คุณสามีพันล้าน - บทที่ 368 ทำให้พี่ชายว่าที่ภรรยาไม่พอใจ
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 368 ทำให้พี่ชายว่าที่ภรรยาไม่พอใจ
หลังจากที่กนกอรวางสายก็รีบไปรับโทรศัพท์ของร้านทันที เธอนึกว่าจะโทรมาสั่งเดลิเวอรี่ แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่รับสายแล้วกลับได้ยินเสียงแม่ตัวเอง
“แม่ โทรมาได้ไงคะเนี่ย?”
กนกอรรู้สึกประหลาดใจมาก
น้อยมากที่แม่เธอจะโทรมาที่ร้าน
“เมื่อกี้เธอติดสายคุยกับคนอื่นอยู่ แม่ก็เลยต้องโทรหาร้าน”
“เมื่อกี้หนูคุยโทรศัพท์กับวิกา แม่ คืนนี้หนูไม่กล้บไปกินข้าวแล้วนะ วิกาต้องไปออกงานกับพัฒน์ คืนนี้หนูต้องเฝ้าร้าน”
ทักษอรเหมือนไม่ได้ยินว่าลูกสาวพูดอะไร เธอถามว่า “เธอกับนฤเบศวร์นี่มันยังไงกันแน่?”
“เราสองคนก็หย่ากันแล้วไม่ใช่เหรอ? จะยังมีเรื่องอะไรอีก?”
“ใบหย่าของเธอสองคนแม่เห็นแล้วก็จริง แต่เป็นของจริงหรือเปล่า อันนี้แม่ก็ไม่รู้แล้ว ด้วยความสามารถของนฤเบศวร์ เขาอยากจะทำใบหย่าปลอมสักแผ่นก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากอยู่แล้ว”
กนกอร “……แม่ แม่ไม่เชื่อนฤเบศวร์ ก็ไม่เชื่อลูกสาวแม่ด้วยเหรอ? เดิมทีหนูก็อยากจะหย่ากับเขาอยู่แล้ว เพราะมีแม่ช่วยหนูเลยทำให้นฤเบศวร์ยินยอมได้ หนูจะไปทำใบหย่าปลอมอีกทำไมกัน ใบหย่านั่นเป็นของจริงแน่นอน นอกเสียจากว่าสำนักทะเบียนเป็นของปลอม งั้นใบหย่าของพวกหนูถึงจะเป็นของปลอม”
สำนักทะเบียน: ใครกล้าสวมรอยฉัน สงสัยว่าฉันเป็นของปลอมงั้นเหรอ?
“งั้นเขาส่งรถมาบ้านเรานี่หมายความว่ายังไง? ซ้ำยังขับเข้ามาในลานหน้าบ้านเราอีกต่างหาก พี่ชายเธอกลับมาแล้ว เขาดูแล้วก็บอกว่านั่นคือมาเซราตีอะไรสักอย่าง คันหนึ่งก็ตั้งหลายล้าน”
กนกอรสะอึก
แบตบอสนั่น!
เธอนึกว่าเธอปฏิเสธไม่รับรถคันใหม่ ช่วงเช้าตอนที่เขาจากไป พวกบอดี้การ์ดก็จะขับรถคันนั้นกลับไป และเรื่องมันก็จะจบลง
ใครจะไปคาดคิดว่าหมอนี่จะส่งรถคันนี้ไปที่บ้านเธอ
ซ้ำยังเป็นเวลานี้อีกต่างหาก
เพราะเวลานี้ แม่กับปู่เธอล้วนอยู่ในบ้าน พ่อกับพี่ชายก็กลับบ้านกันเวลานี้ ประตูบ้านจึงไม่ได้ล็อกไว้ บังเอิญเปิดทางสะดวกให้แบตบอสพอดี
“แม่ ตอนเช้าเขามาที่ร้าน จะมอบรถคันนั้นให้หนู แต่หนูปฏิเสธไปแล้ว ตอนนี้เขายังอยู่บ้านเราอยู่ไหม?“
“เขาไม่ได้มา บอดี้การ์ดเขาเป็นคนขับมา พอแขวนกุญแจที่หน้าบ้านเสร็จ บอดี้การ์ดนั่นก็ชิ่งหนีไปแล้ว”
ดูเหมือนว่าทักษอรจะโกรธมาก
“ในเมื่อเธอปฏิเสธไปแล้ว งั้นแม่จะให้พี่ชายเธอขับรถคันนี้ไปคืนให้เขา รถราคาแพงขนาดนี้ เรารับไว้ไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้เธอจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเขาจริง ๆ ก็อย่าหวังเงินของเขากับของมีค่า พ่อแม่เขาจะได้ไม่ดูแคลนเธอ นึกว่าเธอคบกับเขาเพราะเงิน”
แม้ทักษอรจะไม่ชอบนฤเบศวร์ แต่ก็รู้ว่าลูกสาวก็มีใจให้นฤเบศวร์บ้างอยู่เหมือนกัน
ส่วนความแตกต่างระหว่างทั้งสองคน หากพวกเขาสามารถก้าวข้ามมันไปได้ งั้นคนเป็นแม่อย่างเธอจะยังพูดอะไรได้อีกล่ะ?
