คุณสามีพันล้าน - บทที่ 169 บังเอิญเจอ
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 169 บังเอิญเจอ
“พี่ฑิตา กนกอรมีหน้าตาอย่างไร เมื่อเทียบกับเปรม์บ้านฉัน ใครสวยกว่ากัน”
คุณณัฏฐากล่าวถาม
หลังจากบัณฑิตาครุ่นคิดแล้ว กล่าวขึ้น:“กนกอรก็ไม่ได้น่าเกลียดหรอก เมื่อเทียบกับเปรม์ ต่างคนต่างมีข้อดีของตัวเองมั้ง ณัฏฐา ฉันยอมรับหนูเปรม์คนเดียว นอกจากหนูเปรม์แล้ว ผู้หญิงคนอื่นต่อให้แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับเบศวร์แล้ว ฉันก็ไม่ยอมรับ”
“เปรม์กับเบศวร์นั้นรู้จักมักจี่กันมาตั้งแต่เด็ก เติบโตมาด้วยกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งดุจทะเล และไม่ใช่คนชั้นต่ำที่จะมาแยกพวกเขาออกจากกันได้อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า”
บัณฑิตากล่าวสมทบ:“ใช่ ไม่รู้ว่าไอ้แก่ตายยากนั่นคิดยังไงกันแน่”
“น่าโมโหมาก โมโหจนทนมองไอ้แก่ตายยากที่บ้านไม่ไหว ถึงได้มาระบายกับเธอไง”
คุณณัฏฐากล่าว:“พี่ฑิตา พี่ไม่ต้องโกรธแล้ว ชายชรายังกุมอำนาจไว้อยู่นะ บ้านสามทั้งครอบครัวของบ้านพี่ก็เพ่งดูอยู่ พี่อย่าทำให้ชายชราโกรธด้วยเรื่องเล็ก ๆ นี้เลย ไม่งั้นจะคนที่เสียเปรียบจะเป็นพวกพี่นะ”
“สำหรับเรื่องที่เบศวร์จดทะเบียนสมรสกับนางชั้นต่ำนั่น เชื่อว่าเบศวร์ก็ไม่มีทางปล่อยให้เธอมีชีวิตที่ราบรื่นหรอก รอให้เปรม์ออกมาแล้ว ก็ไม่มีหน้าที่ของเธอแล้ว”
เป็นภรรยา เห็นสามีของตัวเองไปใจดีกับผู้หญิงคนอื่น จะต้องทนไม่ได้แน่นอน ขอเพียงกนกอรทนไม่ได้แล้วไปหาเรื่องกับนฤเบศวร์ หรือว่าหาเรื่องเปรมา ฮ่า ๆ นั่นก็คือการกระโดดเข้าไปในหลุมพรางเลยแหละ รอนฤเบศวร์ทรมานให้ตายได้เลย
คุณณัฏฐารู้ความทุ่มเทที่นฤเบศวร์มีต่อลูกสาวตัวเอง ใครกล้ารังแกเปรมา นฤเบศวร์จะต้องสู้ยิบตา เขาต่อกรกับยศพัฒน์แบบนั้น ก็เพราะว่ายศพัฒน์ทำไม่ดีกับเปรมายังไงล่ะ
บัณฑิตาพยักหน้า
ตอนนี้เธอก็รอให้เปรมาออกมาเร็ว ๆ
มีเปรมาสองแม่ลูกคอยช่วยรับมือกับกนกอร รอให้เบศวร์หย่ากับกนกอร หากว่าเธอยังไม่ตายยังมีชีวิตอยู่ละก็ เธอก็จะจัดแจงคุณหนูผู้ดีหนึ่งคนให้กับเบศวร์ที่ดีกว่ากนกอรหยกชิ้นธรรมดานี้
สำหรับเปรมานั้น
ตราบใดที่ไอ้แก่ตายยากยังอยู่ เปรมาเดินเข้าบ้านตระกูลเดชอุปไม่ได้อย่างแน่นอน
หากเบศวร์ทิ้งไม่ได้จริง ๆ ก็สามารถเลี้ยงไว้ก็ได้ รอให้ไอ้แก่ตายยากไม่อยู่แล้วค่อยว่ากันอีกที
ทั้งคู่ที่เป็นแม่แบบคดในข้อ งอในกระดูก แต่กลับเข้ากันได้ดิบได้ดี
กนกอรไม่รู้ว่าแม่ย่าได้ไปที่บ้านตระกูลไชยรัตน์ เธอรับสายโทรศัพท์ของเทวิกา จึงรู้ว่าวันนี้เทวิกามาที่ร้านไม่ได้แล้ว เธอจึงได้ไปที่ร้านแต่เช้า มองดูมัณฑนากรที่กำลังยุ่งอยู่กับงาน
