คุณสามีพันล้าน - บทที่ 284 พื้นที่ความเข็ดในใจของนฤเบศวร์
รูปถ่ายนั้นมีไว้ส่งไปให้กับนายจ้าง เพื่อยืนยันว่าเขาทำงานตามสัญญา ไม่ได้ขี้เกียจแน่นอน
กนกอรกลับมานั่งที่เคาน์เตอร์คิดเงิน และเอาโทรศัพท์ออกมารับอั่งเป่าต่อ
รับไป ๆ หมดแล้ว
เธอก็ไม่ได้นับว่าเป็นจำนวนเท่าไร
เมื่อกดรับถึงช่วงท้าย จึงได้ตอบกลับหนึ่งข้อความเป็นรูปอิโมจิ “ขอบคุณค่ะเจ้านาย”
นฤเบศวร์ที่อยู่ทางฝั่งนั้นหลังจากที่เป็นสุธนกุมารโปรยเงินอยู่พักหนึ่ง ก็ถือโทรศัพท์เอนพิงอยู่บนเก้าอี้ รอข้อความตอบกลับจากกนกอร สุดท้ายคำตอบที่ได้กลับเป็นรูปอิโมจิ “ขอบคุณค่ะเจ้านาย”
เขา:“……คนขี้งก พิมพ์ข้อความมากหน่อยไม่ได้หรือไง”
“ตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ค่อยดี ไม่เชื่อว่าคุณจะไม่รู้ เทวิกาจะต้องใส่สีตีไข่เล่าให้คุณฟังแน่นอน คุณขี้เกียจแม้กระทั่งไม่โทรมาแสดงความสุขบนความทุกข์ของผมหน่อยเลยเหรอ”
นฤเบศวร์กำลังบ่นอย่างบ้าคลั่ง
ถือโทรศัพท์ไว้ช่างน่าเบื่อเหลือหลาย เขาจึงเปิดสเตตัสดูว่ามีเรื่องซุบซิบไหนที่น่าสนุกบ้าง
ใครจะไปรู้ เมื่อเปิดสเตตัสขึ้นมาดู ก็เห็นกนกอรโพสต์สเตตัสเมื่อหนึ่งนาทีที่แล้ว ซึ่งเป็นรูปของผู้ชายคนหนึ่ง พร้อมแคปชั่นข้อความ: วันนี้มีลูกค้าหนุ่มหล่อคนหนึ่งมาที่ร้าน หล่อมาก ๆ ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน ๆ ก็หล่อ หล่อแบบวัวตายความล้ม
นอกจากนี้มีแคปชั่นข้อความแล้ว ด้านหลังข้อความ กนกอรยังใส่อิโมจิสน้ำลายสอตามด้วย
นฤเบศวร์จ้องรูปภาพนั้น เป็นหนุ่มหล่อจริงด้วย บุคลิกประเภทแบบอ่อนโยน ผู้ชายแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดในบรรดาสาว ๆ แล้ว
ทันใดนั้น นฤเบศวร์ก็โทรศัพท์หากนกอรทันที
กนกอรแอบถ่ายรูปหนุ่มหล่อที่กำลังดื่มกาแฟด้วยท่วงท่าที่สง่างาม อารมณ์ดีไม่เบา เห็นสายเรียกเข้าของนฤเบศวร์ เธอจึงรับสายขึ้น
“กนกอร!”
