คุณสามีพันล้าน - บทที่ 118 เขาใช้ความรู้สึกมากเกินไป
“มีคุณอยู่ด้วย ฉันมีความสุขทุกวันอยู่แล้ว”
เขาเป็นคนโรแมนติกใช้ได้
เทวิการู้สึกว่าเขาเหมือนพระเอกในนิยายของเธอ พระเอกที่เธอเขียนออกมาโดดเด่นแค่ไหน เขาก็โดดเด่นเท่านั้น
ยศพัฒน์มองมาที่เธออย่างหวานซึ้ง เอ่ยพูดอย่างลึกซึ้งว่า “ผมจะอยู่กับคุณตลอดไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
ยศพัฒน์ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด เอ่ยพูดเสียงนุ่มว่า “วิกา ตลอดชีวิตนี้ ผมจะมีแค่คุณคนเดียว”
“ฉันก็จะมีแค่คุณคนเดียวเหมือนกัน”
ถึงเธอจะเคยคบกับตาณถึงสองสามปี แต่เธอก็รักตัวเองมากพอ ถึงได้ไม่เคยปล่อยตัวให้ตาณเลยสักครั้ง ยศพัฒน์คือผู้ชายคนแรกของเธอ และจะเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้น
สองสามีภรรยาอิงแอบแนบชิด ยืนมองหิ่งห้อยที่ลอยเต็มห้อง สาดแสงระยิบระยับ
เมื่อเธอดูจนพอใจ ยศพัฒน์ถึงได้เดินไปเปิดหน้าต่าง เหล่าหิ่งห้อยที่ดึงดูดความสนใจของเวทิกาก็บินออกไปทางหน้าต่างอย่างรวดเร็ว
เมื่อหิ่งห้อยบินออกไปหมดทุกตัวแล้ว ยศพัฒน์ก็เปิดไฟ
“เตรียมผมไปเตรียมน้ำอุ่นให้”
ยศพัฒน์พูดในขณะที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำไปเตรียมน้ำอุ่นให้เธอ
ทว่าจู่ๆกลับได้ยินเสียงเธอเอ่ยเรียก
“มีอะไรเหรอ?”
ยศพัฒน์เอ่ยถามเธออย่างประหม่า
“แม่ฉันเร่งเอาๆ จนฉันต้องขึ้นรถมากับคุณทั้งอย่างนี้ ไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลยสักตัว เพราะงั้นฉันเลยไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนอาบน้ำ”
เทวิกางุ่นง่านเป็นอย่างมาก
ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง
ยศพัฒน์มีท่าทีอ่อนลง เอ่ยพูดยิ้มๆว่า “ผมอยู่ด้วยทั้งคน คุณยังกังวลว่าไม่มีเสื้อผ้าใส่อีกเหรอ?”
เทวิกา “……คุณเก็บเสื้อผ้ามาให้ฉันด้วยเหรอ?”
เธอจำได้ว่าเขาเองก็ถูกแม่เธอเร่งให้รีบมาด้วยกัน
ตอนเขาไปบ้านเธอ ก็ไม่ได้เอาเสื้อผ้าไปด้วย แต่ยังดีที่มีเสื้อผ้าของพี่ชายเธอพอให้ใส่ได้
แต่ว่าที่บ้านของเขาไม่มีใครวัยใกล้เคียงกับเธอเลยนะ
ยศพัฒน์ก้มลงไปหอมแก้มเธอ เอ่ยพูดว่า “คุณรอผมอยู่นี่แหละ เดี๋ยวผมเตรียมน้ำอุ่นเสร็จ จะไปเอาเสื้อผ้ามาให้ ผมไม่ให้คุณเดินออกมาโดยไม่ใส่อะไรหรอก หรือถ้าคุณอยากทำอย่างนั้น ผมก็ยิ่งชอบ”
เมื่อพูดจบ ก็ได้รับแรงหยิกจากผู้เป็นภรรยา
ยศพัฒน์เจ็บจนร้องซี๊ด แต่กระนั้นในแววตาก็ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจที่แกล้งแซวอีกฝ่ายได้สำเร็จ
ในเมื่อเขาพูดว่าจะหาเสื้อผ้ามาให้ เทวิกาจึงรอ
เมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องน้ำ และทำการเตรียมน้ำอุ่นให้เธอเสร็จ ก็ลากเธอเดินมาหยุดที่ประตูบานหนึ่ง เมื่อประตูเปิดออก ก็จูงเธอเข้าไปด้านใน ที่แท้มันก็คือห้องเสื้อผ้านั่นเอง
สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือ ในห้องเสื้อผ้าของเขามีเสื้อผ้าผู้หญิงเกือบครึ่ง
“วิกา คุณเลือกได้เลยนะว่าจะใส่ชุดไหน ที่นี่มีทุกแบรนด์ ทุกแบบ ชุดพวกนี้สั่งตัดมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ”
เทวิกาอึ้ง
ห้องเสื้อผ้าเชื่อมต่อกับห้องของเขา และมันก็ใหญ่มาก ซึ่งเสื้อผ้าของเธอกินพื้นที่ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ตรงกันข้ามกับเสื้อผ้าของที่มีอยู่ไม่เท่าไหร่
“คุณบอกว่า สั่งตัดมาให้ฉันโดยเฉพาะ?”
