คุณสามีพันล้าน - บทที่ 392 ณิศา vs ประยสย์
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 392 ณิศา vs ประยสย์
“ลูกจะยืนอยู่ตรงนั้นทำอะไร? ไม่เข้ามาทักทายณิศาล่ะ”
เทวิกามองท่าทีราวกับไม่สนใจณิศาของพี่ชาย ก็ปวดหัวขึ้นมาทันที
ผู้หญิงที่สวยโดดเด่นอย่างณิศา ถ้าพี่ชายไม่สนใจ งั้นไม่รู้แล้วจริงๆว่าพี่ชายจะชอบผู้หญิงแบบไหน
ภายใต้การทักท้วงของแม่ ประยสย์ถึงได้เดินเข้ามาใกล้ๆ พยักหน้าให้กัญณิศาอย่างสุภาพ แต่บนใบหน้าหล่อเหลากลับยังคงเย็นชา ไม่พูดไม่จา อย่างนี้ถือเป็นการทักทายแล้ว
เขาเห็นแก่หน้าของน้องสาว ถึงได้แสดงท่าทีเช่นนี้ต่อกัญณิศา
ไม่งั้น คงรักษาระยะห่างสามเมตรน่ะสิ
กัญณิศาเพิ่งสังเกตเห็นชายหนุ่มคนนี้ เริ่มแรก เธอคิดว่าเป็นบอดี้การ์ดของวิกากับแม่ของเธอ แต่เห็นบอดี้การ์ดหลายคนยืนอยู่ไกลๆ ถึงรู้ว่าไม่ใช่บอดี้การ์ด กำลังคาดเดาตัวตนของเขา ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่าเขาคือคุณชายของตระกูลสาระทา
ตอนที่กัญณิศาเห็นประยสย์จึงมองให้นานขึ้นอีกหน่อย
จากที่เธอหาข้อมูลของตระกูลสาระทามา จากผลลัพธ์ที่ได้ คุณชายตระกูลสาระทาไม่ชอบพูดคุยกับเพศหญิงนอกเหนือจากญาติพี่น้อง ปีนี้อายุ24ปี ไม่มีแม้กระทั่งรักแรก ในด้านของความรักสะอาดบริสุทธิ์ราวกับกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง
หน้าตาหล่อเหลา ถึงจะเย็นชา แต่ตามหลักเหตุผลแล้วคงมีผู้หญิงมากมายมาตามจีบเขาแน่ๆ ทว่าเขากลับไม่หวั่นไหว เป็นไปได้ว่าคงโดนการแต่งงานของพ่อแม่ทำร้ายเข้าแล้ว คงหวาดกลัวการแต่งงานสินะ
กัญณิศาคาดเดาอย่างนี้ สายตาที่มองประยสย์จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความเห็นอกเห็นใจปะปนอยู่ในนั้นเล็กน้อย
เห็นเธอจ้องมองตนเอง ประยสย์คิดว่าเธอเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เห็นเขาแล้วก็เคลิบเคลิ้มเหมือนพวกบ้าผู้ชาย
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่พอใจอยู่เงียบๆ สีหน้าที่ยิ่งเย็นชาถลึงตาใส่กัญณิศากลับไป ทั้งคู่สบสายตากัน แต่ประยสย์กลับมองไม่เห็นความหลงใหลในสายตาของกัญณิศา แต่กลับมีความเห็นอกเห็นใจอยู่ในนั้นแทน
เห็นใจงั้นเหรอ?
เธอเห็นใจเขา?
เขาจำเป็นต้องให้เธอเห็นใจด้วยเหรอ?
ผู้หญิงคนนี้ใช้วิธีอย่างนี้มาดึงดูดสายตาของเขาใช่ไหม?