“แม่ หนูรู้”
“โอเค เธอเฝ้าร้านเถอะ แม่ไปทำกับข้าวละ”
เมื่อคุยกับลูกสาวเสร็จ แม้หยางก็ให้ลูกชายขับรถคันนั้นไปคืนให้นฤเบศวร์
พี่กอล์ฟขับรถคันนั้นมาที่บ้านตระกูลเดชอุป
เมื่อเขามาถึง ก็ถูกรปภ.ของตระกูลเดชอุปขวางไว้ไม่ให้เข้าไป หลังจากเขาแนะนำตัว รปภ.ก็จึงจะเข้าไปแจ้งข้างใน
ปู่เร็นไม่อยู่บ้านพอดี มีเพียงบัณฑิตาที่แต่งตัวหรูหราและกำลังจะออกไป
เมื่อได้ยินว่าพี่ชายของกนกอรมา
บัณฑิตาก็เผยสีหน้ารังเกียจ แล้วพูดกับคนใช้ว่า “มารีดไถเงินล่ะสิ บอกแล้วว่ากนกอรหวังเงินของเรา คุณพ่อมองพลาดไปเอง ก็ไม่รู้ว่าหล่อนใช้วิธีอะไรถึงเกลี้ยกล่อมให้คุณพ่อยอมรับในตัวหล่อนได้”
เรื่องที่นฤเบศวร์กับกนกอรหย่ากันไม่ได้ถูกแพร่สะพัดเป็นเรื่องใหญ่โต ในตระกูลเดชอุปมีเพียงปู่เร็นและพ่อบ้านเซนเท่านั้นที่รู้
“คุณหญิง จัดการยังไงดีคะ? ให้เขาเข้ามาหรือบอกให้เขาไป?”
บัณฑิตาเปิดกระเป๋าเงินที่ประณีตงดงาม แล้วเอาเงินออกมาฟ่อนหนึ่ง ดูแล้วน่าจะมีหลายพัน เธอยื่นเงินฟ่อนนั้นให้คนใช้ แล้วสั่งว่า “เอาไปให้พี่ชายของกนกอร แล้วบอกเขาว่า บ้านเราไม่ใช่องค์กรการกุศล เอาเงินแล้วไสไปซะ จะไม่มีครั้งที่สองอีก และอย่าคิดอยากจะเป็นญาติกับตระกูลเดชอุป เราไม่มีญาติอย่างตระกูลภูสิทธิ์อุดม”
คนใช้รับเงินมาแล้วหันตัวเดินจากไป
พี่กอล์ฟรอมาพักใหญ่ ก็ยังไม่มีใครมาเปิดประตูให้ สีหน้าเขาเองก็ยิ่งอยู่ยิ่งเคร่งขรึม
ว่ากันว่าตระกูลเศรษฐีล้วนยุ่งยากซับซ้อน กฎระเบียบเองก็มากมายยุบยิบ
ดูสิ เขาแค่อยากจะมาคืนรถ รอมาครึ่งวันแล้วก็ยังไม่ได้เข้าไปสักที
กลับไปแล้วต้องคุยกับน้องสาวดีๆสักหน่อย อย่าเห็นว่านฤเบศวร์หน้าตาดี ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่มก็ตกหลุมรักเขา ตระกูลเดชอุปนั้นสูงศักดิ์เกินกว่าที่ตระกูลภูสิทธิ์อุดมของพวกเขาจะเอื้อมถึง
หากน้องสาวแต่งเข้าตระกูลเดชอุปแล้วจะไม่มีทางมีความสุขแน่ ๆ
ตอนนี้นฤเบศวร์กำลังจีบน้องสาว แน่นอนว่าก็ย่อมทุ่มเททุกอย่าง ทั้งรักทั้งโอ๋น้องสาวเขาราวกับเจ้าหญิง
ทว่าพอแต่งงานแล้ว ความรักก็จะจืดจางลง เมื่อเวลาผ่านพ้นไปนาน นฤเบศวร์จะยังรักและปกป้องกนกอรอยู่อีกไหม?
