คุณสามีพันล้าน - บทที่ 159 มีคนชอบก็ต้องมีคนเกลียด
ห้องรับแขกที่หรูหรานั้น เต็มไปด้วยผู้คนนั่งอยู่
เมื่อเห็นนฤเบศวร์กับกนกอรเดินเข้ามา และกนกอรยังคล้องแขนของนฤเบศวร์ไว้อีกด้วย
แต่ใบหน้าอันหล่อเหลาของนฤเบศวร์กลับด้านชาและแข็งทื่อ
กนกอรแอบหยิกลงไปที่เอวของเขา
ทำให้นฤเบศวร์เกือบกระโดดขึ้นมา
เขาเอียงหน้ามองกนกอรด้วยสายตาที่ดุดัน
ถือโอกาสที่ยังเดินไปไม่ถึงตรงหน้าคุณปู่ เขาพูดเสียงเบาออกมาว่า: “ถ้าคุณอยากอิสระเร็วๆ ก็ไม่ต้องสนใจพฤติกรรมของผม”
ดวงตาของกนกอรกะพริบ ตรึกตรองดูสักครู่ ก็เข้าใจความหมายของเขาที่สื่อออกมาทันที
เธอรีบ คลายมือออกจากแขนของเขาทัน
พูดแบบนี้ตั้งแต่แรกสิ
เสียเวลาเธอต้องปั้นหน้า เสียเวลาเธอต้องแสดง
แถมไปแตะเนื้อต้องตัวแบตบอสอีก
เดี๋ยวต้องไปล้างมือสักสองสามรอบละ
ใครจะไปรู้ว่าแขนของเขาถูกเปรมาควงแขนไปแล้วกี่ครั้ง?
ท่าทางของกนกอรทำให้นฤเบศวร์เกิดความไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย
แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่านี่คือสิ่งที่ตัวเองต้องการ เขาเลยพูดอะไรออกมาไม่ได้
ท่าทางของสองสามีภรรยาคู่นี้ ตกอยู่ในสายตาของทุกคน ทุกคนต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ
คุณปู่บอกกับทุกคนว่า เขาได้เลือกภรรยาให้ฤเบศวร์แล้ว และได้ให้ทั้งสองคนไปจดทะเบียนกันวันนี้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านของตระกูลเดชอุป และแน่นอนว่ามันเป็นพายุลูกใหญ่ ที่สร้างความยุ่งเหยิงให้กับทุกคนมาก
เมื่อถามชัดเจนแล้วฝ่ายหญิงเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ไม่มีอำนาจบารมีอะไร ทำให้บัณฑิตาโกรธมากจนเกือบเป็นลมไป
คุณปู่ช่างเผด็จการเหลือเกิน อย่างน้อยนฤเบศวร์ก็เป็นลูกในไส้ของเธอ เรื่องแต่งงานของลูกชายก็ไม่ปรึกษาเธอที่เป็นแม่แท้ๆ ก่อนเลย ก็ตัดสินใจเองคนเดียว และใช้วิธีที่เร็วที่สุดในการจดทะเบียนสมรส
บัณฑิตารู้ดีว่าลูกชายรักเปรมามากแค่ไหน ใช้นิ้วเท้าคิดก็รู้ว่าเรื่องนี้คุณปู่เป็นคนบังคับลูกชาย
ถ้าไม่ใช่สามีห้ามไว้ บัณฑิตาก็คงทะเลาะกับพ่อสามีไปหนึ่งฉากแล้ว
ส่วนบ้านสามของตระกูลเดชอุปกลับรู้สึกดีใจมาก
โดยเฉพาะคุณหญิงสาม
ลูกชายของเธออายุใกล้เคียงกับนฤเบศวร์มากที่สุด เนื่องจากนฤเบศวร์เป็นหลานชายคนโต เป็นที่รักของคุณปู่มาก และเลี้ยงดูอยู่ข้างกายมาตั้งแต่เด็ก อบรมสั่งสอนมาเอง และแต่งตั้งให้เป็นทายาทสืบทอด
ถึงแม้ลูกชายของเธอคริษฐ์ก็เป็นคนเก่งเหมือนกัน แต่คุณปู่ก็ยกบริษัทให้นฤเบศวร์เป็นผู้สืบทอด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้คุณหญิงสามไม่พอใจเป็นอย่างมาก
เนื่องจากคุณปู่ยังเป็นผู้ถือหุ้นและทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่ของบริษัท เพื่อรอการแบ่งสมบัติในภัยภาคหน้า ถึงแม้คุณหญิงสามจะไม่พอใจแค่ไหน ก็ไม่กล้าแสดงออกมาต่อหน้าพ่อสามี ได้แต่กำชับลูกๆ ต้องเอาการเอางาน และต้องเก่งกว่านฤเบศวร์ให้ได้
ตอนนี้เมื่อรู้ว่าพ่อสามีได้คัดเลือกภรรยาที่ธรรมดาและไม่มีอำนาจบารมีอะไรให้หลานชายคนโต แถมบังคับทั้งสองคนให้ไปจดทะเบียนสมรสกันวันนี้อีกด้วย ทำให้คุณหญิงสามดีใจมาก
คิดว่าพ่อสามีน่าจะเริ่มคิดที่จะทอดทิ้งนฤเบศวร์แล้ว
ต้องเป็นเรื่องที่นฤเบศวร์ทำเพื่อเปรมาแน่เลย ที่เกือบส่งผลกระทบต่อRA กรุ๊ป จนทำให้พ่อสามีโกรธมาก ถึงจัดการแบบนี้
เมื่อภรรยาของนฤเบศวร์ไม่แข็งแกร่ง และในอนาคตถ้าคริษฐ์ได้แต่งงานก็ภรรยาที่ฐานะเท่าเทียมกัน และภรรยาสามารถช่วยเหลือเขาได้ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องที่จะแย่งชิงต่ำแหน่งหัวหน้าครอบครัวของตระกูลไม่ได้?
