คุณสามีพันล้าน - บทที่ 151 มีสติแค่เพียงชั่วคราว
หลังจากเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องทั้งหมดแล้ว สายตาของเทวิกาที่มองเพื่อนเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด และขอโทษ
“วิกา เธอไม่ต้องรู้สึกแบบนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของฉันเอง และฉันเป็นคนรับปากเอง ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ เธอไม่ได้เป็นคนทำให้ฉันกลายเป็นแบบนี้ จะบอกว่าเป็นเรื่องไม่ดีก็คงไม่ได้ เพราะอย่างน้อย ฉันก็ได้รับค่าตอบแทนจากเขามาไม่น้อย ใช่ไหม?”
“ขอแค่ฉันรักษาหัวใจของตัวเองไว้ให้ดี เล่นบทบาทของฉันให้ดี ฉันก็ไม่มีอะไรที่ต้องสูญเสีย”
เทวิกาเดินเข้าไปสวมกอดเพื่อนรักไว้แน่นๆ
ทำให้คำพูดของกนกอรหยุดลงทันที
ไม่ว่ายังไง เทวิกาเป็นต้นเหตุของความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างเธอกับนฤเบศวร์ ถึงแม้เธอจะแสดงออกมาอย่างสบายๆ เหมือนไม่แคร์อะไรเลย แต่เทวิกาก็รู้สึกเสียใจ และโทษตัวเองอยู่ดี
นอกเสียจากเธอกับนฤเบศวร์จะรักกันอย่างมีความสุขเหมือนเทวิกาและคุณทศพัฒน์แบบนั้น
แต่ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
เส้นทางที่เธอกับเทวิกาเดิน ข้างหน้าเหมือนกัน แต่มันก็มีทางสี่แยก
ที่สำคัญคือ นฤเบศวร์ยึดติดมุ่งมั่นกับเปรมามากเกินไป และหลงรักเธอมาก
“คราวหลังถ้ามีอะไรต้องการให้ฉันช่วย ต้องบอกฉันนะ”
กนกอรพูดขึ้นว่า: “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่เกรงใจเธออยู่แล้ว พอละ อย่าทำท่าทางเหมือนฉันจะไปตกนรกแบบนั้นสิ ก็แค่แต่งงานเท่านั้นเอง แต่งเร็วหรือช้าก็ต้องแต่งอยู่ดี แต่งกับใครก็เหมือนกัน ยังไงก็ต้องจดทะเบียนสมรสอยู่แล้ว”
“กนกอร……”
เทวิกาไม่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อนรักให้เลิกกับนฤเบศวร์ เธอรู้ดีว่านี่เป็นสัญญาระหว่างเพื่อนรักกับนฤเบศวร์ ถึงแม้จะเป็นเพราะเธอ เธอก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้กนกอรล้มเลิกสัญญาที่รับปากไว้กับนฤเบศวร์ได้
ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าพ่อแม่แท้ๆ ของเธอเป็นใคร แต่เธอก็ถือว่าโชคดีมาก ที่มีพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงที่รักเธอเหมือนลูกแท้ๆ มายี่สิบกว่าปี เธอรู้สึกมีความสุขมาก เมื่ออยู่ในสังคมที่มีแต่คนเห็นแก่ตัวแบบนี้ ยังสามารถมีเพื่อนที่จริงใจแบบกนกอรได้
……
โอเอ กรุ๊ป。
ในออฟฟิศทำงานของรองประธาน โต๊ะทำงานของประยสย์เต็มไปด้วยเอกสารที่เขาต้องจัดการ ในขณะที่เขากำลังวุ่นอยู่กับการทำงานอยู่นั้น โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นมาทันที
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าจอกับเบอร์โทรที่โทรเข้ามา ป้าอ้อยเป็นคนโทรมา เขารีบรับสายขึ้นมาทันที
“คุณชาย คุณหญิงร้องไห้ไม่ยอมหยุด เกลี้ยกล่อมเธอยังไงก็ไม่สำเร็จสักที”
ประยสย์รีบถามออกมาว่า: “ตุ๊กตายังอยู่ไหม?”
“ยังอยู่ค่ะ คุณหญิงร้องไห้กอดตุ๊กตาอยู่ และไม่รู้เพราะสาเหตุอะไร หลังเที่ยงตอนพักผ่อนตื่นขึ้นมา คุณหญิงก็นั่งเหม่อลอยอยู่ริมหน้าต่าง พอเหม่อลอยได้สักพักก็ร้องไห้ออกมา”
“คุณหญิงไปเจอใครมาเหรอ?”
