คุณสามีพันล้าน - บทที่ 227 โชคดีที่มีเขาอยู่ข้างกาย
ญาณินแน่นิ่งไป แล้วแย่งโทรศัพท์ของเทวิกามา แล้วจัดการโทรศัพท์ดุเดือดดั่งเสือ ไม่เพียงแต่ตัดสายวิดีโอคอลทิ้ง แถมลบประยสย์ออกจากเพื่อนในวีเชทของเทวิกาอีกด้วย สุดท้ายแม้แต่โทรศัพท์ก็ถูกเธอปิดเครื่องลงอีกด้วย
ทุกคน:……
ญาณินคืนโทรศัพท์ให้เทวิกา พูดจริงจังออกมาว่า: “วิกา หนูอย่าคบค้าสมาคมกับคนเมื่อกี้ เขาไม่ใช่คนดี!”
เทวิการับโทรศัพท์มาและถามออกมาอย่างเป็นห่วงว่า: “แม่ เขาเคยรังแกแม่ใช่ไหม?”
ญาณินตรึกตรองอย่างตั้งใจ แล้วพูดขึ้นว่า: “เขาเหมือน เหมือนไม่เคยรังแกแม่ บางครั้งคนอื่นรังแกแม่ ถ้าเขาเห็นเขาก็จะช่วยแม่ แต่สายตาที่เขามองแม่น่ากลัวมาก แม่รู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนดี ต้องเป็นคนไม่ดีแน่นอน สายตาที่เขามองแม่เหมือนปีศาจ”
เทวิกาโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
พ่อแท้เป็นผู้ชายเลวก็แย่พอแล้ว ถ้าหากยังร่วมมือกับคนอื่นมารังแกแม่แท้ๆ อีกหล่ะก็ เธอไม่รู้เลยว่าจะเผชิญหน้ากับพ่อแท้ๆ ยังไง
“วิกา เชื่อฟังแม่ เขาไม่ใช่คนดี ลูกอยู่ห่างเขาหน่อย คนที่อยู่รอบๆ เขาล้วนไม่ใช่คนดี เป็นคนไม่ดีหมด เพียงแต่ หน้าตาเขาเหมือนสามีแม่ แต่เขาไม่ใช่สามีของแม่”
ญาณินตกอยู่ในอาการเลอะเลือนอีกครั้ง
เมื่อเทวิกาเห็นสภาพนี้ รีบคีบกับข้าวให้แม่แท้ๆ แล้วใส่เข้าไปในถ้วยของเธอ จากนั้นพูดกับเธอว่า: “คุณแม่ พวกเรากินข้าวกัน”
“โอะ ได้ กินข้าว พวกเรากินข้าว หนูก็กินด้วย ห้ามเล่นโทรศัพท์อีกนะ”
เทวิกาตอบอืมออกมา
ขอแค่คุณแม่ไม่หมกมุ่นเรื่องในอดีต ก็จะไม่ตกอยู่ในสภาพเลอะเลือน คนก็จะค่อยๆ มีสติ
ทุกคนเริ่มกินข้าวกันอีกครั้ง เทวิกาสังเกตเห็นคุณแม่เริ่มกินอย่างเอร็ดอร่อยอีกครั้ง จึงวางใจลงได้
จากนั้นสบสายตากับสามี
ยศพัฒน์แอบกุมมือเธอไว้
เทวิกายิ้มกลับให้ สายตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
โชคดี ที่มีเขาเคียงข้าง อยู่ตลอดทาง
เขาละเอียดอ่อน เอาใจใส่ หลายเรื่องเขาจะช่วยเธอจัดการไว้เรียบร้อย อะไรที่เธอคาดคิดไม่ถึง เขาจะคิดได้
……
“ณิน……”
ไซม่อนพึมพำชื่อภรรยาออกมา
น่าเสียดายที่วิดีโอคอลถูกภรรยาตัดสายทิ้งแล้ว
ไม่เพียงแค่นี้ เขาอยากโทรศัพท์ออกไปอีกครั้ง แต่โทรเข้าไม่ได้แล้ว
ประยสย์เห็นสีหน้าปวดร้าวของคุณพ่อแล้ว โดยเฉพาะตอนที่พึมพำชื่อแม่อยู่ตลอดเวลา ความปวดร้าวนั้นเป็นความปวดร้าวที่ออกมาจากใจ
เขามองไปที่พ่อของเขาด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
นึกถึงเรื่องราวในอดีต ถึงแม้คุณพ่อจะไม่ให้คุณย่าส่งคุณแม่ไปที่คฤหาสน์ในชานเมือง แต่ก็ไม่เคยทำอะไรที่เป็นการปกป้องคุณแม่ออกมาเลย ถ้าจะพูดว่าเขางานยุ่งไม่มีเวลามาจัดการ ก็คงเป็นไปไม่ได้