ประยสย์สงสัยในตัวกัญณิศาเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น ไม่นานเขาก็คัดค้าน
เพราะเขาเชื่อใจน้องสาว
เพื่อนที่น้องสาวคบค้าสมาคมด้วยไม่น่าเป็นผู้หญิงอย่างนั้น
เหมือนกับกนกอร ที่เห็นเขาหน้าตาดี แต่ก็ไม่ได้มีความรู้สึกหลงใหล สายตาสงบนิ่ง อย่างมากที่สุดก็เคารพเขาในฐานะพี่ชาย
แต่แน่นอนว่า อาจจะเป็นเพราะในสายตาของกนกอรมีนฤเบศวร์อยู่แล้วไง
ดังนั้นจึงมองไม่เห็นความดีของเขา
ราวกับว่า เขาก็ไม่ได้ดี
ประยสย์รู้ดีว่าความคิดเห็นที่เกี่ยวกับตนเองในใจของเพศตรงข้ามน่ะ ในเมืองซูเพร่า ชื่อเสียงของเขาไม่ถือว่าดีนัก
“พี่ นี่ณิศา คุณหนูรองของตระกูลนนท์สัจทัศน์ เป็นเพื่อนใหม่ของฉันเอง พี่อย่าเอาแต่ทำหน้าตึงสิ ยังจะถลึงตาใส่ณิศาอย่างเย็นชาอีก ถ้าทำณิศาตกใจ ฉันไม่ปล่อยพี่ไว้แน่”
เทวิกาเห็นทั้งสองคนสบตากัน ไม่ได้สปาร์คจนเกิดประกายไฟ แต่กลับเหมือนกำลังสู้รบกันอยู่หลายร้อยรอบ เธอจึงรีบเอ่ยปากพูด ทั้งสองคนจะได้ไม่ใช้สายตาฟาดฟันกันจนมืดฟ้ามัวดิน
ประยสย์เคลื่อนสายตากลับมา ตอนที่มองไปทางน้องสาว ใบหน้าที่เย็นยะเยือกก็หลอมละลาย ยิ้มแย้ม รอยยิ้มที่อ่อนโยน ทำให้ดวงตาคู่สวยของกัญณิศาเป็นประกาย
“ก็ได้ๆๆ พี่ไม่ทำหน้าตาบึ้งตึง พี่ยิ้มให้เธอเห็นแล้ว พอใจไหม”
เอาอกเอาใจอย่างชัดเจน
กัญณิศาถอนใจอยู่ในใจ ผู้ชายคนนี้ดีกับวิกาจัง!
เหมือนที่พี่สาวของเธอเอ็นดูเธอ
เทวิกาคล้องแขนของณิศา พูดปลอบ: “ณิศา นี่พี่ประยสย์พี่ชายแท้ๆของฉัน เขาชอบทำหน้าตาตึงเครียดจนติดเป็นนิสัย ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นติดหนี้เขาหลายหมื่นล้านแล้วยังไม่คืน เธอไม่ต้องกลัวเขานะ ถึงยังไงเราก็ไม่ได้ติดหนี้เขา ต่อให้เขาหน้าตึงจนกลายเป็นหิน เธอก็อย่าไปกลัวเขา”
ณิศายิ้ม พูดขึ้น: “ฉันไม่กลัวเขาหรอก”
ญาณินเห็นณิศาไม่กลัวลูกชายจริงๆ จึงคลายกังวลลงเล็กน้อย
ถ้ากลัวขึ้นมา ทั้งสองคนคงหมดหวังแน่ๆ
นิสัยของประยสย์ คงไม่ชอบผู้หญิงที่มองเขาเหมือนหนูเจอแมวหรอก
ได้เจอกัน หลังจากที่รู้จักอีกฝ่ายแล้ว เทวิกาจึงพาณิศากับแม่ของตนเองไปเดินชอปปิงด้วยกัน
ในสายตาของคนนอก กัญณิศาออกจากบ้านน้อยมาก
แต่สำหรับกัญณิศาเอง ทั้งเมืองแอคเซสซ์ เธอคุ้นเคยจนไม่รู้จะคุ้นเคยยังไงแล้ว อันที่จริงเธอเป็นนักสืบ บางครั้งที่ได้รับคำสั่งเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังอย่างเธอก็ออกปฏิบัติหน้าที่ด้วยตนเอง เธอถึงได้ออกเดินทางไปทั่วทั้งถนนใหญ่และตามตรอกเล็กๆ
ก่อนที่เธอจะมาเจอเทวิกา ก็เพิ่งจะดำเนินการเรื่องที่นฤเบศวร์ฝากฝังให้องค์กรนักสืบของเธอจัดการได้เรียบร้อย
นฤเบศวร์ให้สืบเรื่องของกันตภณ
ตอนที่เส้นสายของเขาสืบเรื่องของกันตภณ ไม่เจอข้อมูลอะไรเลย
ไม่ยินยอมจะเชื่อว่าตนเองไม่มีความสามารถ แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริง ถึงยังไงคนของเขาก็สืบหามานานมากแล้วแต่ก็ยังไม่พบข้อมูลใดๆ
เห็นกันตภณกำเริบเสิบสานขึ้นเรื่อยๆ เขาที่จำเป็นต้องรู้รายละเอียดของศัตรูหัวใจ จึงไม่มีทางเลือกที่จะให้คนที่มีชื่อเสียงในด้านนี้เป็นผู้ออกหน้า เจอองค์กรนักสืบส่วนบุคคลที่มีศักยภาพมากที่สุดยอดเยี่ยมมากที่สุดของเมืองแอคเซสซ์ เขายอมจ่ายค่าจ้างราคาสูงเพื่อเชิญให้คนขององค์กรนักสืบช่วยสืบเรื่องของกันตภณ
นฤเบศวร์กำลังคิดว่า ถ้าแม้แต่องค์กรนักสืบที่เก่งที่สุดยังสืบไม่เจอเบาะแสของกันตภณ เขาจะทุบองค์กรนักสืบนั้นทิ้ง!
