คุณสามีพันล้าน - บทที่ 372 ที่ปรึกษาเรื่องความรัก
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 372 ที่ปรึกษาเรื่องความรัก
คืนนี้ได้พบเจอกัน ก็มีความรู้สึกน่าเสียดายที่รู้จักกันช้าไป
“คุณชเนนทร์ คุณนายน้อย ฉันกับณิศามาช้าเกินไป ก็ขอเข้าไปขอขมาท่านจอมก่อน จะดื่มเหล้าสามแก้วเป็นการลงโทษแทน”
กิติยาเอ่ยเสียงขรึม ชะงักบทสนทนาชื่นชมกันไปมาของเทวิกากับกัญณิศา
ชเนนทร์รู้ว่าตระกูลนนท์สัจทัศน์กับตระกูลกรภัควัฒน์เป็นเพื่อนกันมาหลายชั่วอายุคน นึกถึงว่ากิติยาไม่สะดวกคุยกับเขาตอนนี้ ก็พลันเอ่ยว่า “คุณกิติยา คุณเข้าไปกับคุณหนูรองก่อนเถอะ ผมกับวิกาขออยู่ข้างนอกต่ออีกสักหน่อย เดี๋ยวเจอกัน”
“เดี๋ยวเจอกัน”
กิติยาพยักหน้าให้เทวิกา ก่อนจะพาน้องสาวเข้าไปข้างใน
รอกระทั่งพี่น้องกิติยาเข้าไปแล้ว เทวิกาก็แตะพี่ชายทีหนึ่ง ยิ้มเอ่ยว่า “พี่ นานขนาดนี้แล้วพี่ยังเรียกเธอว่าคุณกิติยาอีกเหรอ? เรียกเธอว่าติยาไม่ได้เหรอ?”
ชเนนทร์ “……เธอไม่ชอบให้คนอื่นเรียกเธอว่าติยา”
“เธอไม่ชอบให้คนอื่นเรียกเธอว่าติยา ไม่แน่อาจจะชอบให้พี่เรียกเธอว่าติยาก็ได้ พี่ลองเปลี่ยนคำขานดูสิ ถ้าเธอไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็เป็นการย่นระยะห่างระหว่างพี่สองคนนะ”
ชเนนทร์ครุ่นคิด รู้สึกว่าที่น้องสาวพูดก็มีเหตุผล “พี่จะลองดู ถ้าสมมติว่าเธอชักสีหน้า พี่ค่อยเรียกเธอว่าคุณกิติยา”
“เธอไม่ชักสีหน้าหรอก”
เทวิกาพูดอย่างมั่นใจว่า “เท่าที่หนูสังเกต เธอก็มีใจให้พี่เหมือนกัน และเคยพูดถึงพี่ต่อหน้าน้องสาวมาก่อน เมื่อกี้ตอนที่เธอแนะนำน้องสาวให้เราสองคนรู้จัก หนูสังเกตเห็นว่าณิศามองสำรวจพี่อยู่ แถมยังจ้องนานมากด้วย”
“ถ้าคุณกิติยาไม่เคยพูดถึงพี่กับคนในบ้านมาก่อน ณิศาก็ไม่สนใจพี่และไม่มองสำรวจพี่นานขนาดนั้นหรอก”
เธอเอียงหัวมองพี่ชายตัวเอง เอ่ยว่า “สำหรับณิศาที่เห็นหนุ่มหล่อจนชิน พี่ยังไม่หล่อพอถึงขนาดทำให้เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบได้ เพราะฉะนั้น ต้องเป็นเพราะคุณกิติยาพูดถึงพี่บ่อยแน่ ๆ เธอก็เลยจ้องพี่นาน”
ชเนนทร์ยิ้ม “จริงเหรอ? วิกา เธอไม่ได้ดูผิดใช่ไหม?”
