คุณสามีพันล้าน - บทที่ 342 ตามจีบภรรยาที่เพิ่งหย่ากัน
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 342 ตามจีบภรรยาที่เพิ่งหย่ากัน
สิบนาทีต่อมา
พลอยไพลินผลักประตูห้องทำงานเข้ามาอย่างอวดดี เหยียบรองเท้าส้นสูง บิดสะโพก เดินเข้ามาในห้องทำงานรองประธานของประยสย์อย่างน่าหลงใหล
เลขาของประยสย์อธิบายกับประยสย์ด้วยสีหน้าหวาดหวั่น: “ท่านรองประธานคะ คุณพลอยจะพบคุณให้ได้ ฉันห้ามเอาไว้ไม่อยู่ค่ะ”
“เข้าใจแล้ว คุณออกไปทำงานเถอะ”
ประยสย์บอกให้เลขาออกไป
พลอยไพลินวางอำนาจ กำเริบเสิบสานมาโดยตลอด ไม่ต้องพูดถึงที่เขายอมให้เวลาเธอแค่ห้านาทีหรอก ต่อให้ไม่อยากเจอเธอ
แต่ถ้าเธอบุกเข้ามาที่โอเอ กรุ๊ป เลขาของเขาก็ขวางพลอยไพลินไม่ได้อยู่ดี
พลอยไพลินเดินเข้ามา มือทั้งสองข้างวางอยู่บนโต๊ะทำงาน กราดสายตามองต่ำลงมาที่ประยสย์
ประยสย์กับพ่อของเขามีส่วนที่คล้ายกัน แต่เขาสงบนิ่งเคร่งขรึมได้ไม่เท่าไซม่อน
ในสายตาของพลอยไพลิน ประยสย์ที่อายุน้อยกว่าเธอสองปีนี่ก็เหมือนกับมารหัวขน ถึงจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่อาศัยอิทธิพลของตระกูลเลิศธนโยธารวมไปถึงมีไซม่อนหนุนหลังด้วย พลอยไพลินก็ไม่ได้สนใจประยสย์ตั้งแต่แรกแล้ว
นึกถึงที่ตนเองวางแผนให้คนลอบฆ่าประยสย์นับครั้งไม่ถ้วน แต่กลับล้มเหลวทุกครั้ง
พลอยไพลินจึงยับยั้งความไม่เป็นมิตรของตนเองอยู่เงียบๆ
ต้องให้ความสำคัญกับประยสย์สิถึงจะถูกต้อง
นี่เป็นศัตรูอันดับหนึ่งของเธอเชียวนะ กำจัดประยสย์แล้ว เมื่อไซม่อนไม่มีทายาท ก็จะรีบร้อนมีลูกกับเธอ
ประยสย์ยกข้อมือขวา มาดูนาฬิกาข้อมือ พูดอย่างเย็นชา: “ห้านาทีผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว”
พลอยไพลิน: “……ประยสย์ ฉันแค่จะถามนายไม่กี่คำถาม พ่อนายไปไหน?”
ไซม่อนไม่อยู่ เธอไม่มีคนหนุนหลัง อวดดีไม่ได้
พลอยไพลินระงับความอวดดีของตนเองเอาไว้เล็กน้อย
ประยสย์พูดอย่างเย็นชา: “พ่อฉันสนิทกับเธอมากกว่า เขาไปไหน เธอน่าจะรู้ดีกว่าฉันไม่ใช่หรือไง? แต่ไหนแต่ไรพ่อก็ไม่เคยบอกฉันอยู่แล้ว เขาจะไปไหน จะทำอะไร บางครั้ง ฉันอยากรู้ว่าพ่อไปไหน ก็ยังต้องถามจากเธอไง”
“พูดจาน่าสงสารให้มันน้อยๆหน่อย พวกนายเป็นพ่อลูกกันแท้ๆ ต่อให้พ่อนายจะไม่ชอบนายขนาดไหน นายก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขา เขาไปไหนจะไม่บอกนายได้ยังไง? เขาบอกว่าไปทำงานนอกสถานที่ ไปทำงานที่ไหนล่ะ? ถึงต้องให้ผู้นำตระกูลที่ทรงเกียรติอย่างเขาออกไปทำงาน แล้วออกไปทำงานต้องปิดบังฉันด้วยหรือไง?”