เทวิกาเอ่ยถามเบาๆ
ยศพัฒน์ตอบอืม
เขาคือทายาทโดยตรงของตระกูลอริยชัยกุล เวลาแบรนด์เนมมีสินค้าออกใหม่ ก็มักจะส่งมาให้เขา แม้ว่าตอนนั้นเขาจะโสดมาหลายปี แต่ตอนที่พวกเขาให้สินค้าเขาครั้งแรกเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ ยอมรับสินค้านั้นเอาไว้
คนพวกนั้นจึงรู้ว่าเขาเตรียมไว้ให้ว่าที่ภรรยาในอนาคตของเขา
เกือบสองปีที่ผ่านมา ก่อนที่บริษัทออกเครื่องแต่งกายจะออกสินค้าตัวใหม่ ยศพัฒน์ก็จะให้ขนาดชุดแก่อีกฝ่าย เพื่อให้อีกฝ่ายตัดชุดตามขนาดที่เขากำหนดแล้วส่งมาให้
ถึงเสื้อผ้าพวกนั้นยังไม่ได้มาอยู่บนตัวของเทวิกา แต่เนื่องจากคุณพัฒน์แห่งบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมพวกนั้นมา จึงถือเป็นการโปรโมทอย่างหนึ่ง
แล้วก็เพราะว่าเสื้อผ้าพวกนั้นที่ยศพัฒน์อยากได้ไม่เคยมีใครได้ใส่ให้สาธารณะเห็น จึงทำให้เหล่าหญิงสาวที่ชื่นชอบยศพัฒน์ พากันแย่งซื้อเสื้อผ้าเหล่านั้น เพราะคิดว่าเขาจะชอบ
เพราะแบบนี้ บริษัทเครื่องแต่งกายจึงส่งเสื้อผ้าผู้หญิงมาให้ยศพัฒน์มากขึ้นเรื่อยๆ
“แต่ว่า คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันใส่ไซส์ไหน?”
ยศพัฒน์ขำออกมาเบาๆ “ขอแค่ผมอยากรู้ ผมก็รู้หมดนั่นแหละ”
เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า เขาแอบถ่ายรูปเธอมาตั้งแต่เธออายุสิบสามปี แถมยังเก็บมันไว้อย่างดี จู่ๆเทวิกาก็คิดว่าการที่เขารู้ไซส์เสื้อผ้าของเธอ ก็ม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด
เขารู้สึกกับเธอลึกซึ้งถึงเพียงนี้
ลึกซึ้งถึงขนาดที่ทำให้เธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
ซึ่งสิ่งที่ตามมาด้วยก็มีทั้งความหวานซึ้ง และความสุข
การถูกผู้ชายดีๆคนหนึ่ง แอบปกป้องมาตลอดสิบปี ค่อยๆพาเธอเข้าไปในโลกของเขาทีละก้าว จนกลายเป็นภรรยาที่เขารักสุดหัวใจ
แค่คิด ก็รู้สึกซึ้งกินใจแล้ว
“ข้างๆห้องเสื้อผ้าเป็นที่ห้องเก็บเครื่องประดับ คุณอยากไปดูไหม?”
ยศพัฒน์เอ่ยถามเสียงนุ่มนวล
เทวิกา “…..ห้องเก็บเครื่องประดับ? นี่คุณอย่าบอกนะว่าคุณเตรียมเครื่องประดับทั้งห้องไว้ให้ฉันด้วย?”
