คุณสามีพันล้าน - บทที่ 291 จูบของคู่อริ
“ยัยทอม เธอกับนิรุตต์เป็นเพื่อนบ้านกันมานานแล้ว เธอสองคนยังจำเป็นต้องให้น้าเธอแนะนำให้รู้จักกันอีกเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นคือนิรุตต์เป็นเกย์!”
“ฉันเดาเหตุผลออก นิรุตต์อยากจะนัดบอดกับเธอสินะ ธุรกิจของเจบี กรุ๊ปมีปัญหา เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทอยู่ในภาวะตึงเครียดจนจะชะงักตัวแล้ว ทันทีที่เงินทุนหมุนเวียนหยุดชะงัก ก็จะมีผลกระทบมากมายถาโถมเข้ามา หากไม่มีใครยื่นมือไปช่วยเจบี กรุ๊ป งั้นเจบี กรุ๊ปก็จบเห่แน่ ๆ”
ในฐานะคุณชายสองตระกูลอริยชัยกุล กษิดิไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าพี่ชาย แต่ในเรื่องธุรกิจ เขาย่อมรู้มากกว่ามิลินท์
“นิรุตต์เล็งเป้าหมายมาที่เธอ อยากจะแต่งงานกับเธอ พึ่งพาอำนาจของตระกูลศิริกรโสภณ พลิกสถานการณ์ให้กลับตาลปัตร หากตระกูลศิริกรโสภณของเธอไม่พอใช้ ก็จะขอร้องให้ตระกูลศิริกรโสภณมาขอความช่วยเหลือจากตระกูลอริยชัยกุล ทั้งสองตระกูลรู้จักกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว หากนิรุตต์กลายเป็นลูกเขยบ้านเธอ ตระกูลอริยชัยกุลก็จะเห็นแก่มิตรภาพของสองตระกูล และมีความเป็นไปได้สูงที่ยื่นมือเข้าไปช่วย”
“นิรุตต์วางแผนไว้ดิบดีเชียว ทั้งทีหมอนั่นไม่ชอบผู้หญิง ซ้ำยังแอบมีเลี้ยงนายแบบคนหนึ่งอีกต่างหาก ปิดบังคนอื่นได้แต่จะปิดบังฉันได้หรือไง? ยัยทอม น้าเธอมีเจตนาอะไรกันแน่เนี่ย ผู้ชายแบบนี้ก็ยังจะแนะนำให้เธออีก ถ้าเธอจะแต่งงานกับนิรุตต์ งั้นสู้ขึ้นคานเป็นป้าแก่ยังจะดีกว่าอีก อย่าน้อยก็เป็นอิสระ ไม่ต้องติดร่างแหเพราะบ้านสามี ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องยุ่งยากมากมายขนาดนั้นด้วย”
มิลินท์ “……นายแน่ใจเหรอว่านิรุตต์เป็นเกย์?”
ถึงว่าอายุตั้งสามสิบกว่าแล้วก็ยังไม่มีแฟนสักที คุณน้ายังชมว่าเพราะเขาเอาแต่ยุ่งอยู่กับงาน จนละเลยเรื่องใหญ่ในชีวิตตัวเอง ซ้ำยังบอกว่าครอบครัวพวกเขาเป็นเพื่อนบ้านกัน ต่างฝ่ายต่างรู้ตื้นลึกหนาบางกันดี หากเธอแต่งงานกับนิรุตต์ จะกลับบ้านแม่ก็แค่ใกล้ๆ
รู้ตื้นลึกหนาบางงั้นเหรอ?
มิลินท์ยิ้มเสียงเหอะๆ หากรู้ตื้นลึกหนาบางกันจริง ทำไมเธอถึงไม่รู้ว่านิรุตต์เป็นเกย์?