เธอทำน้ำหอมกระตุ้นอารมณ์รักขึ้นมา เตรียมจะใช้น้ำหอมกับไซม่อน แต่หลายวันนี้ไซม่อนไม่กลับบ้านเลย ทำให้เธอไม่มีคนให้ใช้น้ำหอมด้วย
พลอยไพลินรู้ว่าไซม่อนยุ่งมากอยู่ตลอด ดังนั้นเธอจึงเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ จนทำให้หมดความอดทน
ฉวยโอกาสที่ญาณินยังไม่กลับมา เธอต้องครอบครองไซม่อนให้ได้ เช่นนี้เมื่อญาณินกลับมา ก็จะยั่วให้ญาณินโมโหจนยอมหย่าขาดจากกัน และยกตำแหน่งนั้นให้เธอ
ประยสย์พูดอย่างเย็นชา: “นี่เป็นเรื่องภายในของโอเอ กรุ๊ป พ่อฉันออกไปทำงานที่ไหน ถ้าเขาไม่ได้บอกเธอเอง ก็แสดงว่าไม่สะดวกที่จะให้เธอรู้”
“คุณพลอย ฉันยุ่งมาก เชิญออกไปด้วย อย่ามาทำให้ฉันต้องเสียเวลาอันมีค่า”
สีหน้าของพลอยไพลินก็เย็นชาเช่นกัน เธอถลึงตาใส่ประยสย์อยู่พักใหญ่ ฮึดฮัดออกมา แล้วหมุนตัวเดินออกไป
เธอออกไปไม่นาน ไซม่อนก็ใช้เบอร์มือถืออีกเบอร์หนึ่งโทรมาหาลูกชาย
“บริษัทปกติดีไหม?”
ไซม่อนถาม
“อืม”
น้ำเสียงประยสย์เฉยเมย ไม่ยินยอมที่จะพูดกับพ่อมากกว่านี้แม้แต่คำเดียว
โชคดีที่แม่ยังอยู่กับน้องสาวที่ฝั่งนั้น ถ้ากลับมากับสองพ่อลูก คงโดนพลอยไพลินยั่วโมโหแน่ๆ
แม่ของเขาเป็นลูกสาวของตระกูลที่มีอิทธิพล นิสัยอบอุ่นอ่อนโยน ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพลอยไพลินอยู่แล้ว
อันที่จริงญาณินไม่อยากจะยื้อแย่งต่างหาก ถ้าเธอคิดจะแย่งชิง ไซม่อนต้องกลับมาอยู่ข้างกลายเธอแน่ๆ
ปีนั้นที่ไซม่อนขอเธอแต่งงาน ไม่ได้เพียงเพราะไซม่อนรักเธอ แต่ถ้าเธออ่อนแอเกินไป ผู้นำของตระกูลสาระทาก็คงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้เช่นกัน
รู้สึกได้ถึงความเฉยเมยของลูกชาย ไซม่อนจึงเงียบไปชั่วครู่ แล้วถามขึ้น: “พลอยไพลินไปหาแกเหรอ?”
“เพิ่งจะกลับไป วางมาดเหิมเกริมซะขนาดนั้น เหมือนเป็นนายหญิงของโอเอ กรุ๊ปยังงั้นแหละ”
ประโยคนี้ของประยสย์เต็มไปด้วยการประชดประชัน “ความสัมพันธ์ของพวกพ่อนี่ดีจริงๆเลยนะ พ่อเพิ่งจะออกไปทำงานแค่ไม่กี่วัน เธอก็คิดถึงพ่อจนจะเป็นบ้า ถึงขั้นมาหาผมเพื่อถามถึงพ่อ ช่างเป็นเกียรติของผมจริงๆ!”
ไซม่อน: “……”
“ฉันกับแม่แก……”
“อย่าดึงแม่ผมเข้าไปเกี่ยว มันน่าขยะแขยง พ่อรับปากแม่ผมไว้แต่แรกแล้วนะ หย่าเถอะ พ่อควรจะขอบคุณแม่ผม ที่ไม่เป็นเหมือนคนอื่นๆที่ต่อให้ตายก็จะไม่ยอมจากไป ดึงรั้งพ่อเอาไว้ เธอทำให้พ่อกับผู้หญิงคนใหม่ของพ่อสมปรารถนาด้วยความใจกว้าง ภรรยาที่ใจกว้างขนาดนี้ พ่อก็อุตส่าห์ได้เจอด้วย”
“ประยสย์ เรื่องของฉันกับแม่แก แกกับดาวอย่ายุ่งเลย ต่อไป ไม่แน่พวกแกอาจจะเข้าใจ ตอนนี้พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ สรุปแล้ว ฉันจะไม่หย่ากับแม่แก ถ้าแม่แกอยากกลับไปเป็นคนโสด นอกจากฉันตาย เธอต้องกลายเป็นแม่ม่ายก่อนถึงจะได้กลับไปเป็นคนโสดอีกครั้ง”
ประยสย์สีหน้าอึมครึม
น่าเสียดายที่สองพ่อลูกคุยโทรศัพท์กัน ต่างฝ่ายจึงไม่เห็นสีหน้าของกันและกัน
