุณหญิงบ้านสองและคุณหญิงบ้านสามของตระกูลสาระทา
แม้พวกเธอจะจ้องมองคุณหญิงธิษณาอย่างตื่นตระหนก ทว่าแววตากลับเผยแววสะใจแวบหนึ่ง
ราวกับว่าต้องการให้คุณหญิงธิษณาทุบแจกันใส่ป้าอ้อยใจจะขาด ไม่เพียงแค่สามารถทำป้าอ้อยบาดเจ็บ แถมยังทุบแจกันให้แตกได้อีกด้วย
แต่ก่อนแม่สามีชอบพี่สะใภ้ใหญ่มากๆ และเห็นเนตรดาวประหนึ่งเป็นไข่ในหิน แต่กลับเย็นชากับลูกสาวบ้านสองบ้านสามของพวกเขามากๆ
หลังจากที่พี่สะใภ้เป็นบ้าไปหลายปี แม่สามีก็จึงจะค่อยๆรังเกียจเธอ
หากพี่สะใภ้บ้าทุบแจกันที่แม่สามีรักที่สุดจนแตก งั้นแม่สามีก็จะโกรธจนไล่พี่สะใภ้บ้าไปที่ชานเมืองแน่ ๆ
ที่นั่นอยู่ห่างไกลจากใจกลางเมือง สะดวกให้พวกเขาลงมือ
ไซม่อนยืนอยู่ตรงปากบันไดชั้นสอง พลางมองภรรยาที่คลุ้มคลั่งด้วยสีหน้าซับซ้อน
เขาเดินมาที่หน้าห้องภรรยาตัวเองโดยไม่รู้ตัว หวนนึกถึงความรักในอดีต เขาไม่อาจควบคุมฝีเท้าตัวเองไว้ได้ แล้วเปิดประตูเข้าไป
เขาไม่ได้ทำอะไรกับภรรยา
และไม่ทันได้ทำอะไร ทันทีที่เขาเข้าไป ก็เห็นภรรยากอดตุ๊กตาตัวหนึ่งเอาไว้ นอนพิงบนโซฟาและดูง่วงนอน ภาพนั้นทำให้เขานึกถึงตอนที่ลูกสาวยังอยู่
ภรรยาก็เคยกอดลูกนอนพิงบนโซฟาแบบนี้ และรอเขากลับบ้าน
เขาก้าวเดินไปข้างหน้า อยากจะอุ้มภรรยาขึ้นไปนอนบนเตียง แต่กลับทำให้เธอสะดุ้งตื่นเสียก่อน ทันทีที่เธอเห็นเขา ก็ตระหนกตกใจ แล้วผลักเขาออกกอดตุ๊กตาวิ่งหนี
ไซม่อนไม่รู้ว่าภรรยาเกรงกลัวเขาถึงขนาดนี้
เขาทำอะไรลงไปกับเธอกัน…….
ดวงตาของไซม่อนมีแววเสียใจภายหลัง มีความเจ็บปวด และมากไปกว่านั้นคือความจนใจ
เมื่อเห็นประยสย์เดินเข้ามา ไซม่อนก็เก็บสีหน้าซับซ้อน และเผยแววเฉยชา
“นายน้อย”
ป้าอ้อยเห็นประยสย์แล้วก็เหมือนเห็นผู้ช่วยชีวิต เอ่ยว่า “นายน้อย รีบมาปลอบคุณหญิงเร็ว อย่าให้คุณหญิงทำแจกันนั่นแตก นั่นคือแจกันที่คุณหญิงใหญ่ชอบที่สุด
“ทุกคนถอยไปซะ”
ประยสย์ตวาดเสียงขรึม
“ประยสย์ รีบไปเอาแจกันของย่ากลับมาเร็ว แจกันนั่นมีค่ามากๆ อย่าให้ยัยผู้หญิงบ้า……”
“นั่นคือแม่ผม!”
ประยสย์เอ่ยเสียงเย็น
“ถ้าทำแจกันของย่าแตกจริงๆ ย่าก็บอกผมมาว่าเท่าไหร่ ผมจะจ่ายคืนให้ย่าเอง”
ต่อให้แจกันมีค่าขนาดไหน จะเทียบกับแม่เขาได้ยังไงกัน?
แต่ละคนต่างรังเกียจแม่เขาว่าเป็นผู้หญิงบ้า แต่ใครกันที่ทำให้แม่เขากลายเป็นบ้า?
ตัวปัญหาคือพ่อเขา คือคนของตระกูลสาระทา เพราะการหายสาบสูญไปของน้องสาว ทุกคนต่างตำหนิและโทษแม่ว่าไม่ดูแลลูกดีๆ
ทั้งที่ปัญหามันเป็นเพราะต้นเหตุที่เกิดจากพ่อ ทำให้น้องสาวถูกอุ้มไป
พวกเขายังมีหน้ามาโทษแม่เขาได้ยังไงกัน
แม่สูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไป แล้วยังต้องถูกคนของบ้านสามีตำหนิติเตียน มีหรือที่จะไม่กลายเป็นบ้า?