จะเป็นองค์กรนักสืบได้ยังไงล่ะ แค่คนๆเดียวยังหาไม่เจอเลย
แน่นอนว่ากัญณิศาที่ปกปิดตัวตนอย่างมิดชิดคงไม่เปิดเผยรายละเอียดต่อหน้าเทวิกาอยู่แล้ว
เธอจึงแสร้งทำเป็นตื่นตาตื่นใจ ชอปปิงอยู่ที่นี่ ดูนั่นดูนี่กับเทวิกา เห็นเทวิกาซื้อๆๆไม่หยุด เธอก็อยากจะชอปปิงขึ้นมา จึงซื้อๆๆตามเทวิกาไปด้วย
กัญณิศาซื้อแต่ของๆเธอกับพี่สาว
เทวิกากับแม่ก็ซื้อไปเยอะมาก
ส่วนประยสย์รวมถึงบรรดาบอดี้การ์ดของเขา ไม่นาน ก็เต็มไปด้วยถุงเล็กๆใหญ่ๆ
ประยสย์ไม่เคยทำเรื่องอย่างนี้มาก่อน ภายใต้สถานการณ์ที่แม่กับน้องสาวมองไม่เห็น ใบหน้าตึงเครียดราวกับก้อนหินนั้น ดำเหมือนถ่านแล้ว
กัญณิศาบังเอิญหันไป เห็นสีหน้าอย่างนั้นของเขา จึงอดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะ
ประยสย์เป็นใครล่ะ?
เธอแอบขำเขาอย่างนี้ เขาจะไม่รู้ได้ยังไง
ประยสย์จึงถลึงตาใส่เธออย่างดุดัน
เพราะ เขาก็ช่วยเธอถือของเช่นกัน!
ณิศาโดนเขาถลึงตาใส่ก็ไม่กลัว ยิ้มหยอกเขากลับไป คนสวยๆที่ยิ้มขึ้นมา นั่นก็ยิ่งสวยเข้าไปอีก
ประยสย์เกือบจะติดกับรอยยิ้มหวานๆของกิรณาซะแล้ว
ผู้หญิงคนนี้น่ะปีศาจชัดๆ!
ยิ้มสวยเกินไป มีเสน่ห์เกินไป!
ประยสย์ถากถางอยู่ในใจ
ชอปปิงมาครึ่งวันแล้ว เทวิกากับแม่จึงถามความเห็นณิศา ให้กินข้าวกลางวันด้วยกันแล้วค่อยกลับ
กิรณาก็รู้สึกหิวเช่นกัน
จึงตอบรับอย่างเบิกบาน
จากนั้น พวกเขาก็ไปที่โรงแรมเมเปิล
หลังจากกินข้าวเสร็จ พักเล็กน้อย ผู้หญิงทั้งสามคนก็ชอปปิงกันต่อ
ประยสย์รวมถึงบอดี้การ์ดข้างกายหลายคนของเขาสามารถใช้คำว่าสิ้นหวังมาบรรยายได้เลย
พวกเขาคงจะคิดไม่ถึงว่าถ้าผู้หญิงได้เดินเที่ยวขึ้นมาจะเดินได้เก่งขนาดนั้น
เรี่ยวแรงในการชอปปิงก็แข็งแกร่งเกินไป!
ประยสย์คิดไว้ว่า คราวหน้าเขาไม่มีทางมาชอปปิงเป็นเพื่อนผู้หญิงอีกแล้ว เหนื่อยชะมัด!
เพียงสิ่งเดียวที่ผู้หญิงสามคนนี้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นหน่อยก็คือ เล็งสิ่งไหนก็เลือกสิ่งนั้นเลย ไม่เลือกไปเลือกมา
ใกล้ๆพลบค่ำ ผู้หญิงทั้งสามคนก็ถือว่าสมใจอยากแล้ว
รถที่ประยสย์ขับรวมไปถึงรถของบอดี้การ์ดอีกสองคัน เต็มไปด้วยสิ่งของๆผู้หญิงสามคน
“พี่ ไปส่งณิศาหน่อยสิ”
เทวิกาเสนอความเห็น
กัญณิศาก็ซื้อของเยอะเช่นกัน รถของเธอใส่ของได้ไม่หมด
ประยสย์พลางเปิดประตูรถ ให้แม่ขึ้นรถ พลางตอบ: “พี่เตรียมคนให้เอาของๆคุณกัญณิศาไปส่งแล้ว”
หมายความว่า เขาจะไม่ไปส่งกัญณิศากลับบ้านสินะ