คุณสามีพันล้าน - บทที่ 332 นายยังคิดอีกว่าจะมีหลายคน
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 332 นายยังคิดอีกว่าจะมีหลายคน?
หลังจากที่ยศพัฒน์มองศัตรูคู่แค้นอย่างเงียบๆสักพัก ก็พูดขึ้นมา:“ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ยังจะมาหาฉันทำไม?”
“ก็ฉันกลุ้มใจ อยากหาคนมาระบายน่ะสิ งานแต่งงานของเราทั้งสองคนต่างก็เป็นแบบข้อตกลง ฉันเลยคิดว่านี่เป็นหัวข้อสนทนาที่เหมือนกันของพวกเราทั้งสองคน”
นฤเบศวร์นั้นกลุ้มใจจริงๆ
ว่ากันตามนิสัยของเขา ในเมื่อเขาอยากใช้ทั้งชีวิตกับกนกอร ก็คงไม่เห็นด้วยกับการหย่า แต่ก็ทนเห็นแม่ยายทุบตีกนกอรแบบนั้นไม่ได้ ต่อให้แม่ยายเล่นละครอยู่ก็ตาม ถ้าทำจริงๆขึ้นมาล่ะ?
ทุบตีบนร่างกายของกนกอร แต่มันเจ็บที่หัวใจเขา
ยศพัฒน์ยิ้ม:“บอกแล้ว ทางของฉันกับวิกา เป็นทางที่นายกับกนกอรซ้ำรอยไม่ได้”
นฤเบศวร์ถอนหายใจ
“ยศพัฒน์ ชีวิตของนายนี่ดีจริงๆ คนอื่นเขาอยากได้คงก็ไม่มีวันได้ใช้ชีวิตแบบนี้หรอก นายอยู่สบายๆก็ได้ฐานะ ตำแหน่ง หน้าตา แม้แต่ความรัก นายก็ราบรื่นกว่าคนอื่นเขา”
เป็นคนเหมือนกันแต่คนละชีวิตนี่นะ
“ของนายก็ไม่แย่นะ ที่นายล้มเหลวจากความรักนั่นก็เพราะนายทำตัวเอง ไม่ฟังคำเตือน ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ถ้านายฟังคำเตือนนะ ไม่แน่ว่าลูกของนายอาจจะโตจนทำอะไรได้เองแล้วก็ได้”
พูดถึงลูก สายตาของนฤเบศวร์ก็เปลี่ยนไป เขาถามพัฒน์:“นายกับเทวิกาก็รับใบสมรสมาระยะหนึ่งแล้ว คิดจะจัดงานแต่งงานเมื่อไหร่? เมื่อไหร่จะมีลูกให้มาเล่นกันล่ะ? พัฒน์ ฉันจองตำแหน่งพ่อบุญธรรมล่วงหน้าได้ไหม?”
“นฤเบศวร์ นายลืมความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนหรือเปล่า? นี่นายถึงกับอยากจะเป็นพ่อบุญธรรมของลูกฉัน การจะเป็นพ่อบุญธรรมได้ไม่ใช่ว่าแค่เรียกชื่อก็เป็นได้หรอกนะ”
นฤเบศวร์หัวเราะ:“ถึงแม้พวกเราทั้งสองจะไม่ถูกกัน แต่ความจริงก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรขนาดนั้นนี่ ถ้าเจอเรื่องที่ต้องขอความช่วยเหลือ ฉันก็จะช่วยนาย กรณีเดียวกัน นายก็คงจะไม่ยืนนิ่งไม่ช่วยหรอก แล้วทำไมฉันจะเป็นพ่อบุญธรรมให้ลูกนายไม่ได้ล่ะ?”
“ว่ากันตามความสัมพันธ์ของเมียนายและกนกอรล่ะก็ กนกอรต้องอยากเป็นแม่บุญธรรมอย่างแน่นอน เธอเป็นแม่บุญธรรม พ่อบุญธรรมก็ต้องเป็นฉันน่ะสิ!”