ตอนเช้าสิบโมงกว่า ชเนนทร์มาแล้ว
“พี่ชเนนทร์”
กนกอรทักทายเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม:“พี่มารับวิกาเหรอ วันนี้วิกาไม่ได้มาที่ร้านนะคะ”
“วิกาไม่ได้มาเหรอ พี่นึกว่าเธออยู่ที่นี่ ผ่านมาก็เลยแวะเข้ามาดู งั้นเดี๋ยวพี่ค่อยโทรหาเธอ”
ชเนนทร์มองรอบ ๆ ไปอีกครั้งแล้วถามกนกอร:“ใช้เวลาประมาณกี่วันถึงจะเสร็จอะ”
“เร็วสุดก็น่าจะสี่ถึงห้าวันมั้งคะ”
ชเนนทร์พยักหน้า
“พี่ชเนนทร์ พี่จะดื่มน้ำไหม ฉันจะไปรินมาให้พี่ มีกาแฟ ชานมด้วยนะคะ ฉันได้เตรียมชานมไว้ให้กับช่าง และก็ทำขนมหวานไว้นิดหน่อยด้วย”
ชเนนทร์ยกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือแล้วกล่าว:“น้ำอุ่นให้พี่สักแก้วก็พอ ขนมหวานนั้นไม่ต้องแล้ว ทานขนมหวาน อาหารกลางวันคงต้องหลีกเลี่ยงแน่”
กนกอรยิ้ม เชิญเขาไปนั่งลงด้านหน้าโต๊ะที่สะอาด แล้วหันหลังไปรินน้ำอุ่นหนึ่งแก้วให้กับชเนนทร์
ชเนนทร์รับน้ำอุ่นนั้นแล้วดื่มเข้าไปสองสามอึก
“มีอะไรต้องการให้ช่วยเหลือไหม”
“ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ หากมีละก็ ฉันจะขอความช่วยเหลือจากพี่ชเนนทร์อย่างไม่เกรงใจเลยค่ะ”
ชเนนทร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม:“ใช่ ไม่ต้องเกรงใจพี่ ในสายตาพี่ เธอกับวิกาล้วนเป็นน้องสาวของพี่”
หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวเตือนว่า:“แม่ของเปรมากลับประเทศมาแล้ว เธอเป็นคนที่ทั้งปกป้องและรักลูกมาก ไม่แน่อาจจะมาหาเรื่องเธอด้วยเรื่องของเปรมาก็ได้ ตอนนี้วิกามีพัฒน์ให้พึ่งพา คุณณัฏฐาอาจต้องกังวลหน่อย”
ต่อให้ไม่ชอบแค่ไหน ชเนนทร์ก็ต้องยอมรับว่าการมียศพัฒน์คนนี้เป็นน้องเขย น้องสาวสุดที่รักของเขาอยู่ในเมืองแอคเซสซ์ สามารถเดินได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัวใครหน้าไหน
ชเนนทร์รู้สึกตำหนิตัวเองเล็กน้อย คิดว่าพี่ชายอย่างเขาแข็งแกร่งไม่พอ ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้น้องสาวเดินได้อย่างฮึกเหิมได้ ต้องอาศัยหมาป่าอย่างยศพัฒน์
“ขอบคุณพี่ชเนนทร์ที่เตือนนะคะ พักนี้ไม่มีคนมาก่อกวนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอเพียงฉันมีเหตุผล ฉันก็ไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้นค่ะ”
คนที่ผิดคือเปรมา
แม้นฤเบศวร์จะมาให้ท้ายเปรมา เธอก็ไม่กลัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคุณณัฏฐาเลย
ในเมืองแอคเซสซ์ นฤเบศวร์น่ากลัวกว่าคุณณัฏฐาที่ย้ายไปยังต่างประเทศมาก
