คุณสามีพันล้าน - บทที่ 337 ให้โอกาสเขา และก็ให้โอกาสตัวเองเหมือนกัน
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 337 ให้โอกาสเขา และก็ให้โอกาสตัวเองเหมือนกัน
กนกอรหยุดเดิน แล้วหันหน้ากลับมา
เห็นว่าใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง ราวกับตัดสินใจได้แล้ว
“ไปกันเถอะ พวกเราเข้าไปกัน ยังมีเวลาอีกสิบกว่านาที ถ้าทำรวดเร็วก็น่าจะทันอยู่”
นฤเบศวร์เก็บซาลาเปาที่ยังไม่ได้กินไว้ในถุง แขวนไว้บนรถจักรยานเข้าด้วยกัน
หยิบใบสมรสและเอกสารทั้งหมดที่พามาด้วยออกมา มือข้างหนึ่งจูงกนกอร แล้วจูงเข้าไปด้านในสำนักงานเขต
สองครั้งที่มาที่นี่ นฤเบศวร์รู้สึกว่าเขาไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด
หวังว่า ครั้งที่สามที่เขามาที่นี่ คงจะมาด้วยความปิติยินดี
และก็ให้หยุดอยู่ครั้งนี้สามนี้!
ในตอนที่ทั้งสองคนออกมาจากสำนักงานเขต ก็กลายเป็นสถานะโสดแล้ว
อดีตที่เคยถูกบังคับให้แต่งงาน ในวินาทีที่ได้รับใบหย่านั้น ทุกอย่างราวกับหายไปหมด
สำหรับคนอื่นแล้ว การหย่า อาจจะหมายถึงการสิ้นสุด
แต่สำหรับนฤเบศวร์กับกนกอร การหย่า ไม่ใช่การสิ้นสุด แต่เป็นการเกิดใหม่
เห็นท่าทางกนกอรที่รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว นฤเบศวร์ก็เข้าใจขึ้นมาทันที การหย่าครั้งนี้ สำหรับกนกอรแล้ว ก็คือการปลดล็อคในใจของเธอ หลุดพ้นจากเครื่องพันธนาการ
รักเธอ ก็อยากให้เธอมีความสุข
ชีวิตของพวกเขายังอีกยาวไกล เขาจะทำให้เธอแต่งงานกับเขา กลายเป็นภรรยาที่แท้จริงของเขาให้ได้อีกครั้ง!
“กนกอร”
เห็นว่ากนกอรกำลังจะไปรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์ นฤเบศวร์ก็เรียกเธอไว้
“มีอะไร?”
นฤเบศวร์ยิ้มให้เธอ รอยยิ้มอบอุ่นราวกับลมฤดูใบไม้ผลิ จนเกือบทำให้ใจของกนกอรสั่นไหว
เธอพูดกับเขา:“นายอย่ายิ้มกว้างขนาดนั้น นายรู้หรือเปล่าว่านายหน้าตาดี เวลายิ้มก็หล่อขึ้นไปอีก ทำให้คนหลงตายได้นะ”
“แล้วคุณหลงหรือเปล่า?”
“ตอนนี้ก็พอไหว ฉันแกร่งน่ะ รอยยิ้มของนายแค่นี้ ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก นายค่อยไปฝึกมาแล้วกันนะ บางทีวันหนึ่งอาจจะแกร่งเกินฉัน”
รอยยิ้มของนฤเบศวร์หายไป “ไม่ต้องนั่งรถเมล์แล้ว ผมขี่จักรยานพาคุณกลับเอง พวกเราไปหาร้านอาหารแถวนี้กินอะไรกันก่อนเถอะ หลังจากนั้นค่อยกลับ คิดซะว่าขี่รถรับลม”
“เบศวร์ พวกเราพึ่งจะหย่ากันนะ”
“ใช่ พวกเราพึ่งกลับไปโสดกัน แต่ผมเคยพูดนี่ พวกเราจะเริ่มต้นใหม่ เริ่มตั้งแต่เดินออกมาจากสำนักงานเขตวินาทีนั้น ผมก็จะจีบคุณ กนกอร คุณอยากได้เดทโรแมนติก ผมก็จะทำให้คุณ คุณอยากได้ความหวานในช่วงเวลาที่ถูกผมจีบ ผมก็จะทำให้คุณเหมือนกัน”
“ถ้าพูดมากกว่านี้เดี๋ยวหาว่าปลอม ผมจะให้การกระทำพิสูจน์ก็แล้วกัน ที่ผมพูด ผมทำได้”
กนกอร:“.…..”
