คุณสามีพันล้าน - บทที่ 382 หึงหวงอีกครั้ง
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 382 หึงหวงอีกครั้ง
“กนกอร หรือไม่ เธอก็ไปนัดบอดสิ ถ้าเธอมีแฟนใหม่ เบศวร์ก็จะเลิกยุ่งกับเธอ”
กนกอรดื่มกาแฟของตัวเอง “ทำไมฉันต้องเสียสละตัวเองเพื่อนฤเบศวร์ด้วย?”
“เธอไม่ต้องการปฏิเสธเบศวร์ไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอทำแบบนี้ เขาก็จะยอมแพ้”
“ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธการจีบของนฤเบศวร์นี่คะ แต่ฉันแค่กำลังทดสอบซึ่งกันและกัน ถ้ามันไม่เหมาะสม ฉันจะไม่กระโดดลงไปในหลุมขนาดใหญ่เด็ดขาด”
บัณฑิตารีบพูดขึ้น “ไม่เหมาะสม พวกเธอสองคนไม่เหมาะสมกันจริง ๆ”
กนกอรดื่มกาแฟและไม่พูดอะไร
เธอเหลือบมองชายที่เดินเข้ามาอย่างเงียบๆ และเดินตรงมาที่พวกเธอ
บัณฑิตาไม่รู้ว่าลูกชายของเธอเข้ามา และเธอกำลังเตรียมคำพูดที่แสนยาว นำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ว่า กนกอรและลูกชายของเธอไม่เหมาะสมกันอย่างไร
“แม่!”
นฤเบศวร์เรียกออกมาอย่างเย็นชา
แค่จีบเมียทำไมมันยากนัก!
ข้างหน้ามีศัตรูหัวใจอย่างกันตภณ ข้างหลังมีแม่คอยกีดขวาง และตรงกลางก็มีตระกูลภูสิทธ์อุดมที่ไม่ค่อยชอบเขา
นฤเบศวร์ถือว่า เข้าใจถึงคำว่า ความยากในการง้อเมียกลับบ้านอย่างถ่องแท้แล้ว
ยากมากจริง ๆ!
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของนฤเบศวร์ บัณฑิตาก็ตัวแข็งไปชั่วขณะ จากนั้นรีบมองไปที่ลูกชายของเธอ เมื่อเห็นใบหน้าที่เรียบนิ่งของลูกชาย บัณฑิตาก็รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างอธิบายไม่ถูก และถามขึ้นอย่างตะกุกตะกักว่า “เบศวร์ ลูกมาที่นี่ได้ยังไง?”
“แม่ ผมบอกแล้ว ว่าเรื่องของผมกับกนกอร แม่ไม่ต้องยุ่ง”
นฤเบศวร์เห็นเช็คใบหนึ่งบนโต๊ะ เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา
บัณฑิตาอยากจะห้าม ก็ห้ามไม่ทัน
หลังจากเห็นจำนวนเงินในเช็คอย่างชัดเจน ใบหน้าของนฤเบศวร์ก็หงุดหงิดยิ่งขึ้น ทว่า เขาจ้องไปที่กนกอรและกัดฟันแล้วพูดขึ้นว่า “คุณคิดที่จะขายผมอีกแล้วเหรอ?”
“ตอนนี้คุณไม่ใช่สามีของฉันแล้ว ฉันไม่สามารถขายสามีหาเงินได้อีกแล้ว ฉันทำได้เพียงมองดูเงินหลายสิบล้านที่ผ่านไปต่อหน้าฉัน ฉันรู้สึกปวดใจมาก!”
กนกอรยังแสดงท่าทางที่เจ็บปวดเหมือนโดนกรีดเนื้อ
นฤเบศวร์โมโหจนอยากจะกดเธอที่นั่นเลย ให้เธอกลายเป็นภรรยาของเขา เธอจะได้ไม่สามารถกำจัดเขาได้อีกต่อไป
น่าเสียดายที่เขาไม่มีความกล้านั้น
และทำไม่ลง
พูดไว้แล้วว่า ต้องยินยอมทั้งสองฝ่าย
ย่อมต้องทำให้ได้อย่างที่พูด ความสุขและความสวยงามครั้งแรกของพวกเขา จะต้องไม่ถูกทำลายลงเพราะความโกรธเพียงชั่วครู่
นฤเบศวร์ฉีกเช็คใบนั้นทันที
กนกอร: .….. เงิน10 ล้านหายไปในพริบตา
บัณฑิตา: .…..ลูกชายกำลังโกรธ เธอสำนึกผิด และอยากจะหนีออกไปเลยได้ไหม?