ตอนนี้สายตาที่บัณฑิตามองกนกอร เป็นสายตาของความเกลียดชัง
ไม่รู้ว่าผู้หญิงธรรมดาคนนี้ใช้อะไรหลอกล่อพ่อสามี ถึงทำให้พ่อสามีเลือกเธอให้เป็นภรรยาของนฤเบศวร์ได้
ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ กนกอรคงถูกเธอฆ่าไปแล้วร้อยครั้งพันครั้ง
สายตาของคุณหญิงสามที่มองกนกอรอ่อนโยนกว่าเยอะเลย
“คุณปู่ พวกเรากลับมาแล้ว”
นฤเบศวร์เดินเข้ามา พูดเสียงเรียบเฉยออกมา จากนั้นได้นั่งลงทันที
กนกอรกวาดมองไปรอบๆ ปรากฏว่าไม่มีที่นั่งสำหรับเธอแล้ว
ความจริง ก็แค่นฤเบศวร์ขยับไปด้านข้างหน่อย เธอก็สามารถนั่งลงได้แล้ว แต่หลังจากที่ไอ้หมอนี่นั่งลงแล้ว ปล่อยสองขาให้กางอ้าซ่า เลยกินพื้นที่ไปเยอะ
เนื่องจากทุกคนที่นั่นนั่งอยู่ จึงทำให้กนกอรที่ยืนอยู่ดูโดดเด่นเป็นพิเศษ
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงรู้สึกอึดอัดจนอยากตายไปตั้งนานแล้ว
กนกอรกับนฤเบศวร์ไม่มีความรักต่อกัน ทั้งสอนเซ็นสัญญาข้อตกลงกัน เธอก็แค่เอาเงินแล้วทำงานเท่านั้นเอง
ดังนั้น เธอเลยไม่รู้สึกอะไร
เธอหันหน้าไปพูดกับลุงเซนที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนักว่า: “ลุงเซน ลุงเอาเก้าอี้ให้ฉันตัวหนึ่งได้ไหม?ขอบคุณค่ะ”
ลุงเซนหันไปยกเก้าอี้มาให้
หลังจากยกเก้าอี้มาแล้ว ได้ยื่นไปให้กนกอร
กนกอรหันหน้าไปมองทุกคนในบ้าน สุดท้ายเลือกที่จะนั่งลงข้างๆ โมลีที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนฤเบศวร์ โมลีเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านสอง อายุน้อยกว่านฤเบศวร์สามปี
โมลีมองกนกอร เธอรู้สึกว่าพี่สะใภ้คนนี้สนุกดี
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อกนกอร”
กนกอรแนะนำตัวเองเสียงเบาออกมา
โมลีหน้าแดง กนกอรคิดอยู่ในใจ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าสาวน้อยคนนี้จะขี้อายขนาดนี้
“ฉันชื่อโมลี”
โมลีพูดเสียงเบาออกมา
จากนั้นกนกอรยื่นมือขวาออกไปเพื่อจับมือกับเธอ ทำให้โมลีจับมือเธอกลับ
ทุกคน:……
ผู้หญิงคนนี้ช่างธรรมชาติจริงๆ
น้องชายของธารณ์ ปรวีร์ แตะตัวลูกสาวเบาๆ
โมลีเข้าใจทันทีเมื่อคุณพ่อแตะตัวเธอเบาๆ เธอรีบดึงสายตากลับมา และไม่สนใจกนกอรอีก
“กนกอร”
ผู้เฒ่าเดชอุปเอ่ยปากขึ้นมา เขายิ้มแล้วกวักมือเรียกกนกอร เพื่อให้กนกอรไปอยู่ตรงหน้าเขา
ทำให้กนกอรต้องลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเขา
“คุณท่าน”
กนกอรเรียกออกมาด้วยความเคารพ
คุณท่านคนนี้ช่างหลอกคนเก่งเหลือเกิน ทุกคนในบ้านต่างถูกคุณท่านหลอกหมด
ทำให้ตอนนี้เธอกลายเป็นภรรยาของนฤเบศวร์ ต้องทนรับสายตาที่เย็นชาของคนทั้งบ้าน
ทำเหมือนเธอต้องการเกาะนฤเบศวร์ไม่ยอมปล่อยยังไงอย่างงั้นเลย
