คุณสามีพันล้าน - บทที่ 348 การเม้าท์มอยของสามีภรรยา
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 348 การเม้าท์มอยของสามีภรรยา
แค่ออกมาจากประตูของตระกูลภูสิทธ์อุดม นฤเบศวร์ก็ถามพ่อบ้านเซนทันที: “ลุงเซน เมื่อกี้ลุงหมายความว่าไงครับ?”
“คุณชาย คุณกำลังตามจีบคุณนายน้อยอีกครั้งสินะครับ ที่คุณนายทักษอรให้พวกเราอยู่กินข้าว แต่กลับให้คุณชายกินไข่น่ะ ความหมายคือไม่เห็นด้วยที่คุณชายกับคุณนายน้อยจะคบกัน ให้คุณชายกินเสร็จแล้วก็ไสหัวกลับไปน่ะครับ”
นฤเบศวร์: “……กินไข่ยังมีความหมายอย่างนี้อีก”
“ตอนนี้แม่ยายคงไม่ชอบผม ผมรู้ดี ถ้าเธอชอบผม ผมกับกนกอรคงไม่ถึงขั้นหย่ากันหรอก”
นฤเบศวร์โดนแม่ยายไล่ไปให้พ้น สีหน้าก็หม่นหมอง แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
คุณปู่เร็นเบื่อหน่ายที่จะมองหลานชาย ไม่อยากสนใจเขาแล้ว จึงพาลุงเซนกับเหล่าบอดี้การ์ดเดินไปเลย
นฤเบศวร์: “……”
เขาโดนคุณปู่เอือมซะแล้ว!
……
สี่ทุ่ม ยศพัฒน์ไปรับเทวิกาที่ One Day In Coffee
“พี่ฉันล่ะ?”
เทวิกาเห็นสามีช่วยเธอดึงประตูม้วนลงมาล็อก จึงถามขึ้น
ตอนกลางวัน ทุกคนกินข้าวด้วยกัน ช่วงบ่าย ธนัทตามพวกยศพัฒน์กลับมาที่บริษัท
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นสงสัย ว่าเธอเป็นภรรยาของท่านประธาน เทวิกาจึงนั่งรถประจำทางกลับมาที่บริษัทเอง
“พี่เขาจะนั่งอยู่ในบริษัทอีกสักพัก ผมก็เลยให้คนไปส่งเขากลับคฤหัสน์เมเปิลแล้ว”
เทวิกาอืมตอบรับ “แม่ฉันบอกว่าจะกลับมาพรุ่งนี้”
“งั้นพรุ่งนี้ผมจะเตรียมคนไปรับพวกเขา”
ยศพัฒน์ช่วยเปิดประตูรถแทนภรรยาที่แสนบอบบางของเขา เห็นเทวิกาขึ้นรถ เขาจึงปิดประตู เดินอ้อมรถ กลับมาที่ตำแหน่งคนขับ
“วิกา คืนพรุ่งนี้ไปร่วมงานเลี้ยงกับผมนะ”
จะได้เจอประธานกิติยาไหม?”
หลังจากรู้ว่าคนที่พี่ชายแอบชอบคือกิติยา เทวิกาจึงอยากเจอกิติยามาก
“ผมช่วยคุณสอบถามมาแล้ว คืนพรุ่งนี้กิติยาก็เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย ยังมีชเนนทร์กับพวกหุ้นส่วนของเขาอีก”
ภรรยาสุดที่รักคิดอะไร ยศพัฒน์ต้องเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว
ระหว่างทางสองสามีภรรยาพูดคุยกันไม่หยุดหย่อน
คุยกันเรื่องงาน แล้วก็เรื่องไร้สาระ
คุยไปคุยมาก็ลามมาถึงนฤเบศวร์กับกนกอร
แน่นอนว่าต้องพูดถึงกันตภณ ศัตรูหัวใจของนฤเบศวร์ด้วย
เทวิกาพูดความสงสัยในใจออกมา “ทุกครั้งที่กันตภณมาหากนกอร นฤเบศวร์ก็จะโผล่มาด้วย พัฒน์ คุณว่า ศัตรูคุณคนนั้นติดตั้งอุปกรณ์ติดตามไว้บนร่างกายของกันตภณหรือเปล่า?”