เธอส่งข้อความไปหาสามีอย่างเงียบ ๆ โดยบอกให้เขาโทรหาเธอโดยเร็วเพื่อที่เธอจะได้หาข้ออ้างที่จะหนีไป
ช่างเป็นการเริ่มต้นที่แย่
ทุกครั้งที่เธอมาหากนกอร ถ้าเธอไม่ขายขี้หน้า ก็ถูกลูกชายจับได้
เธอเข้ากับกนกอรไม่ได้ ถ้ากนกอรกลายเป็นลูกสะใภ้ของเธอ มีปัญหากันอย่างแน่นอน!
“แม่ ถ้าแม่ยังกล้าเอาเงินให้กนกอรเพื่อให้เธอไปจากผม ผมก็…… จะไปบวชเป็นพระ!”
บัณฑิตา “เบศวร์ ลูก ลูกอยากให้แม่เครียดจนตายเหรอ!”
“ริง ริง ริง”
เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
บัณฑิตารับสายสามีของเธอต่อหน้าลูกชาย และฟังไม่ถึงสองนาทีก็พูดขึ้นว่า “เข้าใจแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
หลังจากวางหูโทรศัพท์ เธอหยิบกระเป๋าของเธอและพูดกับลูกชายของเธอและกนกอร “แม่มีเรื่องด่วนที่ต้องไปจัดการ เบศวร์ แม่ไม่ชอบให้กนกอรเป็นลูกสะใภ้ของแม่ เรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนอย่างแน่นอน”
จากนั้น เธอก็ไม่กล้ามองหน้าที่บึ้งตึง แล้วรีบหนีไป
กนกอรมองดูอดีตแม่สามีของเธอวิ่งหนีไป แต่เธอก็ไม่ตื่นตระหนก หลังจากดื่มกาแฟเสร็จ เธอก็ให้นฤเบศวร์นั่งลง “แม่ของคุณยังไม่ได้กินของหวานเลย คุณอยากช่วยเธอกินไหม?”
“กนกอร!”
นฤเบศวร์พูดขึ้นเสียงดัง “คุณหยุดขายผมสักทีได้ไหม!”
เขาแค่ไปดื่มกับคุณปู่ชรัณสองแก้ว เธอก็เกือบขายเขาทิ้งอีกครั้ง
“ฉันพูดไปแล้ว ตอนนี้คุณไม่ใช่ผู้ชายของฉัน และฉันก็ไม่สามารถขายคุณได้ แม้ว่าฉันจะต้องการก็ตาม แม่ของคุณเป็นคนเอาเงินให้ฉันแล้วบอกให้ฉันไปจากคุณเอง แต่ฉันปฏิเสธไป เพราะปัญหามันอยู่ที่ตัวคุณเอง แม้ฉันจะรับเงินมา ความปรารถนาของแม่คุณก็ไม่เป็นจริง ฉันก็ได้เงินสิบล้านฟรี ๆ แบบนี้มันจะทำให้ฉันไม่สบายใจ”
นฤเบศวร์พูดด้วยความโกรธ “คุณยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่เหรอ? หัวใจถูกหมาคาบไปกินตั้งนานแล้ว ยังจะมาบอกว่าไม่สบายใจ”
เขาไม่เชื่อว่ากนกอรจะมีความรู้สึกไม่สบายใจ
กนกอรหัวเราะคิกคัก แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้ารู้อย่างนี้ ฉันน่าจะรับเงิน 10 ล้านของแม่คุณมานะ ยังไง คุณบอกว่าหัวใจของฉันถูกหมากินแล้วนี่ ต่อไปนี้ ถ้ามีใครมาหาฉัน จ่ายเงินเพื่อให้ฉันออกไปจากเมืองแอคเซสซ์ ฉันก็จะรับไว้หมด โอ๊ย ฉันพลาดโอกาสที่จะได้เป็นเศรษฐีเลย เจ็บใจจริง ๆ”
เธอจงใจทำท่าทางที่เอามือทุบอก และใบหน้าของนฤเบศวร์ก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึง
“กนกอร”
ในตอนนั้นเอง กันตภณก็เดินเข้ามา
เขานั้นกล้าหาญจริง ๆ
ทำไงได้ล่ะ เพราะอำนาจของเงินนั้นยิ่งใหญ่เกินไป
นายจ้างบอกว่าเขาทำงานได้ดีและขอให้เขาพยายามอย่างไม่ลดละ
เมื่อเห็นกันตภณมาพร้อมกับดอกไม้สดในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าของนฤเบศวร์ก็บึ้งตึงกว่าเดิม เขาจ้องไปที่กันตภณและถามขึ้นอย่างเย็นชาว่า “กันตภณ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
ผู้ชายคนนี้คือใครกันแน่?
