คุณสามีพันล้าน - บทที่ 278 ไม่มีใครรอคุณอยู่ที่เดิมตลอดไปหรอก
บัณฑิตาผู้สูงส่ง เงื่อนไขของเธอสำหรับลูกสะใภ้ก็คือบริสุทธิ์ผุดผ่อง เธอไม่อนุญาตให้ลูกชายไปเก็บรองเท้าเก่าๆขาดๆของคนอื่นมาใส่
ลูกชายเธอยอดเยี่ยมขนาดนั้น จะหาผู้หญิงดีๆสักคนแต่งงานด้วยไม่ได้เลยหรือ
ทำไมต้องเอาผู้หญิงของคนอื่นมาด้วย
“น้าฑิตาคะ หนู……น้าฟังหนูก่อน……”
เปรมาคุกเขาลงตรงหน้าบัณฑิตา แม้จะถูกตบแต่เธอก็ยังจับเสื้อของบัณฑิตาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
เธอร้องไห้พลางเอ่ยว่า“น้าฑิตา เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดค่ะ คนอื่นใส่ร้ายหนู ป้าฟังหนูอธิบายก่อนนะคะ ความจริงแล้วหนูยัง……”
“เธอหุบปากไปซะ ใครจะใส่ร้ายเธอ ไม่มีมูลหมามันไม่ขี้หรอก ถ้าเอไม่เคยทำเรื่องพวกนั้น ใครจะไปใส่ร้ายเธอได้ ไม่เห็นที่คนอื่นใส่ร้ายเทวิกาเหรอ”
เทวิกาที่ดูอยู่อดที่จะพูดไม่ได้“คุณบัณฑิตาคะ กรุณาอย่าเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วย ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์ ขอให้คนที่ใส่ร้ายฉันแพ้ภัยตัวเอง ได้รับกรรมตามสนอง”
บัณฑิตาสะบัดเปรมาออกไปอย่างแรง เธอพูดกับเทวิกาว่า“เทวิกา ฉันรู้ว่าใครใส่ร้ายเธอ ก็คือเปรมา เป็นมือของหล่อนทั้งหมด!”
“ฉันรู้ค่ะ ฉันกำลังชื่นชมสามีที่ช่วยฉันทวงความยุติธรรม”
เปรมาแทบจะโมโหตายแล้ว
บัณฑิตาสำลักหายใจไม่ออก
“น้าฑิตา!”
“ไม่ต้องมาเรียกฉัน ตอนนี้พอฉันได้ยินเธอเรียก ฉันก็รู้สึกขยะแขยง ! เสียแรงที่ฉันดีกับเธอขนาดนี้ เธอกลับหลอกฉัน สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือการโกหกหลอกลวง เธอไสหัวไป ไปเดี๋ยวนี้ ต่อไปอย่ามาที่บ้านเดชอุปของพวกเราอีก บ้านพวกเราไม่ต้อนรับเธอ อีกอย่าง ไม่อนุญาตให้เธอไปหาเบศวร์อีก ถ้าฉันรู้ว่าเธอยังตามตื๊อเบศวร์อยู่ ฉันจะฉีกกระชากเธอ!”
บัณฑิตาเคยชอบเปรมามากแค่ไหน ตอนนี้ก็ยิ่งโกรธมากเท่านั้น
นึกถึงตอนที่ตัวเองทำดีกับเปรมา กับคุณณัฏฐา บัณฑิตาก็รู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าว ตอนที่มองเปรมา ดวงตาสองข้างนั้นมีไฟลุกโชน อดที่จะยกขาถีบไม่ได้ ในที่สุดก็สลัดเปรมาออกไปได้แล้ว
เธอไม่อยากให้ยศพัฒน์กับภรรยามาดูเป็นเรื่องสนุกอีกต่อไป จึงหมุนตัวเดินกลับไป
“น้าฑิตา น้าฑิตา……”
เปรมาลุกขึ้นมาพุ่งตัวไปกอดขาข้างหนึ่งของบัณฑิตาเอาไว้ ร้องไห้พลางพูดว่า“น้าฑิตา ป้าฟังหนูอธิบายก่อนได้มั้ยคะ น้าฑิตา น้าเห็นหนูตั้งแต่เด็กจนโต น้ากับแม่หนูก็สนิทสนมกันดีขนาดนั้น น้าไม่เชื่อใจในตัวแม่หนูเหรอคะ”