“ฉันเคยเห็นเขาจูบกับแฟนเขากับตาตัวเอง พอคิดถึงเรื่องศักดิ์ศรี ผนวกกับเป็นเกย์ก็ใช้ชีวิตลำบากในสังคมอยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงนิรุตต์ก็เป็นประธานบริษัทของเจบี กรุ๊ป ฉันก็เลยไม่ได้ปากพล่อยพูดออกไป”
แต่นิรุตต์เล็งเป้าหมายมาที่มิลินท์ งั้นกษิดิก็ไม่อาจทนได้แล้ว
“เจบี กรุ๊ปเจอปัญหา ฉันก็พอรู้บ้าง ลุงพลเคยมาหาพ่อฉัน เพียงแต่ตอนนี้ธุรกิจบ้านฉันก็ยกให้พวกพี่น้องของฉันจัดการกันแล้ว พ่อฉันบอกแค่ว่าจะคุยกับลูกชายอีกที แต่ก็ไม่ได้ตอบตกลงตรงๆว่าจะช่วยเจบี กรุ๊ป”
พ่อเธอลงจากตำแหน่งแล้ว ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตสามีภรรยาธรรมดากับแม่เธอ พ่อบอกว่านี่คือสิ่งที่เขาติดค้างแม่
“น้าฉันไม่ใช่น้าแท้ๆสักหน่อย ก็แค่ญาติห่างๆ”
มิลินท์กลับมาคุยเรื่องเดิม เธอถามกษิดิหน้ายิ้มแย้มว่า “ไปนัดบอดกับฉันไหม? เราลองไปล่อแฟนหนุ่มของนิรุตต์ออกมาดูสักหน่อย นิรุตต์เองก็เป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยม สุภาพอ่อนโยน ทุกครั้งที่เห็นเขา เขาก็จะยิ้มแย้มเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิเสมอ ฉันก็รู้สึกประทับใจในตัวพี่ชายเพื่อนบ้านคนนี้เหมือนกันนะ”
“นายบอกว่าเขาเป็นเกย์ ฉันไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยจริงๆ ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองฉันก็ไม่เชื่อ ไม่แน่นายอาจจะดูผิดก็ได้”
กษิดิแค่นเสียงขึ้นจมูก “ฉันตาดีจะตาย จะดูผิดคนได้ยังไงกัน อีกอย่าง รถที่ฉันเห็นในตอนนั้นก็เป็นรถของนิรุตต์”
คนที่อยู่ในวงการเดียวกันก็ย่อมรู้จักกันอยู่แล้ว
กษิดิกล้าพูดว่าตัวเองไม่ได้เห็นผิดคน
“ก็ได้ ตอนกลางคืนฉันจะยอมเสียสละไปนัดบอดเป็นเพื่อนเธอเอง”
หลังจากที่รู้ว่าคู่นัดบอดของมิลินท์คือนิรุตต์ นอกจากกษิดิจะเคืองที่หมอนั่นกล้าหลอกลินท์ อยากจะใช้การแต่งงานมาเป็นเครื่องมือช่วยเจบี กรุ๊ป เขาไม่ได้กังวลหรอกว่าลินท์จะถูกนิรุตต์แย่งไป เพราะหมอนั่นชอบผู้ชาย
นายแบบคนนั้นเขาไม่เคยเห็นคนจริง แต่พอไปสืบมา ก็รู้ว่าเป็นนายแบบของแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายแบรนด์หนึ่ง เป็นผู้ชายที่หล่อและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของแสงอาทิตย์
คนเราตัดสินกันที่หน้าตาไม่ได้จริงๆด้วย ไม่มีใครคาดคิดว่าผู้ชายแบบนั้นจะเป็นเกย์
มิลินท์ยิ้ม “เพื่อเป็นการขอบคุณนาย ฉันจะให้ค่าตอบแทนนาย นายหลับตาลงสิ ฉันจะเอาค่าตอบแทนของฉันออกมาให้นายดู รับรองว่าเซอร์ไพรส์แน่ ๆ”
“ของอะไรถึงกับทำให้ฉันเซอร์ไพรส์ได้?”
กษิดิถามอย่างสงสัยใคร่รู้
ในฐานะคุณชายสองตระกูลอริยชัยกุล จะมีของหายากล้ำค่าอะไรที่เขาไม่เคยเห็น?
คลังเพชรพลอยบ้านเขา ถ้าพวกผู้หญิงมาเห็น คงจะอยู่แต่ในนั้นจนไม่อยากออกมาแล้ว
“นายหลับตาลงก็พอ”
กษิดิบ่นอุบอิบ เพียงแต่เพราะสงสัยใคร่รู้เกินไป ผนวกกับยังไม่เคยได้รับค่าตอบแทนจากมิลินท์ เขาจึงยอมหลับตาลงแต่โดยดี
มิลินท์มองดูชายหนุ่มที่ถูกเธอผลักชิดติดกับกำแพง ตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่ก็ไม่ถูกกัน ทะเลาะกันแต่ก็เติบโตมาด้วยกัน ตอนที่เขาเก็บกรงเล็บหมาป่า เขาก็คือคนที่น่าดึงดูดใจมากๆ
“ของอะไรกันแน่ เธอยังไม่ไปเอาออกมาให้ฉันดูอีกเหรอ?”