นฤเบศวร์น้ำเสียงรุนแรง
“อารมณ์โกรธของคุณยังไม่บรรเทาเหรอ”
กนกอรฟังออกถึงน้ำเสียงรุนแรงของเขา จึงกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม:“ยังอยากจะเป็นสุธนกุมารต่อไหม ตอนนี้ฉันว่างมาก อินเทอร์เน็ตก็เร็วมาก คุณส่งเงินมาเท่าไรฉันก็รับได้หมด”
นฤเบศวร์กล่าวด้วยความโกรธ:“ผมส่งให้คุณส่วนตัว จะมีใครแย่งคุณได้อีก คุณรู้ว่าผมส่งอั่งเปาให้คุณ รู้ว่าผมอารมณ์ไม่ดีด้วยเหรอ”
“รู้สิ คุณโกรธทีไรก็ส่งอั่งเปามาให้ฉัน ฉันหวังให้คุณโกรธทุก ๆ วันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย ฮ่า ๆ ฝนอั่งเปาตกเรื่อย ๆ ยิ่งมากยิ่งดี”
นฤเบศวร์สำลัก
รู้มานานแล้วว่าเธอปากร้ายพูดคำปลอบใจไม่เป็น
เขายังหันหน้าไปหากระบอกปืนของเธออีก
“กนกอร อย่างน้อยผมก็เป็นสปอนเซอร์ด้านการเงินของคุณ คุณไม่คิดจะทำอะไรสักหน่อยเหรอ”
นฤเบศวร์ถามด้วยใจที่อึดอัด
“หรือว่าเทวิกาไม่ได้บอกคุณ คุณจะปลอบใจผมหน่อยไม่ได้เหรอ”
“อย่าพูดถึงเลย วิกาไปดูละครเด็ดยังไม่ชวนฉันไปด้วย ตอนนี้ฉันยังเสียดายไม่หายเลย ยังดีที่คุณส่งอั่งเปามาให้ฉันตอนที่คุณกำลังโมโห รับอั่งเปามากมายขนาดนั้น ความเสียดายของฉันได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย”
“ฉันจะทำอะไรได้ ฉันทำแล้วมีประโยชน์เหรอ คุณนฤเบศวร์ ผู้หญิงที่คุณรักคือเปรมา เปรมาต่างหากที่ทำอะไรบางอย่างแล้วถึงจะบรรเทาความโกรธของคุณได้ และฉันก็ไม่ได้มีความสามารถนั้น พวกเราเจอกันมีแต่จะทำให้ต่างฝ่ายต่างโมโห”
นฤเบศวร์:“……”
“ต่อไปอย่าพูดถึงเปรมาอีก”
“วิกา พรุ่งนี้ตื่นเช้า ๆ หน่อย พกกล้องโทรทรรศน์ด้วย พวกเราจะส่องดูทางทิศตะวันตกกัน ดูสิว่าพรุ่งนี้พระอาทิตย์บนฟ้าจะสามารถขึ้นจากทิศตะวันตกไหม โอ๊ย น่าอัศจรรย์มาก ฉันได้ยินเรื่องตลกสุด ๆ ฉันรู้สึกว่ามันเปรียบได้กับพระอาทิตย์ขึ้นทิศตะวันตก”
นฤเบศวร์ได้ยินเสียงเทวิกากล่าวสมทบคำพูดของกนกอร:“จริงเหรอ งั้นฉันต้องไปซื้อกล้องโทรทรรศน์แล้ว พรุ่งนี้พวกเราจะได้เชยชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในวันพรุ่งนี้ ฉันมีชีวิตถึงตอนนี้ยี่สิบปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตะวันตกเลยนะ”
นฤเบศวร์:“……”
เขาตัดสายทิ้งไปอย่างเงียบ ๆ
ขืนพูดต่อไป เขาจะต้องถูกกนกอรยั่วโมโหตายแน่ ๆ
ยังมีเทวิกาคนนั้นอีก ที่ยั่วโมโหคนได้เก่งมาก ไม่รู้ว่ายศพัฒน์ชอบตรงไหนของเทวิกา
ยศพัฒน์:นายไม่จำเป็นต้องรู้จุดดีของเทวิกา ฉันรู้คนเดียวก็พอ
กนกอรรู้สึกว่าปลายสายเงียบเกินไปแล้ว จึงยกโทรศัพท์ออกจากใบหูมาดู และคุยกับเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้ม:“อ่อนไหวเหลือเกิน ยั่วไม่กี่ประโยคยังไม่สะใจเลย เขาก็วางสายไปซะแล้ว”
เทวิกากุมท้องหัวเราะแล้วกล่าว:“ฉันละอยากรู้ว่าพื้นที่ความเข็ดในใจของนฤเบศวร์ตอนนี้จริง ๆ”
กนกอรหัวเราะเช่นกัน
เธอกลั้นขำไว้ไม่อยู่
ขอเพียงได้เจอกับนฤเบศวร์ แม้จะเป็นการโทรศัพท์ก็ตาม ไม่ประชดประชันสักหน่อย เธอจะรู้สึกไม่สุขใจ
มีลูกค้าเข้ามาอีกแล้ว
กนกอรทักทายลูกค้าด้วยรอยยิ้ม ปล่อยให้เทวิกาอัปเดตบทความต่อ
