คุณสามีพันล้าน - บทที่ 120 คุณชายสี่ณภัทร
“งั้นตอนไปกินอาหารที่โรงแรมคืนนี้ คงต้องลำบากคุณแล้วล่ะ”
เทวิการู้ดีว่าทำไมยศพัฒน์ถึงรักเธอมากขนาดนี้
ที่เขาปฏิบัติต่อเธอด้วยความรู้สึกจริงใจและรักใคร่ มันสืบทอดมาจากบรรพบุรุษของเขานี่เอง
ตอนที่ปู่ย่าของเขายังเป็นหนุ่มสาว พวกเขาต้องเป็นคู่รักที่รักกันหวานซึ้งมากแน่ๆเลย
ถึงผมจะหงอก แต่ความรู้สึกยังคงเดิม
เทวิกาอิจฉาความสัมพันธ์แบบนี้
เธอหวังว่าความสัมพันธ์ของเธอกับยศพัฒน์ จะเหมือนกับปู่กับย่าของเขา ที่ต่อให้ผมกลายเป็นสีหงอกขาว ยังคงเป็นคู่รักที่รักกันหวานซึ้ง
“พอเห็นว่าพัฒน์กับวิการักกันแบบนี้ ฉันก็อดนึกถึงตอนที่เรายังเป็นหนุ่มสาวขึ้นมาไม่ได้ พัฒน์ในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากคุณในอดีตเลย”
คุณย่าชนิศาหวนคิดถึงอดีต รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็อ่อนโยนเป็นอย่างมาก
“พัฒน์เป็นหลานชายของเรา และเติบโตมากับเรา การที่เขาสืบทอดความทุ่มเทและความเด็ดเดี่ยวของเราไป ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ อย่างน้อย หลานสะใภ้ของเราก็จะได้กลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในเมืองแอคเซสซ์”
คุณปู่ภูธิปพูดอย่างมีเหตุมีผล
ลูกหลานที่พวกเขาอบรมสั่งสอนมา จะต้องไม่เป็นพวกเสเพลและจะต้องไม่เจ้าชู้
เมื่อใดที่ลูกหลานของพวกเขาเดินเข้าสังคม ต้องเป็นคนจริงจัง ใครกล้ามั่วผู้หญิง ทำตัวเสเพลทุกหนทุกแห่ง ไร้ความรับผิดชอบ ก็เตรียมตัวถูกไล่ออกจากบ้านได้เลย!
“พัฒน์เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบ ในเมื่อเขาแต่งงานกับเทวิกาแล้ว เทวิกาก็ถือว่าเป็นหลานสะใภ้ของเรา ไม่มีใครมาแทนที่ได้”
คุณย่าชนิศารู้ว่าสามีกำลังพูดถึงเปรมา
เธอถามสามีว่า “เมื่อวาน ณัฏฐากลับมาแล้วใช่ไหม?”
“อืม”
“เธอรู้เรื่องของเปรม์ เลยตั้งใจกลับมา?”
“น่าจะอย่างนั้น แต่ใครจะไปสนล่ะว่าเธอกลับมาทำไม มันไม่เกี่ยวอะไรกับผมสักหน่อย ผมไม่เคยชอบคนคนนี้ แต่ลูกสะใภ้คนโตของเราคุยกับเธอถูกคอ เพราะเห็นแก่หน้าลูกสะใภ้หรอก ผมถึงไม่ได้ไล่เธอออกไป เธอคิดว่าเธอเป็นใครกัน?”