“ด้วยความสามารถของนฤเบศวร์ ผมไม่คิดว่าจะยินยอมให้กันตภณปรากฏตัวต่อหน้ากนกอรครั้งแล้วครั้งเล่านะ เขาน่ะขี้หึงสุดๆเลย”
“ฉันเอาแต่รู้สึกว่าละครฉากนี้ มีคนจัดฉากอยู่”
ยศพัฒน์หัวเราะ: “นั่นเป็นเรื่องของนฤเบศวร์ เราไม่ต้องยุ่งหรอก มีศัตรูหัวใจสิถึงจะดี ให้นฤเบศวร์ได้ประหม่าบ้าง คนที่ไม่กลัวการเป็นศัตรูหัวใจของเขา ถ้าไม่ใช่ว่าสถานภาพตัวตนพอๆกัน งั้นก็คงมีคนหนุนหลังอยู่ ด้วยความสามารถของนฤเบศวร์น่ะถ้าขวางเอาไว้ไม่ได้ หรือสืบหาได้ไม่ชัดเจน งั้นเป็นไปได้มากว่าน่าจะเป็นฝีมือของปู่เขา”
คุณปู่เร็นเป็นจิ้งจอกเฒ่า เจ้าเล่ห์มาก
ดูเหมือนจะมอบ RA กรุ๊ปให้นฤเบศวร์จัดการ แต่จริงๆแล้วคุณปู่เร็นยังควบคุมทุกอย่างอยู่
นี่เป็นสาเหตุหลักที่นฤเบศวร์แพ้ให้แก่เขา ในบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปเขาเป็นผู้ควบคุมดูแลอย่างสมบูรณ์ ส่วนเหนือหัวของนฤเบศวร์ยังมีท่านประธานเร็นกดทับอยู่
“ปู่เขา?”
เทวิกาคิดไม่ถึงจุดนี้เลย
ความทรงจำของเธอที่มีต่อคุณปู่เร็นหยุดอยู่ที่ความเมตตาอ่อนโยนของเขา
รู้สึกว่าเขากับคุณปู่ของพัฒน์ไม่ต่างกัน ใจดีกับเธอมาก
คราวก่อนยังให้ของขวัญล้ำค่าที่ได้เจอกันครั้งแรกแก่เธอด้วย
คุณปู่เร็น: แม่หนู ไม่ต้องพูดถึงของขวัญที่ได้เจอกันครั้งแรกแล้ว ฉันคิดว่าเธอจะปฏิเสธซะอีก ถึงได้เตรียมของขวัญที่ได้เจอกันครั้งแรกมาให้ ไม่นึกว่าเธอจะรับของขวัญเร็วขนาดนี้!
เทวิกา: ……
“คุณปู่ของนฤเบศวร์วางแผนอย่างนี้หมายความว่าไง?”
“คงถ่วงเอาไว้น่ะสิ”
“เขาไม่ชอบกนกอรสินะ ถึงได้ถ่วงเอาไว้……แต่ก็ไม่น่าใช่ เขาคิดจะใช้คนๆหนึ่งมาคอยกระตุ้นนฤเบศวร์ คอยเติมน้ำมันลงไปในกองไฟ”
ยศพัฒน์ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา ลูบๆใบหน้าของภรรยาที่รัก เอ่ยปากชม: “สมแล้วที่เป็นภรรยาของยศพัฒน์ ฉลาด เหมือนผมเลย!”
“หน้าไม่อาย ใครๆก็บอกว่าส่วนมากไอคิวของลูกจะสืบทอดมาจากแม่ต่างหาก”
ยศพัฒน์ยิ้มกริ่ม: “งั้นลูกของเราต้องฉลาดมากแน่ๆ ภรรยาของผมฉลาดขนาดนี้”
“ชมฉันอย่างนี้ หางฉันชี้ฟ้าแล้วนะ”
เทวิกาปลื้มใจที่โดนสามีชม
“ที่รัก เพราะฉันเป็นต้นเหตุ เราถึงไม่ได้มีลูกเร็วขนาดนั้น คุณคิดว่าฉันเห็นแก่ตัวหรือเปล่า?”
เขาน่าจะเป็นผู้ชายที่ชอบเด็กมากๆ
“จะเป็นไปได้ยังไง ต่อให้ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณ ผมก็ไม่ได้คิดจะให้คุณมีลูกเร็วขนาดนั้น เราสองคนควรจะใช้ชีวิตในโลกของเราสองคนไปสักปีสองปีก่อน มีลูกเร็วเกินไป ความสนใจของคุณก็แบ่งไปให้ลูกหมด ตรงไหนจะมีที่เหลือให้ผมล่ะ?”