“ตอนที่พวกเราไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน ฉันกับแม่เธอก็เป็นเพื่อนรักกัน แต่เวลาที่พวกเราขัดแย้งกัน แน่นอนว่าแม่เธอก็ต้องเลือกที่จะช่วยเธออยู่แล้ว เปรมา ฉันบัณฑิตาไม่ได้มีไอคิวสูงมาก แต่ก็ไม่ได้โง่”
ตอนเธอสาวๆก็คือนมโตไม่มีสมอง อาศัยรูปร่างหน้าตาที่สะสวยเอาชนะใจธารณ์
บัณฑิตายอมรับว่าตนเองไม่ได้ฉลาดหลักแหลมเหมือนกับณัชชาขนาดนั้น แต่ก็ไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นคนโง่
“เปรมา เธอก็อย่าโทษว่าฉันโหดเหี้ยมไร้ความเมตตา ที่เธอเป็นอย่างวันนี้ก็เพราะเธอทำตัวเอง เธอลองดูสิ ผู้ชายที่พร่ำเพ้อมาสิบกว่าปี พาผู้หญิงที่เขารักมาดูความน่าสมเพชของเธอ ส่วนผู้ชายที่รักเธอมาสิบกว่าปี ก็ถูกเธอทรมานจนไม่ยอมแม้แต่จะออกมาดูเธอสักนิดเลย”
“ภัยพิบัติจากธรรมชาติเรายังหลีกเลี่ยงได้ แต่ผลกรรมจากสิ่งที่เราทำไว้ไม่อาจหลีกหนีได้”
บัณฑิตาผลักเปรมาออกไปอีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปเลย
เปรมานอนร้องไห้อยู่ที่พื้น
ทำไมเบศวร์ไม่ยอมออกมาหาเธอ
หรือว่าเขารังเกียจเธอแล้ว
“นฤเบศวร์ นฤเบศวร์ คุณออกมา คุณออกมานะ!”
ไม่ได้พบกับเบศวร์ เปรมาก็ยังไม่ยอมตายใจ
เธอเองก็ไม่สนใจว่ายศพัฒน์พาภรรยาสุดที่รักมาดูอยู่ข้างๆอย่างสะใจมาก ตอนนี้ไม่ต้องการรักษาหน้าอะไรแล้ว เธอแค่ต้องการพบนฤเบศวร์ ถามนฤเบศวร์สักคำว่า เขา ยังรักเธออยู่มั้ย
นฤเบศวร์ก็ไม่ได้ทำให้เปรมาผิดหวัง
เขาออกมาแล้ว
“คุณชาย”
ลุงเซนมองเห็นคุณชายเดินออกมา ก็ส่งเสียงเรียก ในน้ำเสียงแฝงด้วยการเตือนเล็กน้อย “คุณชาย นึกถึงคุณนายน้อยด้วยนะครับ”
นฤเบศวร์ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินตรงดิ่งออกไป
เห็นยศพัฒน์มาเป็นเพื่อนเทวิกายืนอยู่ข้างๆ นฤเบศวร์ก็ชะงักฝีเท้า มองยศพัฒน์อยู่นาน แล้วพูดว่า“วันนี้ลมแรงจริงๆเลยนะ ถึงขั้นหอบเอาคุณพัฒน์มาได้”
ยศพัฒน์หัวเราะ พูดว่า“มาดูอะไรสนุกๆลมจะแรงก็ไม่กลัว”
แล้วเสริมอีกประโยคว่า “ภรรยาผมชอบดูอะไรสนุกๆ คุณแสดงให้มันน่าสนุกหน่อยนะ”
นฤเบศวร์เกือบจะกระอักเลือดออกมา
ตอนนี้อารมณ์เขาตกต่ำหดหู่ ไอ้หมอกลับมาแสดงความรักกันต่อหน้าเขา ราวกับว่าเขาไม่มีภรรยาอย่างนั้น!
เขาเองก็เป็นที่มีภรรยาแล้ว!
เทวิกายิ้มแล้วพูดว่า“คุณนฤเบศวร์ ยกเวทีให้พวกคุณแล้ว พวกคุณแสดงกันให้เต็มที่เลยนะคะ”
นฤเบศวร์“……ไม่เสียแรงที่เป็นสามีภรรยากัน!”
