คุณสามีพันล้าน - บทที่ 273 ฉันผิดไปแล้ว
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 273 ฉันผิดไปแล้ว
“ยศพัฒน์ ฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว ครั้งนี้คุณให้อภัยฉันเถอะนะคะ ฉันรับรองว่าจะไม่ไปตามรังควาญคุณอีก ไม่กล้าอีกแล้ว……ยศพัฒน์!”
เปรมาตามมาทันยศพัฒน์ แต่เธอคว้าไม่ทันแม้แต่ชายเสื้อของเขา ก็ถูกบอดี้การ์ดขวางเอาไว้ เธออยากจะไปข้างหน้า แต่บอดี้การ์ดก็ผลักเธอออกอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด ผลักจนเธอล้มนั่งลงกับพื้น
ยศพัฒน์ไม่ได้สงสารเห็นใจเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะมีคุณชายอย่างเขานี้ถึงทำให้มีบอดี้การ์ดแบบนี้
ถ้าเป็นบอดี้การ์ดของเบศวร์ แม้แต่จะพูดเสียงดังกับเธอยังไม่กล้าเลย
“พัฒน์……ฉันไม่อยากติดคุก ฉันไม่อยากติดคุกแล้ว!”
เปรมาหมอบร้องไห้อยู่กับพื้น
เวลานี้เอง เธอเสียใจภายหลังอย่างยิ่งจริงๆ
สิบปีก่อน ก็ได้ลิ้มรสความเย็นชาไร้ความปรานีของเขาแล้ว
สิบปีต่อมา เธอก็ยังยั่วโมโหเขา เรียกว่ารนหาที่ตายเอง
มักจะคิดว่า อย่างน้อยเขาก็น่าจะเห็นแก่ที่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก เมตตาปรานีกับเธอบ้าง
เธอคิดผิดแล้ว!
ในอดีตไม่ใช่ว่าเขาใจอ่อนสงสาร แต่เพราะว่าเขายังรวบรวมหลักฐานได้ไม่มากพอ เธอยังไม่ได้ทำความผิดกับเขาอย่างแท้จริง!
ยศพัฒน์ที่รายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ด ก้าวขาเดินจากไป
คนรับใช้ของตระกูลไชยรัตน์ต่างพากันหลบซ่อนตัว ไม่กล้าโผล่หน้าออกมา กลัวว่าจะถูกคุณนายกับคุณหนูด่าว่าด้วยความโกรธ
ในใจของบรรดาคนรับใช้ก็สงสัยมาก
คุณชายพัฒน์ไม่ได้ทำอะไรคุณหนูเลย ก็แค่โยนแฟ้มเอกสารให้คุณหนู คุณหนูก็ร้องห่มร้องไห้ คุณนายยังใจร้ายตบหน้าคุณหนูจนบวมเป่งเลยอีกด้วย
ฆ่าคนโดยไม่ใช้มีด! ไม่เห็นเลือดด้วย ทั้งยังไม่ผิดกฎหมายอีก!
คนที่พูดถึงก็คือคุณชายพัฒน์
“แม่ หนูจะทำยังไงดี หนูไม่อยากติดคุก!”
เปรมาเห็นแม่เดินมา ก็กอดขาแม่เอาไว้ ร้องไห้ฟูมฟาย“แม่คะ แม่ช่วยหนูด้วย พวกเราไปหาน้าฑิตา ไปหาเบศวร์กัน น้าฑิตารักหนูที่สุดเลย เบศวร์ก็เหมือนกัน พวกเขาสองคนแม่ลูกต้องช่วยหนูแน่นอน”
“ใช่ ไปหาเบศวร์ ฉันจะไปหาเขาตอนนี้เลย!”