เธอยังคงรอให้เทวิกาเขียนอัปเดตเสร็จแล้วไปซื้อซีฟู้ดให้กับเธอ ตอนกลางวัน ทำอาหารทะเลให้กับเธอในบ้านเช่าของเทวิกา
หลังจากที่กนกอรหยุดคุยกับเธอ เทวิกาก็มุ่งมั่นกับการเขียนบทความต่อ เขียนบทความต้องมีอารมณ์การเข้าถึง ถ้าไม่สามารถเข้าถึงได้ เนื้อหาที่เขียนออกมาเธอก็จะรู้สึกว่าขาดจิตวิญญาณ
เทวิกาซึ่งมีความเร็วที่ดี จึงเขียนอัปเดตเสร็จก่อนเวลาสิบเอ็ดโมง
เห็นกนกอรกับพนักงานในร้านรับมือกับงานที่ยุ่งพัลวันได้ เทวิกาจึงปิดแล็ปท็อปลง หยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกมาจากเคาน์เตอร์คิดเงิน จากนั้นกล่าวกับกนกอรว่า:“กนกอร ฉันจะไปซื้อกุ้งหัวโตแล้ว”
“อืม ซื้อเยอะหน่อยนะ”
“ไม่ต้องห่วง อาหารกลางวันจะทำอาหารทะเลชุดใหญ่ให้เธอ เธออยากทานเยอะแค่ไหนก็ทานให้หนำใจเลย น้อง เธอกับลุงตี๋ตอนเที่ยงไม่ต้องสั่งไรเดอร์แล้วนะ พวกเราทานด้วยกัน”
ลุงตี๋เป็นกุ๊กทำของหวาน
พนักงานสาวทางร้านตอบด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข:“ค่ะ”
หลังพี่วิกากับพี่กนกอรปรึกษากันแล้ว ตัดสินใจว่าจะเพิ่มเงินเดือนให้กับเธอ
พนักงานสาวทางร้านก็ทำงานขยันขันแข็งมากขึ้น
เจ้านายเป็นกันเอง และก็มีอนาคตด้วย เธอทำต่อไปเรื่อย ๆ ทำจนกว่าร้าน One Day In Coffee จะเจ๋ง
ถุย ๆ ร้าน One Day In Coffee ไม่มีทางเจ๋งหรอก มีแต่จะเบ่งบานรุ่งเรืองและเปิดสาขามากมายนับไม่ถ้วน
เทวิกาไปซื้อซีฟู้ดตรงซูเปอร์มาเก็ตที่อยู่ตรงข้ามแล้ว และเธอไม่ลืมที่จะโทรบอกสามีของเธอว่าให้มาทานอาหารกลางวันด้วยกัน
ทันทีที่ยศพัฒน์ได้ยินว่าเธอจะทำอาหารด้วยตัวเอง จึงรีบบอกว่าจะมาช่วยด้วย แต่ถูกเทวิกาปฏิเสธไป เทวิกายังขู่เขาอีกว่า ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานแล้วมาจะไม่ให้เขาทานข้าวด้วย
สำหรับคุณแม่สามคนที่ไปช้อปปิ้งนั้น เทวิกาก็ได้โทรศัพท์ไปถามแล้ว คุณแม่ทั้งสามคนบอกว่าจะทานกันข้างนอก
เทวิกาจึงรู้จำนวนคนที่จะมาทานข้าวด้วยกันแล้ว
เพียงสองนาทีหลังจากที่เธอออกไป รถเฟอร์รารีสปอร์ตเปิดประทุนสีแดงเพุ่งเข้าจอดเทียบหน้าประตูร้าน One Day In Coffee ราวกับลูกไฟ
ทุกคนในร้านกาแฟต่างถูกรถสปอร์ตสีแดงนั่นดึงดูดสายตา
กนกอรเห็นนฤเบศวร์ลงมาจากบนรถ
แล้วก็มองด้านหลังรถสปอร์ต อืม ไม่มีคนตามท้ายที่เหมือนหางปลามาด้วย
เห็นได้น้อยมาก ผู้ชายที่ชอบอวดเก่งคนนี้ไม่น่าเชื่อออกไปข้างนอกไม่พบอดี้การ์ดสักคน
ไหนบอกว่าอารมณ์ไม่ดีไม่ใช่เหรอ ยังมีอารมณ์ขับรถสปอร์ตสุดเท่นี้ออกจากบ้านอีก
นฤเบศวร์ยังตั้งใจเปลี่ยนชุดเป็นชุดสูทสีขาว เดิมทีเขาที่หล่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อสวมชุดสูทสีขาว ก็ราวกับเจ้าชายขี่ม้าขาวที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย
เมื่อเขาลงมาจากรถ ก็ควงกุญแจรถหมุนเล่นในมือแล้วเดินตรงเข้ามาในร้านกาแฟ ทันทีที่เข้ามาก็กวาดมองลูกค้าในร้านก่อน เห็นชายหนุ่มที่ถูกกกนกอรแอบถ่ายยังอยู่ที่ร้าน
นฤเบศวร์ดวงตาหม่นลง
ดื่มกาแฟอะไรกันนี่ ดื่มมาตั้งแต่เช้ายังไม่ไปอีก!