เทวิกาหุบยิ้ม: “นั่นลูกคุณนะ คุณยังจะหึงลูกอีก”
“ลูกนี่แหละที่เป็นศัตรูหัวใจตัวฉกาจที่สุดของผม เป็นศัตรูหัวใจที่ขัดหูขัดตาแต่กำจัดทิ้งไปไม่ได้ด้วย”
เทวิกา: “……”
เนื่องจากธนัทอยู่ที่คฤหัสน์เมเปิล คืนนี้สองสามีภรรยาถึงได้กลับมาที่คฤหัสน์ แต่ตอนที่มาถึงบ้านก็ดึกดื่นแล้ว ธนัทคงหลับไปนานแล้ว
สองสามีภรรยากลัวจะรบกวนทุกคน จึงเข้ามาในบ้านเบาๆ
ห้องโถงที่ชั้นหนึ่งยังเปิดไฟอยู่
แค่สองสามีภรรยาเข้าไปก็เจอคนๆหนึ่งนอนอยู่บนโซฟา
เทวิกาจำไม่ได้ในทันทีว่าเป็นใคร แต่ยศพัฒน์จำได้ นั่นกษิดิน้องชายคนที่สองของเขา
เขาเดินเข้าไป
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ กลับมาแล้ว”
กษิดิได้ยินเสียงฝีเท้า จึงลืมตา จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้หลับหรอก
ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา เขากอดหมอน ค่อนข้างทำตัวไม่ถูก
“นี่แกทำอะไร? มีบ้านแต่ไม่กลับ มีเตียงแต่ไม่นอน จะนอนโซฟางั้นเหรอ?”
ใบหน้าหล่อๆของกษิดิแดงระเรื่อ มองพี่ชายไม่พูดไม่จา
เทวิกาเข้าใจในสถานการณ์: “พวกคุณคุยกันตามสบายนะ ฉันขึ้นข้างบนก่อน”
รอให้เทวิกาขึ้นไปแล้ว ยศพัฒน์จึงขมวดคิ้วถาม: “เกิดอะไรขึ้น?”
“ผมโดนพริกไทยไล่ตีออกมาน่ะสิ”
กษิดิพูดจบ หน้าก็ยิ่งแดง
ยศพัฒน์: “……”
นอนด้วยกันไม่รู้ตั้งกี่รอบแล้ว ยังจะโดนไล่ตีออกมาอีก
ไม่ต้องถาม ก็รู้ว่ากษิดิคงเอาแต่ซักไซ้ถามมิลินท์ว่าทำไมไม่แต่งงานกับเขาสินะ
“นั่นบ้านแกนะ แกก็ยังอุตส่าห์โดนไล่ตีออกมาจนได้”
กษิดิตอบ: “ถ้าผมไม่ออกมา ให้เธอไปแทน ผมคงอ้อนวอนให้เธอกลับมาได้ยากกว่า ดังนั้น ผมก็เลยออกมาเอง”
เขาแค่ถามตอนก่อนนอน ถามว่าเขามีปัญหาตรงไหนกันแน่ ให้เธออธิบายให้ฟัง เขาจะได้แก้ไข
โน้มน้าวให้เธอรีบแต่งงานกับเขา ตอนที่มีลูกขึ้นมา เด็กจะได้ไม่กลายเป็นลูกนอกสมรส
“พี่ใหญ่ พี่ก็บอกว่าเป็นปัญหาของผม งั้นพี่บอกผมหน่อย ผมมีปัญหาตรงไหน? ผมครุ่นคิดอย่างดีแล้วก็ไม่เข้าใจ ผมร้อนใจจะแย่แล้ว ถ้ามีพริกไทยน้อยขึ้นมา มิลินท์จะให้ลูกใช้นามสกุลศิริกรโสภณ ให้เติบโตอยู่ที่ตระกูลศิริกรโสภณด้วย”
“ลินท์เป็นคนอุ้มท้อง ลินท์เป็นคนให้กำเนิด ใช้นามสกุลเดียวกับลินท์จะเป็นไรไป? ถ้าต่อไปพี่สะใภ้แกอยากให้หลานชายหลานสาวของแกนามสกุลวาชัยยุง ฉันจะไม่คัดค้านเด็ดขาด”
ยศพัฒน์กลับไม่ได้ยึดถือว่าให้ลูกใช้นามสกุลของพ่อ เพราะเขาเองก็ใช้นามสกุลแม่เช่นกัน
วันหน้า ถ้าเขามีลูก ถ้าเทวิกาอยากให้ลูกนามสกุลวาชัยยุง เขาก็ไม่คัดค้าน