“ยังไงก็ระวังตัวไว้ดีที่สุด”
กนกอรพยักหน้า ผ่านประสบการณ์ที่เทวิกาถูกหลอก ถูกลักพาตัว พวกเธอล้วนระวังกันเป็นพิเศษ
“พี่ชเนนทร์ พี่นั่งไปก่อนนะคะ ฉันเข้าไปจัดขนมหวานสองกล่องให้พี่ก่อน ให้พี่ได้ลองชิมยามว่าง ๆ”
“พี่ไม่ได้ชอบทานขนมหวานสักหน่อย”
บางที ผู้ชายส่วนใหญ่อาจไม่ชอบทานขนมหวานก็ได้มั้ง
อย่างไรชเนนทร์พวกเขาล้วนไม่ชอบทานขนมหวาน
กนกอรกล่าวติดตลก:“พี่ไม่ชอบทาน สามารถให้ผู้หญิงที่พี่ชอบทานก็ได้นะคะ”
“พี่มีคนที่ชอบที่ไหนกัน”
ชเนนทร์ที่กำลังกล่าวเช่นนี้อยู่ ไม่รู้ว่าคิดถึงใคร จู่ ๆ ติ่งหูก็แดงขึ้นฉับพลัน
กนกอรมองด้วยสายตาเป็นประกาย
พี่ชเนนทร์มีความลับนี่
จะต้องบอกกับวิกา ให้วิกาไปสืบดูสักหน่อย
“ฉันจะไปห่อขนมหวานให้พี่นะ”
กนกอรยิ้มแล้วหันหลังจากไป
ชเนนทร์ไม่ได้ห้ามเธอหยุดอีก
ไม่กี่นาทีต่อมา กนกอรก็กลับมาพร้อมกับถุงที่มีขนมอบสองกล่องที่เธอทำในวันนี้
แล้วเธอยื่นถุงให้กับชเนนทร์
“บอกว่าไม่ต้องแล้ว เธอยังจะนำมาอีก”
ชเนนทร์ปากบอกว่าไม่เอา แต่มือกลับยื่นไปรับถุงนั้น แล้วก็ดื่มน้ำอุ่นที่เหลือครึ่งแก้วจนหมด จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวกับกนกอรว่า:“งั้นพี่ไปก่อนนะ มีอะไรให้ช่วยเหลือก็โทรบอกพี่”
“ได้ค่ะ”
กนกอรส่งชเนนทร์ออกจากร้านไป
ทั้งคู่พูดคุยหัวเราะเฮฮา
ทันทีที่ออกจากประตู กนกอรก็มองเห็นขบวนรถที่คุ้นเคยแล่นใกล้เข้ามาอย่างช้า ๆ และก็จอดลงข้างทางในที่สุด
นฤเบศวร์เดินเข้ามาภายใต้การล้อมรอบของบอดี้การ์ด
การเจอะกันและจากไปของชเนนทร์
ทั้งคู่ต่างหยุดชะงักลง
ชเนนทร์กับยศพัฒน์เป็นเพื่อนเรียนด้วยกัน รู้จักกับนฤเบศวร์มานานแล้ว เมื่อนึกถึงตอนที่น้องสาวเกิดเรื่องนั้น นฤเบศวร์ก็มีส่วนในการช่วยเหลือ ชเนนทร์จึงยิ้มขึ้นและทักทายนฤเบศวร์อย่างสุภาพ
สายตาของนฤเบศวร์ตกกระทบลงไปที่กล่องขนมสองกล่องที่ถืออยู่ในมือของชเนนทร์ก่อน ไม่ต้องถามก็รู้ว่ากนกอรเป็นคนมอบให้กับชเนนทร์
ทุกคนต่างรู้จักกันมาหลายปี นฤเบศวร์รู้ย่อว่าชเนนทร์ไม่ชอบทานขนมหวาน
เวลานี้ชเนนทร์กลับถือขนมหวานสองกล่อง เพราะว่าเป็นขนมหวานที่กนกอรทำเหรอ
หรือว่าเทวิกาเป็นคนทำ
สายตาของนฤเบศวร์มองข้ามผ่านตัวชเนนทร์ มองไปทางกนกอรที่ยืนอยู่หน้าประตูร้าน ผ่านประตูร้านที่เปิดอยู่ สามารถมองเห็นคนงานกำลังวุ่นกับการตกแต่งอยู่ด้านใน
ซึ่งมองไม่เห็นร่างของเทวิกา
เช่นนั้น ขนมหวานสองกล่องนี้กนกอรเป็นคนทำขึ้นเอง
ชเนนทร์ช่างไว้หน้ากนกอรจริง ๆ เลย
“นาย ในมือคืออะไร”
นฤเบศวร์ถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