เห้อ หาเงิน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
คุณท่านยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “เธอกับนฤเบศวร์จดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถือว่าเป็นหลานสะใภ้ของฉันแล้ว เธอเรียกฉันว่าคุณปู่เหมือนนฤเบศวร์ก็แล้วกัน”
กนกอรเรียกคุณปู่ออกมาอย่างเชื่อฟัง
คุณท่านตอบรับอย่างดีใจ จากนั้นหยิบซองแดงออกมา ยื่นให้กับกนกอร แล้วพูดขึ้นว่า: “กนกอร นี่คืออั่งเป่าที่เปลี่ยนสรรพนามในการเรียกฉัน”
กนกอรเหลือบตาไปมองนฤเบศวร์ เห็นสายตาของนฤเบศวร์เย็นชาดั่งน้ำแข็ง เธอบ่นพึมพำในใจ แต่ไม่แสดงอะไรออกมา จากนั้นตัดสินใจรับอั่งเปาที่เปลี่ยนสรรพนามในการเรียกผู้เฒ่าหลอกลวงคนนี้ด้วยตัวเอง
ในซองอั่งเปาจับดูแล้วค่อนข้างบาง น่าจะเป็นเช็คเงินสด
“ขอบคุณคุณปู่มากค่ะ”
กนกอรพูดขอบคุณออกมา
คุณท่านหันไปมองนฤเบศวร์ สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า: “แกมานี่สิ”
นฤเบศวร์ลุกขึ้นด้วยความไม่เต็มใจนัก แล้วเดินไปอยู่ข้างๆ กนกอร
เมื่อทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มองจากภายนอก ก็เหมาะสมกันดี
ถึงแม้กนกอรจะเป็นผู้หญิงธรรมดา แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่สวย ซึ่งจุดนี้เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ
เธอแสดงตัวออกมาอย่างเปิดเผยและสง่างาม ดูไม่ออกเลยว่าเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป
นฤเบศวร์หยิบทะเบียนสมรสออกมา แล้วยื่นทะเบียนสมรสไปให้คุณท่าน
คุณท่านรับทะเบียนสมรสมา หลังจากเปิดดูแล้ว วางทะเบียนสมรสไว้บนโต๊ะชาด้วยความพึงพอใจ จึงพูดคุยกับทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องว่า: “ไม่ว่าพวกแกจะรู้สึกยังไง ในเมื่อนฤเบศวร์กับกนกอรได้จดทะเบียนสมรสกันแล้ว ก็แสดงว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย กนกอรก็คือหลานสะใภ้ใหญ่ของตระกูลเดชอุป
“ทุกคนทำสีหน้าไม่พอใจให้ใครดู?ให้ฉันดูเหรอ?”
ทุกคน: “……”
“ลุงเซน ยกชาที่เตรียมไว้ออกมา ให้กนกอรยกชาเคารพผู้ใหญ่ และทำความรู้จักกับทุกคนด้วย”
“คุณพ่อ พวกเขายังไม่ได้จัดงานแต่งกันเลย ไม่ต้องรีบยกน้ำชาทำความเคารพพวกเราก็ได้”
บัณฑิตาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
เธอไม่อยากดื่มชาของสะใภ้เลยสักนิด
ลูกสะใภ้คนนี้ เป็นตายร้ายดียังไง เธอก็ไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด
เธอยอมรับเปรมาแค่คนเดียว!
คุณพ่อฉวยโอกาสที่เปรมาติดคุกอยู่ บังคับลูกชายแต่งงานกับผู้หญิงที่ชื่ออรอะไรคนนี้
ฝ่ายหญิง ต้องเห็นแก่เงินของตระกูลเดชอุปแน่นอน ไม่รู้ว่าคุณพ่อคิดอะไรของเขาอยู่กันแน่?