“พอมาถึง ก็ถามนั่นถามนี้ ถามเกี่ยวกับการแต่งงานของยศพัฒน์ด้วย คิดว่าผมไม่รู้หรือไงว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่”
“ก็จริงที่ยศพัฒน์และเปรมาโตมาด้วยกัน แต่ว่าหลายปีที่ผ่านมา ยศพัฒน์ไม่ได้คบกับเปรมาสักหน่อย ก็เพราะว่าเขาไม่ได้ชอบเปรมายังไงล่ะ คุณดูท่าทีที่เขามีต่อเทวิกากับเปรมาเอาสิ จะได้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างรักกับไม่รัก”
คุณปู่ภูธิปพูดอย่างเย็นชาว่า “เพราะพวกคุณนั่นแหละที่คิดว่ายศพัฒน์กับเปรมาชอบพอกันมาตั้งแต่เด็ก”
เขาไม่เคยเห็นด้วยกับคนหมู่มากเลยสักครั้ง
ถ้าหลานชายกับเปรมาชอบพอกันมาตั้งแต่เด็กจริงๆ ก็คงไม่โสดจนถึงตอนนี้
“นั่นสินะ เปรมารักยศพัฒน์มาก เธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่ นี่ตาแก่ คุณคิดว่าเปรมาจะใช้วิธีการที่รุนแรง จัดการกับวิกาหรือเปล่า”
คุณปู่ภูธิปพูดเบาๆ ว่า “นั่นคือเรื่องที่ยศพัฒน์ควรคิดหาทางจัดการ เราจะไปคิดมากทำไม ตอนที่ยศพัฒน์ ตัดสินใจแต่งงานกับเทวิกา เขาน่าจะรู้อยู่ว่าพอเทวิกากลายเป็นภรรยาของเขาแล้ว จะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง ถ้าเขาไม่มีความสามารถปกป้องภรรยาของเขาได้ เขาก็คงไม่แต่งงานหรอก”
คุณย่าชนิศาตอบอืมในลำคอ
เมื่อเห็นว่าผู้ใหญ่ทั้งสองไม่ได้พูดถึงเธอและยศพัฒน์อีกต่อไป เทวิกาก็ลงไปข้างล่าง
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า คนแก่ทั้งสองก็หันไปมองเธอ
“คุณปู่ คุณย่า อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
เทวิกาเอ่ยพูดอรุณสวัสดิ์อย่างอายๆ
คนแก่ตื่นเร็วกว่าเธออีก
ทั้งหมดเป็นเพราะความผิดของยศพัฒน์เลย ที่ทำให้เธอหมดแรงจนตื่นเอาป่านนี้
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ หิวแล้วหรือยัง ไปล้างมือเตรียมทานอาหารเช้าเถอะ ตาพัฒน์ตื่นมาทำมาเพื่อแกโดยเฉพาะเลยนะ เขาไม่ได้เข้าครัวทำอาหารมานานแล้วด้วย”
คุณย่าชนิศายิ้มอย่างใจดี มองมาที่เทวิกาด้วยสายตาที่อ่อนโยน ไม่มีท่าทีไม่พอใจที่เทวิกาเพิ่งตื่นเอาป่านนี้เลยสักนิด
ตรงกันข้ามกลับดูอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
เมื่อถูกคุณย่าชนิศามองอย่างนี้ เทวิกาก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
“คุณปู่ คุณย่าทานแล้วเหรอคะ?”
“พวกฉันทานแล้ว”
ชีวิตสองเฒ่านั้นมั่นคงมาก พวกเขาไม่สนใจว่าคนหนุ่มสาวจะทำอะไรยังไง พวกเขาสนแค่การใช้ชีวิตตามกิจวัตรประจำวันของพวกเขา
“วิกา แกรีบไปกินข้าวเช้าเถอะ ฉันกับปู่แกจะออกไปเดินเล่าสักหน่อย”
หลังจากคุณย่าชนิศาพูดจบ เธอก็สะกิดผู้เป็นสามี
คุณปู่ภูธิปลุกขึ้นยืนอย่างให้ความร่วมมือ จากนั้นผู้ใหญ่ทั้งสองก็ประคองกันเดินออกไปจากบ้าน
เทวิการู้ว่าพวกเขาจงใจออกจากไปข้างนอก เพื่อเธอกับยศพัฒน์ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง
เมื่อได้ยินเสียงของเทวิกา ยศพัฒน์ก็ออกมาจากครัวพร้อมกับอาหารเช้าที่เขาเตรียมไว้สำหรับเทวิกา
“อรุณสวัสดิ์ครับ ที่รัก”
ยศพัฒน์ยิ้ม และเอ่ยทักทายอรุณสวัสดิ์
เมื่อเทวิกาเดินเข้าไปหาเขา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ เธอจึงก้าวไปข้างหน้า และกอดเอวของยศพัฒน์จากด้านหลัง แล้วเอนศีรษะพิงหลัง เอ่ยพูดเสียงหวาน ราวกับกำลังออดอ้อน