เขายังไม่ทันสังเกตเห็นสายตาที่กัญณิศามองเขาเลย ทันทีที่กิติยามา เขาก็ละสายตาไปจากเธอไม่ได้แล้ว
กิติยาในคืนนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเอง เธอก็ยังคงสวมชุดสูท ประกอบกับผมสั้นที่ดูเท่ แม้คำว่าหล่อเหลาจะไม่สามารถเอามาใช้กับผู้หญิงได้ แต่หากเปรียบกิติยาด้วยคำนี้ ชเนนทร์คิดว่ามันเหมาะสมมากๆ
“พี่ หนูเป็นผู้หญิง เซนส์ของผู้หญิงแม่นเสมอ เชื่อหนูไม่ผิดหรอก พี่เริ่มรุกได้แล้ว คุณกิติยามีใจให้พี่แน่นอน”
ไม่แน่อาจจะกำลังสำรวจเขาลับๆก็ได้
ตราบใดที่กิติยาไม่รังเกียจพี่ชายที่ยังมีสถานะด้อยกว่า เทวิกาเชื่อว่าพี่ชายจะสามารถจีบกิติยาติดได้แน่ ๆ
กิติยาเคยสูญเสียคนในครอบครัว เคยเจอทั้งด้านมืดและด้านดีของจิตใจคน น่าจะไม่มีทางดูแคลนคนอื่น อีกอย่างพี่ชายเองก็ไม่ได้แย่ ถือว่ายอดเยี่ยมมากเช่นกัน
ชเนนทร์เผยรอยยิ้ม “พี่เชื่อเธอ วิกา เธอเองก็ออกมาสูดอากาศข้างนอกนานพอแล้ว ไปเถอะ พี่เข้าไปกับเธอ เธอเองก็ควรกลับไปหาพัฒน์ได้แล้ว อย่าคิดว่าเธอสองคนแต่งงานแล้วจะปลอดภัย ก็ไม่รู้ว่ามีผู้หญิงตั้งเท่าไหร่ที่เพ่งเล็งพัฒน์ และคอยหาโอกาสไปเข้าใกล้เขาตอนอยู่คนเดียว”
“ถ้าถูกล่อไปได้ก็ไม่ใช่รักแท้ สูญเสียไปก็ช่างเถอะ แต่ว่า พัฒน์ของหนูไม่มีทางถูกล่อไปได้หรอก สูญเสียไปไม่ได้เด็ดขาด”
ชเนนทร์จิ้มหน้าผากน้องสาวเบาๆ
สองพี่น้องเข้าไปข้างใน
เทวิกาเจอพี่ชายในงานเลี้ยง กนกอรเพื่อนรักเธอเองก็เจอพี่ชายในร้านกาแฟ
บอกตามตรง ว่าตอนที่เห็นพี่ชายมา กนกอรก็รู้สึกไม่คาดคิดมากๆ พลันเผยสีหน้าเหมือนพี่ชายเธอถูกลมพัดมา
พี่กอล์ฟยื่นมือไปดีดหน้าผากเธอหนึ่งที ไม่ได้แรงมาก จากนั้นก็เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “กนกอร นี่สีหน้าอะไรของเธอ?”
“พี่ ด้านนอกลมอะไรพัด ถึงพัดพาพี่ชายหนูมาได้ หนูช็อกมากจริงๆ ช็อกอ้าปากค้างจนยัดไข่เข้าไปฟองหนึ่งได้ พี่ พี่เอาไข่มาไหม รีบยัดเข้าไปในปากหนูดูสิ”
สิ้นเสียง ก็ถูกพี่ชายเธอดีดหน้าผากอีกครั้ง
กนกอรลูบจุดที่ถูกดีด พลันเบะปากเอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “พี่ไม่เคยมาหาหนูตั้งนาน มาทั้งทีก็ทำกับหนูแบบนี้เลยงั้นเหรอ? พี่ไม่รักน้องสาวเพียงคนเดียวของพี่เลยสักนิด ไม่เหมือนพี่ชเนนทร์ ชอบมาอุดหนุนร้านบ่อยๆ พอเห็นวิกาก็อ่อนโยนดูแลเอาใจใส่สุดๆ เขาเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดในโลกจริงๆ พี่ประยสย์ก็เหมือนกัน”
พี่ชายทั้งสองคนของเทวิกาล้วนดีมากๆ คนที่เคยเห็นพี่ชายสองคนนั้นดีกับเทวิกายังไง ต่างรู้สึกว่าพระเจ้าติดค้างพวกเธอแน่ ๆ
“รังเกียจฉันเหรอ งั้นเธอแลกกับวิกาสิ ให้วิกาเรียกฉันว่าพี่ แล้วเธอก็ไปเป็นน้องสาวพี่ชายเขา”
“หนูก็อยากอยู่หรอก แต่น่าเสียดาย……”
เทวิกาพูดยังไม่ทันจบก็รีบกระโดดหนีทันที กลัวว่าพี่ชายจะแกล้งเธออีก
พี่กอล์ฟมองสำรวจร้านครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าในร้านยังมีลูกค้ามากมาย เขาก็ไม่เล่นกับน้องสาวอีก แล้วเดินไปนั่งลงหน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน
พนักงานร้านมาเสิร์ฟน้ำผลไม้ให้พี่กอล์ฟอย่างรู้งาน พร้อมขนมหนึ่งจาน
กนกอรเดินอ้อมเข้ามาในเคาน์เตอร์คิดเงิน แล้วฟุบหมอบลง ถามว่า “พี่ คืนนี้พี่มาไม่ใช่เพราะมาอุดหนุนร้านแน่ ๆ นอกจากวันเปิดกิจการวันแรกของร้าน พี่แวะมาแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาผีอีกเลย บอกมาเถอะ ว่ามาหาหนูมีเรื่องอะไร? พี่ไปก่อปัญหามาใช่ไหม ถึงไม่กล้ากลับบ้าน แล้วอยากให้หนูอยู่เป็นเพื่อน?”