“ได้ งั้นพวกเราไปกินข้าวกันก่อน”
กนกอรก็ไม่ใช่คนที่เขินอายอะไร
พูดแล้ว ว่าจะให้โอกาสเขาจีบเธอ เธอก็ทำได้เหมือนกัน
ให้โอกาสเขา แล้วทำไมเธอจะไม่ลองให้โอกาสตัวเองล่ะ?
นฤเบศวร์เข็นจักรยานมา เขาคร่อมบนจักรยาน อมยิ้มแล้วมองไปที่กนกอร บอกเป็นนัยว่าให้กนกอรนั่งบนจักรยานของเขา
กนกอรขึ้นไปนั่ง
เขาเริ่มขี่จักรยานพาเธอไป
“ขี่จักรยานมาหย่า หลังหย่า ก็ขี่จักรยานพาเมียเก่ากลับบ้าน นฤเบศวร์ พวกเราสองคนนี่แปลกประหลาดอยู่นะ”
นฤเบศวร์ปั่นจักรยานไปด้วย ตอบเธอไปด้วย:“คุณรู้ก็ดีแล้ว”
“แต่ว่า นายไม่ได้ปลิ้นปล้อนอีกแล้ว ฉันว่าฉันมองนายสูงไป ประธานไม่เอาไหนฉายานี้ ต่อไปใช้ไม่ได้แล้ว จะเรียกนายว่าแบตบอส ตอนนี้นายก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นแล้ว เรียกนายว่าอะไรดีล่ะ? เบศวร์ ชื่อนี้เป็นชื่อที่เปรมาใช้เรียกนายอยู่ตลอดนี่ ฉันอยากได้ชื่อที่เธอไม่เคยใช้”
พูดถึงตรงนี้ ความจริงแล้วกนกอรก็แคร์เรื่องเปรมาอยู่ไม่น้อย ที่เธอได้อยู่ในตำแหน่งที่สำคัญในชีวิตนฤเบศวร์
“คุณเรียกผมว่านฤก็ได้นะ ไม่มีใครเรียกผมแบบนี้”
“นฤ?”
กนกอรรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย แต่ว่า เรียกนานๆไปก็คงจะชินไปเอง คงจะไม่รู้สึกว่าแปลก
“ร้อนจะตายแล้ว”
นฤเบศวร์รีบพูดต่อ “ตอนพวกเรากินข้าว ผมค่อยแจ้งให้บอดี้การ์ดมารับ พอพวกเรากินข้าวเสร็จ พวกเขาก็น่าจะถึงพอดี”
เขาขี่จักรยานมาครึ่งค่อนวัน ก็เหนื่อยล้าหมดแล้วเช่นกัน
อากาศก็ร้อนจริงๆ
เขาไม่กลัวแดด แต่กลัวว่าผิวเธอจะไหม้
ผิวเธอขาวผ่อง โดนแดดจนดำก็คงดูไม่ดี
กนกอรไม่มีความคิดเห็นสำหรับการจัดการของเขา
……
บี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปมีแขกมาเยี่ยมเยือนคนหนึ่ง
ธนัท
มีศักดิ์เป็นหลานชายของญาณิน และเป็นหลานฝ่ายแม่คนเดียวของเธอ
ญาณินตอนนี้ยังเที่ยวพักผ่อนอยู่บนเกาะส่วนตัวด้วยกันกับครอบครัวญาติพี่น้อง
ไม่ต้องให้เทวิกาไปถามด้วยตัวเอง แม่อีกคนรวมถึงคุณยายของเธอ ต่างก็ส่งสถานการณ์ของแม่แท้ๆมาให้เธอทุกวัน ให้เธอรู้ว่าแม่แท้ๆใช้ชีวิตสุขสบายดี
แถมยังถ่ายรูปญาณินที่ยิ้มแก้มปริหลายรูปอีกด้วย
สองพี่น้องต่างก็ทราบดีว่าตระกูลสาระทาสำหรับคุณแม่แล้ว มันคือฝันร้าย คุณแม่อยากจะหย่ากับคุณพ่อ สองพี่น้องคู่นี้ต่างก็ซัพพอร์ต
เพียงแต่ พ่อแท้ๆของเธอไม่ยอมหย่า