เปรมาลุกขึ้นมา ปาดน้ำตา ก็เตรียมจะไปหานฤเบศวร์ เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็กลับมาพูดกับแม่ว่า“แม่ แม่ช่วยตบหนูอีกสองสามทีได้มั้ย ให้หน้าหนูบวมขึ้นอีกหน่อย แบบนี้หนูไปหาเบศวร์ เบศวร์จะได้สงสาร จะได้ช่วยหนูโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”
ณัฏฐาทำตามความต้องการของเธอ ตบหน้าเธออย่างแรงสองสามครั้ง ใบหน้าที่เดิมนั้นบวมแดงอยู่แล้วก็ยิ่งบวมแดงมากขึ้น
เปรมารู้สึกแค่ว่าแสบร้อนที่ใบหน้า
เธอเจ็บจนน้ำตาร่วง
ณัฏฐาเองก็สงสาร น้ำตารื้น
“แม่ หนูจะเชื่อแม่ ต่อไปจะเชื่อฟังแม่ทุกอย่าง หนูจะไปหาเบศวร์ หนูมันโง่ เบศวร์ดีกับหนูขนาดนั้น หนูก็ไม่รู้จักรักษาเขาไว้ให้ดี แล้วยังไปยั่วโมโหยศพัฒน์อีก จนต้องตกอยู่ในสภาพอย่างวันนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของหนูเอง”
เปรมาร้องไห้พลาง พร่ำเพ้อด้วยความเสียใจภายหลังไปพลาง
เธออยากจะไป แต่กลับถูกแม่รั้งตัวเอาไว้
“เปรม์ ดึกขนาดนี้แล้ว ลูกจะไปหาเบศวร์อีกเหรอ จะเป็นการรบกวนไอ้แก่หนังหนียวคนนั้น รอพรุ่งนี้ค่อยไปเถอะ ไม่ต้องไปที่บ้านตระกูลเดชอุป ตรงไปหาเขาที่บริษัทเลย”
“รอจนฟ้าสาง หน้าหนูก็หายบวมแล้ว จะทำให้เขาสงสารเห็นใจหนูได้ยังไงล่ะคะ”
ณัฏฐาพูดอย่างคาดหวังว่าลูกจะกลับตัวเป็นคนดีได้“แม่พร้อมที่จะช่วยตบหน้าลูกให้บวมได้ตลอดเวลา”
เปรมา“……”
นิ้วมือของแม่เริ่มถูที่หน้าผากของเธอ ถูไปพลางด่าไปพลางว่า“แม่โน้มน้าวลูกยังไง ปากลูกก็ตอบรับอืมๆ แต่ความจริงแล้ว ลุกทำอะไรไปบ้าง ดูสิ ตอนนี้ลูกเตรียมตัวติดคุก นี่เป็นผลของการกระทำของลูกเอง!”
“ก็บอกแล้ว ว่ายศพัฒน์ไม่ได้รักลูก ถ้าเขารักลูก สิบปีก่อนลูกก็ไม่ต้องไปต่างประเทศแล้ว สิบปีก่อนลูกยังเป็นสาวแรกรุ่น เขายังไม่รักลูกเลย ตอนนี้ลูกก็อายุปาเข้าไปเกือบสามสิบแล้ว สู้เด็กสาวสวยอายุยังน้อยไม่ได้ ลูกจะเอาอะไรไปสู้กับเทวิกา!”
“บอกว่าเขาเป็นคนชั้นต่ำแม้แต่พ่อแม่เป็นใครก็ยังมารู้ ดูสิ พ่อแม่เขามาตามหาถึงที่แล้ว คือตระกูลสาระทาแห่งเมืองซูเพร่า นั่นเป็นตระกูลมหาเศรษฐีพันล้าน! ทรัพย์สินส่วนตัวของผู้นำตระกูลสาระทามีมากกว่าพันล้าน มากมายเสียจนตระกูลของพวกเราต้องแหงนจนปวดคอก็ยังเอื้อมไม่ถึง!”
“ทำไมลูกถึงได้ดวงซวยแบบนี้ ต้องเจอกับศัตรูหัวใจที่ร้ายกาจขนาดนั้น! ไม่ เปรม์ ลูกยังไม่เข้าใจ ยศพัฒน์ไม่ได้รักลูก ไม่เกี่ยวกับหน้าตาหรืออายุของลูก เขาไม่รักก็คือไม่รัก ไม่มีเหตุผล!”
เปรมาเศร้าเสียใจ
“แม่ หนูสำนึกผิดแล้ว หนู หนูก็ยังมีเบศวร์ไม่ใช่เหรอคะ เบศวร์รักหนูขนาดนั้น เขาต้องไม่ทอดทิ้งหนูแน่ เขาต้องช่วยหนู ขอแค่ผ่านช่วงเวลาวิกฤติครั้งนี้ไป หนูก็ยอมจำนนต่อชะตากรรมแล้ว หนูจะแต่งงานกับเบศวร์!”
ณัฏฐาพูดอย่างโหดร้ายทารุณว่า“แต่งงานกับเบศวร์เหรอ สายไปแล้ว ตอนนี้คนเขามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว กนกอรต่างหากที่เป็นภรรยาของเขา!”
เปรมามองแม่ด้วยน้ำตานองหน้า แม้แต่แม่ก็ยังรังแกเธอ!
นี่เธอถูกผู้คนรังเกียจแม้แต่พ่อแม่ญาติพี่น้องก็ไม่มีใครเอาแล้วเหรอ
“หนูสู้เทวิกา กับกนกอรไม่ได้เลยเหรอคะ หนูมั่นใจในตัวเบศวร์ แม่ หนูจะไปบ้านตระกูลเดชอุปเดี๋ยวนี้!”