“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรฉันจะวางแล้วนะ มีเรื่องอะไรก็โทรมาเบอร์นี้ เบอร์นี้มีแกคนเดียวที่รู้”
ไซม่อนไม่อยากทะเลาะกับลูกชาย หลังจากเห็นว่าบรรยากาศไม่ดี เขาจึงวางสายไป
ประยสย์วางมือถืออยู่บนโต๊ะทำงาน บ่นพึมพำ: “เหมือนจะหาได้ยากมากเลยนะที่ฉันได้รู้เบอร์มือถือเพียงคนเดียวเนี่ย”
บ่นเสร็จ ก็หยิบมือถือขึ้นมา บันทึกเบอร์มือถือเอาไว้ บันทึกไว้ว่า “ขุนเขา”
ใครๆก็พูดกันว่าความรักของพ่อเหมือนภูเขา ในใจของลูกๆ พ่อก็คือภูเขาลูกใหญ่
……
พลบค่ำ
หลังจากเทวิกาเลิกงาน ก็เหมือนเดิม เพื่อให้กนกอรได้พักผ่อน
แค่ลงมาจากแท็กซี่ เธอก็โดนกองทัพดอกไม้ที่หน้าร้านกาแฟดึงดูดให้เดินเข้าไปหา
คนมากมายห้อมล้อมอยู่ที่ด้านหน้ากองทัพดอกไม้ ถ่ายรูปกันไม่หยุดหย่อน
ดอกกุหลาบแดงที่กองอยู่รวมกันนับไม่ถ้วน จัดวางเอาไว้เป็นรูปหัวใจสีแดง สวยมากๆ ดึงดูดความสนใจผู้คนสุดๆ
เทวิกาเบียดเสียดเข้าไปในกลุ่มคน เห็นหัวใจสีแดงดวงใหญ่ในระยะใกล้ๆอย่างนี้ ไม่ต้องถาม ก็พอจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือของใคร
เธอกับยศพัฒน์ถือว่าเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว ยศพัฒน์เองก็ถือว่าเป็นคนโรแมนติกมากคนหนึ่ง แต่ถ้าไม่ใช่เทศกาล ยศพัฒน์ไม่มีทางจัดวางกองทัพดอกไม้สารภาพรักอยู่ตรงนี้หรอก นอกจากยศพัฒน์แล้ว ก็ต้องเป็นนฤเบศวร์นี่แหละ
วันนี้นฤเบศวร์กับกนกอรหย่ากันอย่างเป็นทางการแล้ว
ทั้งสองคนกลับมามีชีวิตอิสระอีกครั้ง
นฤเบศวร์ก็เริ่มตามจีบกนกอรอย่างจริงจังในทันที
เจ้าหนุ่มนี่เคลื่อนไหวรวดเร็วใช้ได้เลย
จีบอย่างครึกโครม ให้ทุกคนได้รู้กันหมดว่ากนกอรคือผู้หญิงที่เขาเล็งเอาไว้ คนที่ไม่มีความสามารถ อย่าได้คิดมาแย่งผู้หญิงกับเขา!
นฤเบศวร์กลัวว่าถ้าคนเข้ามามุงดูมากเกินไปจะทำลายหัวใจของเขาเอาได้ จึงให้บอดี้การ์ดเฝ้ากองทัพดอกไม้นี่เอาไว้ อนุญาตให้คนอื่นๆดูเท่านั้น ห้ามแตะต้อง
“ว้าว หล่อจัง!”
จู่ๆก็มีคนอุทานออกมาเบาๆ
เทวิกาเบียดออกมาจากในกลุ่มคน จึงเห็นนฤเบศวร์ที่กำลังถือช่อดอกไม้เงิน ลงมาจากรถสุดหรูของเขาพอดี ก้าวยาวๆมาทางร้านกาแฟ
เขาหน้าตาหล่อเหลา ทั้งยังถือช่อดอกไม้เงินช่อใหญ่ไว้อีก เทียบกับหัวใจสีแดงดวงใหญ่แล้ว ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
เทวิกาเดินเข้าไปในร้านกาแฟก่อน
แค่เข้าไป ก็เห็นกันตภณกำลังส่งช่อดอกกุหลาบช่อหนึ่งไปให้กนกอร
ฝีเท้าของเทวิกาจึงหยุดลง
เห็นแววตาของกันตภณเต็มไปด้วยความชื่นชม ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลูกค้าสุดหล่อคนนี้มาที่ร้านกาแฟของพวกเธอ เธอก็มองออกว่า เขาสนใจเพื่อนรักเธอเป็นพิเศษ
ตอนนี้ พัฒนามาถึงขั้นให้ดอกไม้แล้ว
กันตภณนี่ก็ใจกล้าดีนะ โดนนฤเบศวร์จับโยนออกไป ก็ยังกล้ากลับมา
ความกล้าหาญของเจ้าหนุ่มนี่น่าชื่นชม ไม่เลวเลย!
กันตภณ: พวกคุณคงไม่รู้ว่าในใจของผมขมขื่น นี่ผมเอาชีวิตมามอบดอกไม้ให้เชียวนะ!