นฤเบศวร์แสดงความคิดของตัวเองออกมาอย่างเผด็จการ เพราะยังไงซะ เขาก็ต้องเข้าคู่กับกนกอร
“วางใจเถอะ ในเมื่อฉันเป็นพ่อบุญธรรมให้ลูกนาย ก็ไม่มีทางให้เขาเสียเปรียบหรอก พวกนายสองคนผัวเมียถ้ามีลูกสาวล่ะก็ รอลูกโตจนแต่งงานได้แล้ว ฉันจะเตรียมสินสมรสไว้ให้อย่างดี แต่ถ้ามีลูกชายล่ะก็ รอเขาแต่งงาน ฉันจะมอบคฤหาสน์ให้เขาหนึ่งหลัง รถสุดหรูราคาเหยียบล้านหนึ่งคัน ไม่ให้เขาเรียกพ่อบุญธรรมไปเฉยๆแน่”
ยศพัฒน์อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เพื่อจะเข้าคู่กับกนกอร นายนี่ทุ่มสุดชีวิตเหมือนกันนะ นฤเบศวร์ คนอย่างนายความจริงแล้วเป็นคนใช้ความรู้สึกนำนะ ได้ อีกไม่กี่ปีข้างหน้า รอฉันมีลูก จะให้ลูกเรียกนายว่าพ่อบุญธรรม”
“อีกไม่กี่ปีข้างหน้า? หมายความว่าช่วงนี้ยังไม่คิดจะมีลูกเหรอ?”
นฤเบศวร์ถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“นายอย่าว่าแต่ฉันใช้ความรู้สึกนำเลย นายไม่มีเวลาที่ใช้ความรู้สึกนำบ้างหรือไง? แค่เกี่ยวโยงไปถึงเทวิกาของนาย นายก็คงไม่สนอะไรแล้ว ยศพัฒน์ ในที่สุดนายก็มีจุดอ่อนสักที ต่อไปถ้าคิดจะรับมือกับนาย……”
นฤเบศวร์พูดถึงตรงนี้ก็หยุดไป
เขานึกถึงฐานะที่แท้จริงของเทวิกาขึ้นมา ลูกสาวคนโตตระกูลสาระทาแห่งเมืองซูเพร่าเลยนะ อำนาจของตระกูลสาระทา เขาก็เคยเจอมาแล้ว
ถ้าเขากล้าแตะต้องเทวิกาล่ะก็ คงจะมีเรื่องบาดหมางพร้อมกันทั้งตระกูลอริยชัยกุลและตระกูลสาระทาแน่ แม้แต่ฝั่งของบ้านกนกอร คงจะไม่ปล่อยเขาไว้แน่
“วิกาต้องกลับไปเมืองซูเพร่าสืบทอดตำแหน่งทายาท ภายในระยะเวลาสั้นๆนี้ พวกเราเลยไม่ยังไม่วางแผนที่จะมีลูก นายหาเงินไว้เยอะๆ รอคู่ฉันมีลูกหลายคน นายจะได้ส่งคฤหาสน์ให้หลายหลัง”
นฤเบศวร์:“.…..นายยังคิดอีกว่าจะมีหลายคน?”
“ตอนนี้ยังไม่กำหนดว่าจะมีกี่คน นายเตรียมเงินไว้ให้พร้อมก็พอ”
นฤเบศวร์:“.…..”
ศัตรูคู่แค้นเขาคงไม่คิดจะหาเงินจากเขาด้วยการมีลูกหรอกใช่ไหม?
แต่ว่า เขาได้คำตอบที่เขาต้องการแล้ว ในใจก็มีแผนแล้วด้วย
ในสองปีนี้ เขาจะจีบกนกอรให้ติด ทำให้กนกอรแต่งเป็นภรรยาเขาใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นพวกเขาคู่สามีภรรยาก็จะมีลูกตัวน้อยๆออกมา แค่นี้เขาก็จะแซงยศพัฒน์ได้
ฮ่าๆ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว
ยศพัฒน์:……ไอ้น้อง พรุ่งนี้นายก็จะไปหย่าแล้ว!
นฤเบศวร์:……ฉันต่างหากที่ได้เปรียบ ยังไม่ทันได้หัวเราะออกเสียง นายก็โจมตีฉันแล้ว
ป้ามะนาวเดินมาแล้วพูด :“คุณชายพัฒน์คะ มื้อค่ำทำเสร็จแล้วค่ะ”
ยศพัฒน์ถามศัตรูคู่แค้นของเขา:“เลี้ยงมื้อค่ำนายสักหน่อย จะกินไหม?”