เปรมาพูดพลาง ก็ไม่สนใจการขัดขวางของแม่แล้ว พุ่งตัวไปที่บ้านตระกูลเดชอุปทันที
สองแม่ลูกตระกูลไชยรัตน์จะอยู่ในสภาพอย่างไร ยศพัฒน์ไม่สนใจ เขารู้แค่ว่าหลังจากที่เขาไปแล้วคุณณัฏฐาจะสั่งสอนเปรมา
นั่นคือแม่ของเปรมา แม้เธอจะถูกแม่ตบตีจนพิการ ก็ไม่เกี่ยวกับเขา
ตอนที่กลับมาถึงคอนโดกรีนทาวน์ ก็เป็นเวลาตีสามแล้ว
รอบๆตัวมีแต่ความเงียบงัน
ยศพัฒน์ถามบอดี้การ์ดคนหนึ่งด้วยเสียงเบาๆว่า“ตอนที่เปรมาโดนตบได้ถ่ายเอาไว้หรือเปล่า”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งรีบตอบว่า “ผมถ่ายไว้ได้ครบทั้งหมดเลยครับ”
“ส่งคลิปวิดีโอมาให้ผมด้วย”
ยศพัฒน์สั่งเบาๆ
อีกเดี๋ยวย่องกลับไปในห้อง ถ้าเกิดเสียงดังจนทำให้เมียรักตื่น ก็จะได้เอาคลิปที่เปรมาถูกตบให้เมียรักดู ให้เทวิกาสะใจ
บอดี้การ์ดรีบส่งคลิปที่ตนเองถ่ายไว้ไปยังโทรศัพท์มือถือของคุณชาย
“เอาละ พวกนายกลับไปพักผ่อนได้แล้ว”
ยศพัฒน์ได้รับคลิปแล้ว ก็ให้บอดี้การ์ดกลับไปพักผ่อน เขาค่อยๆเดินย่องเข้าไปในห้องนอน
ประตูของห้องนอนใหญ่ยังไม่ได้ลงกลอน ก่อนที่เขาจะออกจากบ้านได้สั่งป้ามะนาวเอาไว้ว่ารอเขาก่อนอย่าเพิ่งล็อคประตู
ค่อยผลักประตูเบาๆ เขายังไม่ทันได้เข้าไป ไฟก็สว่างขึ้นมาก่อนแล้ว
ไฟที่ป้ามะนาวเป็นคนเปิด
“คุณชาย กลับมาแล้วเหรอคะ”
ป้ามะนาวค่อยขยับร่างที่อวบอ้วนของเธอมา ไม่นานก็เดินมาตรงหน้ายศพัฒน์ ถามอย่างเป็นห่วงว่า“จัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอคะ”
ยศพัฒน์หัวเราะๆ“ป้ามะนาว คุณชายของป้าออกโรงเอง จะไม่สำเร็จเหรอครับ หลังจากที่ผมออกไปแล้ว คุณนายน้อยไม่ได้ลุกขึ้นมาหรอกนะ”
“เปล่าค่ะ คุณนายน้อยกับคุณหญิงธิษณาต่างก็หลับสนิทมากค่ะ”
ยศพัฒน์“……”
“คุณชายเป็นอะไรไปคะ”
ยศพัฒน์พูดอย่างเศร้าเล็กน้อยว่า“ผมลืมไปว่าสองสามวันนี้วิกานอนเป็นเพื่อนแม่ยายผม ผมยังคิดว่าจะค่อยๆย่องกลับไปที่ห้อง ไม่อยากส่งเสียงดังให้เธอตื่น”
ป้ามะนาวอ้าปากค้าง ไม่รู้จะพูดอะไรดีไปชั่วขณะ
“คุณชายหิวหรือเปล่าคะ ป้าจะไปทำของอร่อยๆให้ทาน”
“ไม่หิวครับ ไม่มีอารมณ์จะกิน ผมจะกลับไปกอดหมอนข้างที่ห้องแล้ว”
ป้ามะนาว“……”
ยศพัฒน์เดินผ่านป้ามะนาวไป ขึ้นไปที่ชั้นบนแล้ว
ป้ามะนาวหันไปมองเด็กที่ตนเองเห็นตั้งแต่เล็กแต่น้อยขึ้นไปชั้นบน ก็นึกถึงสีหน้าท่าทางของคุณชายเมื่อครู่ เธออดขำไม่ได้พึมพำกับตัวเองว่า“คุณชายเองก็มีมุมขี้งอนแบบเด็กๆกับเขาด้วย ผู้ชายที่ถูกโอบล้อมด้วยความรัก ก็มีความแตกต่างออกไป”