เทวิกาก็เคยเข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างพ่อกับแม่แท้ๆของตัวเอง ยศพัฒน์บอกเธอ ว่านั่นเป็นเรื่องระหว่างพ่อกับแม่ พวกเขาเป็นลูก คงไม่เข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่หรอก บอกเธอว่าอย่าเข้าไปยุ่งเลย จะได้ไม่ลำเอียง คนหนึ่งก็แม่แท้ๆ คนหนึ่งก็พ่อแท้ๆ ต่างก็เป็นครอบครัวของเธอ
ไม่ว่าเธอจะช่วยฝ่ายไหน ก็เหมือนเป็นการทำร้ายอีกฝ่ายอยู่ดี
แถมยศพัฒน์ยังพูดอีกว่า เธอพึ่งจะจำพ่อแม่แท้ๆได้ มีหลายเรื่องที่ยังไม่เข้าใจ แต่ก็มีได้ยินมาบ้าง ต่อให้ฟังมาจากปากของพี่ชายเธอแท้ๆ บางครั้งก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องจริง
ถ้าหากพ่อแท้ๆของพ่อตั้งใจปิดบัง แม้แต่พี่ชายเธอแท้ๆก็ไม่รู้ แล้วการตัดสินใจของเธอที่กะทันหัน อาจจะเป็นการทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้
เทวิกาคิดว่าสามีเธอพูดมีเหตุผล
ดังนั้น ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว ไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับปัญหาการแต่งงานของพ่อแม่
ต่อให้พวกเขาหย่ากันจริงๆ แต่พวกเขาก็เป็นพ่อแม่แท้ๆของเธอ
ธนัทไม่ได้บอกว่าเขาเป็นใคร แต่เขาก็รู้ว่ายศพัฒน์ไม่ได้เจอง่ายขนาดนั้น เขาในฐานะคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ถ้ายึดตามระเบียบปฏิบัติไม่มีทางได้เจอกับยศพัฒน์แน่ เพราะฉะนั้น เขาเลยต้องอ้างถึงเทวิกาที่เป็นญาติผู้น้อง
พอได้ยินว่าเกี่ยวข้องกับภรรยาท่านประธาน รปภ.ที่เข้าเวรก็กั้นธนัทไว้ที่หน้าประตูออฟฟิศ แล้วรีบขึ้นไปรายงาน
ไม่นาน ประตูก็เปิดออกให้ธนัทเดินเข้าไปในบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป
ธนัทนั่งเครื่องบินมา หลังจากนั้นก็ต่อรถแท็กซี่
ตรงเคาน์เตอร์ไม่ได้ขวางเขา เขาผ่านการอนุญาตจากเบื้องบนมาแล้ว เพราะงั้นทางที่เดินเลยสะดวกตลอดทาง จนถึงตึกบนสุด ก็ถูกต้อนรับด้วยไรยา
“คุณธนัท ท่านประธานของพวกเรากำลังประชุมอยู่ ยังไม่สะดวกที่จะพบคุณตอนนี้นะคะ แต่ท่านประธานฝากไว้แล้ว ให้คุณรอเขาที่ห้องทำงานก่อนค่ะ”
ไรยาไม่แน่ใจในฐานะของธนัท แต่บอสกำชับมาแล้ว ให้เธอพาธนัทไปที่ห้องทำงานของประธาน ให้ไรยาเข้าใจว่า คุณธนัทคนนี้ที่ไม่เคยเจอหน้าฐานะไม่ธรรมดา ไม่เช่นนั้น บอสคงไม่ให้เธอพาเขาไปที่ห้องทำงาน แล้วจัดการให้รอที่ห้องรับรองแขกแทน