กษิดิหลับตายังรู้สึกได้ว่ามิลินท์กำลังจ้องมองเขา นี่ทำให้เขารู้สึกหวาดเสียวในใจเล็กน้อย
“มิลินท์ ฉันเตือนเธอไว้ก่อนนะ ถ้าเธอกล้าเอาของเล่นงูมาให้ฉันเป็นค่าตอบแทน ฉันก็จะไม่ทนเธอแน่!”
“วางใจเถอะ ไม่ใช่ของเล่นงู ของเล่นงูมีไว้แค่ขู่นายเอง กินไม่ได้สักหน่อย จะเรียกว่าเป็นค่าตอบแทนได้ไง ถ้าจะให้ของเล่นงูจริงๆ งั้นฉันไปซื้องูไม่กี่ตัวให้นายมาตุ๋นกินกับไก่ดีกว่า”
กษิดิ “……”
รอมาสองนาทีเต็ม ตอนที่กษิดิอยากจะอ้าปากถามอีกครั้ง จู่ ๆก็พลันถูกของอุ่นร้อนอ่อนนุ่มบางอย่างอุดปาก ดูจากสัมผัสแล้ว ของอุ่นร้อนอ่อนนุ่มนั่นคือริมฝีปาก ไม่ใช่สิ่งของ
มิลินท์จูบเขา!
กษิดิลืมตาขึ้น นิ่งชะงักเหมือนหิน เบิกตาโพลง จ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มตรงหน้า
กลิ่นตัวเธอหอมมาก เป็นกลิ่นที่เขาคุ้นเคย
ริมฝีปากเธออุ่นร้อนอ่อนนุ่ม ตอนที่แนบชิดกับริมฝีปากเขา ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกไฟช็อต
สิ่งที่ทำให้กษิดิช็อก คือเธอจูบเขาก่อนได้ยังไง! เรื่องแบบนี้ให้ผู้ชายเป็นฝ่ายนำดีกว่าไม่ใช่หรือไง?
อีกอย่าง เธอจูบเขาในฐานะอะไร?
คู่อริเหรอ?
จูบของคู่อริ!
จู่ ๆกษิดิก็นึกถึงพี่ชายตัวเองกับนฤเบศวร์ พวกเขาเองก็เป็นคู่อริกัน ถ้าหาก……
เอ่อ?
เขาคิดไปถึงไหนกัน
“กษิดิ ที่แท้จูบก็แค่นี้นี่เอง ไม่ได้ดื่มด่ำเหมือนที่เขียนในหนังสือเลยนี่”
มิลินท์จบการจูบในครั้งนี้ ซ้ำยังเผยท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กิษิดิที่ยังคงนิ่งเหม่อไม่ได้สังเกตเห็นแววตื่นตระหนกที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของมิลินท์
เธอคือผู้หญิงใจกล้ามากจริงๆ
หากรู้สึกสนใจในเรื่องอะไร ก็จะเป็นฝ่ายไปลองเอง
อายุตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว เธอก็อยากจะลิ้มลองความหวานของรสจูบบ้าง แน่นอนว่าก็ย่อมต้องจับกระต่ายของเธอมาทดลอง
เพียงแต่ ไม่ได้ดีงามเหมือนที่เขียนในหนังสือ
มิลินท์คิดอย่างรังเกียจว่า อาหารกลางวันที่กษิดิกิน มีกลิ่นต้นหอม
“อาหารกลางวันที่นายกินใส่ต้นหอมใช่หรือเปล่า? ฉันไม่ชอบกลิ่นต้นหอม”
มิลินท์ตบแผงอกเขา “นี่ ดึงสติกลับมาได้แล้ว ฉันให้ค่าตอบแทนนายแล้ว คืนนี้อย่าลืมยกเลิกงานเลี้ยงทุกอย่างแล้วไปนัดบอดกับฉันล่ะ”
พูดจบ เธอก็หันตัวเดินจากไป