“รถคันใหม่ที่นฤเบศวร์ให้คนขับมาส่งที่บ้าน แม่ให้พี่ขับไปคืนให้เขาแล้ว”
กนกอรตอบเสียงอ้อ “แม่บอกหนูแล้ว ทำไมเหรอ มีอะไรเกิดขึ้นกับรถคันนั้นงั้นเหรอ?”
พี่กอล์ฟถลึงตาใส่น้องสาว “เธอพูดในแง่ดีไม่ได้หรือไง? เธออยากให้มีอะไรเกิดขึ้นกับรถคันนั้นมากเลยเหรอ พี่ชายเธอเป็นคนขับไปคืนให้นะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับรถคันนั้น พี่ชายเธอจะมานั่งอยู่ตรงนี้ได้หรือไง? ไม่แน่เธออาจต้องไปจุดธูปให้พี่เธอแล้วก็ได้”
“พูดอะไรไม่มงคลน่ะ!”
กนกอรตบปากตัวเอง แล้วพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “พี่ หนูพูดผิดไปแล้ว พี่รีบว่ามาเถอะ อย่าพูดพร่ำทำเพลงอีกเลย พี่ก็รู้ว่าหนูไม่ถนัดเดา”
“พี่ขับรถไปคืนที่บ้านตระกูลเดชอุป แล้วถูกอดีตแม่สามีเธอหาว่าเป็นขอทาน แล้วให้คนใช้เอาเงินมาให้พี่ไม่กี่พัน บอกว่าตระกูลเดชอุปไม่ใช่องค์กรการกุศล ให้พี่เอาเงินนั้นไสหัวออกไป จากนี้ไปก็อย่าคิดจะมาเหยียบบ้านตระกูลเดชอุปอีก ตระกูลเดชอุปไม่นับญาติกับเราหรอก”
พี่กอล์ฟคิดถึงเรื่องที่คนใช้เอาเงินมาให้เขาทีไรก็ไม่สบอารมณ์ทุกที
ตระกูลเดชอุปทำแบบนี้กับเขา ก็รู้แล้วว่าพวกเขาไม่ชอบกนกอรขนาดไหน
กนกอร “……”
“กนกอร พี่บอกเธอนะ ไม่ว่านฤเบศวร์จะประจบเอาใจเธอยังไง พูดจาหวานแหววกับเธอขนาดไหน มอบช่อดอกไม้ให้เธอมากเท่าไหร่ เธอก็ห้ามตกหลุมพรางของเขาเด็ดขาด ครอบครัวเขาไม่ชอบเธอ เธอแต่งงานไปก็ไม่มีความสุขหรอก”
“นอกจากว่า นฤเบศวร์ยอมเป็นเขยแต่งเข้าบ้านเรา”
พี่กอล์ฟถ่อมาถึงที่นี่โดยเฉพาะ ก็เพื่อจะมาหาเรื่องให้นฤเบศวร์ลำบากใจ
กนกอรตบบ่าพี่ชาย “พี่ ลำบากพี่แล้ว ตอนนั้นพี่น่าจะรับเงินพวกนั้นไว้ รออดีตแม่สามีของหนูออกมาเมื่อไหร่ พี่ก็เอาเงินพวกนั้นฟาดใส่หน้าเธอ แล้วพูดอย่างเหิมเกริมว่า ‘ใครอยากได้เงินเน่าๆของคุณกัน’ “