“กินสิ ทำไมจะไม่กินล่ะ หายากนะเนี่ยนายเลี้ยงมื้อค่ำฉัน ต้องให้เกียรติหน่อย นานๆทีจะได้โอกาสที่ฉันจะเอาเปรียบนาย”
รอยยิ้มของยศพัฒน์หายไป “ชิมฝีมือการทำอาหารของป้ามะนาวสักหน่อย”
“ฝีมือของป้ามะนาวดีอยู่แล้ว ปากนายน่ะเลือกมาก ถ้าป้ามะนาวทำไม่อร่อย ป้ามะนาวก็คงไม่นั่งตำแหน่งแม่บ้านมาสิบกว่าปีหรอก”
ป้ามะนาวยิ้มแล้วพูด:“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะคุณชายเบศวร์”
เป็นภาพหายากที่ทั้งสองคนนั่งกินมื้อค่ำด้วยกัน
หลังจากที่กินอิ่มแล้ว นฤเบศวร์ก็อารมณ์ดีขึ้นเยอะ ถูกศัตรูคู่แค้นไล่กลับคฤหาสน์ไป ก็เลยกลับบ้านอย่างช่วยไม่ได้
ค่ำคืนกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
วันต่อมา เปรมาเชิญนักข่าวสื่อมวลชนจำนวนมากมาที่หน้าประตูคฤหาสน์ของยศพัฒน์
ที่มากับเธอด้วยกันคือคุณแม่ของเธอ
เมื่อกลางวัน เธอไปร้าน
ยศพัฒน์ต้องการให้เธอขอโทษเทวิกาอย่างสมศักดิ์ศรี และต้องจริงใจพอ เธอเลยเลือกพานักข่าวสื่อมวลชนมาด้วยตั้งแต่เช้าตรู่ สมศักดิ์ศรีพอแล้ว จริงใจพอแล้วใช่ไหม
เนื่องจากเทวิกาคู่สามีภรรยานี้ไม่ได้กลับคฤหาสน์เมเปิล มิลินท์ก็เลยรีบมาแต่งหน้าให้เทวิกา ที่ตามมาด้วยก็มีกษิดิ
คู่นี้ที่ชอบกัดกันพอเข้าห้องมา ก็ได้ยินว่าเปรมามาแล้ว
พวกเขาเลยออกไปดูฉากละครด้านนอกด้วยกัน
เปรมาเปลี่ยนไปใส่ชุดธรรมดาๆ รองเท้ากีฬาทั่วไป และก็ไม่ได้แต่งหน้าอะไรมาเลย
เธอที่อายุใกล้สามสิบแล้ว ไม่แต่งหน้า ดูแล้วเหมือนจะแก่ลงเล็กน้อย
แต่เพื่อให้ยศพัฒน์พอใจในความจริงใจของเธอ เปรมาเลยต้องทำแบบนี้ ใช้รูปลักษณ์ที่ธรรมดาที่สุดขอโทษเทวิกา
มองเทวิกาที่ยืนอยู่ข้างยศพัฒน์ ชุดของเทวิกาดูๆไปแล้วก็ธรรมดา แต่เนื้อผ้าของเธอนั้นดีมาก
แค่แวบเดียวเปรมาก็ดูออก ทั้งเนื้อทั้งตัวของเทวิการวมๆกันแล้ว ก็น่าจะหลายแสน แม้แต่ที่คาดผมที่เทวิกาสวมอยู่นั้นก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ
บุคลิกของเทวิกาสูงสง่า ในครั้งแรกที่เจอกับเทวิกา เธอก็รู้สึกได้ว่าเทวิกาเป็นบุคคลที่อันตรายคนหนึ่ง แล้วก็เป็นบุคคลอันตรายจริงๆด้วย ทำให้เธอคว้าน้ำเหลว แทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว
ในใจลึกๆนั้น เปรมาเกลียดเทวิกาและกนกอรอย่างมาก
แต่ใบหน้านั้น กลับต้องฝืนความจริงใจออกมา
“เทวิกา ฉันขอโทษ เรื่องวิดีโอนั่น เป็นฝีมือของฉันคนเดียว ฉันทำลายชื่อเสียงของเธอ ทำให้เธอถูกคนด่าว่า ถูกคนเข้าใจผิด ไม่ว่าจะพูดยังไงก็เป็นการสร้างความเสียหายอย่างหนักให้เธอ ฉันขอโทษ!”
เปรมาบังคับให้ตัวเองขอโทษเทวิกาอย่างจริงใจ
เธอโค้งคำนับให้เทวิกาอย่างจริงจัง
“เทวิกา เธอให้อภัยฉันเถอะนะ ฉันสัญญาว่าต่อไปจะไม่มาสร้างความเดือดร้อนให้เธออีก”
ยศพัฒน์ สุดท้ายก็ไม่ใช่ของเธอ!
เธอควรจะเข้าใจตั้งนานแล้ว ถ้าเธอรู้เร็วกว่านี้ก็ไม่เสียนฤเบศวร์ที่เคยรักเธอมากขนาดนั้นไป
พอนึกถึงสิ่งที่ตัวเองไล่ตาม แล้วไม่ได้รับ มีอยู่แต่แล้วก็เสียไปอีก สายตาก็เปรมาก็เผยให้เห็นความเกลียดชัง