“คุณพลอยมาที่นี่ค่ะ แต่ว่าฉันขวางเธอไว้ ไม่ให้เธอได้เจอคุณหญิง ต่อมาคุณท่านกลับมา คุณพลอยจึงออกจากบ้านไปพร้อมคุณท่าน หลังจากนั้น ก็ไม่มารบกวนคุณหญิงอีกเลย”
ป้าอ้อยรายงานทุกอย่างที่เธอรู้ให้ประยสย์ได้รับทราบ
“ได้ ผมรู้แล้ว ผมจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้แหละ ป้าช่วยดูแลคุณหญิงก่อน อย่าให้เธอออกไปนอกห้องเด็ดขาด ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก เดี๋ยวคุณย่าผมจะมาด่าอีก”
“คุณชายเดินทางปลอดภัยนะคะ บอกคนขับรถให้ขับช้าๆ หน่อย ยังไงคุณหญิงก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ถึงแม้คุณชายจะรีบกลับมาก็แก้ไขอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ความปลอดภัยของคุณชายสำคัญที่สุด”
ประยสย์ตอบอืมออกมา
บ้านหลังนี้ ก็มีแต่ป้าอ้อยที่เป็นห่วงพวกเขาแม่ลูก
ส่วนคนอื่น มีแต่ต้องการให้เขาเกิดเรื่องหรือประสบอุบัติเหตุ
จู่ๆ คุณแม่ก็ร้องไห้หนัก ทำให้ประยสย์ไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำงานต่อ จึงทิ้งงานที่ยังทำไม่เสร็จอีกมากมายไว้ก่อน แล้วพาบอดี้การ์ดกลับบ้านอย่างเร่งด่วน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ป้าอ้อยเฝ้าอยู่หน้าห้อง เมื่อเห็นประยสย์กลับมา เธอรีบเดินเข้าไปหา “คุณชาย คุณกลับมาแล้ว คุณหญิงยังอยู่ในห้องค่ะ”
“แม่ผมยังร้องไห้อยู่อีกไหม?”
“ไม่ร้องไห้เสียงดังแล้ว แต่น้ำตายังไหลอยู่ ทำให้คนที่เห็นพลอยรู้สึกปวดใจไปด้วย”
ในขณะที่ป้าอ้อยพูดอยู่นั้นดวงตาก็แดงก่ำไปด้วย
ทั้งชีวิตของคุณหญิง กลัวว่าคงต้องเป็นแบบนี้ตลอดไปแล้ว
ถ้าสวรรค์มีตา ก็ขอให้คุณหนูรีบกลับมาเร็วๆ ถ้าคุณหนูกลับมา ไม่แน่คุณหญิงอาจมีโอกาสสติกลับมาดีอีกครั้งก็ได้ ไม่งั้น……
“ผมเข้าไปดูก่อน”
ประยสย์เดินผ่านป้าอ้อย ไปหยุดอยู่หน้าห้อง แล้วผลักประตูเข้าไปเบาๆ เห็นคุณแม่อุ้มตุ๊กตาไว้ในอกแล้วนั่งอยู่ตรงหน้าของหน้าต่าง ผมที่ยาวของเธอปล่อยไว้ตามธรรมชาติ เวลาที่เธอนั่งอยู่ ทำให้ผมยาวไปจนถึงพื้น
เธอไม่ได้ตัดผมมานานมากแล้ว
เธอพูดว่า ลูก ชอบดึงผมของเธอ เธอจึงต้องไว้ผมยาว แบบนี้ลูก จะได้ดึงอย่างดีใจ
ประยสย์รู้สึกเศร้าใจ
และเจ็บปวด
ตอนนี้เขายังเป็นหนุ่มโสดอยู่ ไม่เคยเป็นพ่อคนมาก่อน ไม่รู้ความเจ็บปวดของการสูญเสียลูกเจ็บปวดแค่ไหน และนับตั้งแต่ที่มีความ
คงเป็นเพราะคนที่สูญเสียไป นำพาความเจ็บปวดมาให้เธอเป็นอย่างมาก จึงทำให้เธอก้าวผ่านมันไปไม่ได้ เลยทำให้ละเลยคนใกล้ตัวคนนี้ไป
ยี่สิบสี่ปีที่ผ่านมาของประยสย์ ไม่เคยได้สัมผัสความรักจากแม่เลย
เมื่อปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้ว ประยสย์ค่อยๆ เดินเข้าไปหา
สัมผัสการได้ยินของคุณหญิงดีมาก ไม่ว่าประยสย์จะเดินเบาแค่ไหน เขาก็ได้ยิน เธอหันหน้ามา ประยสย์ที่เข้าไปใกล้แล้วมองเห็นดวงตาแม่แดงบวม และบนใบหน้าก็ยังมีร่องรอยของน้ำตาอยู่
ทำให้เขาเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง
“แม่”
ประยสย์ เดินไปข้างหน้า เรียกแม่ออกมาเบาๆ
คุณหญิงจ้องมองไปที่เขา
ประยสย์ก็จ้องมองเธอเช่นกัน ดูจากแววตาของเธอแล้วไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย
เมื่อก่อน เมื่อแม่เห็นเขาประดุจเหมือนเห็นพ่อของเขา สายตานั้นเหมือนเห็นที่พึ่ง รักใคร่ เชื่อใจฉีกขาดณ เวลานี้ สายตาของแม่ที่มองเขามีแต่ความเป็นห่วง
“แม่”
ประยสย์เรียกเธออย่างระมัดระวัง
ในใจรู้สึกปลื้มปีติมาก แต่ก็ไม่กล้าพิสูจน์ เพราะกลัวว่าตัวเองจะมองผิดไป
แม่จำเขาได้แล้วใช่ไหม รู้ว่าเขาเป็นลูกชายไม่ใช่สามีแล้วใช่ไหม?