จังหวะนี้เธอคือเมียเศรษฐีจริงๆแล้วนะเนี่ย
มิน่าล่ะ คนเขาถึงพูดกันว่า ทำงานเก่งแค่ไหนก็ไม่เท่าได้ผัวรวย
“บางชิ้นก็เป็นของที่ผมไปดูงานแล้วเห็นว่าสวยดีก็เลยซื้อมา บางชิ้นก็เป็นของที่คนอื่นส่งมาให้ สมบัติที่ผมเก็บสะสมไว้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ต้องเอาให้คุณอยู่ดี”
เทวิกาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมา
“ส่วนถัดจากห้องเก็บเครื่องประดับเป็นห้องที่ผมเอาไว้ให้คุณเก็บรองเท้าและกระเป๋า จะเข้าไปผ่านห้องผมหรือจากข้างนอกก็ได้ ยังไงมันก็เชื่อมต่อกันอยู่แล้ว คุณจะได้เข้าไปหยิบใช้ได้สะดวก”
เทวิกา “…..ยศพัฒน์ นี่คุณ ลงทุนทำเพื่อฉันไปทั้งหมดเท่าไหร่กันเนี่ย?”
ยศพัฒน์ยิ้มออกมา “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมรู้แค่ว่า อะไรที่คุณจำเป็นต้องใช้ ผมก็จะหามาให้หมด”
“วิกา คุณคือภรรยาที่ผมหมายมั่นไว้ตั้งแต่แรก ในเมื่อผมอยากได้คุณมาครอบครอง ผมก็ต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดให้คุณสิ”
เขาจับมือเทวิกา ตอนที่พูดคำเหล่านี้ออกมา น้ำเสียงล้วนเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นและความสงบนิ่ง ราวกับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ว่าสำหรับเทวิกาแล้ว มันเป็นเรื่องใหญ่ที่แทบจะกระตุกวิญญาณเธอได้เลยล่ะ
คิดว่าเรื่องที่เขาแอบถ่ายรูปเธอ แล้วเก็บรักษาไว้อย่างดีมาตลอด เป็นอะไรที่ชวนกระตุกจิตกระตุกใจมากพอแล้ว
แต่ใครจะไปรู้ว่ายังมีเรื่องที่ชวนให้เหลือเชื่อมากกว่านี้อีก
“เดี๋ยวผมพาไปดูห้องเก็บเครื่องประดับ กับห้องเก็บรองเท้าและกระเป๋า ไหนๆห้องมันก็เชื่อมกัน แค่เปิดประตูก็เข้าไปได้แล้ว ผมมีกุญแจแค่คนเดียว เวลาจะทำความสะอาด ก็มีภูริชมาคอยยืนเฝ้า รับรองว่าไม่มีใครกล้าแตะของที่ผมเตรียมไว้ให้คุณแน่นอน”
ยศพัฒน์พูดพร้อมกับพาเทวิกาเดินทะลุห้องเสื้อผ้า ไปยังประตูอีกบาน เขาเปิดประตูบานนั้นออก เดินเข้ามาก็เป็นห้องเก็บเครื่องประดับอย่างที่เขาพูดเอาไว้
ข้างในไม่ต่างอะไรกับร้านเครื่องประดับ ทั้งกว้างและมีเครื่องประดับมากมายหลายอย่างวางอยู่เต็มไปหมด จนเทวิกาตาลาย
เครื่องประดับในนี้ดูแพงกว่าเครื่องประดับร้านข้างนอกมาก รูปแบบก็ดูสวยกว่าด้วย
“บ้านของเรายังมีห้องเก็บเครื่องประดับห้องใหญ่อีกห้อง ข้างในมีเครื่องประดับหลากหลายชนิด เอาไว้ให้ผู้หญิงในบ้านใส่ออกงานต่างๆ แต่ว่าเครื่องประดับในห้องนั้น ก่อนจะใช้ต้องลงทะเบียนขอใช้ก่อน หลังจากใช้เสร็จก็ต้องเอาไปคืน ที่นั่นจะมีคนคอยจัดการและเก็บรักษาโดยเฉพาะ”
“ส่วนห้องนี้ผมเตรียมไว้ให้คุณ เครื่องประดับทุกชิ้นจึงเป็นของคุณแค่คนเดียว คุณอยากใส่ก็หยิบมาใส่ได้เลย หรือถ้าไม่ใส่ก็แค่ถอดไว้ที่นี่ ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องหลายขั้นตอนเหมือนห้องเก็บเครื่องประดับอีกห้อง”