คุณหญิงใหญ่เม้มปาก ก่อนจะเอ่ยว่า “ประยสย์ ย่ากลัวว่าถ้าแจกันแตกแล้วจะทำแม่นายบาดเจ็บ”
“นั่นสิ ประยสย์ นายต้องรู้ว่าอะไรควรไม่ควร นี่คือย่าของนาย คือผู้อาวุโวของนาย นายดูคำพูดคำจานายสิ เหมือนที่ปฏิบัติกับผู้ใหญ่เหรอ?”
คุณหญิงสามสั่งสอนประยสย์
ตอนนี้คุณหญิงใหญ่เริ่มลำเอียงรักบ้านสาม ลูกชายคนโตของบ้านสาม เจนสัน อายุน้อยกว่าประยสย์แค่ครึ่งปี ดำรงตำแหน่งรองประธานของโอเอ กรุ๊ป
เจนสันต้องการเป็นนายน้อยแทนที่ประยสย์
ลูกสาวคนเล็กของบ้านสามชื่อลินน์ คือญาติน้องสาวที่อายุน้อยที่สุดของประยสย์ เพิ่งอายุสิบปี หน้าตาคล้ายคลึงกับคุณหญิงใหญ่ตอนยังสาวอยู่สามส่วน
ใครๆก็รู้ว่าแต่ก่อนคุณหญิงใหญ่รักใคร่เนตรดาว นั่นเป็นเพราะว่าเนตรดาวสืบทอดรูปลักษณ์ที่งดงามของคุณหญิงใหญ่ตอนยังสาว
คุณหญิงใหญ่รู้สึกว่าหลานสาวคนโตก็คือร่างโคลนนิ่งของเธอ จึงรักและเอ็นดูมากๆ
จางหมินแค่คล้ายคลึงสามส่วน คุณหญิงใหญ่ยังรักใคร่เสียยิ่งกว่าอะไร
ประยสย์ไม่พูดอะไร ไซม่อนที่ยืนอยู่ตรงปากบันไดมาโดยตลอดพลันเอ่ยเสียงขรึมว่า “ประยสย์เป็นลูกชายฉัน มีตรงไหนทำได้ไม่ดี ก็ย่อมมีพ่ออย่างฉันสั่งสอนเขา ไม่กล้ารบกวนน้องสะใภ้สามมาสั่งสอนแทนหรอก แม้ว่าแม่ของประยสย์จะเป็นบ้า แต่ฉันที่เป็นพ่อไม่ได้บ้า”
เขาพูดไปพลาง เดินลงบันไดไปพลาง
คุณหญิงสามรีบเอ่ยทันทีว่า “พี่ใหญ่ ฉันไม่ได้มีเจตนาจะสั่งสอนประยสย์ข้ามหัวพี่”
“ประยสย์ นายไปเอาแจกันออกจากมือแม่นาย แล้วพาแม่นายออกไปตากลม ให้เธอสงบสติอารมณ์”
ไซม่อนสั่ง
ประยสย์ไม่ตอบ
เขาเดินไปหาแม่เบาๆด้วยสีหน้าอ่อนโยน แล้วพูดเกลี้ยกล่อมแม่เหมือนกล่อมเด็กว่า “แม่ เอาแจกันมาให้ผม อย่าเผลอทำน้อ
เจ็บล่ะ”
คุณหญิงธิษณารีบก้มมองตุ๊กตาในอ้อมแขนตัวเองทันที พลันกังวลว่าแจกันจะทุบโดนลูก ก่อนจะปล่อยแจกันหลุดออกจากมือ
ประยสย์พุ่งตัวไปทันที
แล้วรับแจกันใบนั้นไว้ได้อย่างปลอดภัย ไม่ได้ถูกแม่ทุบแจกันจนแตก
เขาไม่ได้เสียดายแจกัน แค่ไม่อยากให้ย่าใช้เรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างไล่แม่เขาไปอยู่คฤหาสต์ที่ชานเมือง
ประยสย์วางแจกันลง แล้วพยุงแม่ เอ่ยว่า “แม่ ผมพาแม่ออกไปเดินเล่นนะ”
“สามี พาลูกไปด้วยไหม?”
ไม่ว่าประยสย์จะแก้ไขกี่ครั้ง ทุกครั้งที่คุณหญิงธิษณาเห็นลูกชายก็ยังคงเรียกว่าสามีตลอด
ประยสย์เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “อืม พาไป ถ้าแม่อุ้มเหนื่อยแล้ว ก็ให้ผมอุ้มแทน”
“ไม่เหนื่อย คุณยุ่งทุกวันขนาดนี้ ต้องจัดการเรื่องในบริษัทไม่พอ แล้วยังต้องจัดการที่บ้านอีก คุณงานยุ่งมาก จะให้คุณอุ้มลูกอีกไม่ได้ เดี๋ยวคุณจะเหนื่อยแย่”
คุณหญิงธิษณามองประยสย์อย่างอ่อนโยน และเอ่ยอย่างรักใคร่และเมตตาว่า “ถ้าคุณเหนื่อย ฉันจะปวดใจ”