“ดาว……”
คุณหญิงพูดออกมาอย่างยากลำบาก เสียงของเธอแหบพร่าเนื่องจากร้องไห้นานเกินไป
ประยสย์: “……”
แม่มองเขาแต่เรียกชื่อน้องสาวออกมา
นี่คือ เห็นเขาเป็นน้องสาวไปแล้วใช่ไหม
เขาเป็นผู้ชายนะ!
“ดาวมีอันตราย ฉันฝันเห็นดาวมีอันตราย”
คำพูดต่อไปของคุณหญิงทำให้ประยสย์ตกใจ
แม่ไม่ได้เห็นเขาเป็นน้องสาว แต่จะพูดกับเขาว่า ฝันเห็นน้องสาวตกกำลังอยู่ในอันตราย
น้องสาวยังมีชีวิตอยู่!
ประยสย์ เชื่อมาตลอดว่าน้องสาวเขายังมีชีวิตอยู่
เพียงแค่ไม่รู้ว่าน้องสาวอยู่ที่ไหนเท่านั้นเอง
ตอนนี้แม่ฝันเห็นน้องสาวตกอยู่ในอันตราย อันตรายมาจากไหน?
ประยสย์ นึกถึงบรรดาคนเห็นแก่เงินพวกนั้นที่แอบค้นหาตัวน้องสาวอยู่ หรือว่ามีคนหาน้องสาวเจอแล้ว?แล้วต้องการลงมือฆ่าน้องสาวอย่างนั้นเหรอ?
พวกเขาเคยลงมือลอบฆ่าเขาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน สำหรับน้องสาวแล้ว ยิ่งไม่ทางใจอ่อนแน่นอน
ประยสย์ นั่งลงตรงหน้าแม่อย่างเป็นกังวล ถามออกมาอย่างร้อนรนว่า: “แม่ ดาวอยู่ที่ไหน?”
เขาเคยได้ยินมาว่าคนที่เป็นบ้า สัมผัสที่หกจะแม่นยำกว่าคนทั่วไป
แม่เป็นบ้ามาแล้วยี่สิบกว่าปี กับน้องสาวก็มีความสัมพันธ์ฉันท์แม่ลูกกันอีก สัมผัสที่หกเป็นที่เด่นชัด ก็ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ
คุณหญิงร้องไห้อีก
เธอก้มหน้าลง มองดูตุ๊กตาในอก น้ำตาไหลออกมาเป็นเม็ดๆ ตกใส่บนตุ๊กตา
“แม่ ตอนนี้ดาวสบายดีไหม?แม่ แม่พูดสิ แม่ฝันเห็นอะไรบ้าง?”
คุณหญิงก้มหน้าลง เอาแก้มไปแนบติดกับตุ๊กตาไว้ และปากพึมพำกล่อมลูกอยู่: “ลูก รีบนอนนะ ลูก อย่าร้องไห้ ลูก เด็กดีของแม่……”
ประยสย์ เห็นสภาพนี้ รู้ทันทีว่าแม่เขาได้สติแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ตอนนี้กลับคืนสู่สภาพของคนบ้าอีกแล้ว
เขารู้สึกโกรธเล็กน้อย แต่ก็ทำอะไรแม่ไม่ได้
ความหงุดหงิดแบบนี้ทำให้ประยสย์อยากทุบทำลายสิ่งของ อยากด่าคน และอยากชกต่อยกับคนอื่นมาก!
เวลานี้ ใครมาหาเรื่องเขา ถือว่าคนนั้นซวยไป