“ที่รัก ฉันตกใจแทบแย่ที่ตื่นมาไม่เห็นคุณ”
ยศพัฒน์ตะลึงกับเสียงหวานออดอ้อนของเธอ
เขาดึงเธอมาข้างหน้า ยิ้มให้เธอแล้วพูดว่า “ผมผิดเอง ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ผมสัญญาว่าทุกครั้งที่คุณลืมตาขึ้นมา จะได้เห็นหน้าผมแน่นอน”
เขาเองก็อยากให้เธอคอยส่งเขาไปทำงานที่หน้าประตูทุกเช้า นั่งรอเขากลับบ้านตอนเย็น ตื่นขึ้นมาได้เห็นหน้าเธอทุกวัน
“หิวหรือยัง ไปกินข้าวเถอะ เสร็จแล้วเดี๋ยวผมพาไปรับลมเล่น”
ยศพัฒน์ดึงเก้าอี้ออกให้เธอ
เทวิกาก็ไม่กล้าที่จะออดอ้อนมากเกินไป กลัวว่าเขาจะมีอารมณ์ จนไม่ได้พาเธอออกไปรับลมเล่น
เธอปล่อยเขา แล้วเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้
“ผมกินแล้ว คุณกินเถอะ”ยศพัฒน์นั่งลงข้างเธอ มองดูเธอกินอาหารเช้าที่เขาเตรียมไว้สำหรับเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ที่รัก คุณพูดแล้วนะ ว่าตอนออกไปขับรถเล่น คุณจะให้ฉันเป็นคนขับ”
ยศพัฒน์ยิ้มและพูดว่า “ผมรับปากคุณแล้ว ก็ต้องทำตามอย่างที่พูดสิ แต่ว่าตอนลงเขาผมขอเป็นคนขับเอง เพราะคุณยังไม่น่าจะคุ้นชินกับทางบนภูเขา”
เทวิกาไม่ได้คัดค้านอะไร
“พี่ใหญ่”
เสียงที่เทวิกาไม่คุ้นเคยดังขึ้น
จากนั้นไม่นานเธอก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีเดินเข้ามา
เมื่อชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นเห็นเธอ เขาก็ตวัดตาที่เฉียบแหลมราวกับมีดมองมาที่เธออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถึงได้เก็บสายตานั้นกลับไป เปลี่ยนเป็นสายตาอ่อนโยน และยิ้มออกมาน้อยๆ พร้อมกับเอ่ยถามยศพัฒน์ว่า “พี่ใหญ่ นี่เหรอ พี่สะใภ้ของผม?”
ไม่รอให้ยศพัฒน์ตอบ เขาก็เริ่มแนะนำตัวเองกับเทวิกา “พี่สะใภ้ ผมชื่อณภัทร ในบรรดาพี่น้องผมอยู่ลำดับที่สี่”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็ยื่นมือขวาออกไปหาเทวิกา
เทวิการีบลุกขึ้นและจับมือกับเขา
“สวัสดีคุณชายสี่ ”
ณภัทรยิ้มและกล่าวว่า “พี่สะใภ้ อย่าเรียกผมว่าคุณชายสี่เลยครับ เดี๋ยวพี่ชายผมได้ถลกหนังผมเอา เรียกผมว่าณภัทรเฉยๆก็ได้ครับ”
ยศพัฒน์พ่นลมหายใจออกมา ก็ยังดีที่อีกฝ่ายรู้งาน
เขากล่าวเสริมว่า “วิกา ณภัทรเป็นลูกชายคนโตของอาคนที่สี่ของผม”
เทวิกายิ้มและพยักหน้า
เมื่อคืนเธอเห็นแค่เหล่าคุณน้าคุณอา แต่คนวัยใกล้เคียงกันยังไม่เห็นสักคน
“พี่ใหญ่ ผมตื่นสายแค่นี้ แต่แม่ผมถึงกับบอกให้คนเอาอาหารไปเททิ้ง ไม่ให้ผมกินข้าว ผมเลยมาหาพี่ที่นี่ ว่ายังมีอะไรให้กินไหม”
ขณะพูด ณภัทรก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อหยิบจานกับช้อน โดยไม่ต้องถามพี่ชายและพี่สะใภ้สักคำ จากนั้นเขาก็มานั่งลงที่โต๊ะ และเริ่มตักอาหารกิน
เขากินไปพลางเอ่ยชมไปพลาง “โหพี่ ฝีมือการทำอาหารของพ่อครัวที่นี่ดีกว่าที่บ้านผมอีก อร่อยมาก”
ยศพัฒน์พูดอย่างโกรธเคือง “อาหารพวกนี้ฉันเตรียมนี่ไว้ให้พี่สะใภ้แก แกกินนิดเดียวพอ เสร็จแล้วก็รีบไสหัวกลับไป”
เขาไม่เชื่อว่าอาสะใภ้จะเทอาหารทิ้งหมด เห็นๆกันอยู่ว่าณภัทรแค่หาข้ออ้างมายลโฉมเทวิกา ว่าคนที่มาทำให้เขาหลงมากขนาดนี้ จะวิเศษขนาดไหนกันเชียว”