ถึงแม้จะงานยุ่ง แต่เขาเป็นหัวหน้าครอบครัว ลูกน้องคนสนิทข้างกายเขา ไม่ไว้หน้าแม้กระทั่งคุณปู่คุณย่าอยู่แล้ว ซึ่งเขาสามารถออกคำสั่งให้คนพวกนั้นปกป้องคุณแม่ได้ ให้คุณแม่ไม่ต้องถูกพลอยหรือคุณป้าทั้งสองรังแกได้
ในสายตาของเขา คุณพ่อเลวเกินไป โหดเหี้ยมเกินไป และเลือดเย็นเกินไป
เขานึกว่า คุณพ่อไม่มีความรักต่อคุณแม่แล้ว ที่ยังไม่ยอมหย่าร้างกัน และยังเก็บตำแหน่งภรรยาของหัวหน้าของครัวไว้ เป็นเพราะเขา
เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นลูกคนเดียวของคุณพ่อ และเป็นคนเดียวที่อยู่ข้างกายคุณพ่อ
ตอนนี้เมื่อเห็นอาการปวดร้าวของคุณพ่อแล้ว ทำให้ประยสย์งุนงงไปหมด
หลายปีมานี้ คุณพ่อกำลังแสดงตัวละครตัวไหนกันแน่?
และมีเรื่องปกปิดเขาไว้มากแค่ไหน?
เหมือนดังที่คุณพ่อพูดไว้จริงๆ มีอำนาจแทรกแซงหลายด้าน อีกไม่นานตระกูลสาระทาก็จะมีการล้างไพ่ครั้งใหญ่?หลายปีมานี้คุณพ่อแบกแรงกดดันไว้มากแค่ไหน?และช่วยพวกเขาสองแม่ลูกสกัดลูกธนูไปแล้วเท่าไหร่?
ประยสย์ไม่รู้ และถามไม่ออก
เพราะก่อนหน้านี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อแย่มาก น้อยมากที่จะพูดคุยกันดีๆ
ข้างนอกต่างลือกัน ลือว่าคุณชายอย่างเขาสักวันต้องถูกดึงลงมา ต่างพูดกันว่าหลังจากที่พลอยเข้าบ้านแล้ว ก็จะถึงเวลาไล่เขากับแม่ออกไปจากบ้าน
เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นสายตาของลูกมองเขาอย่างซับซ้อน ไซม่อนยิ้มขมขื่นออกมา แล้วพูดขึ้นว่า: “ลูกคิดว่าพ่อกำลังแสดงละครอยู่ใช่ไหม?”
ประยสย์เงียบไปสักพัก แล้วพูดความในใจออกมาว่า: “พ่อรู้ตัวดีหนิ่ ผมไม่สนว่าเบื้องหลังพ่อจะทำอะไรไปบ้าง แต่หลายปีมานี้ พ่อไม่เคยปกป้องแม่ผม คนข้างนอกต่างพูดกันว่าหลังจากที่พ่อแต่งงานกับพลอยแล้ว ก็จะไล่ผมกับแม่ออกไปจากบ้าน”
“เมื่อถูกแม่ผมตัดสายทิ้ง แล้วพ่อก็แสดงอาการปวดร้าวออกมา พ่อแสดงให้ใครดูเหรอ?ผมเห็นแล้วยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าขันเลย”
ไซม่อนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น: “ใช่ไง ช่างน่าขันสิ้นดี ถ้าเป็นการแสดง เป็นการแสดง……พ่อสามารถขอโทษแกได้ แต่สำหรับเรื่องที่ทำผิดไว้กับแม่แก เรื่องนี้เป็นความจริง พ่อก็ไม่ได้คาดหวังว่าแม่ของแกจะยกโทษให้พ่อ”
ขอแค่หลังจากหาลูกสาวเจอแล้ว ภรรยาดีกลับมาเหมือนเดิมก็เพียงพอแล้ว
“พ่อ”
ทันใดนั้นประยสย์พูดขอร้องออกมาว่า: “รอให้แม่ผมสติดีกลับมาเหมือนเดิม พ่อปล่อยแม่ผมไป
เถอะ ให้ทะเบียนหย่ากับเธอ
แล้วให้แม่อยู่กับผมหรือวิกาก็ได้ ตระกูลสาระทาผมคิดว่า แม่ผมคงไม่อยากอยู่ต่ออีกแล้ว”
ไซม่อนหยิบหนังสือได้สามสี่เล่มก็ปาใส่ลูกชายทันที
ประยสย์ไม่ได้หลบ ปล่อยให้หนังสือพวกนั้นปาใส่ร่างตัวเอง
“แกมันไอ้ลูกทรพี?มีลูกที่ไหนที่ต้องการให้พ่อแม่หย่าร้างกัน?ญาติฝั่งแม่แกไม่เหลือใครแล้ว มีแค่ธนัทคนเดียวที่เฝ้าสมบัติอันน้อยนิดไว้อยู่ ถ้าแม่แกหย่า แล้วจะไปอยู่ที่ไหน?”