พี่กอล์ฟเคลือบแคลงใจมาก ๆ
ในที่สุดก็เห็นมีคนออกมาแล้วสักที
“คุณกอล์ฟ”
คนใช้เดินออกมา ท่าทางมีมารยาทมาก เธอเอาเงินที่คุณหญิงให้เธอมายื่นให้พี่กอล์ฟอย่างขอโทษ แล้วเอ่ยว่า “คุณกอล์ฟ นี่คือเงินที่คุณหญิงให้คุณ คุณหญิงบอกว่าตระกูลเดชอุปไม่ใช่องค์กรการกุศล”
คนใช้พูดมาถึงตรงนี้ก็ไม่พูดต่ออีก เชื่อว่าพี่กอล์ฟจะเข้าใจเอง
ได้ยินดังนั้น พี่กอล์ฟก็โมโหจนเป่าหนวดเบิกตาโพลง โอเค เขายังไม่มีหนวดให้เป่า แต่ที่โมโหจนหน้าเขียวนั้นเป็นความจริง
เขารีบลงจากรถ แล้วยัดกุญแจรถใส่มือคนใช้ พลันเอ่ยด้วยสีหน้าถมึงทึงว่า “ใครอยากได้เงินเน่าๆของตระกูลเดชอุปกัน? คิดว่าฉันเป็นขอทานงั้นเหรอ? คุณชายพวกเธอต่างหากที่หน้าด้านซื้อรถให้น้องสาวฉันเอง”
“น้องสาวฉันไม่รับ ก็เลยฝากให้ฉันขับมาคืนให้คุณชายพวกเธอ รบกวนเธอไปบอกคุณชายพวกเธอด้วยนะ ว่าตระกูลเดชอุปสูงส่งเกินไป ตระกูลภูสิทธิ์อุดมเอื้อมไม่ถึงหรอก จากนี้ไปก็อย่ามาระรานน้องสาวฉันอีก”
พูดจบ พี่กอล์ฟก็หันตัวเดินจากไป
เขาต้องเดินออกมาสักระยะทางหนึ่งจึงจะสามารถโบกรถแท็กซี่ได้
น่าโมโหชะมัด!
เห็นเขาเป็นขอทานได้ยังไงกัน!
ตระกูลเดชอุปจะกลั่นแกล้งคนมากไปแล้วนะ!
คนใช้พูดว่าอะไรนะ บอกว่านั่นคือเงินที่คุณหญิงของพวกเขาฝากมาให้ หรือก็คือแม่ของนฤเบศวร์นั่นเอง
จะให้น้องสาวแต่งงานกับนฤเบศวร์ไม่ได้เด็ดขาด มีแม่สามีที่ดูแคลนครอบครัวลูกสะใภ้แบบนั้น แต่งงานไปแล้วจะมีความสุขได้ยังไงกัน?
ไม่แน่หลังแต่งงานก็อาจจะไม่อนุญาตให้น้องสาวกลับบ้านพ่อแม่เลยก็ได้ เพราะกลัวว่าน้องสาวจะช่วยพ่อแม่ตักตวงผลประโยชน์จากพวกเขา
อย่าว่าแต่ตระกูลเศรษฐี แม้แต่ครอบครัวธรรมดาที่ต้องอาศัยอยู่กับพ่อแม่สามี หากกลับบ้านพ่อแม่แล้วเอาของกลับไปเยอะ แม้พ่อแม่สามีจะไม่ว่าอะไร แต่ก็ต้องลอบตำหนิในใจแน่ๆ
คนใช้: ……
เธอมองดูเงินที่คุณหญิงให้ แล้วมองดูรถคันใหม่ที่พี่กอล์ฟจอดทิ้งไว้หน้าบ้าน รวมถึงกุญแจรถที่อยู่ในมือ พลันรู้สึกว่าตัวเองช่วยคุณหญิงทำเรื่องบางอย่างที่จะทำให้คุณชายไม่พอใจเข้าซะแล้ว!
ไม่ แม้แต่ปู่เร็นก็อาจจะโกรธด้วยก็ได้
คุณนายน้อยเป็นคนที่ปู่เร็นเลือกให้คุณชายเชียวนะ ไม่ว่าทุกคนจะมองคุณนายน้อยยังไง แต่ปู่เร็นก็ดีกับคุณนายน้อยมากๆ
คนใช้ได้แต่หวังว่าหากปู่เร็นและคุณชายรู้แล้ว ก็อย่าได้มาโกรธเธอเลย เพราะยังไงซะเธอก็แค่ทำตามคำสั่งของคุณหญิงเท่านั้น
บัณฑิตาขับรถออกมา เมื่อเห็นมีรถคันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน เธอก็กดแตรรัว ๆ
ไอ้คนไม่เจียมตัวนั่น กล้ามาจอดรถที่หน้าบ้านตระกูลเดชอุปได้ยังไงกัน!