ต่างก็มีความสามารถทำให้เขาโกรธได้
“เบศวร์”
เปรมาลุกขึ้นมา ร้องไห้พลางส่งเสียงเรียก“เบศวร์”
ในที่สุดนฤเบศวร์ก็มองมาทางเธอแล้ว
เธอในตอนนี้อยู่ในสภาพยับเยินดูไม่ได้เลย แก้มสองข้างบวมแดง ไม่มีสาวสวยแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว สาวสวยในแบบของเธอนั้นล้วนเป็นการเสแสร้งออกมา และเขาก็หน้ามืดตามัว มองไม่ออกว่าเธอเสแสร้ง เห็นเธอเป็นนางฟ้านางสวรรค์
อย่างไรเสียก็เป็นผู้หญิงที่ตนเองรักมาสิบกว่าปี มองท่าทางน่าสงสารของเปรมา นฤเบศวร์ก็ไม่สบายใจนัก
เขาต้องใช้พละกำลังอย่างมากจึงจะควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้ ไม่เอ่ยปลอบโยนเธอออกมา และไม่ได้เข้าไปกอดเธอแบบเมื่อก่อน
เปรมาผิดหวังมาก
เธอไม่ได้รับผลอย่างที่เธอต้องการ
เธอต้องอยู่ในสภาพยับเยิน ต่อหน้าเบศวร์ ตอนที่เบศวร์มองเธอ ไม่ได้มีความคลั่งไคล้แบบเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว แววตาที่เจ็บปวดนั้นทำให้เปรมาตื่นตระหนกจนมือเท้าเย็นเฉียบ
อ้อมกอดที่อบอุ่นกว้างใหญ่ของนฤเบศวร์นั้น ไม่ใช่ที่พึ่งพิงของเธออีกต่อไป
“เบศวร์……”
เปรมาน้ำตาเอ่อ ปากสั่น ถามอย่างสะอึกสะอื้นว่า“คุณยังรักฉันมั้ย”
นฤเบศวร์นิ่งเงียบอยู่นานมาก จึงพูดขึ้นว่า“เปรมา ผมรอคุณมาสิบกว่าปี คุณไม่เคยจะหันหน้ากลับมามองผมเลย ตอนนี้ ผมไม่อยากจะรออีกแล้ว”
ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ออกมา เปรมาน้ำตาร่วงพรูเป็นสายฝน ล้มพับลงกับพื้น
เธอ ไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ!
ไม่มีใครจะรอคุณอยู่ที่เดิมตลอดไปหรอก
นฤเบศวร์ตามเธอสิบกว่าปี เธอไม่เคยหันกลับไปมองเลย
ตอนที่เธออยากจะหันไปมอง นฤเบศวร์ก็หมุนตัวเดินจากไปแล้ว
น้าฑิตาพูดถูก ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เธอทำตัวเอง ต้องรับผลกรรมในสิ่งที่ตัวเองทำ!
มองเปรมานอนร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่ที่พื้น นฤเบศวร์ล้วงกระดาษทิชชู่ออกมาหนึ่งห่อ แต่ไม่ได้ส่งให้เธอด้วยตัวเอง แต่เขาเอาห่อกระดาษทิชชู่วางบนพื้นตรงหน้าเธอ
จากนั้น เขาก็ยืนขึ้น ก้มหน้ามองเปรมาอยู่นาน แล้วหมุนตัวเดินกลับไป
เดินไปสองสามก้าว ก็หยุด หันไปพูดกับยศพัฒน์สองสามีภรรยาว่า“ในเมื่อมาแล้ว เข้าไปนั่งหน่อยมั้ย”
ยศพัฒน์เหลือบมองเปรมา ละสายตากลับมา หันไปถามภรรยาสุดที่รักว่า“วิกา จะเข้าไปนั่งหน่อยมั้ย”
เทวิกาตระหนักได้ว่าคุณปู่เร็นอยู่ด้วย เธอจึงพูดว่า“พวกเรามาดูอะไรสนุกๆ ไม่ได้เอาของขวัญมา ในบ้านมีผู้สูงอายุอยู่ ถ้าพวกเราเข้าไป จะถูกตำหนิว่าไม่มีมารยาทหรือเปล่าคะ”
ยศพัฒน์หัวเราะ“ต่อให้พวกเรานำของขวัญมาด้วย เขาก็คงไม่กล้ารับ เพราะกลัวว่าพวกเราจะวางยาพิษ”
นฤเบศวร์“……ยศพัฒน์ อย่าพูดให้พวกเราดูน่าสงสัยอย่างนั้น ของที่คนอื่นมอบให้ คุณปู่ผมอาจจะไม่กล้ากิน แต่ของที่ตระกูลอริยชัยกุลของพวกคุณมอบให้ คุณปู่ผมกินได้อย่างสบายใจร้อยยี่สิบเปอร์เซ็นเลย”
เกียรติศักดิ์ศรีคนตระกูลอริยชัยกุลอยู่ที่นั่น แม้จะเป็นศัตรูกัน นฤเบศวร์ก็ไม่อาจพูดจาว่าร้ายคนตระกูลอริยชัยกุลอย่างไม่รู้ผิดชอบชั่วดีได้