“อยู่กับแก?แกไม่ใช่คนของตระกูลสาระทาเหรอ?อยู่กับวิกา วิกาแต่งไปตั้งไกล บ้านสามีของฐานะดีขนาดนั้น ถ้าเกิดความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อแม่สามีไม่ดี แม่แกตามไปอยู่ก็เธอด้วย ก็จะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพ่อแม่สามี”
ประยสย์พูดออกมาอย่างไม่เกรงใจว่า: “ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับแม่ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว ไม่ว่าแม่ผมจะเสียสติอยู่หรือหายดีแล้ว เธอก็จะไม่ใช้ชีวิตกับพ่ออีก ถ้าพ่อยังรักแม่อยู่บ้าง ก็ปล่อยแม่ไปเถอะ ให้แม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบในบั้นปลายชีวิตของเธอ”
“และอีกอย่าง พ่อก็มีแฟนใหม่แล้ว แฟนใหม่ของพ่ออายุน้อยกว่าแม่ สวยกว่า แถมมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งขนาดนั้น ถ้าพ่อแต่งงานกับแฟนใหม่ตระกูลสาระทากับตระกูลเลิศธนโยธาก็จะเป็นทองแผ่นเดียวกัน แข็งแกร่งบวกแข็งแกร่ง ไม่ดีเหรอ?”
หน้าตาของไซม่อนดำดิ่งทันที: “เรื่องของพ่อกับพลอย แกไม่ต้องยุ่ง แต่ประยสย์ พ่อขอบอกแกเลยนะ พ่อไม่มีทางหย่ากับแม่แกเด็ดขาด !เธอญาณินเกิดเป็นคนของพ่อ ตายก็ต้องเป็นผีของพ่อ!”
“แกก็อย่าไร้เดียงสาเกินไป ถึงแม้พ่อจะหย่ากับแม่แกแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยแม่แกไปหรอก ตราบใดที่พวกแกสองพี่น้องยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาไม่มีทางปล่อยแม่แกไปเด็ดขาด นอกเสียจากพวกแกสามคนแม่ลูกตายกันไปหมด พวกเขาถึงจะยอมปล่อย!”
เพราะว่าเขามีทรัพย์สินหลายแสนล้าน.
ตอนนี้ ทรัพย์สินหลายแสนล้านของเขา เขาเคยประกาศอย่างเปิดเผย ว่าจะแบ่งให้ลูกชายลูกสาวของเขาคนละครึ่ง
ส่วนทรัพย์สินที่เขาสามารถแบ่งได้ในบริษัทโอเอ กรุ๊ป เขาจะเก็บไว้ให้ภรรยา
ตระกูลธวัชพลังกรไม่ได้อะไรเลย
ภรรยาไม่มีญาติทางบ้านที่สามารถพึ่งได้อีกแล้ว ถ้าเกิดเขาตายก่อนภรรยา แล้วเหลือทรัพย์สินไว้ให้ภรรยาบ้าง ปั้นปลายชีวิตของภรรยาก็จะไม่มีอะไรต้องห่วง
ในฐานะที่เขาเป็นหัวหน้าครอบครัว ทรัทย์สินที่แบ่งได้จากบริษัทโอเอ กรุ๊ป ก็มีไม่น้อย
บางครั้ง ไซม่อนรู้สึกเสียใจ เสียใจที่ตัวเองหาเงินส่วนตัวได้เยอะเกินไป จนทำให้ลูกสาวต้องระเหเร่ร่อนอยู่ข้างนอกยี่สิบกว่าปีแถมมีคนต้องการทำร้ายเธอให้ตายอีก
ซึ่งเป้าหมายก็คือไม่อยากให้เธอกลับมา ไม่อยากให้เธอสืบทอดทุกอย่างที่เธอควรจะได้