นฤเบศวร์ให้ธันวาช่วยเขาสืบประวัติของกันตภณ นอกจากรู้ว่ากันตภณเป็นนายแบบ เขาก็ไม่รู้อะไรอีกเลย
สิ่งนี้ทำให้นฤเบศวร์อารมณ์เสียมาก กังวลอยู่เสมอว่ากันตภณจะพรากความรักของเขาไป
กันตภณไม่ได้มองไปที่นฤเบศวร์ มิฉะนั้นเขาจะถูกนฤเบศวร์จ้องมองจนทำให้เขารู้สึกขาอ่อน
เขามองไปที่กนกอร และพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ดวงตาของเขามีสมาธิ ในสายตาของนฤเบศวร์ ฉากนี้เป็นภาพที่ศัตรูหัวใจถือดอกไม้สด และมองไปที่กนกอรอย่างเสน่หา
นฤเบศวร์รู้สึกหึงหวงมาก
โดยไม่รอให้กนกอรรับช่อดอกไม้ เขากระชากช่อดอกไม้ของกันตภณอย่างรุนแรง แล้วโยนช่อดอกไม้ลงบนพื้น จากนั้นก็เหยียบมัน.…..
ทั้งกันตภณและกนกอรมองดูนฤเบศวร์เหยียบที่กำลังเหยียบช่อดอกไม้นั้น
ลูกค้าทั้งร้าน : .…..
แรงหึงหวงที่ใหญ่มาก!
หลังจากเหยียบช่อดอกไม้แล้ว นฤเบศวร์ก็ยื่นมือออกและดึงกนกอรมา และกอดไว้ที่เอวของกนกอร ดึงกนกอรไว้ข้าง ๆ แล้วพูดกับกันตภณว่า “กันตภณ กนกอรเป็นของผม! ไสหัวออกไป ออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้!”
กันตภณอยากจะออกไป
แต่ออกไปไม่ได้
เขาแอบหยิกต้นขาของตัวเอง ใช้ความเจ็บเตือนตัวเองว่า เขาควรเผชิญหน้ากับนฤเบศวร์แบบตัวต่อตัว
อย่างไรก็ตาม นายจ้างบอกว่ามีเขาอยู่ด้วย ไม่ต้องไปกลัวนฤเบศวร์
ดังนั้น กันตภณจึงยืดอกของเขาให้ตรง ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแสดงออกอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง: “คุณเบศวร์ ตอนนี้กนกอรยังโสด เธอไม่ใช่ภรรยาในนามของคุณอีกแล้ว และเธอไม่ได้ตอบตกลงกับการจีบของคุณ ในเมื่อเธอยังโสด ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะจีบเธอได้”
“คุณเบศวร์ คุณคิดว่าคุณใหญ่มาจากไหน? ให้ผมไสหัวไป ผมก็ต้องไปเหรอ? ทำไมผมต้องทำตาม?”
นฤเบศวร์จ้องมองที่กันตภณอย่างเยือกเย็น และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “กันตภณ คุณอยากจะหนึ่งต่อหนึ่งกับผมเหรอ?”
หนึ่งต่อหนึ่ง?
กันตภณตกตะลึงเล็กน้อย จะสู้กันเหรอ?
เขาสู้ไม่เป็น
“นฤเบศวร์”
กนกอรช่วยกันตภณไว้ และเธอก็บิดเอวของนฤเบศวร์ ทำให้นฤเบศวร์รู้สึกเจ็บปวด มือของเขาจึงคลายออกเล็กน้อย และกนกอรก็ถือโอกาสนี้ออกมาจากมือของเขา
“นฤเบศวร์ คุณพอได้หรือยัง? ภณพูดถูก ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณ ตอนนี้ฉันโสดและไม่มีแฟน ใครก็ตามที่ชอบฉัน ก็สามารถตามจีบฉันได้”
“คุณเรียกเขาว่าอะไรนะ? ภณ!”
นฤเบศวร์ยิ่งหึงหวงมากขึ้น ราวกับว่าทำให้ลิมิตความหึงนั้นระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